วัดพระธรรมกายสร้างใหญ่ ผิดหลักคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือไม่ ?


วัดพระธรรมกายสร้างใหญ่ ผิดหลักคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือไม่  ? 
ท่านสอนให้สมถะ ทำอะไรเล็กๆ ไม่ใช่หรือ ?

ก่อนจะสรุปว่า “การสร้างวัดใหญ่” ผิดหรือถูก ก็อยากให้ลองเปิดพระไตรปิฎกศึกษาประวัติการสร้างที่ประทับของพระบรมศาสดาและการสร้างวัดในสมัยพุทธกาลกันเลยดีกว่า จะได้กระจ่างชัดว่า..วัดพระธรรมกายสร้างใหญ่ผิดหรือไม่ ?

จากเรื่องราวที่ปรากฏในพระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏฯ อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พราหมณวรรควรรณนา เรื่องพระโชติกเถระ หน้า ๕๑๙-๕๕๒ ระบุไว้ชัดว่า...
  
ในสมัยที่ “โชติกเศรษฐี” เกิดเป็นบุรุษที่ชื่อ “อปราชิต” ได้สร้างที่ประทับที่มีความงดงามอลังการแบบชนิดที่ไม่เคยมีปรากฏ ถวายแด่พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า เฉพาะไม้ที่นำมาทำเสาทั้งหมดของวัด ล้วนประดับตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยแก้ว ๗ ประการ คือ  มีทั้งเสาทองคำ เสาเงิน เสาเพชรนิลจินดาชนิดต่าง ๆ จำนวนมาก อีกทั้งกระเบื้องทุกแผ่นที่นำมามุงหลังคาก็ไม่ใช่กระเบื้องธรรมดา ๆ เพราะฝังรัตนชาติประดับประดาลงไปจนเกิดความวิจิตรตระกาลตายิ่งนัก

เท่านั้นยังไม่พอ แม้กระทั่งหน้าต่างแต่ละบานล้วนประดับด้วยรัตนชาติทั้ง ๗ ประการด้วยเช่นกัน แต่ที่พิเศษไปกว่านั้น ก็คือ กระเบื้องส่วนที่เป็นยอดพระคันธกุฎีของพระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เป็นทองคำสุกปลั่ง มีด้านปลายเป็นแก้วประพาฬ งามระยิบระยับจับใจเหลือเกิน

และที่รื่นรมย์อย่างที่สุด ก็คือ บริเวณนอกหน้าต่างแต่ละบานจะปลูกดอกไม้ ๕ สี และสร้างสระโบกขรณีขนาดใหญ่ ๓ สระ  ที่บรรจุเต็มไปด้วยน้ำหอมที่สกัดจากพันธุ์พืชหอม เพื่อให้ส่งกลิ่นหอมรวยระรินเข้าไปในพระคันธกุฎีเวลาลมพัด

ที่สำคัญที่สุด ภายในพระคันธกุฎียังมี “แก้วมณีโชติรส” กลมใสขนาดใหญ่เท่าผลแตงโมส่องสว่างเรืองรอง จนเป็นข่าวขจรขจายไปทั่วทุกสารทิศ ทำให้ผู้คนแห่กันเข้ามาดู

นอกเหนือจากนี้ บริเวณนอกพระคันธกุฎีโดยรอบ ยังมีรัตนชาติโปรยบนพื้นสูงถึงเข่า เพื่อให้คนที่มาฟังธรรมหยิบเอารัตนชาติใส่มือกลับบ้านไปได้ ถ้ารัตนชาติพร่องลง อปราชิตก็จะให้คนไปโปรยเช่นนี้ใหม่

พออ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่า แค่ที่ประทับของพระบรมศาสดายังสร้างด้วยวัตถุธาตุที่มีค่าสูงลิบขนาดนี้ คงจะมีขนาดเล็กนิดเดียวแน่ ๆ แต่พอมาดูหลักฐานที่ระบุไว้ในพระไตรปิฎก เราต้องตกใจทีเดียว เพราะพื้นที่เฉพาะภายในวิหารอย่างเดียวก็สามารถรองรับพระภิกษุที่มาเป็นเนื้อนาบุญได้ถึง ๖๘ แสนรูป (๖,๘๐๐,๐๐๐ รูป) ตลอด ๙ เดือน ในพิธีเฉลิมฉลองพระคันธกุฎี หลังจากสร้างเสร็จ

ตรงนี้คงต้องให้ผู้อ่านลองคำนวณพื้นที่เล่น ๆ ว่า  ต้องใช้เนื้อที่เท่าไรในการรองรับพระจำนวนมหาศาลขนาดนี้ ??? นี่แค่เพียงพื้นที่ในวิหารเท่านั้น ยังไม่รวมพื้นที่บริเวณที่สร้าง “กุญชรศาลา” ซึ่งเป็นศาลาประดับแก้ว ๙ ประการ และยังไม่รวมพื้นที่ที่ขุดสระโบกขรณีขนาดใหญ่จำนวน ๓ สระ 

จากหลักฐานตรงนี้ แสดงให้เห็นว่า “วัดในสมัยพุทธกาล แค่พระคันธกุฎีซึ่งเป็นที่ประทับของพระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้ายังมีขนาดใหญ่กว่าที่มนุษย์ยุคนี้จะจินตนาการไปถึง” ซึ่งถ้าเทียบกับวัดพระธรรมกายแล้ว วัดพระธรรมกายเล็กถนัดตาไปเลยทีเดียว !!!


และด้วยอานิสงส์จากการที่อปราชิตสร้างพระคันธกุฎีขนาดใหญ่วิจิตรอลังการจนดึงดูดผู้คนเข้าวัดจำนวนมหาศาลนี่เอง จึงทำให้เขาได้เกิดเป็น “โชติกเศรษฐี” เศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก ในสมัยพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงขั้นเป็นเศรษฐีที่รวยกว่าพระราชา รวยกว่าอนาถบิณฑิกเศรษฐี และรวยกว่านางวิสาขาเลยทีเดียว

นอกจากพระคันธกุฎีที่โชติกเศรษฐีสร้างแล้ว มาดูการสร้างวัดในสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราบ้าง จากหลักฐานที่ปรากฏใน อรรถกถา ขุททกนิกาย อุทาน เถรสูตร หน้า ๙๑ คือ “วัดพระเชตวัน” ในกรุงสาวัตถี ซึ่งเป็นวัดที่ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีใช้เงินมากถึง ๕๔ โกฏิ ราว ๕๔๐ ล้านกหาปณะเลยทีเดียว ซึ่งใน ๕๔ โกฏินี้ แบ่งเป็นค่าซื้อที่ดิน ๑๘ โกฏิ ค่าก่อสร้าง ๑๘ โกฏิ ค่าจัดงานฉลอง ๑๘ โกฏิ ใช้เวลาฉลองวัดอยู่นานถึง ๙ เดือน

หากศึกษากันให้ลึกลงไปอีก จะพบว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่วัดนี้นานถึง  ๑๙ พรรษา โดยใช้วัดที่ใหญ่โตอลังการนี้เป็นที่ปักหลักวางรากฐานเพื่อเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่ศาสนาในยุคนั้น จนกระทั่งพระพุทธศาสนาสืบทอดยาวนานมาถึงยุคของเราได้

ต่อมาเรามาค้นข้อมูลต่อในหน้า ๑๐๕ ของอรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปุปผวรรควรรณนา เรื่องนางวิสาขา เกี่ยวกับประวัติการสร้าง “วัดบุพพาราม” ในกรุงสาวัตถี ซึ่งนางวิสาขาสร้างถวาย โดยใช้เงินมากถึง ๒๗ โกฏิ เป็นค่าที่ดิน  ๙ โกฏิ ค่าก่อสร้าง ๙ โกฏิ ค่าจัดงานฉลอง ๙ โกฏิ

แต่เนื่องจากวัดนี้เป็นวัดที่มียอดปราสาททำด้วยทองคำที่มีความวิจิตรตระการตายิ่งนัก จึงเรียกว่า “โลหะปราสาท” อีกทั้งบนยอดยังสร้างเป็นที่จุน้ำได้ถึง ๖๐ หม้อ ส่วนตัวโครงสร้างวัดก็มีจำนวนห้องมากถึง ๑,๐๐๐ ห้อง แบ่งเป็นชั้นล่าง ๕๐๐ ห้อง ชั้นบน ๕๐๐ ห้อง ใช้เวลาสร้างนานถึง ๙ เดือน ซึ่งวัดนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระมหาโมคคัลลานะช่วยดูแลเรื่องการก่อสร้างเองเลยทีเดียว
  
ส่วน “วัดเวฬุวัน” ในกรุงราชคฤห์นั้น เป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนาที่พระเจ้าพิมพิสารถึงกับทรงยกพระราชอุทยานส่วนพระองค์ ซึ่งเป็นที่ดินที่ดีที่สุดถวายแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า (พระวินัยปิฎก มหาวรรค ภาคที่ ๑ หน้า ๑๑๗ พระไตรปิฎกฉบับมหามกุฎฯ)


จากหลักฐานการสร้างวัดในสมัยพุทธกาล ยังไม่เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตำหนิอปราชิต ตำหนิพระเจ้าพิมพิสาร ตำหนิอนาถบิณฑิกเศรษฐี หรือนางวิสาขาเลยว่า “สร้างวัดใหญ่โต ไม่สมถะ” !!! มิหนำซ้ำพระองค์ยังทรงส่งเสริมการสร้างอย่างจริงจัง ถึงขนาดทรงส่งให้พระมหาโมคคัลลานะไปดูแลการก่อสร้างให้

ที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้น พอนางวิสาขาขายเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ ซึ่งเป็นเครื่องประดับส่วนตัวที่มีค่าสูงลิบ เพื่อเอามาเป็นค่าก่อสร้างวัด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่ทรงห้ามอะไรสักนิด อีกทั้งตอนที่อนาถบิณฑิกเศรษฐีลงทุนถึงขนาดขนเงินที่มีทั้งหมดใส่กระบุงมาปูเรียงบนที่ดินที่จะซื้อต่อจากเจ้าเชตราชกุมารเพื่อเอามาสร้างวัด พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามิได้ตรัสว่าอนาถบิณฑิกเศรษฐีว่า “โอเวอร์” แต่ประการใดเลย  หรือแม้กระทั่งกรณีของพระเจ้าพิมพิสารที่พระองค์ทรงยกที่ดินที่ดีที่สุดให้สร้างวัด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่ทรงห้ามแต่อย่างใด

ตรงกันข้ามเมื่อทุกคนสร้างวัดเสร็จ พระองค์ทรงรับและอนุโมทนาชื่นชมในมหาทานบารมี อีกทั้งยังทรงเห็นด้วยกับการจัดงานฉลองวัดอย่างอลังการงานสร้างนานถึง ๙ เดือนติดต่อกัน

พอทุกคนอ่านมาถึงจุดนี้ อาจจะคิ้วชนกันสงสัยเพิ่มไปกว่าเดิมว่า...

“ทำไมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงสอนให้สมถะ ??? ” 

แท้จริงแล้ว หากเราศึกษาพระไตรปิฎกอย่างถ่องแท้จริง ๆ จะพบว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้สมถะในเรื่องความเป็นอยู่ของพระว่า..ให้ภิกษุเป็นผู้อยู่ง่ายเลี้ยงง่าย สอนให้รู้จักประมาณในเรื่องส่วนตัว แต่เรื่องส่วนรวมในการสร้างศาสนสถานเพื่อปักหลักพระพุทธศาสนาให้มั่นคงพระองค์ไม่เคยทรงสอนให้สมถะ เพราะพระองค์ทรงต้องการเผยแผ่พระศาสนาให้กว้างไกลที่สุดต่างหาก

จากข้อมูลตรงนี้ ทำให้เห็นชัดแล้วว่า  พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงส่งเสริมชื่นชมอนุโมทนาเห็นด้วยกับการสร้างวัดใหญ่ ๆ จำนวนมาก เพราะถ้ายิ่งสร้างใหญ่ ก็จะรองรับคนให้เข้าวัดปฏิบัติธรรมได้เยอะที่สุด เกิดประโยชน์ต่อคนจำนวนมากที่สุด เพราะเมื่อมีคนเข้าวัดปฏิบัติธรรมมาก ผู้คนก็จะเป็นคนดี บรรลุธรรมตามพระองค์ได้โดยง่าย
 
ลองคิดดูเถิด หากสัมมาสัมพระพุทธเจ้าทรงมีนโยบายและทรงสั่งห้ามไม่ให้สร้างวัดใหญ่ โดยบอกว่า..ให้สร้างเป็นแค่กระต๊อบเล็ก ๆ สมถะ ๆ มุงแฝกพอหลบฝนก็พอ ป่านนี้ก็คงไม่เหลือซาก หรือเหลือหลักฐานว่าเคยมีวัดในพุทธกาลตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน แล้วอย่างนี้อะไรจะเป็นโบราณวัตถุยืนยันว่า วัดมีจริง เกิดพระพุทธศาสนาขึ้นจริง ๆ ???

จากหลักการที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้ไว้ในเรื่องของการสร้างวัด วัดพระธรรมกายจึงทำตามมาโดยตลอด เพียงแต่ยังสร้างวัดได้ไม่วิจิตรประณีตใหญ่โตเท่าในสมัยพุทธกาลแค่นั้นเอง

ส่วนในเรื่องความเป็นอยู่ส่วนตัวของเจ้าอาวาส ท่านก็สร้างกุฏิแบบสมถะ เป็นกุฏิปูนขนาดเล็ก ๆ ๔ คูณ ๓ เมตร เอาแค่พออยู่ได้เท่านั้น ภายในไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น มีเพียงเตียงไม้ ไม่ได้อยู่คฤหาสน์เหมือนที่ถูกใส่ร้ายบิดเบือนตัดต่อภาพใด ๆ เลย

ส่วนพระลูกวัดก็อยู่ตึกสงฆ์ สร้างหลายชั้นเพื่อประหยัดพื้นที่ในแนวราบลองคิดดูเถิดว่า หากสร้างตึกตามแนวราบให้พระจำนวนมากเกือบ  ๓ พันกว่ารูปจะต้องให้พื้นที่มากขนาดไหน ? อีกทั้งการพักอาศัยก็อยู่เป็นห้องรวมหลาย ๆ รูป จำวัดเรียงกัน ใช้ห้องน้ำรวมด้วยกัน ไม่มีรูปใดมีห้องส่วนตัว

ส่วนสามเณร ก็อยู่กุฏิจากมุงด้วยแฝก อยู่จำวัดเรียงรวม ๆ กันหลาย ๆ รูปตามอัตภาพเช่นกัน

หมู่กุฏิสามเณรวัดพระธรรมกาย

กุฏิหลวงพ่อธัมมชโย

อาศรมอุบาสิกา ที่พักเจ้าหน้าที่หญิงผู้ถือศีล 8

จากเรื่องราวทั้งหมดจะเห็นว่า การสร้างวัดใหญ่นอกจากไม่ผิดแล้วยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำอย่างยิ่ง อย่างศาสนาอื่นเขายังมีวิสัยทัศน์สร้างศาสนสถานให้ใหญ่โตอลังการกว่าศาสนาพุทธ ก็เพื่อรวมคนให้ได้มาก ๆ สร้างความเข้มแข็งและดำรงอยู่ให้ยาวนานที่สุดเช่นกัน


เช่น นครเมกกะ ของศาสนาอิสลาม วาติกัน ของศาสนาคริสต์ และที่กำลังมาแรง คือ ท่าน ศรี ศรี ระวี แชงการ์
( Sri Sri Ravi Shankar )ผู้นำองค์กร ART OF LIVING ของศาสนาฮินดู ที่ท่านสามารถรวมคนจากทั่วโลก ได้ถึง ๓.๕ ล้านคน จาก ๑๕๔ ประเทศ ซึ่งมีอาสาสมัครมาช่วยงานกว่า  ๑๕,๐๐๐ คน 

พอดูจากศาสนาอื่นแล้วรู้สึกสังเวชใจ เมื่อย้อนกลับมามองประเทศไทย ทั้ง ๆ ที่เป็นเมืองพุทธแท้ ๆ ซึ่งนอกจากจะไม่ส่งเสริมการสร้างวัดใหญ่แล้ว กลับทำลายสถาบันสงฆ์อีกต่างหาก...


cr.ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์  สำนักสื่อธรรมะ












วัดพระธรรมกายสร้างใหญ่ ผิดหลักคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือไม่ ? วัดพระธรรมกายสร้างใหญ่ ผิดหลักคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือไม่ ? Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 03:21 Rating: 5

71 ความคิดเห็น:

  1. กราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ
    สาธุ สาธุ สาธุครับ

    ตอบลบ
  2. กราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ
    สาธุ สาธุ สาธุครับ

    ตอบลบ
  3. วัตถุพยานซากโบราณวัตถุก็มีความสำคัญต่อการ
    ขจัดความลังเลสงสัยของอนุชนรุ่นหลัง...ในเรื่องอตีดของสาสนา

    ตอบลบ
  4. วัตถุพยานซากโบราณวัตถุก็มีความสำคัญต่อการ
    ขจัดความลังเลสงสัยของอนุชนรุ่นหลัง...ในเรื่องอตีดของสาสนา

    ตอบลบ
  5. เราขาวพุทธตอ้งออกมาปกปอ้งพระพุทธศาสนาจากคนคิดล้มพระพุทธศาสนาของเราไห้อยู่คู่ชาติไทยเราค่ะ

    ตอบลบ
  6. หลวงพ่อใช้คำว่าชะตาไข่ สร้างเล็กก็ว่า สร้างใหญ่ก็บ่น ไม่สร้างก็ด่า มนุษย์หนอมนุษย์

    ตอบลบ
  7. สร้างใหญ่ไว้ใช้งาน...เรายังไม่มีที่รวมใจชาวพุทธ สร้างใหญ่ผิดตรงไหน เพราะเงินของผู้มีจิตศรัทธาต้องปลื้มใจอย่าไปเสียดายทรัพย์แทนเขาเลย...มันบาปนะ

    ตอบลบ
  8. 6,800,000 รูป 6,800,000 รูป 6,800,000 รูป มันมี จริงหรือ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2

      ลบ
  9. ละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส

    ตอบลบ
  10. เราว่านะ พื้นที่ใหญ่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ที่มาใช้ และวัตถุประสงค์ในการใช้สถานที่นั้นๆ วัดต่างๆ คนมาใช้ในการทำความดี เเละยิ่งวัดใดสามารถจัดกิจกรรม ที่รวมพุทธบริษัทได้เป็นอย่างดี เป็นสิ่งที่คุ้มค่านะคะ

    แต่ถ้าพื้นที่ใด เป็นไปเพื่ออบายมุข ทั้งการพนัน การดื่มสุรา แม้มีพื้นที่กว้างแค่เพียงการขัดสมาธิ พื้นที่นั้นก็ไม่มีคุณค่านะคะ

    ตอบลบ
  11. กราบอนุโมทนาสาธุการ สาธุครับ

    ตอบลบ
  12. กราบอนุโมทนาบุญค่ะ สาธุๆๆๆ

    ตอบลบ
  13. กราบอนุโมทนาบุญค่ะ สาธุๆๆๆ

    ตอบลบ
  14. วัดไม่ใหญ่่โตหรอก สู้ห้างหรือโรงแรมรีสอร์ตหรูก็ไม่ได้

    ตอบลบ
  15. กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ

    ตอบลบ
  16. กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ

    ตอบลบ
  17. หลักฐานชัดเจนในอินเดีย และเนปาล สร้างดว้ยใจที่ใหญ่เพื่อขยายงานพระศาสนาให้กว้างไกลกราบขอบคุณยอดอุบาสก ยอดอุบาสิกา ที่ทำไว้ถ้าไม่ใหญ่โตคงหาไม่เจอเราคงไม่มีโอกาสเดินทางไปสักการะส้งเวซ..เป็นแน่นะครับ

    ตอบลบ
  18. หลักฐานชัดเจนในอินเดีย และเนปาล สร้างดว้ยใจที่ใหญ่เพื่อขยายงานพระศาสนาให้กว้างไกลกราบขอบคุณยอดอุบาสก ยอดอุบาสิกา ที่ทำไว้ถ้าไม่ใหญ่โตคงหาไม่เจอเราคงไม่มีโอกาสเดินทางไปสักการะส้งเวซ..เป็นแน่นะครับ

    ตอบลบ
  19. ลองคิดดูซคะถ้าคนมาล้านคนถ้าสร้างเล็กแล้วสาธุชนจะนั่งตรงไหนทุกเดือนสาธุชนมาเกือบแสนยังเดินชนกันเราสร้างมาเพื่อใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมายแลัวเป็นความศรัทธาของสาธุชนที่ทำถูกเนื้อนาบุญ

    ตอบลบ
  20. ไม่ผิดหลักคำสอน เพราะเน้นที่ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ พระพุทธเจ้าท่านก็ใช้หลักนี้เช่นเดียวกัน

    ตอบลบ
  21. เป็นคำคม ฟังแล้วได้คิด

    ตอบลบ
  22. ก็ใช้หลักเดียวกันนั่นแหล่ะ..ไม่เห็นมีต่างตรงไหนเลยท่านทั้งหลาย

    ตอบลบ
  23. ทางวัดมีเหตุผลในการสร้างเพิ่อขยายงานพระพุทธศาสนาออกไปทั่วโลก ให้สามารถรองรับสาธุชนที่จะหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศนับล้านๆ ทุกสิ่งทำเพื่อพระพุทธศาสนา จะให้สร้างเล็กๆได้ไง อย่าใช้วิสัยทัศน์แคบๆแบบกบในกะลา มาประเมินคนอื่นเลย เอาเวลาไปสร้างผลงานของตนเองดีกว่าไม๊?

    ตอบลบ
  24. กราบอนุโมทนาสาธุการค่ะเป็นบุญอย่างยิ่งที่ชาวไทยชาวพุทธมีวัดพระธรรมกายเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พุทธศาสนา

    ตอบลบ
  25. กราบอนุโมทนาสาธุการค่ะเป็นบุญอย่างยิ่งที่ชาวไทยชาวพุทธมีวัดพระธรรมกายเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พุทธศาสนา

    ตอบลบ
  26. อนุโมทนาบุญค่ะ สาธุๆๆๆ ค่ะ

    ตอบลบ
  27. การสร้างวัด...เป็นบุญที่ทำในพระพุทธศาสนาจะส่งผลให้เกิดในร่มเงาของพระพุทธศาสนา อีกทั้งมีฐานะร่ำรวยมากๆ คือ เกิดเป็นชาวพุทธแท้และรวย เหมือนท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีหรือมหาอุบาสิกาวิสาขา...วัดพระธรรมกายเล็กกว่าวัดเชตวันมหาวิหารและวัดบุปผารามสมัยพุทธกาลเยอะจ้า...วัดใหญ่ก็สามารถรองรับผู้ปฏิบัติธรรมได้มาก..."สิ่งที่คนพาลกลัว..คือการรวมตัวทำความดี"..

    ตอบลบ
  28. คนที่คิดจะจ้องจับผิด..ควรจะมาจ้องจับดื..จะดีกว่า..
    พระศาสนาจะได้เจริญรุ่งเรืองสืบไป..สาธุครับ

    ตอบลบ
  29. คนที่คิดจะจ้องจับผิด..ควรจะมาจ้องจับดื..จะดีกว่า..
    พระศาสนาจะได้เจริญรุ่งเรืองสืบไป..สาธุครับ

    ตอบลบ
  30. สุภาษิตโบราณสอนไว้ว่า ทำดีแต่อย่าเด่นเดียวเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน มันใช้ได้เสมอยิ่งกรณีของวัดพระธรรมกาย ที่ถูกใส่ร้ายป้ายก็มีกรณีนี้กรณืเดียว

    ตอบลบ
  31. ใครที่เข้าใจว่าสร้างวัดใหญ่โต
    ก็เรียนเชิญมาร่วมงานบุญใหญ่ของวัดพระธรรมกาย
    สักครั่งหนึ่งแล้วคุณจะรู้สึกเองว่าวัดเล็กไปเสียแล้ว
    เพราะคนมามาร่วมงานกันเยอะค่ะใครๆก็อยากมา
    เอาบุญกันค่ะ

    ตอบลบ
  32. เขาคงไม่เคยมาวัด มาเห็นมั่ง ว่าถ้าคนเยอะ ต้องใช้สถานที่กว้างใหญ่ เพื่อรองรับคนเหล่านั้นให้ได้ เพราะเคยเห็นแต่วัดที่เล็ก ที่คนมาไม่เยอะ จึงตกใจเมื่อเห็นวัดสร้างใหญ่เอย.

    ตอบลบ
  33. ช่วยกันคิดเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไปให้คนได้มีโอกาสศึกษาเพื่อให้มีที่พึ่งได้ไหมคะ ดีกว่ามาวกไปวนมาว่ากล่าวกันเหมือนวันนี้

    ตอบลบ
  34. ไม่ผิดหรอกค่ะ ในพระไตรปิฎกก็มีหลักฐานยืนยันถึงการสร้างวัดใหญ่ๆ หลายแห่งที่เป็นหลักในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาตลอดพระชนม์ชีพของพระพุทธองค์ แต่ละแห่งก็สร้างอย่างใหญ่โต รองรับทั้งพระภิกษุที่พักอาศัยและสาธุชนที่มาทำบุญมาฟังธรรมได้เป็นจำนวนมากๆ อย่างสบายๆ

    ตอบลบ
  35. วัดจะเล็กหรือใหญ่นั้น ประเด็นสำคัญอยู่ที่ประโยชน์และวัตถุประสงค์ของการใช้งาน สร้างถูกต้องตามพระธรรมวินัย และถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น วัดสร้างมาแล้ว และมีสาธุชนทุกๆชาติ ทุกๆภาษา หลากหลายเผ่าพันธุ์ มาศึกษาธรรมะและปฏิบัติธรรม เรียนรู้เป้าหมายของชีวิตที่แท้จริง เพื่อเข้าถึงความสุขที่แท้จริง และเมื่อได้พิจารณาแล้ว ประโยชน์ใช้งานจากสาธุชนทั่วโลกมากมาย จึงน่าจะเรียกว่า สร้างวัดเล็กด้วยซ้ำไปฯ

    ตอบลบ
  36. ธรรมะละเอียดอ่อนเรามีธรรมในใจทำอะไรก็รุ่งเรือง

    ตอบลบ
  37. ธรรมะละเอียดอ่อนเรามีธรรมในใจทำอะไรก็รุ่งเรือง

    ตอบลบ
  38. สร้างวัดใหญ่เพื่อรองรับสาธุชน จำนวนมากเเละเป็นสถานที่ใช้เผยเผ่ พุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง

    ตอบลบ
  39. คนวิจารณ์ไม่ได้ศึกษาคำสอนหรอก

    ตอบลบ
  40. คนวิจารณ์ไม่ได้ศึกษาคำสอนหรอก

    ตอบลบ
  41. มาร่วมกันสร้างบุญใหญ่ให้แผ่นดิน เพราะตอนนี้คนชั่วมีมากกว่าคนดี

    ตอบลบ
  42. การสร้างขนาดใหญ่หรือเล็กนั้น ขึ้นอยู่กับการใช้งาน .. ตอนนี้..คนมาเยอะมากขึ้น อีกไม่นนานคิดว่า สร้างเล็กไปแล้วครับ

    ตอบลบ
  43. การให้ข้อมูล ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ไม่รู้ได้รู้ถือเป็นการเปิดตา เปิดใจ ได้อนิสงค์นับประมาณ

    ตอบลบ
  44. ใหญ่ตรงไหน ไปวัดวันธรรมชัย คนมาเยอะมาก ตอนแรกมาก็ว่าใหญ่ อยู่ๆไปทำไมเล็กลง ที่จอดรถก็เล็ก ถนนก็แคบ ห้องแก้วนะเล็กนิดเดียว ไม่เชื่อไปดูซิ ถ้าไม่มีคนนะใหญ่แต่ตอนนี้เล็กไปคะ ต้องขยายอีกคะ

    ตอบลบ
  45. ยุคถิ่นกาขาว โมฆบุรุษ ได้ครองเมือง

    ตอบลบ
  46. ยุคถิ่นกาขาว โมฆบุรุษ ได้ครองเมือง

    ตอบลบ
  47. ถ้าเทียบกับพึทธกาลแล้ว วัดพระธรรมกายยังรองรับพระภิกษุได้น้อยมาก สร้างเล็กไป. การสร้างวัดใหญ่สร้างไปได้มาใช้ไป คนทำก็ได้บุญคนมาศึกษาก็ได้บุญ เพราะวัดเปรียบเหมือนโรงเรียนสอนศีลธรรมให้คนเป็นคนดี

    ตอบลบ
  48. ไม่ระบุชื่อ30 สิงหาคม 2559 เวลา 03:36

    สาธุค่ะ

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.