การถวายน้ำฉัน-น้ำใช้ ในยามขาดแคลน ได้อานิสงส์มากกว่าที่คิด !!


ในยุคนี้..มีกระบวนการทำลายพุทธศาสนา มีการทำการข่าวให้คนเสื่อมศรัทธาพระ จนไม่อยากทำบุญเลย ทั้งๆ ที่ความจริง พระดีๆ ยังมีอีกมาก

ด้วยเหตุนี้..จึงทำให้ชาวพุทธจำนวนมากหันหน้าออกจากวัด งดการทำบุญ ทอดทิ้งพระเณรให้อยู่กันอย่างลำบากขาดแคลน และถ้าเราปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้ต่อไป ก็ยากที่พระดีๆ จะทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างสะดวก เพราะทุกวันนี้..คนทำบุญกับวัดน้อยลงมาก แม้แต่ค่าน้ำค่าไฟวัด เงินบำรุงวัดขั้นพื้นฐาน บางวัดยังขาดแคลนเลย !!!

แท้จริงแล้ว เรื่องราวความเข้าใจพระผิดๆ หรือแม้แต่การแอนตี้พระกันทั้งเมือง เป็นเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในสมัยพุทธกาล แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านยังเจอเลย เจอถึงขั้นที่ว่า..มีคนแอนตี้ท่านกันทั้งเมือง และมีคำสั่งจากชนชั้นปกครองห้ามชาวเมืองทำบุญกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งถ้าใครฝ่าฝืนมีโทษหนักถึงชีวิต!!!

แต่ในสมัยนั้น ก็มีนางทาสหญิงผู้เป็นสัมมาทิฐิคนหนึ่ง ยอมเอาชีวิตเข้าแลก ฝ่าฝืนคำสั่ง เพราะเธอเห็นถึงโอกาสที่จะเอาบุญที่ทำกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปพลิกชีวิตเธอให้ดีขึ้นในภพชาติต่อๆ ไป เธอจึงตัดสินใจเอาชีวิตเป็นเดิมพันในการทำบุญกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในยามที่ท่านขาดแคลนปัจจัยในการดำรงชีวิต ดังเรื่องราวที่สรุปจากมก. เล่ม ๔๘ หน้า ๗๔ ว่า...

ในครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้านำคณะพระภิกษุสงฆ์จำนวนมาก เสด็จไปยังหมู่บ้านของพราหมณ์ที่ชื่อถูณะ ซึ่งเป็นผู้ปกครองหมู่บ้านที่เป็นมิจฉาทิฐิ มีความตระหนี่ถี่เหนียวมาก

พอพราหมณ์ถูณะรู้ว่า พระพุทธเจ้าจะเสด็จมาก็วางแผนทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ท่านเสด็จมาได้โดยเอาเรือข้ามฝั่งไปซ่อน แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมทั้งคณะพระภิกษุก็ใช้อภิญญาญาณเหาะข้ามแม่น้ำมายังฝั่งหมู่บ้านได้

จากนั้นพราหมณ์ถูณะ ก็ได้สั่งให้ชาวบ้านช่วยกันทำลายสิ่งอำนวยความสะดวกในเรื่องความเป็นอยู่ทั้งหมด แม้แต่บ่อน้ำ ก็สั่งให้ถมทุกบ่อ เหลือไว้เพียงบ่อเดียวสำหรับพวกตนเท่านั้น เพื่อไม่ให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้ฉันน้ำแม้แต่หยดเดียว แล้วจะได้เสด็จออกไปจากที่นี่ด่วนที่สุด

จากนั้นพราหมณ์ถูณะก็ได้สั่งทุกคนว่า..ถ้าเห็นสมณโคดมที่ใด ก็ห้ามเข้าไปสักการะ ห้ามถวายของทุกๆ อย่าง หรือแม้สมณโคดมจะมาถึงประตูบ้าน ก็ห้ามถวายอาหารใดๆ ทั้งสิ้น และถ้าใครขัดขืนไม่ทำตามคำสั่งก็จะต้องโทษหนัก!!!

ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีใครกล้าให้ความช่วยเหลือใดๆ กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย แม้แต่หญิงทาสีจำนวนมากที่เดินเทินหม้อน้ำผ่านไปผ่านมาก็ได้ทำตาปริบๆ แม้จะเห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและคณะสงฆ์ร้อนหิวกระหายน้ำเพียงใดก็ตาม

จนกระทั่งมีนางทาสหญิงผู้เป็นภริยาของพราหมณ์คนหนึ่งอดรนทนไม่ไหวที่จะเห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและคณะสงฆ์ผู้เหนื่อยล้า หิวกระหายจากการเดินทางไกล จึงตัดสินใจเด็ดเดี่ยว ยอมเอาน้ำในหม้อที่เทินไว้บนศีรษะเข้ามาน้อมถวายแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยจิตเลื่อมใส

ซึ่งนางคิดว่า..เอาเถิด วันนี้เรายอมตาย แต่จะไม่ยอมปล่อยให้โอกาสที่ได้เจอเนื้อนาบุญอันเลิศนี้หลุดลอยไป หากเราไม่ฉวยโอกาสถวายน้ำท่านในยามขาดแคลน ในยามท่านทุกข์ยากขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้ถวาย และเมื่อเราไม่ได้ถวาย..เมื่อไร..เราจะได้ที่พึ่งแห่งตน และหลุดพ้นจากความยากลำบากเช่นนี้ไปได้ การที่เราได้ถวายน้ำดื่มกับพระศาสดาและภิกษุสงฆ์ แม้ชาวบ้านจะรุมประชาทัณฑ์เราถึงตายก็ยอม เพียงขอให้บุญนี้เป็นของเรา อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไป

เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเห็นจิตที่เลื่อมใสของนาง จึงทรงอนุเคราะห์กรองน้ำล้างพระหัตถ์และพระบาทแล้วเสวยน้ำดื่ม

แต่ด้วยพุทธานุภาพ ก็เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นคือ น้ำในหม้อไม่พร่องลดลงไปเลยแม้แต่นิดเดียว และพอนางเห็นอย่างนั้นก็ยิ่งเลื่อมใสในอานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วรีบจัดแจงนำน้ำมาน้อมถวายแด่ภิกษุทั้งหลายจนครบทุกรูป และเมื่อถวายเสร็จ น้ำในหม้อก็ยังเต็มเปี่ยมบริบูรณ์เหมือนเดิม...

แต่อนิจจา..พอนางกลับบ้าน เมื่อสามีทราบว่านางเอาน้ำไปถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น ก็โกรธมากถึงขั้นทุบตีนางจนสิ้นชีวิตลง

แต่ด้วยอานิสงส์ที่นางทำนั้นยิ่งใหญ่มาก เพราะถือเป็นทานที่ทำได้ยากยิ่ง เพราะต้องแลกด้วยชีวิตนี่เอง จึงทำให้นางไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีมหานาวาวิมาน มีทิพยสมบัติอันโอฬารใหญ่โตรองรับทันที!!!


ในขณะที่นางตื่นเต้นปลื้มกับอานิสงส์ผลบุญ และชื่นชมสมบัติอยู่นั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเรียกพระอานนท์ให้ไปตักน้ำ ซึ่งพระอานนท์ก็กราบทูลกลับไปว่า “ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า บ่อน้ำถูกพวกพราหมณ์ถมหมดแล้วพระเจ้าข้า” แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงยืนยันพระดำรัสเดิม ด้วยเหตุนี้..พระอานนท์จึงรีบเอาบาตรไปที่บ่อน้ำที่ถูกถมแล้ว และทันใดนั้นเอง ด้วยพุทธานุภาพ น้ำในบ่อก็เอ่อล้นขึ้นมาจนท่วมนองทั้งหมู่บ้าน!!!

จากเหตุการณ์นี้เอง ทำให้พวกพราหมณ์ตกใจมาก รู้สึกผิดถึงการกระทำที่ได้ล่วงเกินพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้หมดกิเลส จึงพากันมากราบขอขมาพระบรมศาสดาและพอขอขมาเสร็จ น้ำที่ท่วม..ก็พลันลดหายไปอย่างอัศจรรย์

จากพุทธานุภาพที่ชาวบ้านเห็นประจักษ์กับตานี่เอง จึงทำให้ชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากจนพากันจัดแจงถวายมหาทานครั้งใหญ่แด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและคณะสงฆ์ทั้งหมดด้วยความปลื้มปีติอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

แต่ในขณะที่ชาวบ้านกำลังทำบุญกันนี้เอง เทพธิดาที่เพิ่งขึ้นสวรรค์ไปเพราะผลบุญจากการถวายน้ำก็ได้ลงมาเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย จึงทำให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสถึงอานิสงส์ผลบุญของนางให้ชาวบ้านฟัง และอนุโมทนายกย่องในการเอาชีวิตเป็นเดิมพันในการสร้างกุศลของนางท่ามกลางพุทธบริษัททั้งหลาย จนทำให้มหาชนเกิดความปีติและเชื่อมั่นในผลแห่งบุญในการถวายน้ำฉัน น้ำใช้และการถวายทานแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยทั่วกัน...

จากเรื่องราวในพระไตรปิฎกนี้เอง เราจะพบว่าการถวายน้ำฉัน น้ำใช้ในยามขาดแคลนนั้นมีอานิสงส์อันไม่มีประมาณจริงๆ

ดังนั้นในวาระวันวิสาขบูชาที่จะถึงนี้...พวกเราชาวพุทธก็ควรเข้าวัดทำบุญ ชักชวนกันไปถวายค่าน้ำ-ค่าไฟ ทำบุญบำรุงวัด เพื่อต่อลมหายใจให้พระพุทธศาสนาดำรงอยู่คู่โลกนี้ต่อไป...

ในเมื่อเรานับถือศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นศาสนาแห่งดวงปัญญา เราก็ควรใช้ดวงปัญญา คือ ไม่ควรฟังข่าวเพียงด้านเดียว แล้วเชื่อว่าพระไม่ดีไปซะหมด จนทำให้เราหยุดทำบุญ ทั้งๆ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่เคยสอนให้เราหยุดทำบุญเลย ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นกับโลกใบนี้ เพราะการหยุดทำบุญจะเป็นผลร้ายกับเราเอง เนื่องจากสายสมบัติกลางดวงบุญเราจะถูกตัดรอน ทำให้วิบากกรรมเก่าที่เคยทำมาในอดีตจะตามมาส่งผลได้ง่าย

และที่สำคัญ..การที่เราทำบุญไม่ต่อเนื่อง จะมีอิทธิพลต่อชีวิตทั้งในชาตินี้และชาติหน้า เช่น ขณะที่เรามีชีวิตที่รุ่งเรือง..อยู่ๆ ก็เกิดตกต่ำ หรือถ้าเรารวย เราก็จะรวยแบบไม่ต่อเนื่อง...

ดังนั้น เราอย่าตกเป็นเหยื่อข่าวของคนที่จ้องทำลายพระพุทธศาสนา อย่าให้ข่าวนั้น มาตัดรอนการสร้างบุญของเรา หรือเปลี่ยนชีวิตเราให้ตกต่ำตามกระแสโลกเลย ทั้งๆ ที่เราเองก็เคยรู้สึกดีกับพระพุทธศาสนา เคยทำบุญมาตลอดต่อเนื่องอย่างที่ปู่ย่าตายายเราสอนไม่ใช่หรือ ?

ในวันวิสาขบูชานี้..อย่าลืมเข้าวัดที่ท่านเลื่อมใสศรัทธา ไปสวดมนต์ นั่งสมาธิ และไปทำบุญค่าน้ำ ค่าไฟ บำรุงวัด ต่ออายุพระพุทธศาสนากัน...



ถ้าอยากรู้ว่าอานิสงส์การถวายน้ำที่ปรากฎอยู่ในพระไตรปิฎกว่าเป็นอย่างไร 
คลิก http://dhamma-media.blogspot.com/2017/04/blog-post_13.html

Cr. สำนักสื่อธรรมะ
การถวายน้ำฉัน-น้ำใช้ ในยามขาดแคลน ได้อานิสงส์มากกว่าที่คิด !! การถวายน้ำฉัน-น้ำใช้ ในยามขาดแคลน ได้อานิสงส์มากกว่าที่คิด !! Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 02:02 Rating: 5

4 ความคิดเห็น:

  1. บุญเป็นบ่อเกิดของความสำเร็จ และบุญจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีเนื้อนาบุญ

    ตอบลบ
  2. บุญอยู่เบื้องหลังความสุขและความสำเร็จของมนุษย์ทุกๆ คน ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

    ตอบลบ
  3. สาธุๆๆๆ สุดยอดแห่งบุญของพระพุทธองค์

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.