หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๓๗)
สมาธิ : ทางรอดวิกฤตติดถ้ำ
ในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ข่าวคราวเกี่ยวกับการเข้าช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชของทีมฟุตบอล
“หมูป่าอะคาเดมี” ที่ติดอยู่ใน
“ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน” จ.
เชียงรายนั้นได้กลายเป็นข่าวที่โด่งดังไปทั่วโลก มีสำนักข่าวระดับโลกจำนวนมาก เช่น
CNN, The Australian, Vox, ABC News, BBC News, The Guardian หรือหนังสือพิมพ์ชื่อดังของประเทศเยอรมนีอย่าง
Bild และอีกหลายสำนัก รวมทั้งสื่อมวลชนกว่า ๑,๓๐๐
คน ได้เข้ามาร่วมนำเสนอปรากฏการณ์มหัศจรรย์อันเกิดจากสมาธิในพระพุทธศาสนาในครั้งนี้กันอย่างตื่นตาตื่นใจ
ซึ่งนอกจากก่อให้เกิดปรากฏการณ์เรื่อง “ความสามัคคีระดับโลก” เกิดความร่วมแรงร่วมใจกันในการเข้าช่วยเหลือเด็ก
ๆ อย่างเต็มที่เต็มความสามารถแล้ว
ยังได้ก่อให้เกิดกระแสความสนใจเกี่ยวกับสมาธิและการปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวางทั่วโลก
ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการรอดชีวิตของทีมหมูป่า
โดยที่จุดเริ่มต้นความสนใจนั้นเกิดจากการที่นายเอกพล จันทะวงษ์ “โค้ชเอก”
ครูฝึกของทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี ซึ่งติดอยู่ในถ้ำหลวงพร้อมกับเด็ก
ๆ นานถึง ๑๐ วัน แต่ก็สามารถประคับประคองดูแลเด็ก ๆ ทั้ง ๑๒ คนให้ปลอดภัย
มีชีวิตรอดอยู่ได้ ด้วยการใช้หลักของความเอาใจใส่ ความอดทน ความเสียสละ
และการนำความรู้จากการทำ “สมาธิ” มาใช้ช่วยชีวิตของเด็ก
ๆ ได้อย่างมหัศจรรย์ โดยฝึกให้เด็กนั่งสมาธิ เคลื่อนไหวให้น้อยลง
เพื่อใช้พลังงานในร่างกายให้น้อยที่สุด และเมื่อเด็ก ๆ กระหายน้ำ
โค้ชเอกก็สอนให้เด็ก ๆ
ดื่มน้ำที่หยดลงมาจากหินงอกหินย้อยแทนการดื่มน้ำที่ท่วมอยู่ในบริเวณพื้นถ้ำ
เพื่อต่อสู้กับความหิวและสร้างพลังใจให้ตนเอง
ซึ่งนับว่าสิ่งที่โค้ชเอกสอนให้กับเด็ก ๆ นั้น ได้ผลอย่างดียิ่ง
และสร้างความอัศจรรย์ใจแก่ชาวโลกในเวลาต่อมา ทั้งนี้เทคนิคที่แสนพิเศษนี้
เป็นเทคนิคที่โค้ชเอกเคยศึกษาเรียนรู้มาตลอด ๘
พรรษาของการบวชเป็นสามเณรและพระภิกษุในพระพุทธศาสนา (ซึ่งแม้แต่ อ.อดัม
แบรดชอว์อาจารย์สอนภาษาอังกฤษชื่อดังยังกล่าวถึงเหตุการณ์นี้ด้วยความแปลกใจ
ที่เด็ก ๆ ในทีมหมูป่าอะคาเดมีทุกคนต่างอยู่ในอาการสงบนิ่งไม่ตื่นตระหนกเมื่อเจอนักดำน้ำชาวอังกฤษที่ได้ไปพบเป็นกลุ่มแรก
ทั้ง ๆ ที่เด็กต่างติดอยู่ในถ้ำมานานถึง ๑๐ วันแล้ว)
ก็ยิ่งทำให้วงการวิทยาศาสตร์และการปฏิบัติสมาธิต่างตื่นตัว
และหันกลับมาทบทวนการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคุณค่าของสมาธิกันอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี¹ ซึ่งด้วยกระแสความตื่นตัวนี้ได้ทำให้หลาย
ๆ โรงเรียนในสหรัฐอเมริกาต่างนำคุณค่าของสมาธิมาประยุกต์เข้ากับการสอนเด็ก ๆ ด้วย
(ภาพจาก Facebook : We Are Tai)
ทีมฟุตบอลเยาวชน จ.เชียงราย
(source : https://web.facebook.com/eakatol)
(source :
https://web.facebook.com/eakatol)
ไม่เพียงแต่เท่านั้น แม้แต่กรณีของท่านครูบาบุญชุ่ม
พระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากรัฐฉาน ประเทศเมียนมา
บุคคลสำคัญอีกท่านหนึ่งที่มีส่วนในการช่วยเหลือน้อง ๆ เยาวชนกลุ่มนี้
ตัวท่านเองก็มีประวัติของการเป็นพระอาจารย์ที่เคยปฏิบัติธรรมอยู่ในสาย “โบราณกรรมฐาน”
สายปฏิบัติแบบเร้นลับที่สืบทอดกันมานับพันปี
ดังที่ในทางวิชาการเรียกว่า “Esoteric Southern Buddhism” หรืออีกชื่อหนึ่ง
คือ Tantric Theravada ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากท่านพระอุปคุต
พระผู้ปราบมารในยุคสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช โดยเฉพาะการทำ “มุทราสรณคมน์”
ที่ท่านครูบาบุญชุ่มได้เคยปฏิบัติสืบมาเป็นเวลานาน
ที่ค้นพบที่ถ้ำตุนหวง มีอายุราวพันปี
ทั้งนี้ องค์ความรู้ในเรื่องโบราณกรรมฐานดังกล่าวนั้น
มีปรากฏมาเป็นเวลานานนับพันปีแล้วในดินแดนตะวันออกหรือเอเชียอาคเนย์ ตัวอย่างเช่น
ในการค้นพบคัมภีร์โบราณในถ้ำตุนหวงที่ประเทศจีน
ก็มีชุดความรู้ที่ช่วยยืนยันความเก่าแก่ของท่าทางการทำ “มุทราสรณคมน์”
(แบบเดียวกับที่ท่านครูบาบุญชุ่มปฏิบัติ) ได้เป็นอย่างดี
ซึ่งโดยความหมายของการทำ “มุทราสรณคมน์” ดังกล่าวนี้
มีความลึกซึ้งเป็นอย่างมาก เพราะโดยความหมายแล้วก็คือ “การขอให้พระไตรสรณคมน์นั้นช่วยปกปักรักษาภยันตรายและความหวาดกลัวต่าง
ๆ” ซึ่งนับว่าสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ
ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนเป็นอย่างดี
อนึ่ง
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการประกอบพิธีกรรมบางอย่างของท่านครูบาบุญชุ่มนั้น
มีคำถามเกิดขึ้นว่าเป็นพิธีกรรมในพระพุทธศาสนาหรือไม่ ซึ่งข้อเท็จจริงก็คือ
จากการศึกษาของนักวิชาการทางพระพุทธศาสนา
รวมทั้งนักวิจัยของสถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัย (DIRI) เอง
ได้พบว่าลักษณะของพิธีกรรมบางอย่าง เช่น การเป่าสังข์ การเดาะกลอง การสวดมนต์ ตลอดจนการทำมือแบบมุทรานั้น
มีความคล้ายคลึงกับวิธีปฏิบัติของพระภิกษุทิเบตเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้เนื่องมาจากวิธีปฏิบัติเหล่านี้ได้รับการพัฒนามาจากวิธีของท่านพระอุปคุตผู้เป็นปฐมาจารย์ผู้ให้กำเนิดนิกายสรวาสติวาท
อันเป็นต้นธารของพระพุทธศาสนานิกายวัชรยานของทิเบตนั่นเอง
จันทะวงษ์ ในกิจกรรมที่เคยพาทีมหมูป่าอะคาเดมี
แม่สาย เข้าไปนั่งสมาธิในถ้ำ
(source :
https://web.facebook.com/eakatol)
ข้อที่น่าศึกษายิ่งไปกว่านั้นก็คือ พระพุทธศาสนานิกายสรวาสติวาทนั้น
ปรากฏว่าเคยเป็นนิกายที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง
เป็นพระพุทธศาสนากระแสหลักของดินแดนแถบอินเดียภาคกลางและภาคเหนือโบราณ
รวมทั้งในแถบเอเชียกลางมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของ
พระเจ้ากนิษกะแห่งราชวงศ์กุษาณะ นั้น
ก็ถือว่าได้ให้การยกย่องพระพุทธศาสนานิกายนี้มาก่อนเป็นเวลานาน
ดังนั้นอาจไม่เป็นที่น่าแปลกใจว่า
เพราะเหตุใดจึงไม่เป็นที่รู้จักคุ้นเคยของชาวพุทธในประเทศไทยปัจจุบัน
ทั้งนี้ก็อาจเนื่องมาจากชาวพุทธไทยในปัจจุบันห่างเหินต่อการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาแบบโบราณของโลกที่แพร่หลายอยู่ดินแดนต่าง
ๆ มาเป็นเวลานาน
กอปรกับการได้รับอิทธิพลของการปฏิรูปคำสอนใหม่ในพระพุทธศาสนาที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุครัตนโกสินทร์ในบางช่วงเวลาด้วย²
ศาสตราจารย์ด้านอายุรศาสตร์
แห่งโรงเรียนแพทย์
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
(source :
www.thewholehealthlife.com)
อย่างไรก็ดี
การเกิดกระแสความสนใจในการปฏิบัติสมาธิอย่างกว้างขวางทั่วโลกจากเหตุการณ์นี้
ควรถือเป็นปรากฏการณ์ที่พิเศษยิ่ง
เพราะถือว่าเป็นการเปิดช่องทางขององค์ความรู้ด้านโบราณกรรมฐานให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้นในระดับสากล
ซึ่งไม่เพียงแต่องค์ความรู้ที่เกี่ยวกับ “หลักการสูงสุด” ของการปฏิบัติธรรมดังที่เราเคยทราบกันในสังคมไทยเท่านั้น หากแต่อาจจะก่อให้เกิดการศึกษาอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้นในด้านของวิธีปฏิบัติให้มากขึ้นอีกด้วย
ซึ่งควรนับว่าเป็นผลดีต่อภาพรวมของพระพุทธศาสนาอย่างแน่นอน
แต่จากกรณีนี้ไม่เพียงแต่ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางพระพุทธศาสนาเท่านั้นที่ต่างหันกลับมาให้ความสนใจต่อกระแสการตื่นตัวนี้
หากแต่บรรดาแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ และนักการสาธารณสุข ฯลฯ
ต่างก็พุ่งความสนใจมาที่ปรากฏการณ์นี้โดยทั่วถึงกัน
บุคคลหลากหลายกลุ่มต่างตั้งประเด็นการศึกษาว่า “เพราะเหตุใดสมาธิจึงสามารถรักษาชีวิตของเด็ก
ๆ และเยาวชนกลุ่มนี้ไว้ได้” เช่น
ที่คณะแพทย์จากมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ดอธิบายไว้ว่า “การนำวิธีการปฏิบัติสมาธิเข้ามาใช้ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์เช่นนี้ได้
(คือการลดการใช้พลังงานในส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย การรักษาใจให้สงบนิ่ง) นั้น
เห็นได้ชัดว่ามีส่วนอย่างมากที่ทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจทำงานช้าลง
ทำให้การหายใจและการเผาผลาญพลังงานต่าง ๆ ลดลง
ร่างกายสามารถใช้ออกซิเจนน้อยลงในการหมุนเวียนโลหิต ซึ่งมีผลทำให้ร่างกายประหยัดพลังงาน”
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า
สมาธินั้นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการใช้ชีวิต
ในการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้คน ซึ่งหากมีการศึกษาอย่างเป็นระบบแล้ว
ย่อมสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างกว้างขวางแน่นอน
โดยสรุปแล้วประเด็นเรื่องของสมาธิและการฝึกจิตนั้น
จึงถือได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับโลกและความมีสันติสุขของโลกอย่างมาก
ซึ่งเราควรให้ความสำคัญในการศึกษาและทำความเข้าใจต่อไปอย่างกว้างขวางและลึกซึ้ง
ในที่นี้สำหรับสถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัย (DIRI) เองนั้น
ถือว่าพันธกิจนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่จะต้องดำเนินการให้ก้าวหน้าและกว้างขวางต่อไป
(โดยเฉพาะในขณะนี้ที่นักวิจัยของสถาบันหลายท่านกำลังศึกษาค้นคว้าในเรื่องนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง)
ทั้งนี้ จากกรณีนี้ทำให้เราได้เห็นว่า “ปริมณฑลของความรู้” ในเรื่องของสมาธิในพระพุทธศาสนาไม่ว่าจะนิกายใดนั้น
ก็ยังเป็นสิ่งที่ทุกคนในโลกต้องร่วมแรงร่วมใจกันศึกษาให้กระจ่างต่อไป
เพื่ออนาคตที่ผาสุกร่วมกัน
ขอเจริญพร (อ่านต่อฉบับหน้า)
------------------------------------------
¹ จากกรณีนี้มีการอ้างอิงผลการวิจัยของ ดร.เฮอร์เบิร์ต เบนสัน ศาสตราจารย์ด้านอายุรศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่ยืนยันว่าจิตที่เป็นสมาธิจะสามารถควบคุมกลไกต่าง ๆ ในร่างกายได้ และร่างกายของผู้ที่อยู่ในสมาธิจะใช้พลังงานน้อยมาก ทั้งนี้จากการศึกษาทดลองมาอย่างต่อเนื่องกว่า ๓๐ ปี ทำให้พบอีกว่าการทำสมาธิทำให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง ความดันโลหิตลดลง คลื่นสมองช้าลงและมีความเป็นระเบียบมากขึ้นความตึงตัวของกล้ามเนื้อทั่วร่างกายลดลง รวมทั้งการเผาผลาญอาหารของร่างกายก็ลดลงด้วย
¹ จากกรณีนี้มีการอ้างอิงผลการวิจัยของ ดร.เฮอร์เบิร์ต เบนสัน ศาสตราจารย์ด้านอายุรศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่ยืนยันว่าจิตที่เป็นสมาธิจะสามารถควบคุมกลไกต่าง ๆ ในร่างกายได้ และร่างกายของผู้ที่อยู่ในสมาธิจะใช้พลังงานน้อยมาก ทั้งนี้จากการศึกษาทดลองมาอย่างต่อเนื่องกว่า ๓๐ ปี ทำให้พบอีกว่าการทำสมาธิทำให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง ความดันโลหิตลดลง คลื่นสมองช้าลงและมีความเป็นระเบียบมากขึ้นความตึงตัวของกล้ามเนื้อทั่วร่างกายลดลง รวมทั้งการเผาผลาญอาหารของร่างกายก็ลดลงด้วย
² จากการศึกษาพบว่าแต่ดั้งเดิมมานั้น
สังคมไทยมีโลกทัศน์และชีวทัศน์ที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาแบบเดียวกันมาตั้งแต่หลังจากที่พระโสณะและพระอุตตรเถระได้นำพระพุทธศาสนาเข้ามาเผยแผ่ตั้งแต่ปีพุทธศักราช
๒๓๔ นั่นก็คือเรื่องการดับทุกข์และการดับกิเลส การเว้นการเบียดเบียนกัน
การใช้หลักกุศลกรรมบถ ๑๐ เป็นแกนหลักในการจรรโลงสังคม เรื่องนรกสวรรค์และพระนิพพาน
แต่ในยุคกลางของสมัยรัตนโกสินทร์
โลกทัศน์และชีวทัศน์ที่มีต่อพระพุทธศาสนาเริ่มถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบเหตุผลนิยมหรือแนวคิดเชิงประจักษ์มากขึ้น
ทำให้ความคิดความเชื่อบางอย่างในพระพุทธศาสนาถูกลดทอนลงไป (สุภาพรรณ ณ บางช้าง,
พุทธธรรมที่เป็นรากฐานสังคมไทยกอ่ นสมัยสุโขทยั ถึงกอ่
นการเปลี่ยนแปลงการปกครอง, กรุงเทพมหานคร :
โครงการเผยแพร่ผลงานวิจัย ฝ่ายวิจัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๓๕,
หน้า ๑๗.)
-----------------------------------------------------
-----------------------------------------------------
Cr. นวธรรมและคณะนักวิจัย DIRI
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๘๘ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๓๗)
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
23:59
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: