เพราะเป็นประธานกอง..เลยได้ร้านเหลือเชื่อ !!!
กัลฯณัฐกฤตา ธนากิจโชคชัย |
ชื่อ
ณัฐกฤตา ธนากิจโชคชัย และหุ้นส่วนชื่อ อิสฎากรณ์ พาขุนทด
ปัจจุบันเปิดร้านขายเสื้อยืด ยี่ห้อบิ้กโก้ อยู่ที่ จ.เชียงใหม่
แต่ก่อนเรามีบ้าน
มีรถใช้อยู่ดีๆ แต่พอมาทำธุรกิจขายตรง ชีวิตก็แย่หนักร่วงหล่นตุ๊บลงมา
จนติดหนี้ติดสิน ทั้งบ้านทั้งรถโดนยึดไม่เหลือเลย เราจึงต้องผันตัวเองมาเป็นแม่ค้าแผงลอยเร่ร่อนขายของตามตลาดนัด
เช่น ขายน้ำ ขายขนม ขายกาแฟ ขายเสื้อผ้าที่ถนนคนเดินใน จ.เชียงใหม่ แต่รายได้ก็ไม่ค่อยพอใช้
เพราะต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน จ่ายค่าความผันผวนความไม่แน่นอนที่เกิดในชีวิตหลายอย่าง
หนำซ้ำกว่าจะหาเงินได้แต่ละบาทต้องลำบากตรากตรำสารพัด
ทั้งๆ ที่ตลอดชีวิตเราก็ขยัน อดทน พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้รวย แต่ก็ไม่รวยสักที
จนกระทั่งเราได้เข้าวัดพระธรรมกายจริงจังตอนปลายปี 50 แล้วก็ได้มาฟังเรื่องพลิกชีวิตด้วยบุญกฐินบ่อยๆ
ซึ่งเราฟังแล้วก็เกิดวิชั่นอยากพลิกบ้าง
แต่ด้วยความจน เราก็มีเงินทำบุญได้ทีละ
20 -100 บาทเท่านั้นเอง แต่เราก็ไม่ย่อท้อ ตรงข้ามกลับพยายามเก็บเล็กผสมน้อยประหยัดเรื่อยมา
และคิดไว้ว่า..สักวันจะต้องเป็นประธานกองกฐินให้ได้
จนถึงกฐินปี 55 จึงตัดสินใจเด็ดเดี่ยว
แน่วแน่ แคะกระปุกออมสิน เทเหรียญออกมาทั้งหมด และปิดบัญชีเพื่อเป็นประธานกอง S ครั้งแรกในชีวิต
ซึ่งตอนนั้นเราปลื้มมากจนน้ำตาไหลเลย ภูมิใจมากรู้สึก..เราชนะความตระหนี่ได้แล้ว คือ แม่ค้าจนๆ อย่างเราสามารถตัดใจทำบุญใหญ่ได้
ทั้งๆ ที่เราก็ยังเป็นแม่ค้าแผงลอยขายเสื้ออยู่ บ้านเราก็ยังเช่า แถมยังไม่มีทรัพย์สินอะไรเป็นชิ้นเป็นอันกับเขาเลย
แต่หลังจากทำบุญไปแล้วชีวิตก็พลิกผันจริงๆ
คือ อยู่ๆ ก็มีคนมายกร้านเสื้อร้านใหญ่ให้เราดูแลทั้งร้านแบบฟรีๆ
แถมเอาสินค้ามาลงให้ทั้งหมดเต็มร้าน โดยไม่ต้องลงทุนหรือออกเงินอะไรเลย และถ้าเราขายได้เท่าไหร่
ก็เอาเปอร์เซนต์ไปค่ะ
แถมยังอนุญาตให้เราเอาสินค้าในร้านไปขายที่แผงลอยของเราได้ด้วย
ซึ่งเราดีใจเหลือเกิน ด้วยเหตุนี้รายได้เราจึงดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด
จนกฐินปี 56 เราสามารถเป็นประธานกองได้ถึง
3 S และทำบุญทุกบุญได้จำนวนมากขึ้นตั้งแต่บัดนั้น และพอเราเป็นประธานกองกฐินอีก
ธุรกิจของเราก็ได้รับการต่อยอดขึ้นไปอีก คือรายได้ของร้านเพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
จนปัจจุบันเราสามารถขอเช่าร้านต่อจากเจ้าของร้าน
เพื่อมาดูแลบริหารธุรกิจเองทั้งหมด อีกทั้งยังจ้างลูกจ้างเอง
และทำเสื้อยืดเป็นยี่ห้อของตัวเองแล้ว
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะ
ว่าบุญจากการเป็นประธานกองกฐินนี่แรงจริงๆ
จากชีวิตแม่ค้าข้างถนนเร่ร่อนไร้อนาคต..ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของร้านใหญ่โตได้
ดังนั้นพอถึงปีนี้ ซึ่งเราทราบว่าจะได้หล่อหลวงปู่องค์ที่
8 จึงดีใจหนักมาก เพราะเราเพิ่งเข้าวัดตอนปี 50 นี่เอง ทำให้พลาดการหล่อหลวงปู่องค์แรกไป
และพอทางวัดยิ่งหล่อหลวงปู่เพิ่มขึ้นอีก
เราก็ยิ่งอะเลิร์ท เพราะยิ่งทำให้เราได้บุญด้านนี้หนาแน่นเพิ่มขึ้น เพราะบุญจากการหล่อพระผู้ปราบมารอานิสงส์แรงมาก อย่างเรื่องของ ชฎิลเศรษฐี ที่เอาหม้อดอกไม้ทองคำ 3 ใบ
ไปบรรจุไว้ในเจดีย์ทองคำที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
เพื่อกราบขอขมาและระลึกถึงคุณของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังส่งผลรุนแรงถึงขนาดทำให้ให้
ชฎิลเศรษฐี เป็น 1 ใน 3
ของเศรษฐีที่รวยที่สุดในสมัยพุทธกาล แถมยังมีภูเขาทองคำสูง 80 ศอก
เกิดขึ้นหลังบ้าน
ซึ่งเราก็อยากรวยแบบนี้เหมือนกัน เพราะถ้ารวย
ก็ไม่ต้องดิ้นรนทำมาหากินให้เหนื่อย ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องปวดหัวแก้ปัญหาต่างๆ อย่างที่เจอทุกวันนี้
และที่สำคัญ ถ้าเรารวยจะได้สร้างบารมีสะดวก มีเวลาเข้าวัดปฏิบัติธรรมและมีโอกาสในการบรรลุธรรมเร็วขึ้น
สุดท้ายนี้
ก็อยากเชิญชวนทุกคนมาเป็นประธานกองกฐินกันเยอะๆ นะคะ แม้ปัจจุบันหลายคนอาจจะไม่รวย
แต่บุญที่เราทำในวันนี้จะส่งผลเต็มที่ในภพเบื้องหน้า เราต้องรื้อผังจนและเชื่อมสายสมบัติให้เรามีสร้างบารมีได้อย่างต่อเนื่อง
และที่สำคัญผลบุญส่วนหนึ่งก็จะมาตัดรอนวิบากกรรมเก่าของเรา
ทำให้เราสร้างบารมีได้อย่างสะดวกสบายขึ้นค่ะ...
Cr. ร. ลิ่วเฉลิมวงศ์ สำนักสื่อธรรมะ
เพราะเป็นประธานกอง..เลยได้ร้านเหลือเชื่อ !!!
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
05:16
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: