ก้าวต่อไปบนเส้นทางที่เลือกเดิน

ก้าวต่อไปบนเส้นทางที่เลือกเดิน

ลูกหลวงพ่อ
เรื่อง : กลุ่มดาวมีน

พระภิกษุผิวพรรณผ่องใสที่นั่งข้างหน้าเราขณะนี้มีดีกรีถึง ๒ ดอกเตอร์ คือดอกเตอร์ในฐานะนายแพทย์ (M.D.) และดอกเตอร์จากการเรียนจบปริญญาเอก (Ph.D.) แต่ท่านกลับละทิ้งทุกอย่างออกบวช

หลังจากได้สนทนากันแล้ว เราพบว่าท่านมีอุดมการณ์ที่จะทำเพื่อส่วนรวมตั้งแต่ยังเยาว์วัย ต่อมาเมื่อท่านได้พบหมู่คณะที่มีเป้าหมายและอุดมการณ์ชัดเจนที่จะทำประโยชน์แก่มหาชน ท่านจึงตัดสินใจเลือกทางนี้ และก้าวเดินอย่างมั่นคงมาเป็นเวลาถึง ๒๖ ปีแล้ว (อุบาสก ๑๗ ปี พระ ๙ พรรษา)

พระภิกษุรูปนี้คือ พระ ดร. นพ. ปวิทัย วชิรวิชฺโช 



ตั้งแต่เริ่มโตมา หลวงพี่มีความฝัน มีอุดมการณ์ อยากเป็นคนดี ซึ่งการเป็นคนดีนั้น ต้องทำทั้งประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน ดังนั้นนอกจากการเรียนแล้ว หลวงพี่จึงทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวมด้วย เช่น เป็นหัวหน้าชั้น เป็นประธานรุ่นของโรงเรียน ร่วมกิจกรรมกับวงโยธวาทิต รับบริจาคเสื้อผ้าไปมอบแก่ผู้ยากไร้ ฯลฯ



กิจกรรมที่พระอาจารย์ปวิทัยทำควบคู่ไปกับการเรียนยังมีรายการอีกยาวเหยียด แถมท่านยังได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย อาทิ รางวัลแชมป์โลกในการประกวดวงโยธวาทิตที่ประเทศเนเธอร์แลนด์, รางวัลนักเรียนดีเด่นของโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย, รางวัลนักเรียนดีเด่นจากสถาบันภาษาฝรั่งเศส IIEF ฯลฯ



จบจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย (รุ่นที่ ๒๔) หลวงพี่เข้าศึกษาต่อที่คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (รุ่นที่ ๒๘) จบแล้วไปสมัครเป็นอุบาสกที่วัดพระธรรมกาย

เรียนจบแล้วทำไมไม่ไปเป็นหมอคะ ทำไมเลือกมาอยู่วัด ?

กว่าจะตัดสินใจมาอยู่วัด หลวงพี่ใช้เวลาศึกษาเส้นทางนี้อยู่หลายปี โดยเริ่มตั้งแต่ตอนจบชั้น ม. ๖ หลวงพี่เข้าอบรมธรรมทายาท (รุ่นที่ ๑๓) โดยมีคุณแม่เป็นกัลยาณมิตรชวนเข้าวัด

การอบรมธรรมทายาทเปิดโลกใหม่ให้แก่หลวงพี่ ทำให้ได้เรียนรู้พระพุทธศาสนาในรูปแบบวิทยาศาสตร์ที่มีหลักการ เหตุผล สามารถอ้างอิงได้ หลวงพี่พบว่าพุทธศาสตร์สามารถอธิบายหลายอย่างที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ จากที่เราเคยคิดว่าวิทยาศาสตร์คือองค์ความรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก หลวงพี่ได้เห็นว่า  สิ่งที่เหนือกว่าวิทยาศาสตร์ก็คือพุทธศาสตร์

การอบรมธรรมทายาทหล่อหลอมให้หลวงพี่รักพระพุทธศาสนา รักบุญ และยังสร้างมุมมองใหม่ ๆ ให้ด้วย ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์ ปีถัดมาหลวงพี่จึงเข้าอบรมอีกครั้ง 

หลังการอบรมครั้งนี้ หลวงพี่สมาทานศีล ๘ กลับไปด้วย ซึ่งสร้างความแตกตื่นแก่เพื่อน ๆ พอสมควร

จากนั้นมาหลวงพี่ใช้ชีวิตเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนใหม่ เลิกเรียนก็ไปสวดมนต์ทำวัตร นั่งสมาธิ และทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ในชมรมพุทธฯ ในปีต่อมาก็เข้าอบรมอีกเป็นครั้งที่ ๓

หลังจากนั้น หลวงพี่ยังออกไปชวนคนมาอบรมธรรมทายาทด้วย เพราะอยากให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น และเมื่อได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพวกเขา หลวงพี่ก็ปลื้มใจมาก ๆ

เมื่อนึกถึงภาพการสร้างความดีในช่วงนั้นเมื่อใด ในใจหลวงพี่ก็มีแต่ความสุข” 

พระอาจารย์ปวิทัยขึ้น-ล่องเชียงใหม่-ปทุมธานีอยู่หลายปี เพื่อสานฝันทางโลกคู่ไปกับทางธรรม เมื่อจบการศึกษาแล้ว ท่านก็ชั่งใจดูว่าจะเลือกทางไหนดี

ถ้าออกไปเป็นหมอก็ได้รักษาคนไข้ ได้ทำอาชีพที่ทางโลกยอมรับนับถือ ถ้าไม่เป็นหมอ ก็ยังมีหมออีกมากมาย แต่คนที่มาทำงานลดกิเลสในใจมนุษย์มีไม่มาก เมื่อหลวงพี่เห็นว่าที่วัดพระธรรมกายมีบัณฑิตกลุ่มหนึ่งสละความสะดวกสบายและความก้าวหน้าทางโลกมาช่วยกันทำงานด้านนี้ โดยมีมโนปณิธานแน่วแน่ที่จะนำคำสอนของพระพุทธเจ้าไปสู่ใจชาวโลก เพื่อสร้างสันติสุขในใจของผู้คน และสืบทอดพระพุทธศาสนาไว้เป็นมรดกล้ำค่าแก่โลก หลวงพี่ก็รู้สึกเลื่อมใส นี้เป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้เลือกมาอยู่วัด



และหากมองในมุมของพระพุทธศาสนา หลวงพี่ก็ยังไม่รู้อะไรอีกมากมาย พระพุทธศาสนายังมีความรู้ที่ลึกซึ้งให้ศึกษาอีกมาก พระพุทธเจ้าก็บอกว่าให้มาพิสูจน์

นอกจากนี้ หลวงพี่ยังคิดว่าสิ่งแวดล้อมสำคัญมาก ถ้าจะเอาดีทางไหนเราต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาตัวเองเรื่องนั้น ถ้าจะเอาดีเรื่องจิตวิญญาณ ก็ควรไปในที่ที่ผู้คนมีคุณภาพทางจิตวิญญาณสูง

ที่สำคัญ หลวงพี่รู้สึกศรัทธาและชื่นชมหลวงพ่อธัมมชโยมาก ท่านเป็นต้นบุญต้นแบบในการทำความดี สติปัญญาที่ท่านมี ภูมิรู้ภูมิธรรม การวางตัว การสอน ความเมตตา ท่านเหนือกว่าบุคคลทางโลกที่หลวงพี่รู้จักทั้งหมด ทำให้เราอยากทุ่มชีวิตจิตใจ ความรู้ความสามารถ และอุทิศกำลังสนับสนุนงานของท่าน หลวงพี่จึงตัดสินใจมาเป็นอุบาสก ถือศีล ๘ ช่วยงานอยู่ที่วัด

หลังจากเป็นอุบาสกแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างคะ ?


รู้สึกมีความสุขและประทับใจในชีวิตที่เรียบง่าย สันโดษ มีระเบียบวินัย มีความเป็นหมู่คณะ ซึ่งเหมาะแก่การฝึกฝนตนเอง เพื่อเตรียมพร้อมที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายที่สูงขึ้น คือการบวชอุทิศชีวิตแด่พระพุทธศาสนา เป็นลูกที่ดีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ชีวิตของอุบาสกเป็นชีวิตที่มีคุณค่า ทางสายนี้ดีงามและมีค่าเกินกว่าจะไปเปรียบกับลาภ ยศ สรรเสริญ หรือเงินทอง เพราะเราสามารถทำทั้งประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านได้เต็มที่ ประโยชน์ตนคือเราได้ฝึกตัว ได้สั่งสมคุณธรรม ได้ฝึกใจตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ส่วนประโยชน์ท่านนั้น ตั้งแต่เข้าวัดมาเราก็เห็นว่าสิ่งที่หมู่คณะเราทำเป็นประโยชน์แก่ผู้คน สามารถเปลี่ยนชีวิตเขาให้ดีขึ้นได้จริง เหมือนที่ตัวเราเองก็เปลี่ยนไป




หลังจากเป็นอุบาสกรับใช้พระศาสนาอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลา ๗ ปี หลวงพ่อเมตตาให้ท่านเป็นหนึ่งในทีมงานไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทวีปยุโรป โดยไปทำหน้าที่ในประเทศเบลเยียม ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลี อีกทั้งยังมีโอกาสศึกษาต่อจนจบปริญญาเอกสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์จากมหาวิทยาลัยหลุยส์ ปาสเตอร์ สตราสบูร์ก ประเทศฝรั่งเศส เมื่อ พ.. ๒๕๕๐ (หัวข้อวิทยานิพนธ์ : ประโยชน์ของสมาธิต่อการลดความเครียดที่เกิดจากการทำงาน ศึกษากรณีนักปฏิบัติธรรมชาวพุทธเซนในประเทศฝรั่งเศส) ทั้งนี้เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถให้พร้อมต่อการทำงานเผยแผ่แก่ชาวต่างชาติ



เมื่อกลับจากต่างประเทศแล้ว หลวงพ่อทั้งสองเมตตาให้ท่านบวชอุทิศชีวิต เปลี่ยนฐานะจากอุบาสกผู้นั่งใกล้พระรัตนตรัยมาเป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.. ๒๕๕๑

หลังจากนั้น พระอาจารย์ปวิทัยก็ตั้งใจเผยแผ่พระพุทธศาสนาในฐานะพระภิกษุรูปหนึ่ง เอื้อประโยชน์แก่มหาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติตลอดมา





อะไรคือความภาคภูมิใจของหลวงพี่บนเส้นทางสายนี้คะ ?

การได้ทำงานรับใช้พระศาสนา ช่วยงานหลวงพ่อ คือสิ่งที่หลวงพี่ปลาบปลื้มภาคภูมิใจ เพราะหลวงพ่อคือที่สุดของบุคคลที่เราอยากเคารพ ท่านเสียสละทุ่มเททำเพื่อชาวโลกมากมาย แม้อายุมากแล้วท่านก็ยังทำงานอยู่ ทั้งงานหยาบ งานละเอียด

ท่านสร้างวัดใหญ่เพื่อรองรับพระและผู้คนจากทั่วโลก ปัจจัยที่ได้มาก็เอาไปใช้เพื่องานพระศาสนา หลวงพี่ไม่เคยเห็นหลวงพ่ออยากได้นั่นได้นี่เป็นการส่วนตัว กุฏิของท่านเรียบง่ายที่สุด เป็นอาคารไม้ ไม่เห็นมีอะไรพิเศษ มีแต่รูปบวชพระ บวชเณร บวชอุบาสิกาแก้ว เพราะท่านปลื้มที่เห็นคนมาบวช ปลื้มที่ทำให้ผู้คนมากมายได้มาอยู่ในเส้นทางนี้

หลวงพี่เห็นชีวิตความเป็นอยู่ วัตรปฏิบัติ ความคิด และการกระทำทุกอย่างของท่านแล้ว รู้สึกชื่นชม จะหาคนในโลกสักกี่คนที่เป็นแบบนี้ หลวงพ่อเป็นบุคคลที่หลวงพี่เชื่อมั่นว่า ใจของท่านบริสุทธิ์ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ที่ผ่านมาแม้จะมีใครวิพากษ์วิจารณ์ ก็ไม่เห็นท่านเอามาเป็นสาระ และไม่เคยคิดจะทำให้บุคคลเหล่านั้นต้องเจ็บปวด เสียหาย หรือเดือดร้อนใด ๆ เลย ตรงกันข้าม ท่านกลับให้พวกเราแผ่เมตตาให้เขาพ้นทุกข์ ให้เขามีความสุข นี้คือหลวงพ่อของเรา

นอกจากนี้ หลวงพ่อยังเป็นผู้ที่แสดงให้เห็นความยิ่งใหญ่ของธรรมะ ท่านเชื่อมั่นว่าสันติภาพโลกเกิดขึ้นได้ด้วยพระพุทธศาสนา ด้วยวิชชาของพระพุทธเจ้า และท่านพยายามทำสิ่งนี้ให้เกิดขึ้น

ตลอด ๕๐ ปีที่ผ่านมา ท่านตั้งหน้าตั้งตาอบรมศีลธรรมแก่ประชาชนตามคำสอนของพระพุทธเจ้า นำหลักธรรมมาเป็นภาคปฏิบัติให้สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ และนำทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งล้วนผูกอยู่กับพระรัตนตรัยทั้งสิ้น จนกระทั่งผู้คนมากมายประสบความสุข ความสำเร็จ และอยู่ในศีลในธรรม เนื่องจากปฏิบัติตามที่ท่านสอน



หลวงพี่จึงภูมิใจมากที่ได้มาเป็นลูกของท่าน ได้ทำภารกิจที่ท่านมอบหมาย ซึ่งทุกภารกิจไม่ว่าน้อยหรือใหญ่ต่างเชื่อมโยงไปถึงความมั่นคงของพระพุทธศาสนา และมีผลต่อการพลิกผันชีวิตของมวลมนุษยชาติทั้งสิ้น

การบวชไม่ใช่เรื่องง่าย แต่บวชนาน ๆ ยิ่งยากกว่า ทำไมหลวงพี่และพระวัดพระธรรมกายถึงบวชได้นานคะ ?

การบวชเป็นสิ่งที่หลวงพี่และพระหลายรูปที่วัดตัดสินใจขอเดินบนเส้นทางนี้ เพราะเป็นเส้นทางที่ประเสริฐ หากอยู่ทางโลก เราคงหาความสุข ความสำเร็จ ความพึงพอใจในชีวิตได้อีกแบบหนึ่ง แต่ในทางธรรมนั้น ให้ความสุขที่ลึกซึ้งและยั่งยืนกว่า

ทุกคืนก่อนนอน เรามีความสุขที่พบว่า หนึ่งวันที่ผ่านไปมีคุณค่ามาก เพราะเรามีโอกาสทำประโยชน์ให้แก่ตนเอง ครอบครัว สังคม และโลกอย่างเต็มที่



อีกทั้งชีวิตของเราก็เป็นชีวิตที่เรียบง่าย ปราศจากกังวล ไม่ต้องคอยห่วงสมบัติ ไม่ต้องห่วงครอบครัวเล็ก ๆ พ่อแม่ลูก แต่มีความสุขในการเกื้อกูลครอบครัวใหญ่ คือคนทั้งโลก ทั้งวัฏสงสาร ชีวิตแบบนี้เอื้อต่อการพัฒนาศีล สมาธิ ปัญญา เอื้อต่อการไปสู่ความหลุดพ้น ความเป็นอริยะ ตามคำสั่งสอนอันยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

นอกจากนี้การที่เรามีเวลาประพฤติปฏิบัติธรรมมากขึ้น ทำให้เราเกิดปัญญาเห็นคุณค่าของการใช้ชีวิตเช่นนี้ยิ่งขึ้น และค่อย ๆ ดื่มด่ำ ซึมซาบ ในคุณค่าของความเป็นนักบวชมากขึ้น

ดังนั้น ทุกรูป ทุกคน ทั้งที่ยังบวชอยู่และตั้งใจจะบวช จึงต่างมีข้อสรุปที่ตรงกันว่า วิถีของความเป็นพระนี้แหละ ที่ทำให้การเกิดมาเป็นมนุษย์มีคุณค่าสูงสุด และยิ่งอยู่นานเราก็ยิ่งพบ ยิ่งรู้ ยิ่งเข้าใจคุณค่าของความเป็นพระมากขึ้น นี้จึงทำให้พระที่บวชที่วัดพระธรรมกายต่างมุ่งมั่นรักษาวิถีความเป็นพระของท่านไว้ และในที่สุดแล้วหลาย ๆ รูป ก็ตั้งใจที่จะอยู่เป็นพระไปตลอดชีวิต

การเดินบนเส้นทางสายนี้ แม้ไม่สะดวกสบายเหมือนทางโลก แต่ก็สามารถตอบโจทย์การพัฒนาคุณค่าชีวิตและจิตวิญญาณได้ดีที่สุด ดังนั้น พระ ดร. นพ. ปวิทัย วชิรวิชฺโช และเพื่อนสหธรรมิกอีกมากมายจึงไม่คิดจะหันหลังกลับ

Cr. กลุ่มดาวมีน วารสารอยู่ในบุญ สำนักสื่อธรรมะ
ก้าวต่อไปบนเส้นทางที่เลือกเดิน ก้าวต่อไปบนเส้นทางที่เลือกเดิน Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 01:11 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.