สวดมนต์ออกจากใจ ทำอะไรก็สำเร็จ
ความสำเร็จสมปรารถนาจริง ๆ
แล้วอยู่ไม่ไกล อยู่ที่ใจของเรา ในศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ กลางท้องของเรานั่นเอง เพียงนำใจของเราให้ไปเกาะเกี่ยวอยู่ตรงนั้นให้ได้ตลอดเวลาจนถึงระดับที่มีความละเอียด
นุ่มนวล ใส สว่าง ใจเป็นกลาง ๆ ในเส้นทางสายกลาง
ดังธรรมคำสำคัญในบทสวดธัมมจักกัปปวัตนสูตรคือ “มัชฌิมา
ปฏิปทา” ถ้าสวดมนต์ไปแล้วใจอยู่ในกลางได้ตลอดเวลา
เราจะเข้าใจถ้อยคำที่ว่า “ใจเป็นธาตุสำเร็จ” ได้อย่างสมบูรณ์
พลังบุญธรรมจักร มีเงิน มีเวลา
คุณทำได้
คุณสิริกร ตระหนักยศ
เจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับการแปลภาษา /
ล่าม
ตอนนี้ทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ค่ะ เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการแปลภาษาและเป็นล่ามในการประชุมสัมมนา ตอนเริ่มต้นธุรกิจก็ราบเรียบไม่มีปัญหาอะไร ต่อมาเรามาเจอโครงการสวดธรรมจักร ตอนนั้นคนรอบข้างบอกเศรษฐกิจไม่ดี และในอนาคตจะแย่ลงอีก เราจึงลองสวดธรรมจักรดู การสวดของเราในตอนแรกจึงเป็นการสวดเพื่อป้องกันธุรกิจของเราให้ผ่านพ้นไปได้ในภาวะแบบนี้
สวดตอนแรก ๆ กิจการยังเหมือนเดิมคือ ๖ เดือนแรกที่สวดยังไม่เห็นผลว่าดีขึ้นเราจึงลองสังเกตดูว่าเป็นเพราะอะไร ตอนนั้นมีคำสอนเรื่องการสวดธรรมจักรออกมาว่า “ให้สวดแบบปลื้ม แบบมีความสุข สวดแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น” เราก็เลยเอะใจขึ้นมาว่า ที่เรายังไม่ดีขึ้นเพราะตลอด ๖ เดือนที่ผ่านมา เวลาเรามาสวดที่เจดีย์ซึ่งมีเสียงสวดนำอยู่แล้วเราจะสวดไปด้วย ดูโทรศัพท์ไปด้วย ตอบอีเมลลูกค้าไปด้วย ด้วยความที่เรายังไม่สามารถทิ้งงานได้ ซึ่งเราก็คิดว่าไม่เป็นไร เพราะเรามาสวดที่เจดีย์แล้ว เราทำอย่างนี้ตลอดทั้ง ๖ เดือนที่ผ่านมา
ตอนนี้เราจึงมาปรับวิธีใหม่ โดยตัดใจเอาโทรศัพท์ไว้ในรถ เวลาสวดก็ให้เป็นเวลาของการสวดธรรมจักรจริง ๆ คือ ๑-๒ ชั่วโมงจากนี้เราจะทิ้งเรื่องงานไปเลย เวลาสวดก็หลับตา เพราะบางทีมีคนเดินไปเดินมา อาจทำให้เราเสียสมาธิ ขณะสวดก็นึกถึงหลวงปู่ ให้ท่านอยู่กลางท้องของเราหรือคลุมตัวเราอยู่ บางทีก็นึกถึงดวงแก้ว ถ้าวันไหนฟุ้งมากจะลืมตามองเจดีย์ค่ะ ส่วนใหญ่จบแรกยังมีความคิดบ้าง พอเราเริ่มสบายใจ ก็จะหลับตาสวดต่อไปเรื่อย ๆ เสียงสวดจะนำใจเราให้รู้สึกสบายขึ้นและใจจะว่าง ๆ ไม่มีความคิด พอเราสวดได้ประมาณ ๓-๔ จบแล้ว ก็อธิษฐานให้ธุรกิจดีซื้อง่าย ขายคล่อง กำไรงาม ให้ได้ลูกค้าดี ๆ ให้ “งานง่าย เงินดี มีเวลา” เพราะเราอยากมีเวลามาทำบุญได้ด้วย
ปกติถ้ามาที่เจดีย์เราจะสวดประมาณ ๔ จบ รวมกับที่สวดขณะเดินทาง ขณะอยู่ในที่ทำงาน และอยู่ที่บ้าน ก็จะได้วันละประมาณ ๑๐ จบค่ะ
ต่อมา มีคำแนะนำมาอีกว่าให้ไปเวียนประทักษิณด้วย เราก็คิดว่าต้องมีความสำคัญแน่ ๆ พอสวดและอธิษฐานเสร็จแล้ว เราจึงไปเวียนประทักษิณ ในระหว่างเดินก็นึกถึงหลวงปู่ไปด้วย หรือทบทวนบุญไปด้วย ว่าเราทำบุญอะไรมาบ้าง บุญอะไรบ้างที่เกิดขึ้นที่เจดีย์ ก็มีบุญวีสตาร์ อัญเชิญหลวงปู่ หล่อหลวงปู่ ฯลฯ เราก็จะปลื้มค่ะ ตอนนี้เริ่มเข้าใจแล้วว่าสวดแล้วปลื้มเป็นอย่างไร สวดแล้วมีความสุขเป็นอย่างไร
พอเริ่มทำถูกหลักอย่างนี้แล้ว กิจการดีขึ้น ๆ ค่ะ แล้วก็เริ่มมีทีมงานมาช่วย ตอนนี้มีประมาณ ๑๐ กว่าคนแล้วค่ะ โฆษณาอะไรเราก็ไม่มี เป็นลักษณะลูกค้าบอกปากต่อปาก แล้วส่วนใหญ่เวลาเสนอราคาไป เขาก็ตกลงให้เราทำเลย แล้วเมื่อก่อนไม่ค่อยมีเวลามาวัด เดี๋ยวนี้มาได้จริง ๆ อย่างที่เราอธิษฐานเลย คือ “งานง่าย เงินดี มีเวลา”
สำหรับท่านที่สวดมานานแล้วยังไม่เห็นผลอะไร ก็อยากให้ลองกลับไปสังเกตตัวเองดูนะคะ ว่ามีตรงไหนยังไม่ถูกหลักวิชชาบ้าง แล้วปรับเสียให้ถูก จริง ๆ หลักวิชชาก็ไม่ยากค่ะ ทำอย่างไรก็ได้ให้ใจเราอยู่กับเนื้อกับตัว ถ้าเราไม่สามารถทำใจให้อยู่กับเนื้อกับตัวได้ก็ให้นึกถึงหลวงปู่ นึกถึงพระธรรมกาย หรือนึกถึงดวงแก้วไว้กลางท้อง ทำแบบนี้จะช่วยได้เยอะค่ะ ใจเราจะนิ่งได้เร็ว และเราต้องอธิษฐานกำกับด้วย แล้วจะมีความสุขและสมปรารถนาค่ะ
พลังบุญธรรมจักร ชีวิตขาขึ้นรอบใหม่
คุณรัชฎารักษ์ อุเทน
เจ้าของธุรกิจขายจิวเวลรีออนไลน์
ตอนนั้นทำธุรกิจร้านเสื้อผ้า มี ๖ สาขาอยู่ที่จันทบุรี ทำไปได้สักพักก็มีช่องทางไปทำที่เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลภูเก็ต เซ็นทรัลพัทยา แฮปปี้มาก ชีวิตรุ่งเรืองมาก มีเงินใช้สบาย ๆ อยากใช้อะไรก็ใช้ แต่ว่าความรุ่งมักจะมาพร้อมความยุ่ง เลยห่างวัดไปหน่อยหนึ่ง
อยู่มาวันหนึ่ง ร้านค้าที่เซ็นทรัลชิดลมมีวิกฤตเศรษฐกิจจากม็อบเสื้อเหลืองเสื้อแดง เราก็พยายามประคองไว้ เอาเงินตรงโน้นตรงนี้มาโปะ คิดว่าด้วย ๑ สมอง ๒ มือ จะต้องกลับมาดีเหมือนเดิม สุดท้ายเลิกกิจการหมดเลย
ตอนนั้นเราคิดว่า “เสียอะไรก็เสียไปแต่อย่าให้ใจเสีย” ก็เลยเอาตัวเองมาอยู่ที่วัด มาสวดธรรมจักรหน้าพระมหาธรรมกายเจดีย์แล้วก็นั่งสมาธิด้วย คือตอนนั้นไม่ว่าอย่างไรเราจะไม่ให้ใจเราเสีย
พอเรามาที่วัด เราก็กราบพระมหาธรรมกายเจดีย์ แล้วหลับตาคิดว่า “เหนื่อยมาทั้งชีวิตแล้ว ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นเลย จะลองหยุดนิ่ง ๆ แล้วสวดธรรมจักร” พอเราหยุดนิ่ง ๆ แล้วสวดไปด้วย ชีวิตเราเริ่มขาขึ้นเลย คือเราอยากอยู่วัด อยากมีปัจจัยมาหล่อเลี้ยงชีวิตส่วนหนึ่ง คำว่า “อยู่วัด” หมายถึง บ้านอยู่ติดวัดแล้วได้มาสั่งสมบุญที่วัด เราเลยเอารูปจิวเวลรีไปโพสต์ลงบนเฟสบุ๊กเล็ก ๆ น้อย ๆ กะว่าแค่พอเลี้ยงตัวได้ แต่ปรากฏว่าขนาดทำเล่น ๆ ยอดขายจิวเวลรีได้ถึงแสนกว่าบาท เราว่าเป็นผลมาจากการสวดธรรมจักรและการนั่งสมาธิด้วย
เมื่อก่อนตื่นตีสองขับรถไปเอาผ้า ตีห้าถึงกรุงเทพฯ เลือกผ้าเสร็จเที่ยง กลับไปทำสต็อกคนเดียวอีก แล้วเอาผ้ามาแขวนขาย วิ่งทั่วทุกสารทิศเลยค่ะ ทำจิวเวลรีด้วย แต่ยอดธุรกิจยังไม่ดีเท่าการนั่งทำหยุดทำนิ่งสวดธรรมจักรอยู่ที่วัดแล้วโพสต์ขายของในเฟสบุ๊ก แล้วไม่ใช่แค่นั้นนะคะ ยังมีช่องทางมาอีก คือดึงทีมทำออนไลน์มาช่วยกันแบบอัศจรรย์มาก
อยากจะเชิญชวนคนที่ทำธุรกิจนะคะอยากให้มาเอาบุญก่อน โดยการสวดธรรมจักรและนั่งสมาธิค่ะ เพราะว่าการสวดมนต์เป็นเหมือนยาทา ภาวนาเป็นยากิน แล้ว ๒ อย่างนี้เราไม่ต้องลงทุนด้วย ถ้าบุญไม่ถึง ทำอะไรก็ไม่สำเร็จค่ะ
ตอนนี้ ตื่นเช้ามาเราจะสวดธรรมจักรก่อน ๒ จบ หลังจากนั้นก็นั่งสมาธิ ซึ่งเรานั่งได้นาน เพราะเราทายามาแล้ว เวลานั่งจะนิ่งเร็วขึ้น นั่งได้ดีขึ้นและนานขึ้น หลวงพ่อเคยพูดว่า “การสวดมนต์เจริญภาวนาเป็นงานหลักเรื่องอื่นเป็นงานรอง” ท่านพูดมานานแล้ว แต่เราเพิ่งจะมาเข้าใจตอนนี้
บุญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จจริง ๆ ถึงเราไม่มีอะไรเลย แต่ถ้างานหลักเราดี คือ การสวดมนต์เจริญภาวนาเราดี บุญจะไปดึงทีมงานดี ๆ และดึงทุนมาให้เราค่ะ ดิฉันเชื่อมั่นในบุญมาก เศรษฐกิจแบบนี้เราต้องหันมาดูแลใจเราและทำงานหลักของเราให้ดีที่สุด ด้วยการสวดธรรมจักร นั่งสมาธิ เดี๋ยวสิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้นค่ะ
สูตรสำเร็จในการดำเนินชีวิตตามหลักธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ..ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ..นิ่ง ๆ ไม่ซัดส่าย ..สบาย ๆ ไม่ตึงเครียด แต่ต้องต่อเนื่องและปฏิบัติจริง สวดมนต์ก็สวดอย่างสบาย ๆ วางใจสบาย ๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ สวดไปแตะใจเบา ๆ ไปเรื่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ แล้วเราจะได้พบเจอสิ่งที่จะนำความสุขความสำเร็จมาให้แก่ชีวิตอย่างลึกล้ำและอัศจรรย์ !
Cr. พระปลัดบริบูรณ์ ธมฺมวิชฺโช
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๘๐ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
สวดมนต์ออกจากใจ ทำอะไรก็สำเร็จ
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
08:10
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: