ข้อควรระวังในการทำงานเป็นทีมคืออะไร ?
หลวงพ่อตอบปัญหา
คำถาม : ข้อควรระวังในการทำงานเป็นทีมคืออะไร ?
คำถาม : ข้อควรระวังในการทำงานเป็นทีมคืออะไร ?
หลวงพ่อทัตตชีโว : การที่องค์กรใด ๆ ในโลกนี้จะทำงานให้ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ขององค์กรที่ตั้งไว้
ต่างต้องอาศัยการทำงานร่วมกันเป็นทีม องค์กรที่สมาชิกในทีมทำงานร่วมกันได้ดี
ดำเนินงานอย่างสร้างสรรค์ สมาชิกในทีมมีขวัญและกำลังใจดี
องค์กรนั้นไม่ว่าจะเป็นองค์กรเพื่อการศึกษา เพื่อเยาวชน เพื่อศาสนา เพื่อสังคม
เพื่อเศรษฐกิจหรือด้านใด ๆ ก็ตาม ก็จะมีความเจริญและดำรงอยู่ได้นาน
ประเทศใดที่มีองค์กรเหล่านี้มาก
ก็จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนทำความเจริญให้แก่ประเทศชาติบ้านเมืองได้มาก
การทำงานร่วมกันเป็นทีมทำให้เกิดศักยภาพ เพราะเป็นการรวมกำลังคน
กำลังความคิดสติปัญญา และทรัพยากรต่าง ๆ มาทำงานร่วมกัน
ภายใต้ระบบการทำงานที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ การทำงานเป็นทีมมีหัวใจสำคัญ คือ
การประชุมปรึกษาหารือ ช่วยกันคิด และผลักดันสิ่งที่คิดนั้นออกไปสู่การทำงานจริง
เมื่อปฏิบัติงานไปแล้ว ก็ร่วมกันประเมินผลและปรับปรุงแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการทำงาน
เพื่อให้เกิดการแก้ไขขจัดปัญหาอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นในการทำงานครั้งต่อ ๆ ไป
การประชุมปรึกษาหารือกันจึงต้องการสมาชิกในทีมที่มีจิตสำนึกและความรู้สึกเป็นเจ้าของทีม
ใส่ใจที่จะติดตามพัฒนางานและกล้าแสดงความคิดเห็นต่อการทำงานของทีม
มีใจกว้างรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เมื่อมีการขัดแย้งในเรื่องความคิดเห็น
ก็รับมือได้ในทางที่สร้างสรรค์และพยุงทีมให้ดำเนินงานต่อไปได้
ยังมีสิ่งสำคัญที่เป็นข้อควรระวังในการทำงานเป็นทีม
ซึ่งมีผลต่อความก้าวหน้าของทีมอย่างมาก
หรือในทางตรงกันข้ามก็อาจทำให้ประสิทธิภาพของทีมหยุดชะงักได้
นั่นคือเรื่องคำพูดของเพื่อนร่วมทีมเกี่ยวกับการติหรือตำหนิผู้อื่น
ขอฝากให้คิดกันสักนิดถึงความแตกต่างระหว่าง “ติเพื่อก่อ” กับ “ติเตียน”
คำเหล่านี้ล้วนเป็นสำนวนไทยที่เราได้ยินกันมานานแล้ว
คำว่า “ติ”
หรือตำหนิ ใช้เมื่อเป็นการว่ากล่าวชี้ข้อบกพร่องของสมาชิกในทีม
เมื่อเห็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นแล้วต้องกล้าติ ชี้บอกข้อบกพร่อง
เพื่อให้มีการแก้ไขปรับปรุง แต่การตินี้จำเป็นต้องศึกษาให้ดี
ถ้าไม่ศึกษาและทำให้ถูกต้องแล้ว จะกลายเป็น “ติเตียน” ซึ่งมีผลร้ายเกิดขึ้น
ผลร้ายลักษณะที่ ๑ คือ จะทำให้มีเรื่องให้ติหรือวิจารณ์อยู่ร่ำไป ติไม่เป็น
ก็จะติเสียจนเตียนคือติจนเขาไม่เหลือความดีให้นึกถึง
ติจนกระทั่งแม้เขาเคยทำคุณความดีไว้ไม่น้อย
แต่เวลาติจะยกเอาแต่ความผิดพลาดขึ้นมาติ ความดีไม่ยกขึ้นมา
นี้คืออันตรายจากการติไม่เป็น ร้ายยิ่งกว่านั้นคือติดนิสัยช่างติ
ติจนเลยเถิดไปถึงผู้มีพระคุณ ครูบาอาจารย์ คุณพ่อ คุณแม่ พระอุปัชฌาย์
ติจนกระทั่งในโลกนี้ไม่มีใครดี นอกจากตัวคนติ
ผลร้ายลักษณะที่ ๒ คือ ติแล้วไม่บอกทางแก้ไขให้ด้วย นี้เป็นการติเพื่อทำลาย
ส่วนการติเพื่อสร้างสรรค์นั้นมีสำนวนเรียกว่า
“ติเพื่อก่อ” ติเพื่อก่อนั้นมีวิธีการติ ดังนี้
๑.
ชมก่อนติ ต้องยอมรับในความดีที่คนอื่นเขาทำ ที่คนอื่นเขามีก่อน
เพื่อให้เกิดการยอมรับและไว้ใจต่อกัน ว่าต่างฝ่ายต่างมีความปรารถนาดีต่อกันจริง ๆ
๒. ติโดยแสดงข้อที่ผิดพลาดหรือข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข
โดยมีเจตนาจะช่วยแก้ไข และเสนอวิธีแก้ไขในเรื่องนั้น ๆ
ในความคิดเห็นของตนว่าควรจะทำอย่างไร
๓.
ในการเสนอวิธีการแก้ไขข้อบกพร่อง ความผิดพลาดต่าง ๆ นั้น
ก็เป็นไปได้ที่จะมีคนอื่นเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ผู้ที่ติก่อนควรเปิดใจยอมรับให้ผู้อื่นติตนเองด้วย
แม้ว่าเรื่องที่ตินั้นยังเป็นเพียงข้อเสนอ ยังไม่ได้ลงมือปฏิบัติก็ตาม
๔.
รับฟังข้อเสนอแนะของผู้ที่ติคนต่อไป หากข้อเสนอแนะใหม่เป็นสิ่งที่ดี
ก็เปิดใจยอมรับแล้วมาช่วยกันลงมือทำให้เป็นจริงขึ้นมา
หากองค์กรใดก็ตามมีทีมงานที่ร่วมกันคิดเพื่อสร้างสรรค์
และเปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกันเช่นนี้
การติก็จะเป็นเครื่องมือที่นำมาใช้พัฒนาปรับปรุงการทำงานเป็นทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
องค์กรนั้นก็จะมีแต่ความมั่นคงและเจริญรุดหน้า สมาชิกในทีมงานก็มีขวัญและกำลังใจที่ดี
แต่ละคนจะมีความกล้าที่จะแนะนำซึ่งกันและกัน
ทำให้แต่ละคนต่างมีความเจริญก้าวหน้าและเป็นทีมที่น่าสนใจ
มีแรงดึงดูดให้สมาชิกใหม่อยากมาร่วมทีมมากขึ้น การดำเนินการใด ๆ ของทีมนั้น
ก็จะประสบกับความสำเร็จได้โดยง่าย ยิ่งเป็นองค์กรเพื่อสาธารณกุศลก็จะยิ่งเป็นคุณแก่ประเทศชาติบ้านเมืองยิ่งขึ้น
Cr. หลวงพ่อทัตตชีโว
Cr. หลวงพ่อทัตตชีโว
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๘๙ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑
ข้อควรระวังในการทำงานเป็นทีมคืออะไร ?
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
05:59
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: