ผู้พิพากษาสั่งลงโทษประหารชีวิต ผิดศีลข้อ ๑ หรือไม่
ผู้พิพากษาสั่งลงโทษประหารชีวิต
ผิดศีลข้อ ๑ หรือไม่
คำถาม
กรณีที่ผู้พิพากษาสั่งลงโทษผู้ต้องหาถึงขั้นตัดสินประหารชีวิต กรณีนี้ผู้พิพากษาไม่ได้ลงมือประหารชีวิตเอง
จะผิดศีลข้อที่ ๑ หรือเปล่า?
คำตอบ
การลงโทษคนตามกฎหมายเป็นเรื่องของกฎหมายบ้านเมือง ต้องทำความเข้าใจอีกนิดหนึ่งว่ากฎหมายก็ยังมีกฎหมายแม่และกฎหมายลูก กฎหมายลูกก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายแม่ ถ้ากฎหมายลูกว่าผิด
แต่กฎหมายแม่ว่าไม่ผิด ก็เป็นอันว่าไม่ผิด
แต่กฎหมายลูกและกฎหมายแม่เป็นเรื่องที่มนุษย์ตั้งขึ้นมา ส่วนที่ว่าผิดศีลหรือไม่ผิดศีลเป็นกฎแห่งกรรม
อย่าเอามาปนกัน ถ้าปนกันเมื่อไร พลาดเมื่อนั้น
กฎหมายเป็นสิ่งที่มนุษย์กำหนดขึ้นมาตามกาลเทศะ บางประเภทตัดสินเรื่องเดียวกัน
อาจจะเหมือนกันหรือไม่เหมือนกันก็ได้ แต่ในเรื่องของกฎแห่งกรรมแล้ว ไม่ว่าการตัดสินฆ่าหรือการฆ่านั้น
ๆ จะเกิดตรงไหนในโลกก็ตาม ผิดทั้งนั้น เพราะว่ากฎแห่งกรรมเป็นกฎของจักรวาล
ไม่ใช่กฎของบ้านเมืองใดบ้านเมืองหนึ่ง
ดวงอาทิตย์ที่คนในประเทศจีน ประเทศไทย
ประเทศฝรั่งเห็น เป็นดวงเดียวกัน ดวงอาทิตย์ที่คนต่างศาสนาเห็น ก็ดวงเดียวกัน
เพราะฉะนั้นความรู้สึกนึกคิดหรือความร้อนแรงก็อยู่ในระดับเดียวกัน ไม่เปลี่ยน
ขณะนี้เมื่อเราพูดถึงแง่กฎหมายบ้านเมืองแล้ว ดูเหมือนว่าผู้พิพากษาท่านไม่ผิด
เพราะกฎหมายอนุญาตท่าน แต่อย่างไรก็เข้าข่ายฆ่าสัตว์ตัดชีวิตตามกฎแห่งกรรม กฎเกณฑ์ในเรื่องของการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตในศีลข้อที่
๑. ว่าอย่างไร
๑. สัตว์นั้นมีชีวิต ๒.
ผู้ฆ่ารู้ด้วยว่ามีชีวิต ๓. มีจิตคิดจะฆ่า ๔. ลงมือฆ่า ๕. สัตว์นั้นตายสมใจนึก
เมื่อไรก็ตามที่มีการสั่งฆ่ากันขึ้น
แล้วก็ฆ่าเสร็จสรรพแล้ว ใครมีส่วนไหนใน ๕ ขั้นตอนนี้ ก็รับเอาไป ชัดเจนดี
แต่บางอย่างก็ผ่อนหนักเป็นเบา อย่างกรณีที่เราไม่ได้ยินดีกับการฆ่านั้น ๆ
และคนที่ถูกสั่งฆ่าก็รู้ตัวว่าตนทำผิดจริง ยอมรับด้วยว่าตนทำผิด ยอมรับว่าตัวเองเลว
แล้วก็ไม่ได้ผูกพยาบาทผู้พิพากษา อย่างนี้ผิดก็ผิด แต่เบาหน่อย
แต่ถ้าหากคนที่ถูกสั่งฆ่าคิดว่าตัวเองไม่ผิด ทั้ง ๆ ที่ความจริงเขาผิด
แล้วก็จองเวรด้วย ถ้าอย่างนี้คงจะได้ตามล้างตามผลาญกันอีกหลายชาติ และในกรณีที่ไปตัดสินผิดคน
เขาไม่ได้ทำผิด แต่มีหลักฐานเท็จไปมัดเขา เลยต้องตัดสินให้เขากลายเป็นคนผิด
ตรงนี้จะยิ่งหนักเข้าไปอีก
ก็ขอฝากเอาไว้เป็นข้อคิดว่า ตำรวจก็ตาม
ทหารก็ตาม ท่านผู้พิพากษาก็ตาม อย่าเอากฎหมาย กับกฎแห่งกรรมไปปนกัน
ถ้าเมื่อไรพูดถึงกฎแห่งกรรม ผิดก็คือผิด
ส่วนกฎหมายเป็นเรื่องที่คนช่วยกันกำหนดขึ้นมา เพราะฉะนั้นก็ขอให้ระมัดระวังเรื่องนี้ให้ดี
แล้วอาตมาก็อยากจะแถมไว้ด้วยว่า ไม่ว่าตำรวจ ไม่ว่าทหาร ไม่ว่าท่านผู้พิพากษา
ที่ท่านมารับภาระตรงนี้ มันเป็นปลายเหตุ เขาทำกรรมกันมาเรียบร้อย
เขาก่อเวรกันมาเรียบร้อย เขาทำผิดพลาดกันมาแล้ว
ท่านผู้พิพากษาที่นั่งอยู่ในบัลลังก์มาสั่งให้ฆ่าเขาอีกทีหนึ่ง
ตรงนี้กฎหมายจะว่าอย่างไร อาตมาไม่เกี่ยว
แต่อยากจะพูดว่าขณะนี้เราทำกันที่ปลายเหตุ
อยากให้ทั้งทหาร ทั้งตำรวจ ทั้งท่านผู้พิพากษา
มาช่วยกันคิดอย่างนี้ดีกว่า ว่าทำอย่างไรจึงจะเอาธรรมะ
เอาพระพุทธศาสนาเข้าไปอยู่ในจิตใจคน ดูเผิน ๆ ว่าไม่ใช่หน้าที่ของท่าน แท้จริงแล้วเป็นหน้าที่ของคนไทยทั้งชาตินั่นแหละ
ไปช่วยกันคิด ช่วยกันวางมาตรการตัดไฟต้นลมตรงนั้น
ถ้าถึงคราวจะต้องฆ่าต้องฟันกันก็น้อยหน่อย หรือบางทีอาจจะผ่อนหนักเป็นเบาได้
แทนที่จะต้องฆ่าก็เอาแค่จำคุกตลอดชีวิตเถิด เพราะอะไร ก็เพราะว่าใคร ๆ
ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะฆ่าใคร เพราะเราไม่ได้ให้ชีวิตเขาขึ้นมา
ในเมื่อเราไม่ได้ให้ชีวิตเขามา แล้วเราไปฆ่าเขา กรณีไหนมันก็บาปทั้งนั้นแหละ
จองเวรกันไม่รู้จบ
ยิ่งกว่านั้น ฆ่าคนไปแล้ว เบอร์ ๑ ตายไปแล้ว
เดี๋ยวเบอร์ ๒ เบอร์ ๓ เบอร์ ๔ ก็ตามมา
เพราะยังไม่ได้แก้ไขนิสัยสันดานของรุ่นหลังให้ดี มันก็ฆ่ากันไม่รู้จบอยู่นั่นแหละ
มาช่วยกันนะ
อยากจะฝากอีกนิดหนึ่ง คนที่บาปมาก ๆ
ในเมื่อเกิดมีความจำเป็นต้องตัดสินประหารชีวิตขึ้นมา คือผู้ที่ออกกฎหมาย
ไม่ว่าผู้ที่ออกกฎหมายชุดนั้น ๆ คนนั้น ๆ ตายไปนานเท่าไรแล้วก็ตาม
เมื่อมีการสั่งประหารตามกฎหมายที่เขาออกเอาไว้นี้ บาปก็เพิ่มขึ้น
แม้ตัวเองตกนรกอยู่แล้ว ก็ตกนรกหนักเข้าไปอีก เพราะฉะนั้น
ใครจะออกกฎหมายเกี่ยวกับการฆ่ากันละก็ คิดให้มาก ๆ
Cr. หลวงพ่อตอบปัญหา
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๐๒ เดือนเมษายน
พ.ศ. ๒๕๕๔
ผู้พิพากษาสั่งลงโทษประหารชีวิต ผิดศีลข้อ ๑ หรือไม่
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
00:46
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: