นั่งหลับตา หยุดใจ ชีวิตใหม่ พลันบังเกิด




เราทุกคนกำลังพาชีวิตเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางเรื่อย ๆ และจุดหมายในชีวิตของแต่ละคนก็แตกต่างกัน ซึ่งบางทีเราเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่า จุดหมายของชีวิตที่เรากำลังเดินทางไปอยู่นั้นมีจริงหรือไม่ หรือจะพาชีวิตไปสู่ตอนจบอย่างไร บางทีการที่เราเปิดโอกาสให้ตัวเองได้หยุดเดินสักพัก วางจุดหมายทุกจุดหมายของชีวิตไว้ชั่วคราว แล้วมานั่งหยุดใจ..คำตอบใหม่ ๆ และชีวิตใหม่อาจพลันบังเกิด เหมือนประสบการณ์ชีวิตที่เกิดจากการปฏิบัติธรรมของพระภิกษุธรรมทายาทเหล่านี้

เห็นดวงใส ๆ หัวใจพองโต


พระธรรมทายาท ประเทือง  ธิตินฺโท
อายุ ๕๖ ปี จากศูนย์อบรมวัดโป่งกระสัง
อ.กุยบุรี  จ.ประจวบคีรีขีนธ์

"อาตมาได้มาบวชในโครงการของที่วัด ๓ รุ่นแล้ว ย้อนไป..ตอนก่อนบวช อาตมามีชีวิตอยู่บน ความเสี่ยง เพราะตลอดระยะเวลา ๕๐ กว่าปี ไม่เคยรักษาศีล ๕ เลย เพราะมีอาชีพดักกุ้งดักปลาเอามาขาย ทำเงินได้ประมาณวันละ ๔-๕ พันบาท ส่วนเรื่องสุรายาเมาก็ไม่ต้องพูดถึง ทั้งสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ดื่มแล้วก็ไม่ได้เมาแบบธรรมดา แต่เมาเละเลย พอมาบวชแล้วได้ฟังคำสอนของหลวงพ่อ ทำให้ได้ข้อคิดหลายอย่าง เริ่มเข้าใจเรื่องบุญ-บาป จึงคิดว่าถ้าเรายังสูบบุหรี่อยู่ ก็เหมือนเรากำลังเผาตัวเองแล้ว ถ้าเรายังดื่มเหล้าอยู่ ก็เท่ากับเรากำลังทำลายความเป็นคนของตัวเอง ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ได้สอนให้เราทำร้ายตัวเองแบบนี้ แต่ท่านบอกว่าร่างกายของเรามีไว้สร้างความดี อาตมาก็เลยหักดิบทุกอย่าง เลิกดื่มเหล้า เลิกสูบบุหรี่ เลิกดักกุ้งดักปลา หันมาทำอาชีพใหม่

"ตั้งแต่บวชในครั้งแรก อาตมาก็นั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ และจะนึกถึงศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เป็นประจำ จนเมื่อประมาณ ๒ เดือนที่แล้ว ก่อนที่จะมาบวชในรุ่นนี้ ได้ขึ้นไปปฏิบัติธรรมที่สวนพนาวัฒน์ จ.เชียงใหม่ มีอยู่วันหนึ่ง ขณะกำลังนั่งสมาธิ อาตมารู้สึกเมื่อยมาก ยิ่งนั่งก็ยิ่งเมื่อย และปวดไปหมดเลย มันปวดร้าวไปทั้งตัว ปวดมากจนเกือบจะเลิกนั่ง แต่มาคิดว่าเราต้องอดทน จึงภาวนา "สัมมาอะระหัง" ไปเรื่อย ๆ สักพักใหญ่ ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเบา ๆ เหมือนจะลอยได้ ความปวดก็หายไปหมด พอทำใจนิ่ง ๆ ก็รู้สึกว่าตัวกำลังลอยสูงขึ้น ๆ แล้วอยู่ ๆ ก็วูบไป เหมือนร่วงลงมาจากที่สูง ใจหายวาบ แต่ยังไม่ทันจะคิดอะไร ก็เห็นดวงแก้วกลม ๆ มาอยู่ในท้อง ดวงแก้วที่เห็นมีขนาดเท่าฟองไข่ไก่ แป๊บเดียว ก็มีดวงแบบเดียวกันซ้อนขึ้นมาเป็นชั้น ๆ เหลื่อม ๆ กัน นับได้ ๓ ชั้น ตอนนั้นดีใจ ปลื้มใจมาก อยากบอกทุกคนเลยว่า ขอแค่เราหยุดใจให้ถูกที่ เราก็จะได้พบกับสิ่งที่พิเศษที่สุดเลย ตั้งแต่นั้นมา อาตมานั่งสมาธิได้สบาย ๆ ไม่ปวดไม่เมื่อยอีกเลย และดวงแก้วก็จะมาให้เห็นบ้าง ไม่เห็นบ้าง จนมาเข้าโครงการในครั้งนี้ ในวันแรกก็ได้นั่งสมาธิอย่างเต็มที่ พอวางใจนิ่ง ๆ ภาวนา "สัมมาอะระหัง" ไปประมาณ ๓๐ นาที ก็รู้สึกว่า ตัวเบา ๆ เหมือนจะลอยได้ พอกำลังเพลิน ๆ อยู่ ๆ ก็วูบลงไปเหมือนร่วงลงมาจากที่สูง แล้วก็เห็นดวงแก้วแบบเดิม มาเป็นดวงกลม ๆ ซ้อนกัน ๓ ดวง เป็นชั้น ๆ

"ตอนนี้นั่งหลับตาไม่นาน ใจจะนิ่งมาก ไม่คิดอะไร พอนิ่งแล้วดวงแก้วก็ปรากฏขึ้น แล้วตัวก็สว่าง โล่งไปหมด ในวันบรรพชา อาตมานึกถึงศูนย์กลางกายได้ตลอดทั้งวัน และตั้งใจบวชด้วยใจที่ใสสะอาด เพื่อให้โยมพ่อโยมแม่ได้บุญเต็มที่ ซึ่งไม่ว่าจะบวชสักกี่ครั้ง อาตมาก็จะปลื้มใจ ดีใจทุกครั้ง ในภาคเย็น ก่อนที่จะมีการถ่ายภาพประวัติศาสตร์ที่ลานธรรมมหาธรรมกายเจดีย์ อาตมาอยากให้ภาพที่จะได้ถ่าย ร่วมกับหลวงพ่อออกมาดีที่สุด จึงนั่งสมาธิทำใจใส ๆ ก่อน รู้สึกว่าใจนิ่งเป็นพิเศษ ไม่มีห่วงอะไร หลับตา แป๊บเดียวดวงแก้วก็มาเลย แล้วตอนนั้นลมพัดแรงมาก แต่ไม่รู้สึกหนาว ร่างกายโปร่ง ๆ เบา ๆ มีแต่ความสบาย เหมือนมีอุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ในตัว พอหลวงพ่อมาถึง ก็ร่วมถ่ายภาพกับหลวงพ่อไปพร้อม ๆ กับดวงแก้วใส ๆ ในท้อง

"ในขณะประกอบพิธีขออุปสมบท ดวงแก้วใส ๆ ก็ยังอยู่ในท้อง อาตมาปีติใจมาก เป็นการบวช ครั้งแรกที่รู้สึกถึงความสมบูรณ์ เต็มอิ่ม ชุ่มชื่นในหัวใจ อาตมาอยากบอกว่าเป็นบุญเหลือเกินที่ได้มาพบหลวงพ่อ เพราะจะหาพระที่ประเสริฐอย่างหลวงพ่อนั้นไม่มีอีกแล้ว อาตมาจะขอถวายชีวิตช่วยงานในทุก ๆ โครงการของหลวงพ่ออย่างเต็มที่ แล้วโครงการหน้า รุ่นที่ ๔ (รุ่นเข้าพรรษา) อาตมาก็จะมาบวชอีกอย่างแน่นอน เพราะเกิดเป็นลูกผู้ชายต้องบวชให้ได้อย่างน้อย ๑ พรรษา"

เห็นพระใส ๆ จิตใจอ่อนโยน


พระธรรมทายาท สุบัน  ฉนฺทธมฺโม
อายุ ๕๓ ปี ศูนย์อบรมวัดโคกจ้าเหล่า
เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร

"ก่อนบวช อาตมามีอาชีพเป็นผู้รับเหมาอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งงานก็ดี เงินก็ดี ชีวิตไม่มีปัญหาอะไร แต่เป็นคนที่มีนิสัยไม่ดีอยู่อย่างหนึ่ง คือ เป็นคนจริงจังมาก ทำอะไรก็อยากจะทำให้ดี ๆ แต่ถ้าลูกน้องทำงานไม่ดี ก็จะหงุดหงิด โมโห พอเป็นบ่อย ๆ ก็ชักจะติดเป็นนิสัย เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะเป็นลูกน้องหรือคนที่บ้าน ถ้าทำอะไรผิดหูผิดตา ก็จะโดนแรงเหวี่ยงทางอารมณ์เข้าไปอย่างจัง แบบตั้งตัวไม่ทัน ยิ่งกว่าสึนามิ วันหนึ่งพี่สาวแท้ ๆ ของอาตมามาหาที่บ้าน เขาบอกว่าเพิ่งไปบวชเป็นอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนมา พอออกจากโครงการปุ๊บก็มุ่งหน้ามาหาอาตมาเลย บอกว่า "น้อง พี่อยากได้บุญบวช แต่พี่ไม่มีลูกชาย น้องบวชให้พี่หน่อยนะ" พอพูดจบอาตมาก็ตอบไปทันที "ผมจะบวชได้ยังไง งานผมก็มี แล้วนี่จะต้องไปจ่ายเงินลูกน้อง" แต่พี่สาวก็พูดว่า "บวชเถอะ ๆ ยังไง ๆ ก็ต้องบวชให้พี่นะ" อาตมาเลยหันไปถามเทพธิดาข้างกายว่า "จะให้พี่บวชดีมั้ย" เธอก็บอกว่า "บวชสิ ทางนี้ไม่มีอะไรต้องห่วง พี่จะบวชยาว ๆ ก็ได้นะ" แถมน้องชายก็ยังอาสาว่าจะดูแลเรื่องงานให้อีก ..เพราะทุกคนอยากเห็นอาตมาอารมณ์ดีบ้าง อาตมาก็เลยได้มาบวชแบบไม่คาดคิด ที่จริงศูนย์อบรมใกล้ ๆ บ้านอาตมาที่ขอนแก่นก็มี แต่คิดว่าถ้าบวชศูนย์ใกล้บ้าน เดี๋ยวจะอดห่วงเรื่องงานไม่ได้ กลัวจะไม่ได้นั่งสมาธิ จึงมาบวชที่กรุงเทพฯ

"อาตมาไม่เคยฝึกอะไรอย่างนี้มาก่อน ตอนแรกนั่งสมาธิได้ไม่เกิน ๒ นาที ก็จะเจ็บ จะปวดไปหมด พอหัดนั่งท่าเทพบุตรก็เหมือนนิ้วเท้าจะฉีกออกจากกัน ทรมานมาก ตอนแรกปรับตัวไม่ได้ เป็นไข้เลย แล้วยังท้องเสียด้วย แต่ก็สู้ ท่อง สัมมาอะระหัง ฝึกนั่งสมาธิตามเวลาเป๊ะ ๆ นั่งไปก็เห็นแต่ความมืดอย่างเดียว จนวันที่ ๕ ของการอบรม ก็เริ่มจะมีแวว  วันนั้นอาตมาอธิษฐานถึงหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยายอาจารย์ฯ ว่า "ถ้าผมมีวาสนาจะได้บวช ก็ขอให้ผมมีสติ นั่งสมาธิได้นาน ๆ ขอให้ผมรู้แจ้งเข้าถึงพระพุทธศาสนาที่แท้จริง ผมอยากเห็นองค์พระใส ๆ ขอให้ท่านทั้ง ๓ ช่วยผมหน่อยเถอะครับ" แล้วก็ท่อง สัมมาอะระหัง ไปเรื่อย ๆ ไม่รู้นานแค่ไหน อยู่ ๆ ก็ลืมท่องไปเลย เห็นพระพุทธรูปแก้วใสหมุนรอบตัวเองอยู่บนศีรษะ พอส่องลงไปตามท่ออาหาร ก็เห็นองค์พระมาหมุนอยู่ในท้อง ตอนนั้นในท้องไม่มีไส้ ไม่มีตับ ไม่มีไต ไม่มีอะไรเลย พยายามบอกกับท่านในใจว่าให้ท่านหยุดหมุน ท่านก็ไม่ยอมหยุด

"นั่งสมาธิไปอีก ๒ วัน องค์พระก็ยังหมุนอยู่ พอมองไปตรงหน้าก็เห็นคุณยายอาจารย์ฯ เลยขอให้ ท่านช่วยนิมนต์ให้พระแก้วใสในท้องอาตมาอยู่นิ่ง ๆ พอภาพคุณยายหายไป จิตก็นิ่งไปเลย แล้วองค์พระก็นิ่งด้วย ตอนนั้นจิตมันสงบมาก ใจมันว่างเปล่า ในท้องก็วูบ ๆ วาบ ๆ ตัวเบาไปหมด อาตมาเห็นองค์พระชัดมาก ท่านมีหน้าตักกว้างประมาณ ๙ นิ้ว มีสีแบบน้ำทะเลใส ๆ หน้าตาของท่านเหมือนกับภาพใน DMC เปี๊ยบเลย ตอนนั้นดีใจมาก มีความสุขมาก เป็นความสุขในกลางใจ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ไม่เคยคิดว่าคนใจร้อนอย่างเรา จะมีจิตใจที่สงบนิ่งได้ขนาดนี้ อาตมากลายเป็นคนอ่อนโยนไปเลย

"องค์พระที่อาตมาเห็น ท่านนั่งสมาธิสง่างามมาก อาตมาก็เลยนั่งสมาธิเลียนแบบท่าทางของท่าน พอผ่านไป ๓ วัน ในขณะที่กำลังนั่งดูองค์พระไปตามปกติ อยู่ ๆ ก็มีองค์พระแบบเดียวกันผุดขึ้นมา จากตรงกลางท้อง ขยายตัวใหญ่ขึ้น ๆ จนมาหุ้มตัวไว้ อาตมาก็งง ๆ ไม่รู้ว่าอาตมาเข้าไปนั่งในตัวท่านได้อย่างไร แล้วจะออกมาได้อย่างไร แต่สักพักองค์พระ ที่หุ้มตัวไว้ก็หายไป เหลือแต่องค์เล็ก ๆ ใส ๆ ในกลางท้อง ตอนประกอบพิธีบรรพชา ขณะที่พระอุปัชฌาย์กำลังคล้องอังสะให้..องค์พระก็ยังอยู่ พอไปอุปสมบทที่ศูนย์อบรม ..องค์พระก็ยังอยู่ ท่านอยู่กับเราตลอดเวลา ทำให้รู้สึกว่าการบวชนี้มีคุณค่ามาก แล้วตอนนี้องค์พระก็ใสขึ้น มีประกายเลื่อม ๆ ยิบ ๆ ยับ ๆ สวยงามมาก" 

ปีติสุดหัวใจ.. เมื่อพบความใสสว่างในกลางกาย


พระธรรมทายาท ปัญญา  ปิยวณฺโณ
อายุ ๕๙ ปี ศูนย์อบรมวัดท่าเกวียน
อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว

"ก่อนมาบวชอาตมาทำงานเป็นผู้อำนวยการ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสระแก้ว เข้าวัดพระธรรมกายตั้งแต่ปี ๒๕๔๐ โดยมีเทพธิดาข้างกายเป็นกัลยาณมิตร แต่ตอนแรกที่เธอชวนให้ไปทำบุญที่วัด อาตมาเซย์โน (Say No) อย่างเดียว บอกตามตรงว่า ตอนนั้นกระแสข่าวของวัดทั้งลบทั้งแรง เลยไม่อยากไปวัด

"แล้ววันหนึ่งเธอก็โทรศัพท์มาบอกว่า "ตอนนี้อยู่ที่วัดพระธรรมกาย ช่วยมารับกลับบ้านหน่อย" อาตมารู้สึกขัดใจมาก รู้สึกโกรธถึงขนาดคิดในใจว่า "ให้เราขับรถไปตายซะดีกว่า จะได้ไม่ต้องไปวัดที่เราไม่ชอบ" แต่พอไปถึงวัด ..อึ้งเลย โอ้โฮ วัดอะไรใหญ่โตขนาดนี้ แล้วจะหากันเจอได้อย่างไร ในขณะที่กำลังยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ที่หน้าสภาธรรมกายสากล (ตอนนั้นยังสร้างไม่เสร็จ) ก็มีกัลยาณมิตรคนหนึ่งเดินมาถามว่า "จะมาหาใครหรือคะ" คุยกันไม่นานเธอก็ควักโทรศัพท์มือถือให้ยืมโทรทันที แล้วก็มีเด็กตัวเล็ก ๆ มาเก็บรองเท้าใส่ถุงให้ ในวินาทีนั้น อาตมาอึ้ง งง ทำไม..??..คนวัดพระธรรมกายถึงดีขนาดนี้ จากความประทับใจเล็ก ๆ ในวันนั้น ได้นำมาซึ่งความศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ ทัศนคติเปลี่ยนไป เริ่มศึกษาความเป็นมาของวัด ไปสวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ ทำบุญทุกบุญกับหลวงพ่อไม่ตกบุญเลย และได้สร้างพระธรรมกายประจำตัวให้กับทุกคนในครอบครัวด้วย ซึ่งพอได้มาเห็นมหาธรรมกายเจดีย์ครั้งใด ก็จะรู้สึกชื่นใจทุกครั้ง

"เมื่อมาเข้าโครงการแล้ว อาตมาก็ตั้งใจฝึกฝนตนเองทุกอย่าง เป็นคนว่าง่าย แม้จะนั่งขัดสมาธิไม่ถนัด เนื่องจากเคยผ่าตัดหัวเข่าข้างซ้าย ทำให้พับขาได้ไม่สุด แต่ก็นั่งทุกรอบไม่เคยขาด จนผ่านไปได้ ๕ วัน หัวเข่าก็เริ่มบวมและปวดมาก แต่ก็ไม่ท้อ ทนนั่ง และได้ตั้งจิตอธิษฐานถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า "ขอให้พระพุทธองค์ทรงประทานธรรมะแม้เพียงเศษธุลีให้แก่ข้าพเจ้า เพื่อการเดินทางในวัฏสงสารที่สั้นลงด้วยเถิด" แล้วก็นั่งสมาธิตามเสียงของหลวงพ่อไปเรื่อย ๆ ตอนนั้นหลวงพ่อกำลังสอนให้นึกถึงฐานทั้ง ๗ อาตมาก็นึกตาม เอาใจจดจ่ออยู่กับฐานต่าง ๆ ไปตามลำดับ จนถึงฐานที่ ๗ ใจก็นิ่งมาก รู้สึกว่าตัวหายไปเลย แป๊บเดียวก็เห็นองค์พระเป็นสีขาว นวล ๆ เหมือนหลอดนีออน เข้ามาอยู่ในกลางท้อง เห็นท่านชัดมาก บนเศียรท่านมีดอกบัวตูม มีขมวดผมเป็นเกลียว จุดที่สูงที่สุดของท่านอยู่เกือบถึงยอดอกของอาตมา เห็นแขนท่าน ตัวท่าน แต่มองไม่เห็นขา แล้วในตัวท่านก็มีดวงสว่างนวล ๆ กลม ๆ เหมือนดวงจันทร์ย่อขนาดเท่ากับเหรียญ ๕ บาทอยู่ตรงกลางด้วย ตอนนั้นไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่มองเฉย ๆ ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกปีติ จนน้ำตาไหลอาบแก้ม อาตมาร้องไห้สะอึกสะอื้น โดยไม่สนใจว่าคนข้าง ๆ จะว่าอย่างไร เพราะตอนนั้นกำลังปลื้มมาก เป็นความปลื้มส่วนตัวที่บรรยายไม่ถูก แล้วองค์พระก็ค้างนิ่งอยู่ในท้องอย่างนั้น จนกระทั่งหมดเวลา

"อาตมาเห็นองค์พระแบบครึ่งองค์ มีดวงสว่าง เท่าเหรียญ ๕ บาทอยู่ในกลางท้องทุกวัน แต่บางวันดวงสว่างก็จะใหญ่ขึ้นเท่ากับจานรองแก้วกาแฟ จนกระทั่งวันที่ ๓๐ มีนาคม อาตมารู้สึกอยากเดินทำสมาธิ (เดินจงกรม) ก้าวเท้าไปก็เอาใจมาไว้ตรงกลางท้องไปด้วย ทำให้ใจสงบมาก จิตใจเบาสบาย อยู่ ๆ ก็เห็นพระสงฆ์ห่มจีวรสีเข้ม มีรูปร่างหน้าตาเหมือนอาตมา แต่ดูหนุ่มกว่า ผิวขาวสวยกว่า เป็นองค์เล็ก ๆ หน้าตักกว้างประมาณ ๑ คืบ นั่งสมาธิอยู่ในท้อง แล้วก็มีดวงแก้วสว่างนวล ๆ อยู่ข้างในอีกชั้นหนึ่ง พอนั่งสมาธิในช่วงค่ำ หลับตาไม่นานก็เห็นภาพตัวเองแบบเดิมอีก พอมองไปนิ่ง ๆ เรื่อย ๆ ตรงกลางท้องก็สว่างมากขึ้น สว่างวาบ ..แล้วจีวรก็เปลี่ยนเป็นสีทอง แป๊บเดียวก็กลายเป็นแก้วใส ๆ ไปทั้งตัว ตอนนั้นไม่คิดอะไรเลย เหมือนการรับรู้ถูกปิดหมด ใจแน่วแน่มั่นคง ไม่วอกแวก พอมองไปกลางตัวก็เห็นดวงสว่าง มีรัศมีเป็นสีต่าง ๆ พุ่งขึ้นมาชัดเจนมาก แค่ทำแบบง่าย ๆ สบาย ๆ ทุกอย่าง ก็เกิดขึ้นเอง อาตมาเห็นแบบนี้จนถึงวันอุปสมบท ตลอดการประกอบพิธีกรรมใจสงบมาก แล้วตัวข้างในที่เป็นแก้วใส ๆ ก็ใสมากจนมองทะลุได้ และมีดวงแก้วสว่างเหมือนดวงจันทร์ส่องแสงในกลางท้องอีกชั้นหนึ่งด้วย แต่ตอนนี้ประสบการณ์ของอาตมาเปลี่ยนไปแล้ว จากที่เห็นตัวเองเป็นแก้วใส ๆ ได้กลายเป็นองค์พระใส ๆ นวล ๆ ใหญ่เท่าพระธรรมกายประจำตัว มองท่านแล้วจะรู้สึกสบายใจ อาตมาเห็นท่านแบบมองจากมุมสูง ชัดทั้งองค์ แม้ลืมตาแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าท่านอยู่กับเราเสมอ"


ชีวิตใหม่จากประสบการณ์ภายในที่พระภิกษุธรรมทายาทท่านค้นพบ ล้วนเกิดจากการนั่งสมาธิ หยุดใจ จนกระทั่งพบชีวิตใส ๆ ที่อยู่ภายใน ซึ่งไม่ว่า เราจะเป็นพระภิกษุหรือฆราวาสก็สามารถที่จะพบชีวิตใหม่ ชีวิตใส ๆ นี้ได้ดุจเดียวกัน หากเรากล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้เวลาต่อการนั่งสมาธิ และไม่ท้อถอยต่ออุปสรรคของสมาธินานัปการ



Cr. ธัมม์  วิชชา
วารสารอยู่ในบุญ  ฉบับที่ ๑๐๓  เดือนพฤษภาคม  พ.ศ. ๒๕๕๔
นั่งหลับตา หยุดใจ ชีวิตใหม่ พลันบังเกิด นั่งหลับตา หยุดใจ  ชีวิตใหม่ พลันบังเกิด Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 00:35 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.