ลมสุริยะ สัญญาณเตือนลมบรรลัยกัลป์
ลมสุริยะ
สัญญาณเตือนลมบรรลัยกัลป์
คำถาม
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา
มีข่าวเรื่องลมสุริยะพัดเข้ามากระทบกับชั้นบรรยากาศของโลก ด้วยความเร็วสูงถึง
๔๐๐-๘๐๐ กิโลเมตรต่อวินาที
โดยสามารถเอาชนะสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์
แล้วกระจากไปไกลทั่วทั้งระบบสุริยะจักรวาล
จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าและระบบการสื่อสารบนโลก
ไม่ทราบว่าพระพุทธศาสนามีคำอธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้ไว้บ้างหรือไม่ ?
คำตอบ
เรื่องลมสุริยะหรือพายุสุริยะที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าเป็นลมพายุพัดพุ่งออกมาจากดวงอาทิตย์นั้น
ถ้าใครเคยอ่านจากคัมภีร์วิสุทธิมรรคมาบ้างแล้ว
จะรู้ว่าข้อมูลวิทยาศาสตร์นี้เป็นเรื่องเดียวกับ "ลมบรรลัยกัลป์" และเป็นการช่วยยืนยันความรู้อันบริสุทธิ์ในพระพุทธศาสนาที่ได้บันทึกเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้าเป็นพัน
ๆ ปีแล้ว
คัมภีร์วิสุทธิมรรคเป็นคัมภีร์ฝึกสมาธิเล่มสำคัญของพระพุทธศาสนาและของโลกที่แต่งขึ้นในช่วงประมาณ
พ.ศ. ๙๐๐ โดยพระพุทธโฆษาจารย์ พระเถระผู้ใหญ่ชาวอินเดีย ผู้มีความแตกฉานในพระไตรปิฎก
และมีความรู้ด้านอักษรศาสตร์ยอดเยี่ยม
เนื่องจากในช่วงเวลาที่ท่านบวชนั้น
พระพุทธศาสนาในประเทศอินเดียตกต่ำลงอย่างมาก ถึงขนาดพระไตรปิฎกก็สูญหายไปจนเกือบหมด
พระอาจารย์ของท่านจึงสั่งให้ท่านไปคัดลอกพระไตรปิฎกที่เกาะสิงหล ประเทศลังกา
เพื่อนำกลับคืนมาสู่ประเทศอินเดีย เพราะพระพุทธศาสนาที่นั่นยังเข้มแข็งดีอยู่
ท่านก็เดินทางไปตามคำสั่งของครูบาอาจารย์
เมื่อไปถึงท่านก็ไปกราบขออนุญาตสมเด็จพระสังฆราชของลังกาในยุคนั้นทันที แต่เนื่องจากชาวพุทธทั้งประเทศลังกามีความรักความหวงแหนในพระไตรปิฎกอย่างมากและเกรงว่าจะชำรุดเสียหาย
สมเด็จพระสังฆราชของลังกาจึงไม่ได้อนุญาตให้พระพุทธโฆษาจารย์คัดลอกพระไตรปิฎกได้ทันที
ท่านทำการทดสอบภูมิความรู้ทางศาสนาและความแม่นยำในการแปลภาษาลังกาไปเป็นภาษาอินเดียของพระพุทธโฆษาจารย์ก่อน
ด้วยการให้เขียนวิทยานิพนธ์เรื่องใดเรื่องหนึ่งขึ้นมา
ท่านจึงเขียนคัมภีร์วิสุทธิมรรค
แบ่งออกเป็น ๓ ภาค
ภาคที่ ๑ ศีลนิเทศ ภาคที่ ๒ สมาธินิเทศ ภาคที่ ๓ ปัญญานิเทศ
เนื้อหาที่อยู่ในระหว่างภาคที่หนึ่งกับภาคที่สองนี้
ท่านยังเขียน "ธุดงคนิเทศ" คั่นไว้ด้วย ซึ่งต่อมาคัมภีร์วิสุทธิมรรคนี้เอง
ได้ทำให้เกิดคำพูดขึ้นว่า ในพระพุทธศาสนามีวิธีฝึกสมาธิ ๔๐ วิธี ทั้งนี้ก็เพราะท่านได้รวบรวมวิธีฝึกสมาธิ
ทั้งที่ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษรในพระไตรปิฎก และพบเห็นด้วยตัวของท่านเองตามวัดวาอารามต่าง
ๆ
นำมาร้อยกรองมาเรียบเรียงจนกลายเป็นคัมภีร์ฝึกสมาธิเล่มสำคัญที่สุดของโลกอีกเล่มหนึ่ง
ในคัมภีร์วิสุทธิมรรคนี้เอง
ได้เล่าถึงการแตกดับของโลกและจักรวาลไว้ว่ามีหลายรูปแบบ บางครั้งแตกดับด้วยอำนาจของไฟบรรลัยกัลป์
บางครั้งแตกดับด้วยน้ำบรรลัยกัลป์
และบางครั้งแตกดับด้วยลมบรรลัยกัลป์
ในคัมภีร์ได้กล่าวไว้ว่า
สาเหตุที่โลกและจักรวาลต้องพินาศแตกดับไป ก็เพราะว่า กิเลสในใจของมนุษย์เป็นตัวการทำลายโลก
เมื่อใดที่โลกมากด้วยโทสะ
ย่อมพินาศด้วยไฟบรรลัยกัลป์
เมื่อใดที่โลกมากด้วยราคะ
ย่อมพินาศด้วยน้ำบรรลัยกัลป์
เมื่อใดที่โลกมากด้วยโมหะ
ย่อมพินาศด้วยลมบรรลัยกัลป์
นั่นก็หมายความว่า
มนุษย์เป็นคนกำหนดภัยพิบัติของธรรมชาติ ไม่ใช่ธรรมชาติเป็นคนกำหนดชะตาของมนุษย์
เมื่อหลวงพ่ออ่านพบเรื่องลมบรรลัยกัลป์
ซึ่งเป็นลมชนิดหนึ่งที่พัดมากระทบโลกแล้วหอบยกเอาภูเขาลูกใหญ่ ๆ ขึ้นไปกลางอากาศ
แล้วกระทบกันเปรี้ยง ๆ ในที่สุดก็แตกเป็นผงเป็นทรายไป
จากนั้นก็พัดทำลายให้แผ่นดินแตกเป็นเสี่ยง ๆ แล้วก็หอบมากระทบกันเปรี้ยง ๆ
ในที่สุดโลกทั้งโลกก็ถูกทำลายไป ในตอนนั้น
ก็ยังนึกสภาพไม่ออกว่าจะเกิดขึ้นกับโลกของเราในลักษณะอย่างไร
จนเมื่อได้มาฟังเรื่องลมสุริยะนี้เอง
ทำให้นึกถึงข้อความท่อนนี้ในคัมภีร์วิสุทธิมรรคขึ้นมาได้
เนื้อหาท่อนนี้เป็นเนื้อหาที่พระเถระผู้มีญาณทัสนะในอดีตได้ระลึกชาติย้อนไปรู้ไปเห็นปรากฏการณ์เหล่านี้ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่ผ่าน
ๆ มา ทำให้ท่านรู้ว่าในอนาคตก็จะเกิดขึ้นอีก จึงบันทึกเอาไว้
ซึ่งถ้าใครได้อ่านแล้วก็จะเข้าใจปรากฏการณ์ต่าง ๆ ของโลกได้แจ่มชัดขึ้น
เรื่องของลมสุริยะที่เล่าให้ฟังนี้
หลวงพ่อขอฝากเป็นข้อคิดว่า
เราต้องรู้จักนำเหตุการณ์ในปัจจุบันมาเทียบเคียงกับคัมภีร์โบราณหรือพระไตรปิฎกบ้าง
เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกเกี่ยวกับโลกและชีวิตตามความเป็นจริง
ซึ่งจะเป็นเหตุให้สัมมาทิฐิของพวกเราหยั่งรากลึก เหมาะสมที่จะเป็นครูบาอาจารย์ของสัตวโลกทั้งภพนี้และภพหน้า
และทำให้เราสามารถทำหน้าที่กัลยาณมิตรได้อย่างดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
ซึ่งก็จะเป็นบุญบารมีติดตัวเราไปมากขึ้นอีกตราบนานเท่านาน
Cr. หลวงพ่อทัตตชีโว
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๐๗
เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔
ลมสุริยะ สัญญาณเตือนลมบรรลัยกัลป์
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
01:36
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: