สมาธิเปลี่ยนชีวิต : know-how สู่ชัยชนะของนักกีฬาระดับโลก
สมาธิเปลี่ยนชีวิต
เรื่อง : Son Backhome e-mail : garaboon_jdai@hotmail.com
เรื่อง : Son Backhome e-mail : garaboon_jdai@hotmail.com
"ขึงขัง เคี่ยวกรำ คร่ำเคร่ง" เป็นบุคลิกที่เรามักจะเห็นเสมอในการแข่งขันกีฬา เพราะทางมาแห่งชัยชนะไม่ใช่เรื่องหมู ๆ แม้แท่นยืนของตำแหน่งแชมป์ จะไม่สูงเท่าใดนักแต่การจะขึ้นไปยืนบนนั้นยากเย็นกว่าการปีนสู่ยอดเขาหลายเท่าตัว และอีกไม่นานบุคลิกภาพดังกล่าวอาจจะล้าสมัย เพราะแชมเปี้ยนรุ่นใหม่กำลังจะยิ้มแย้ม "ง่ายๆสบายๆแบบใจเย็น" ให้เราเห็น
...และนี่คือ know-how สู่ชัยชนะของนักแบดมินตันอันดับที่หนึ่ง ประเภทหญิงคู่ของประเทศสหรัฐอเมริกา มือวางอันดับที่ ๓๖ ประเภทหญิงคู่ของโลก
น้องเมย์ หรือ นางสาวเมษิณี มังคละคีรี อายุ ๒๔ ปี เธอเป็นนักกีฬาแบดมินตันของทีมชาติสหรัฐอเมริกา เกิดและเติบโตที่มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ชีวิตของเธอตั้งแต่เยาว์วัยนั้นมีทั้งรสชาติของชัยชนะและพ่ายแพ้ผ่านเข้ามาให้ลิ้มลองโดยตลอด เพราะเป็นนักกีฬามาตั้งแต่อายุ ๑๓ ปี โดยเริ่มเข้าสู่สนามแข่งขันในระดับประเทศด้วยวัยเพียง ๑๘ ปี เท่านั้น ปัจจุบันเธอเป็นอันดับที่หนึ่งในกีฬาแบดมินตันประเภทหญิงคู่ระดับประเทศสหรัฐอเมริกา และในการแข่งขันมหกรรมกีฬา "แพนอเมริกันเกม" ซึ่งเป็นมหกรรมกีฬาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในทวีปอเมริกา กว่า ๔๒ ประเทศ มีเกมการแข่งขันทุกอย่างเหมือนกีฬาโอลิมปิกซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศบราซิลในปีที่ผ่านมาเธอก็คว้าชัยชนะมาอย่างงดงาม
ความรู้สึกแต่ละขั้นตอนของการนั่ง หนูรู้สึกตัวเบา แล้วตัวก็ค่อย ๆ หายไป กลืนไปกับอากาศ หลังจากนั่งสมาธิแล้วความรู้สึกวันนั้นจะมีความสุขมาก ๆ และใจสงบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นความสุขที่เกิดจากภายใน โดยที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย แค่เอาขนตาชนกันเบา ๆ และก็ทำใจเฉย ๆ
เหรียญทองเหรียญแรกมาจากการแข่งขันประเภทหญิงคู่ ในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยคู่ของเธอสามารถเอาชนะมือวางอันดับหนึ่งของรายการ คือ ชาร์เมน รีด และฟิโอนา แม็คคี จากแคนาดาไปได้สองเกมรวด คว้าแชมป์แพนอเมริกันเกมประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๐ มาครองได้อย่างน่าภาคภูมิใจ
ชัยชนะเป็นสิ่งหอมหวนก็จริง แต่รูปแบบของการดำเนินชีวิตและเทคนิคสู่ชัยชนะของเธอยวนเย้า ให้น่าติดตามมากกว่า เพราะเทคนิคสู่ชัยชนะที่ว่า ง่ายกว่าเอื้อมมือคว้ามากมายนัก
น้องเมย์ได้เล่าชีวิตพื้นฐานของเธอให้ฟังว่า "สาเหตุที่หนูมีวันนี้ได้ เพราะได้รับการปลูกฝังที่ดีจากคุณพ่ออนุกูลและคุณแม่ศิริพร มังคละคีรีค่ะ คุณพ่อท่านทำงานบริษัท ส่วนคุณแม่เป็นผู้จัดการสนามแบดมินตัน ซึ่งท่านทั้งสองพาหนูไปวัดตั้งแต่อายุ ๑ ขวบ ต่อมาเมื่ออายุ ๑๐ ขวบ ก็ได้รู้จักวัดพระธรรมกาย โดยมีกัลยาณมิตร นิรุตต์ ชื่นคลังได้ชักชวนให้ครอบครัวเข้าวัดพุทธเมย์วูด (ปัจจุบัน คือวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย) หนูได้ไปเรียนภาษาไทยที่นั่น ซึ่งจะมีการทำสมาธิก่อนและหลังเลิกเรียนเป็นเวลา ๑๕ นาที เมื่อที่บ้านติด DMC พอว่างจากการแข่งขันก็จะนั่งชมรายการ DMC และนั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ เวลานั่งสมาธิส่วนมาก จะไม่นึกอะไร หามุมเงียบ ๆ เพื่อความเป็นส่วนตัว และบางครั้งก็นึกถึงคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งจะทำให้เกิดกำลังใจและไม่เหนื่อย แล้วภาวนา "สัมมา อะระหัง" ไปเรื่อย ๆ จากนั้นก็เห็นแสงสว่างสีขาวเป็นจุดเล็ก ๆ แล้วก็วางใจนิ่ง ๆ ไม่นึกอะไร สักพักก็เกิดดวงแก้วผุดขึ้นมาในกลางนั้น ดวงแก้วจะใส ๆ มีแต่ความใสเท่านั้นไม่มีสีใด ๆ เจือปน
ความรู้สึกแต่ละขั้นตอนของการนั่ง หนูรู้สึกตัวเบา แล้วตัวก็ค่อย ๆ หายไป กลืนไปกับอากาศ หลังจากนั่งสมาธิแล้ว ความรู้สึกวันนั้นจะมีความสุขมาก ๆ และใจสงบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นความสุขที่เกิดจากภายใน โดยที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย แค่เอาขนตาชนกันเบา ๆ และก็ทำใจเฉย ๆ แค่นี้เอง และที่สำคัญน้องเมย์ก็ได้นำเทคนิคการทำใจใส ๆ อย่างสบาย ๆ นี้ไปใช้ในการแข่งขันด้วย
เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา การแข่งขันครั้งล่าสุดของ French Open รอบคัดเลือก เพื่อเก็บคะแนนที่กรุงปารีส เธอต้องเจอคู่แข่งสุดหิน เขาเป็นนักแบดมินตันจากประเทศอังกฤษเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งมาก เธอเล่าว่าการแข่งขันในครั้งนี้ เธอเปรียบดั่ง Underdog เป็นคู่แข่งที่ไม่อยู่ในสายตาเท่าไร ถ้าชนะได้ก็เหมือนม้ามืด แต่เธอบอกกับใจตัวเองว่า "ถ้าชนะก็ขอชนะแบบม้าสว่าง" ก่อนที่จะลงแข่งขัน เธอหาที่เงียบ ๆ นั่งนิ่ง ๆ หยุดใจไว้ที่ศูนย์กลางกายแล้วนึกถึงดวงแก้วใส ๆ ที่กลางท้อง แล้วหลังจากนั้นเธอก็ค้นพบ know-how สู่ชัยชนะ
เธอเปรียบดั่ง Underdog เป็นคู่แข่งที่ไม่อยู่ในสายตาเท่าไร ถ้าชนะได้ก็เหมือนม้ามืด แต่เธอบอกกับใจ ตัวเองว่า"ถ้าชนะก็ขอชนะแบบม้าสว่าง" ก่อนที่จะลงแข่งขัน เธอหาที่เงียบ ๆ นั่งนิ่ง ๆ หยุดใจไว้ที่ศูนย์กลางกายแล้วนึกถึงดวงแก้วใส ๆ ที่กลางท้อง แล้วหลังจากนั้นเธอก็ค้นพบ know-how สู่ชัยชนะ
ในเกมนั้น หนูเล่นไปแบบสบาย ๆเหมือนกำลังจะทำสมาธิ ไม่ได้คิดว่าแพ้หรือชนะ ทำไปทีละลูก ๆ พอเกมจบ เธอเล่าว่า "มันเป็นเทคนิคที่มหัศจรรย์ที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมา ปกติการเล่นแบดมินตัน เราจะต้องคิดอะไรมากมาย ต้องตีลูกอย่างนี้ หยอดอย่างนี้ ตีอย่างไรจึงจะลวงคู่ต่อสู้ให้หัวปั่นเดาใจไม่ถูก แต่วันนั้นหนูเล่นโดยปราศจากความคิด ด้วยเทคนิคจากการนั่งสมาธิ เล่นโดยไม่คิดอะไร ไม่คิดว่าคนกำลังดู คนกำลังเชียร์ หรือคนกำลังโห่ ไม่คิดว่าแพ้หรือชนะ เล่นไปทีละลูก ใช้เทคนิคศูนย์ต่อศูนย์ คือ ทำใจว่าง ๆ จรดศูนย์กลางกายนิ่ง ๆ ตีไปลูกต่อลูก แต้มต่อแต้ม จรดศูนย์กลางกายอย่างเดียว เดี๋ยวแต้มมันจะวิ่งไปเอง ไม่กังวลอะไรมาก ถ้าเราชนะจะได้ทีละแต้ม ๆ ถ้าเราตีเสียก็ให้ฝ่ายตรงข้ามได้แต้มบ้าง คิดเพียงแค่นี้ เหมือน Meditation ที่คุณครูไม่ใหญ่ (หลวงพ่อธัมมชโย) ท่านสอน คือ อย่าใช้กำลังใด ๆ อย่าไปคาดหวังอะไร ให้ใจนิ่ง ๆ สว่าง ๆ ถ้าเราทำถูกวิธีแล้ว เราจะเห็นขึ้นมาเอง แบดมินตันก็เหมือนกันค่ะ
ในเกมนั้น หนูเล่นไปแบบสบาย ๆ เหมือนกำลังจะทำสมาธิ ไม่ได้คิดว่าแพ้หรือชนะ ทำไปทีละลูก ๆ พอเกมจบ At the End ในที่สุดหนูก็ชนะ เป็นชัยชนะที่สร้างความตื่นตะลึงไปทั้งวงการ ไม่มีใครคาดหวังว่าจะเอาชนะได้ แม้ตัวหนูเองก็แปลกใจว่า เราชนะไปได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ไม่คิดอะไรเลย ทำให้มั่นใจเลยค่ะว่า ถ้าเรามีสันติสุขภายใน ทุกอย่างในโลกก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นการแข่งในระดับไหนก็ตาม หนูจะต้องทำใจให้เป็นสมาธิให้ได้ก่อนเสมอค่ะ
เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการใช้ชีวิตที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้เต็มไปด้วยการแข่งขัน และการแข่งขันในเกมชีวิตบางครั้งก็เคร่งเครียดกว่าเกมกีฬาเสียอีก ทั้งแข่งขันกับเวลา แข่งขันกับคู่แข่ง หรือแข่งขันกับตัวเองและเราทุกคนสามารถคว้าชัยชนะของชีวิต ได้ด้วยวิธีการเดียวกันกับที่น้องเมย์ได้ทำสำเร็จมาแล้ว คือ "การนั่งสมาธิ" หากเราได้พบจุดแห่งความหยุดนิ่ง และแหล่งแห่งความสบายภายใน เราจะใช้ชีวิตในเส้นทางแห่งการต่อสู้นี้อย่างมีความสุข แล้วเราจะกุมชัยชนะให้ชีวิตอย่างง่าย ๆ สบาย ๆ ด้วยใจที่สงบเย็น
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๖๕ ประจำเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
สมาธิเปลี่ยนชีวิต : know-how สู่ชัยชนะของนักกีฬาระดับโลก
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
00:48
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: