สร้างความใส เสริมความสวย ด้วยสมาธิ
สาว ๆ ทุกคนล้วนอยากสวย เพราะความสวยเป็นเครื่องนำมาซึ่งความมั่นใจ คนสวยจริง ๆ มีน้อย แต่คนอยากสวยนั้นมีมาก
สุภาษิตไทยบทหนึ่งแนะนำไว้ว่า "ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง" แต่สุภาษิตนี้กลับใช้ไม่ได้กับทุกคน บางคนแต่งอย่างไรก็ไม่สวยและยิ่งแต่งก็ยิ่งดูประหลาด แต่บางคนแม้ไม่แต่งก็ยังสวย แถมยังสวยแบบครบสูตร คือ รูปสวย รวยเสน่ห์ สติปัญญาดี มีธรรมะ (มีด้วยรึ?) มีสิ..
เรากำลังพูดถึงน้องพิมพวรรณ บรรจงศิริ หรือออยล์ สาวสวยผู้มีบุญ เธอกวาดชัยชนะจากเวทีประชันสวยมาหลายเวที และการันตีด้วยตำแหน่ง Miss Thai Town ประจำปี ๒๕๕๑ จากอเมริกา และเป็นตัวแทนสวมชุดมหาลดาปสาธน์ เพื่ออัญเชิญผ้าไตรกฐินสามัคคีบูชาธรรม ๑๐๐ ปี คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง (ผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย) ณ วัดพระธรรมกาย ประจำปี ๒๕๕๒
ความสวยของน้องออยล์เป็นความสวยที่มีคุณค่า และน่าศึกษาถึงเหตุที่มาของความสวย เธอเล่าว่า "ตั้งแต่ยังเด็กคุณพ่อคุณแม่ จะพาไปทำบุญที่วัดใกล้บ้าน ที่จังหวัดชุมพรบ่อยครั้ง และได้ตักบาตรหน้าบ้านเกือบทุกเช้า จนกระทั่งเรียนจบชั้นประถมปีที่ ๕ อายุ ๑๐ ขวบ กัลฯ อมรา บรรจงศิริ ซึ่งเป็นคุณอา ได้รับน้องออยล์เป็นบุตรบุญธรรม ทำให้มีโอกาสย้ายมาเรียนต่อที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ตอนมาอยู่อเมริกาใหม่ ๆ เคยได้รับจดหมายจากบิล คลินตัน เพราะท่านประธานาธิบดีให้ความสนใจเด็กอนุบาล และมีจดหมายมาถึงเด็กที่ขยัน คุณอาจะปลูกฝังด้วยการพาไปร่วมกิจกรรม Kids Camp ที่วัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย ตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้ได้ฝึกนั่งสมาธิ และจากการนั่งสมาธิครั้งแรก ก็เห็นดวงแก้วใสสว่าง ได้ร่วมทำบุญทุกบุญกับหลวงพ่อไม่เคยขาด และชอบมารับบุญที่วัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนียอยู่เสมอ และทุกวันศุกร์คุณอาอมรา บรรจงศิริ จะจัดนั่งสมาธิที่บ้านเป็นประจำต่อเนื่องมา ๑๒ ปีแล้ว จึงได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรชักชวนเพื่อน ๆ มานั่งสมาธิที่บ้านด้วยเช่นกัน" จากสิ่งที่เธอเล่ามาข้างต้นพอจะบอกได้ว่า เหตุใดเธอผู้นี้จึงมีรูปสมบัติที่ดี และมีคุณสมบัติอันยอดเยี่ยม เพราะเธอเติบโตมากับวัด ใจของเธอถูกหล่อหลอมให้ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม และการนั่งสมาธินั่นเอง ด้วยความที่มีรูปสมบัติอันโดดเด่น ส่งผลให้พอโตขึ้น หลาย ๆ คนจึงเชียร์ให้เธอขึ้นเวทีประกวดในเวทีต่าง ๆ และได้รับรางวัลมากมาย และล่าสุด เมื่อปี ๒๕๕๑ เธอได้รับตำแหน่ง Miss Thai Town 2008 ซึ่งรายได้ที่ได้รับจากการจัดการประกวดครั้งนี้ เธอก็ได้มอบให้กับมูลนิธิคนชรา และในระหว่างที่รับตำแหน่ง Miss Thai Town 2008 เธอก็ได้ทำหน้าที่ช่วยเหลือกิจกรรมต่าง ๆ ของสมาคมคนไทยในเมืองลอสแองเจลีส เธอเล่าเทคนิคของการประกวดให้ฟังว่า "ก่อนขึ้นเวทีประกวดแต่ละครั้ง ดิฉันจะทำใจให้สงบนิ่งและนึกถึงดวงแก้วใส ๆ ไว้กลางท้องเพื่อทำสมาธิ" นอกจากความสวยที่ยิ่งดูยิ่งงามตามเหตุแห่งบุญที่เธอสั่งสมไว้ดีแล้ว เธอยังมีสติปัญญาที่คนรุ่นใหม่ควรนำมาเป็นแบบอย่างด้วย เพราะน้องออยล์เธอเรียนได้เกรดเฉลี่ย ๓.๕-๔.๐ มาโดยตลอด จนจบชั้น ม.ปลาย ด้วยเกรดเฉลี่ย ๔.๐๐ จากนั้น ก็เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่แคลิฟอร์เนีย สเตท ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ลองบีช (California State University of Long Beach) สาขาการโรงแรมและการจัดการ จนสำเร็จการศึกษาด้วยเกียรตินิยมเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และขณะที่เรียนปริญญาตรี เธอไม่ต้องรบกวนเงินทางบ้านเลย เพราะได้รับทุนจากทั้งคณะ จากรัฐ และจากระดับประเทศ ทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของกิจการร้านอาหารชาวไต้หวันให้เป็นผู้จัดการ ๒ สาขาใหญ่ เธอบอกว่า "สิ่งดี ๆ ที่เข้ามาในชีวิต เป็นเพราะได้สะสมบุญมาตั้งแต่เด็ก ๆ นั่นเอง"
สิ่งที่สาวสวยคนนี้มีความโดดเด่นที่สาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลายในยุคปัจจุบันควรนำมาเป็นแบบอย่าง ก็คือ การที่เธอไม่เป็นคนห่วงสวยจนเกินไป แต่เธอห่วงใยกับความใสภายในใจมากกว่า ดังนั้น สิ่งที่เธอทำเป็นประจำ ก็คือ การหาโอกาสปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ จึงทำให้เธอทั้งสวยและมีความสุขภายในด้วย เธอเล่าประสบการณ์จากการนั่งสมาธิให้ฟังว่า
"ครั้งหนึ่ง ดิฉันได้ไปปฏิบัติธรรมที่สวนป่าหิมวันต์ อ.ภูเรือ จ.เลย กับคุณแม่ เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ ตอนแรก ๆ ที่นั่งสมาธิก็มีเมื่อยบ้าง และบางทีรู้สึกว่าตัวเองเซไปเซมา บางครั้งก็รู้สึกว่าใจยังไม่สงบเท่าไร ก็จะใช้วิธีลืมตาหรือออกไปเดินเล่นสักพัก แล้วค่อยกลับมานั่งใหม่ ก็จะนั่งดีขึ้นค่ะ หลังจากนั้นใจเริ่มสงบมากขึ้นเรื่อย ๆ อาการเมื่อยก็ไม่มี รู้สึกตัวเบาสบาย ดวงแก้วชัด และใสสว่างมากขึ้นเรื่อย ๆ และขยายใหญ่ขึ้น ๆ จนคลุมทั้งโลก บางวันก็จะเห็นเป็นองค์พระใสสว่างอยู่กลางท้อง แต่ที่ประทับใจมากที่สุด คือ การที่ได้เห็นองค์พระเป็นตัวเราและตัวเราก็เป็นองค์พระ องค์พระที่อยู่กลางท้องได้ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งปกคลุมตัวเราและเราก็อยู่กลางท้องท่าน แล้วตัวเราก็ขยายใหญ่ขึ้น ๆ จนท่านอยู่กลางท้องเราอีกครั้ง และสลับกันไปเรื่อย ๆ และบางช่วงก็ได้เห็นคุณยายอาจารย์ฯ ในกลางท้องด้วยค่ะ ท่านใสและสว่างมาก ดิฉันจึงอธิษฐานให้ตนเองและครอบครัวได้ทำบุญแผ่นทอง สักพักภาพที่ได้มีโอกาสถวายปัจจัยกับหลวงพ่อก็ผุดขึ้นมาแทนที่ เป็นประสบการณ์ที่ happy มากเลยค่ะ"
ปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้คนส่วนใหญ่ห่วงที่จะทำตนเองให้สวย มากกว่าห่วงที่จะทำใจให้ใสและประกอบเหตุสู่ความสวยไม่ถูกต้อง หันไปพึ่งการศัลยกรรมและห่างไกลจากศีลธรรม แม้ความสวยที่ได้จากการเฉือน และการเสริมจะส่งผลให้สวยสมใจ แต่ความสวยนั้นไซร้กลับไม่ยั่งยืน พร้อมทั้งมีโรคภัยเป็นของแถม บางคนเสริมจมูกเสียโด่ง แต่พอผ่านกาลเวลานานเข้า จมูกเจ้ากรรมกลับเบี้ยวผิดรูป ผิดตำแหน่ง แท้จริงแล้วเราสามารถสร้างความสวยอย่างยั่งยืนได้ด้วยการรักษาศีลให้บริสุทธิ์ แม้จะยังไม่สวยเฉิดฉายในวันนี้ แต่วันข้างหน้า ด้วยเหตุแห่งศีลที่เราประกอบไว้ดีแล้ว อย่างไรเสียก็ไม่อาจทำให้พลาดความสวยไปได้ และที่สำคัญหน้าตาเราจะสวยหรือไม่อาจไม่สำคัญเท่ากับว่า เรามีความสุขหรือเปล่า ดังนั้นสาว ๆ ที่อยากสวยอย่างมีคุณค่า พึงมา "สร้างความใส เสริมความสวย ด้วยสมาธิ" เมื่อใจของเราหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เราจะเข้าถึงความสวยจากภายใน เมื่อพบกับกายในกายและพระธรรมกายภายใน เราจะทั้งสวยทั้งใสได้ในชาติปัจจุบัน ดังที่น้องออยล์ได้การันตีไว้ว่า "ดิฉันเชื่อว่าถึงแม้ว่าตนเองจะเคยได้รับตำแหน่งต่าง ๆ มาหลายตำแหน่ง แต่ท้ายที่สุดแล้วคิดว่า การทำใจหยุดนิ่งและการทำความดีเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขที่สุดค่ะ"
เรื่อง : Son Backhome e-mail : garaboon_jdai@hotmail.com
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๘๕ ประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒
สร้างความใส เสริมความสวย ด้วยสมาธิ
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
23:12
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: