ศรัทธาข้ามขอบฟ้า คำตอบกับแรงแสวงหาของธรรมทายาทนานาชาติ รุ่นที่ ๘
๗๐ คือ จำนวนคนกลุ่มนี้
๒๐
คือ จำนวนเชื้อชาติ
ด้วยอำนาจตัวเลข
อาจบ่งชี้ความน่าสนใจได้ระดับหนึ่ง ยิ่งใครติดตามคุณครูไม่ใหญ่
ผ่านรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาทางช่อง DMC จะทราบดีว่า พรรษานี้
มีชาวต่างชาติเดินทางมาบวชเป็นพระฝรั่ง ในโครงการอบรมธรรมทายาทนานาชาติจำนวนมาก
และเข้าร่วมบรรพชาสามเณร ในโครงการ "บวชพระแสนรูปเข้าพรรษา" ณ
วัดพระธรรมกาย จนกลายเป็นไฮไลต์
คนเหล่านี้ ถือกำเนิดในช่วงเวลาที่ต่างกัน
ในที่ที่ห่างกัน เรียก “แม่” ด้วยคำไม่เหมือนกัน หลายเดือนที่แล้วก็ยังไม่รู้จักกัน
แต่แสงใหม่ของวัน...ฉายให้เห็นว่าตอนนี้ทุกคนกำลังใช้ชีวิตในช่วงเวลาเดียวกัน
และนุ่งห่มจีวรสีส้มของพระพุทธศาสนา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ..แต่เป็นปีที่ ๘
แล้วที่การบวชนานาชาติจัดขึ้น และบ่งบอกถึงการเติบโตของพระพุทธศาสนา
แม้จะใช้เวลาถึง ๔ สัปดาห์ แต่ก็มีผู้สนใจเดินทางจากทั่วโลก เช่น อเมริกา อังกฤษ
เอธิโอเปีย คองโก นิวซีแลนด์ อินเดีย และจีน ถือเป็นกราฟที่พุ่งขึ้น
ต่างจากการอบรมครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๔๖ ที่มีอยู่ ๘ สัญชาติ ทำไมผู้คนเหล่านี้ถึงตัดสินใจมาบวช
เป็นคำถามที่น่าสงสัยพอ ๆ กับคำถามที่ว่า ท่านกำลังจะพบกับอะไร
พระแบราเค็ต อัลเลมาโย่ ฉายาธัมมาโภ อายุ ๓๐ ปี
หนุ่มเอธิโอเปียที่หลงเสน่ห์ในหลักเหตุและผล แต่ก็สนใจในด้านศาสนาและปรัชญา
ท่านเพิ่งมาเมืองไทยครั้งแรกกับโครงการ Peace Revolution เมื่อวันมาฆบูชาปีนี้ที่วัดพระธรรมกายและประทับใจมากจนสามารถกลับไปรวมเพื่อน
ๆ นั่งสมาธิด้วยกัน ที่เอธิโอเปีย ท่านเล่าว่า "เมื่อทราบข่าวการบวชจากพระอาจารย์ก็ตัดสินใจลองมาใช้ชีวิตการบวชเป็นพระภิกษุสัก ๑-๒ ปี ในวันที่มีพิธีตัดปอยผม อาตมารู้สึกว่าเป็นพิธีที่มหัศจรรย์มาก ทำให้น้ำตาไหลออกมาเลย อาตมารู้สึกดีใจที่ได้ละเลิกนิสัยไม่ดีเก่า ๆ และเริ่มต้นชีวิตใหม่
เป็นความปรารถนาจากส่วนลึกของหัวใจที่อยากค้นหาความหมายของชีวิตและอยากได้รับความสุข
ความสงบ และปัญญาเพิ่มขึ้น"
เมื่อเข้าอบรม
ท่านได้พบบทฝึกไม่ต่างจากว่าที่พระใหม่รูปอื่น "นี่คือ สิ่งใหม่ที่ไม่เคยเป็นกิจวัตรประจำวันของอาตมาเลย เช่น ตื่นตั้งแต่ตี ๔ ครึ่ง
ปฏิบัติธรรม รับบุญทุกอย่าง แต่อาตมาก็ยินดีที่จะปรับตัวเอง สิ่งที่สำคัญ คือ
ทำให้เรามีวินัยในชีวิตและรู้จักการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น"
"เมื่ออาตมานั่งสมาธิก็พบประสบการณ์ที่สว่างมาก
มีความรู้สึกว่าร่างกายอบอุ่น นั่งแล้วมีความเพลิดเพลินกับแสงสว่าง
และเหมือนได้อยู่ตรงจุดกึ่งกลางความสว่างนั้น จนอดนึกไม่ได้ว่าเรา
คิดไปเองหรือเปล่า สมาธิทำให้รู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว มีความสุขมากครับ"
แม้ท่านไม่ใช่ชาวพุทธตั้งแต่เกิด
แต่สมาธิก็ไม่ใช่สิ่งที่ห่างไกลกันอีกแล้ว และความสุขที่ท่านได้รับจากสมาธิ
อาจหมายถึงความหมายของชีวิตที่กำลังค้นหา
ไม่มีใครจะดูแลตัวเราได้ดีกว่าตัวเรา
ฉะนั้นการหยิบยื่นชีวิตที่เป็นสุขให้ตัวเอง จึงสมควรกระทำ ขณะเดียวกันการเผื่อแผ่ความสุขไปสู่รอบข้างก็ไม่ต่างจากสุขชั้นที่
๒ ของตัวเองด้วย เช่นเดียวกับพระต่างชาติหลาย ๆ รูป
ท่านปรารถนาจะเก็บประสบการณ์ให้มากที่สุด
เพื่อนำไปสู่การเผยแผ่ธรรมะในบ้านเกิดของตัวเอง
พระชิบันดา เบอนอยท์ ฉายาสัปปัญโญ คือ
อีกรูปหนึ่งที่จากแดนไกลตั้งแต่วัยหนุ่ม หลังจากท่านพบพระอินเดียเพียงช่วงสั้น ๆ
และเรียนรู้หลักธรรม ท่านกลายเป็นผู้นำของชาวพุทธในชื่อ “โพธิราชา” ยืนหยัดสอนคนคองโกให้รู้จักและเคารพพระพุทธเจ้า แม้คองโกจะยังมีการสู้รบ ตัดสินถูกผิดด้วยเสียงกราดยิง
แต่ท่านเลือกใช้ชีวิตด้วยธรรมะและเสียงสวดมนต์ จนขยายศูนย์สาขาชาวพุทธได้ถึง ๔
แห่ง ในใจกลางทวีปแอฟริกา แม้ปีนี้ท่านจะอายุ ๖๐ แล้ว
แต่วัยเกษียณไม่ใช่อุปสรรคต่อการเป็นพระ "อาตมาศรัทธาพระพุทธศาสนามาหลายปีแล้ว เริ่มจากที่บ้านเกิดในเมืองลูบุมบาชี
สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ในปี ค.ศ.๑๙๖๗ ตั้งแต่นั้นก็พยายามเผยแผ่พระพุทธศาสนาในบางแคว้นของคองโก
วันนี้มาที่นี่ ก็เพื่อมาบวชพระ เพื่อไปทำหน้าที่เป็นผู้เผยแผ่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ได้มากที่สุดในแผ่นดินคองโก"
ไม่เฉพาะดินแดนที่ห่างไกลอย่างแอฟริกาที่ต้องการหลักความจริงจากพระพุทธศาสนา
แม้แต่ประเทศต้นกำเนิดพุทธศาสนาเองก็เช่นกัน "อาตมาตั้งใจเดินทางจากอินเดียเพื่อบวชเป็นพระ ที่ผ่านมาไม่เคยมีโอกาส แต่ตอนนี้กำลังจะได้รับโอกาสนี้จากวัดพระธรรมกาย อาตมาตั้งใจจะฝึกฝนตนเองให้เป็นพระที่ดี ตั้งใจศึกษาพระธรรมคำสอน เพื่อที่จะได้ไปเผยแผ่ที่บ้านเกิด" พระเฮมันตะ ชินเด ฉายา เวปุลโล เล่าถึงความต้องการอย่างแรงกล้า
หลังทราบข่าวการบวชจากเพื่อนที่ดูไบ
นับเป็นความจริงที่น่าขบคิด
เมื่อแดนพุทธภูมิในวันนี้ ยังไม่เอื้อต่อการศึกษาธรรมะมากนัก
การมาถึงของท่านจึงเป็นภารกิจที่สำคัญยิ่ง
แต่ก่อนจะกลับแดนพุทธภูมิอย่างเต็มภาคภูมิ
ท่านต้องเป็นพยานการตรัสรู้ธรรมของพระพุทธเจ้าให้ได้ก่อน และคำตอบนั้นอยู่ที่สมาธิ
"ในขณะที่นั่งปฏิบัติธรรม ช่วงบนของร่างกายจะผ่อนคลายมากเป็นพิเศษเหมือนหายไปเลย สักพักอาตมาก็มีความรู้สึกว่าหายไปทั้งร่างกาย ทำให้ใจนิ่งได้อย่างน้อย ๘๐ เปอร์เซ็นต์ พอหยุดนิ่งไปที่องค์พระ ซึ่งเป็นองค์เดียวกับที่อยู่ในหนังสือสวดมนต์
คราวนี้ไม่ต้องใช้ความพยายามในการทำให้ใจหยุดไปในศูนย์กลางกายแล้ว ใช้แต่ความเบาสบายก็พอ"
การบวชและการทำสมาธิเป็นของคู่กันมาแต่ครั้งพุทธกาล
เพราะหัวใจของการเป็นพระ คือ จะต้องซักฟอกใจให้หลุดจากคราบกิเลส
และวิธีที่พระพุทธเจ้าทรงใช้เพื่อสร้างความบริสุทธิ์
และดำเนินสู่ทางสายกลางภายในก็ได้จากการทำสมาธิ
พระอาจารย์หัวหน้าโครงการฯ
เมตตาอธิบายว่า "วิธีทำสมาธิให้เข้าถึงได้อย่างนี้ ตอนแรกอาจจะเริ่มให้นึกพระจันทร์วันเพ็ญ (full moon) หรือพระอาทิตย์ที่ส่องสว่าง (shining sun) บริเวณกลางท้องก่อน
แต่หากฝึกมาได้สักระยะแล้วก็ให้นึกดวงแก้วเลยก็ได้" เหล่าพระอาจารย์ทราบดีว่า การนึกถึงสิ่งต่าง ๆ
เหล่านี้ ล้วนเป็นกุศโลบายที่ทำให้คนไม่เคยนั่งสมาธิสามารถนำใจที่นิยมการซัดส่าย
ให้กลับมายอมหยุดนิ่งที่กลางตัว เพื่อใจจะได้ไปสู่จุดที่เรียกว่าศูนย์กลางกาย
ซึ่งเป็นหนทางสายกลางภายใน
แต่ความรู้จะไปถึงทั่วโลกด้วยภาษา
ฉะนั้น ไม่เพียงแต่หลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ ยังมีหลักสูตรภาคภาษาจีน
ที่จัดอบรมไปพร้อม ๆ กัน แน่นอนว่า นักพิสูจน์ความจริงจากโลกตะวันออกอย่างสิงคโปร์
ไต้หวัน มาเลเซีย จีนแผ่นดินใหญ่ และฮ่องกง ก็ได้มารวมกันบวชในครั้งนี้ด้วย
หนึ่งในตัวอย่างของนักพิสูจน์ที่ ณ
วันนี้ เริ่มมั่นใจในพระพุทธศาสนาแล้ว คือ พระเฉินกัง อาสโภ
เจ้าของดีกรีปริญญาโทด้านปรัชญาขงจื๊อจากจีนแผ่นดินใหญ่
เมื่อปีที่แล้วท่านเพิ่งมาอบรมธรรมทายาทนานาชาติและช่วยงานแปลพระไตรปิฎก
กับโครงการแลกเปลี่ยนของสถาบันธรรมชัย ปีนี้จึงอยากมาบวชอีก และตั้งใจมาปฏิบัติธรรมเพื่อให้พบความสุขที่แท้จริงของชีวิต
"อาตมาสนใจศึกษาพระพุทธศาสนาเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก พระปัญญาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสามารถนำพาสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นจากกิเลส มีชีวิตที่บริสุทธิ์ และมีความสุข ทำให้อาตมาต้องการเป็นลูกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคนหนึ่ง"
และแล้วในวันหนึ่ง ในช่วงที่เหล่าธรรมทายาทนานาชาติกำลังรับฟังโอวาทเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว
ขณะที่หลวงพ่อกำลังอธิบาย พระเฉินกังก็เอาใจจรดไว้ที่ศูนย์กลางกาย ใจของท่านค่อย ๆ
เข้าสู่ความสงบ แล้วท่านก็พบตัวเองนั่งสมาธิอยู่ที่กลางท้อง ท่านเล่าว่า "ผมรู้สึกดีมาก ความรู้สึกแบบนี้เป็นการพักผ่อนอย่างดีเยี่ยม ขณะที่ใจผมนิ่งอยู่นั้น ยังได้เห็นดวงแก้วอยู่ที่กลางท้องด้วย ทำให้ใจสงบ มีความสุขมาก หลังจากเลิกนั่งแล้ว จะเดินหรือเข้าแถวก็รู้สึกว่าใจสบายเหมือนมีน้ำพุผุดออกมาจากกลางกายอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสายเลยครับ"
สิ่งที่ท่านพบ
อาจเป็นต้นทางไปสู่จุดหมายที่เป็นจริง คือ การได้เป็นลูกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยสมบูรณ์
ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ความสุขที่คนเราแสวงหากันอยู่นั้นช่างหาได้ยากในชีวิตแบบหนึ่ง
แต่กลับค้นพบได้ไม่ยากในการใช้ชีวิตอีกแบบหนึ่ง
ความอยากรู้ อยากลอง และอยากพิสูจน์ว่าพระพุทธศาสนาดีอย่างไร
ทำให้ชาวต่างชาติกล้าที่จะก้าวเข้ามาบวชหลายต่อหลายรูป
แต่เหตุผลนั้นเป็นแค่เรื่องเล็ก สำหรับพระหนุ่มชาวไต้หวันอย่าง พระล่าย จง หลง
สุจิตโต เพราะการทำงานที่อยู่ใกล้ความเป็นความตาย
ทำให้ท่านเห็นสัจธรรมของชีวิตมากกว่าใคร ๆ "อาตมาเคยทำงานเป็นพนักงาน ดับเพลิง ทำให้ได้เห็นว่า
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ล้วนมีแต่ คนเจ็บ คนตาย รับรู้ได้ถึงความทุกข์ของชีวิตมนุษย์
ทำให้อาตมาอยากแสวงหาวิธีการพ้นทุกข์ เมื่อทราบข่าวสว่างเรื่องการบวชธรรมทายาทนานาชาติที่วัดพระธรรมกายจากเว็บไซต์
อาตมาก็รู้ว่านี่เป็นบุญกุศลใหญ่จึงได้ปลีกตัวหาเวลาและโอกาสมาบวช
และยังเป็นการตอบแทนพระคุณพ่อแม่ด้วยครับ"
ในระหว่างการอบรม
ท่านก็ค่อย ๆ รับรู้ว่า ตัวเองตัดสินใจไม่ผิด "เมื่อตัดสินใจมาอบรมอยู่ที่นี่ รู้สึกว่าร่างกายและจิตใจไม่มีความเครียดเลย มีแต่ความปีติสุข โดยเฉพาะช่วงเวลาแห่งการหลับตาทำสมาธิ
เมื่ออาตมานึกถึงดวงแก้วที่ศูนย์กลางกาย
ผ่านไประยะหนึ่งก็รู้สึกว่ามีแสงสว่างปรากฏขึ้นมา รู้สึกว่าร่างกายเบาสบายเหมือนลอยได้
กลมกลืนไปกับบรรยากาศ และมีความสว่างมากขึ้นเรื่อย ๆ
บางครั้งก็เห็นองค์พระจำนวนมากในอากาศครับ"
ความสุขที่ท่านกำลังได้รับเป็นเพียงแค่ตัวอย่างหนึ่งจากจำนวนนับไม่ถ้วน
หากระยะทางที่ห่างไกล เป็นบทพิสูจน์ความมีอยู่จริงของศรัทธาในตัวท่าน
ผลการปฏิบัติธรรมก็คือ บทพิสูจน์ความมีอยู่จริงของสิ่งที่ท่านศรัทธา
ประสบการณ์จากธรรมทายาทนานาชาติทุกรูป
กำลังบอกคนทั้งโลกว่า ความสุขที่แท้จริงอยู่ตรงไหนและจะไปถึงได้อย่างไร
คำตอบอยู่ที่สมาธิ เพราะสมาธิ คือ ความสุขที่แสวงหา สมาธิ คือ
สิ่งที่จะนำไปปักหลักพระพุทธศาสนาในทุกดินแดนของโลกได้
การมาตามหา "สิ่งที่มีอยู่จริง" ในพระพุทธศาสนาเช่นนี้ อาจทำให้ “ชาวพุทธโดยกำเนิด” อย่างเราฉุกคิดได้ว่า เวลาที่ผ่านมาเราหลงลืมอะไรไปบ้างหรือไม่ การไม่สนใจปฏิบัติตามคำสอนแม้เพียงศีล ๕ ข้อแรก ก็เหมือนทอดทิ้งให้พระพุทธศาสนาถึงจุดเสี่ยงต่อการดำรงอยู่เกินพอแล้ว ทั้ง ๆ ที่พระพุทธศาสนามีคำสอนที่ดูแลเราได้ ขอเพียงเราเริ่มทำ
หรือเราหลงลืมไปแล้วว่า
การหาโอกาสไปทำบุญ ทำใจสงบนั้น ได้ความสบายกาย สบายใจมากแค่ไหน
การปลีกตัวเองไปฟังธรรมเสียบ้าง จะได้ทั้งสติไว้แก้ทุกข์ ข้อคิดไว้แก้กลุ้ม
แถมเคล็ดลับไว้แก้จน สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่พระพุทธศาสนาช่วยเรา “ผ่าทางเศร้า” ขึ้นอยู่กับว่าเราจะนึกถึงหรือไม่
ที่สำคัญคือ ชาวต่างชาติเหล่านี้ไม่ได้มาเพื่อค้นหาความเชื่อ
แต่มาเพื่อค้นหาความจริง จึงไม่มีเหตุผลใดจะเสแสร้งแกล้งกล่าว ตรงกันข้ามนี่กำลังเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเข้าใจเวลาที่ผ่านมาของตัวเอง
หลายคนใกล้ชิดพระพุทธศาสนาแต่ในทะเบียนบ้าน เพียงแต่ไม่ค่อยนำข้อดีออกมาใช้
เราเคยหรือยัง ที่จะยอมอุทิศชีวิตเพื่อให้เข้าใจพระพุทธศาสนา
ค้นพบความสุขมากกว่าแค่การเรียกร้องจากใคร ๆ
เราจะได้เจอคำตอบเหมือนอย่างชาวต่างชาติ ต่างภาษาเหล่านี้
Cr. ธรรมยันตี
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๙๔
เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
ศรัทธาข้ามขอบฟ้า คำตอบกับแรงแสวงหาของธรรมทายาทนานาชาติ รุ่นที่ ๘
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
00:54
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: