สำเร็จทุกเรื่อง
ใจที่ฝึกฝนและกลั่นกล้ามาอย่างดีแล้วที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ย่อมเป็นใจที่มีฤทธิ์ มีเดช มีอานุภาพ โดยเฉพาะดวงใจของ คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ผู้มุ่งทำวิชชาปราบมารกับมหาปูชนียาจารย์
คือ พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย จนตลอดชีวิต ใจของท่านจึงมีฤทธิ์สุดจะนับจะประมาณได้ รวมถึงใจดวงนี้ของท่านยังตามคุ้มครองลูกศิษย์ของท่านตลอดเวลา และใครที่ได้ปฏิบัติธรรมเช่นเดียวกับท่านก็ย่อมได้ประจักษ์ถึงอานุภาพของใจที่ฝึกมาดีแล้วเช่นเดียวกัน
ดังเช่นเรื่องของคุณวู ยู ฮง ชาวมาเลเซีย ผู้ประสบกับอานุภาพของคุณยายและอานุภาพศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ คุณวู ยู ฮงเล่าว่า
"ผมเริ่มเข้ามาสร้างบารมีกับวัดพระธรรมกาย ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๐
โดยการชักชวนของกัลยาณมิตร จากจังหวัดภูเก็ต หลังจากนั้นผมก็เริ่มปฏิบัติธรรม
และได้ร่วมสร้างบุญกับทางวัดมาเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่เคยมาวัดพระธรรมกายเลยสักครั้ง
จนกระทั่งปี ๒๕๔๗ ผมได้มาวัดพระธรรมกายเป็นครั้งแรก ในงานบุญใหญ่ คือ วันมาฆบูชา
ทำให้ผมประทับใจในหลาย ๆ เรื่อง มีผู้คนมาวัดกันอย่างเนืองแน่น เห็นวัดเป็นระเบียบ
สะอาด ยิ่งได้ศึกษาผมก็ยิ่งทราบว่า เหตุที่วัดมีความเป็นระบบระเบียบเช่นนี้เพราะได้ต้นแบบมาจากคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง
ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย เมื่อได้รู้จักกับคุณยาย ทั้งจากการอ่านและฟัง
ทำให้ผมเคารพรัก ศรัทธาคุณยายมาก ๆ คุณยายเป็นนักเสียสละตนที่ยิ่งใหญ่
เป็นผู้เปี่ยมด้วยคุณธรรมและความบริสุทธิ์
ผมเชื่อมั่นในอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของคุณยายมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ครอบครัวของผมประสบมาด้วยตัวเอง
ในสมัยที่เราเริ่มไปวัดกันใหม่ ๆ ใน ปี ๒๕๔๗ ทุกครั้งที่เราไปวัด เราจะต้องลำบากหาโรงแรมเพื่อพักค้างคืน ซึ่งต้องไม่ห่างจากวัดมากนัก เพื่อที่เราจะได้ตักบาตรตอนเช้าได้ทัน ยิ่งเป็นงานบุญใหญ่ ๆ บางครั้งที่พักก็ไม่ค่อยพอ โดยเฉพาะถ้าชวนญาติ ๆ มาจากต่างจังหวัดกันหลายคนก็ยิ่งไม่สะดวก ผมจึงตัดสินใจอธิษฐานขอบ้านจากคุณยาย ให้เรามีบ้านอยู่ไม่ไกลจากวัด หลังจากอธิษฐานขอบารมีคุณยาย ไม่นานผมก็มีบ้านอยู่ที่คลอง ๔ สำเร็จอย่างง่ายดาย ตอนที่ซื้อบ้านใหม่ๆ วันหนึ่งผมกับภรรยากำลังเดินขึ้นชั้นบนของบ้าน ผมเดินนำหน้าภรรยาเดินตามมาข้างหลังแล้วผมก็เห็นแม่ชีเดินสวนผมลงมา ผมรีบถามภรรยาว่า เธอเห็นคนแต่งชุดขาวเดินสวนลงมาหรือเปล่า เธอตอบผมว่าไม่เห็นมีนี่ ตอนนั้นเป็นเวลากลางวัน ช่วงนั้นผมยังไม่รู้ประวัติ และรายละเอียดเกี่ยวกับคุณยายมากนัก เพราะเรายังเข้าวัดกันได้ไม่นานแต่เราก็พบกับอานุภาพของคุณยายอย่างมหัศจรรย์จริง ๆ ซึ่งตอกย้ำให้ผมมีความเชื่อมั่น และศรัทธาในวิชชาธรรมกายมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในสมัยที่เราเริ่มไปวัดกันใหม่ ๆ ใน ปี ๒๕๔๗ ทุกครั้งที่เราไปวัด เราจะต้องลำบากหาโรงแรมเพื่อพักค้างคืน ซึ่งต้องไม่ห่างจากวัดมากนัก เพื่อที่เราจะได้ตักบาตรตอนเช้าได้ทัน ยิ่งเป็นงานบุญใหญ่ ๆ บางครั้งที่พักก็ไม่ค่อยพอ โดยเฉพาะถ้าชวนญาติ ๆ มาจากต่างจังหวัดกันหลายคนก็ยิ่งไม่สะดวก ผมจึงตัดสินใจอธิษฐานขอบ้านจากคุณยาย ให้เรามีบ้านอยู่ไม่ไกลจากวัด หลังจากอธิษฐานขอบารมีคุณยาย ไม่นานผมก็มีบ้านอยู่ที่คลอง ๔ สำเร็จอย่างง่ายดาย ตอนที่ซื้อบ้านใหม่ๆ วันหนึ่งผมกับภรรยากำลังเดินขึ้นชั้นบนของบ้าน ผมเดินนำหน้าภรรยาเดินตามมาข้างหลังแล้วผมก็เห็นแม่ชีเดินสวนผมลงมา ผมรีบถามภรรยาว่า เธอเห็นคนแต่งชุดขาวเดินสวนลงมาหรือเปล่า เธอตอบผมว่าไม่เห็นมีนี่ ตอนนั้นเป็นเวลากลางวัน ช่วงนั้นผมยังไม่รู้ประวัติ และรายละเอียดเกี่ยวกับคุณยายมากนัก เพราะเรายังเข้าวัดกันได้ไม่นานแต่เราก็พบกับอานุภาพของคุณยายอย่างมหัศจรรย์จริง ๆ ซึ่งตอกย้ำให้ผมมีความเชื่อมั่น และศรัทธาในวิชชาธรรมกายมากขึ้นเรื่อย ๆ
สำหรับผมก่อนที่จะมารู้จักวัดพระธรรมกาย ผมเป็นคนสนใจธรรมะมาก
และก็เข้ามาศึกษาธรรมะที่วัดพุทธศรีลังกามากว่า ๑๐ ปี ซึ่งที่วัดก็จะสอนเรื่องการสวดมนต์ สอนร้องเพลงธรรมะเป็นหลัก แต่ไม่มีการสอนเรื่องการนั่งสมาธิ
ทำให้ผมไม่ได้ศึกษาและไม่ทราบวิธีการฝึกสมาธิเลย ต่อมาได้มีโอกาสรู้จักเพื่อนคนไทย เขาพามาศึกษาธรรมปฏิบัติที่วัดไทยแห่งหนึ่งจึงเป็นเหตุให้ผมเริ่มสนใจการปฏิบัติธรรมนับจากนั้น
และก็เริ่มค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตว่า มีพระที่ไหนสอนเรื่องการนั่งสมาธิบ้าง
จนกระทั่งได้มาพบข้อมูลของหลวงปูวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เกี่ยวกับวิชชาธรรมกาย
แต่ก็มีรายละเอียดไม่มากนัก จนกระทั่งในเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
ผมมีโอกาสมาเมืองไทยกับเพื่อนอีกครั้ง เขาแนะนำให้ผมรู้จักกัลยาณมิตรอภิรดี
ตันติวิท พวกเราพากันไปหากัลยาณมิตรท่านนี้ที่บ้านในจังหวัดภูเก็ต
บ้านของเธอมีโต๊ะหมู่บูชา ผมได้เข้าไปกราบ ๓ ครั้ง เพราะเป็นอุปนิสัยของผม
เมื่อผมไปที่ไหน บ้านใคร ผมจะเข้าไปทำความเคารพพระประจำบ้านก่อน พอกราบเสร็จ จึงเงยหน้ามองโต๊ะหมู่บูชาอย่างตั้งใจ
ปรากฏว่าโต๊ะหมู่บูชามีภาพหลวงปู่ ผมรู้สึกตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างมาก
จากนั้นกัลยาณมิตรอภิรดีก็ได้มอบหนังสือภาษาอังกฤษ ซึ่งหน้าปกเป็นรูปหลวงปูสด
พระมงคลเทพมุนี ( สด จนฺทสโร) ให้ผม ผมรีบกลับมาอ่านอย่างตั้งใจ แต่อ่านได้ไม่มากเพราะสายตาไม่ดี
เจ็บตา จึงได้อธิษฐานกับหลวงปู่ โดยดูรูปท่านจากหน้าปกหนังสือเล่มนี้
พนมมือกราบท่าน ๓ ครั้ง แล้วบอกกับท่านว่า ถ้าผมมีบุญพอที่จะอ่านหนังสือเล่มนี้ได้ และสามารถศึกษาปฏิบัติได้
ก็ขอให้สายตาของผมดีขึ้นพอที่จะอ่านหนังสือเล่มนี้ได้ หลังจากนั้นภายในระยะเวลา ๒
- ๓ วัน ผมก็อ่านหนังสือจนจบเล่ม ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลก
ผมรู้สึกว่าสายตาของผมเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ ๆ จนสามารถอ่านหนังสือ และเอกสารอื่น
ๆ ได้ครั้งละนาน ๆ จนเป็นปกติได้ จากการอ่านหนังสือนี้เอง ทำให้ผมได้ลงมือปฏิบัติธรรม โดยทุกครั้งก่อนปฏิบัติ ผมจะอธิษฐานขอบารมีหลวงปู่ให้ช่วยสอนผมด้วยเถิด
และก่อนนั่งจะปล่อยวางงานทุกอย่าง ปล่อยวางเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งรอบตัวทั้งหมด
จะทำร่างกายทุกส่วนให้สบาย หลับตาเบา ๆ นั่งหลังตรงแบบสบาย ๆ
สบายทั้งในกายและนอกกาย และก็หลับตามองเข้าไปยังที่ตั้งฐานของใจ ไล่ตามฐานทั้ง ๗
ฐาน และก็หยุดใจเบา ๆ ณ ฐานที่ ๗ กลางท้องสบาย ๆ โดยไม่ได้ใช้ตาเพ่งมองเลย
ผมเห็นโดยการใช้ความรู้สึกและภาวนา "สัมมาอะระหัง" ผมปฏิบัติอย่างนี้ต่อเนื่องประมาณ ๒ อาทิตย์ ทำให้ผมเห็นองค์พระองค์ใหญ่ใสเป็นแก้วผุดขึ้นมาเองที่กลางท้อง แล้วองค์พระก็ค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น ๆ
ขยายใหญ่มากสว่างมาก ๆ ๆ ผมทั้งตื่นเต้น ตกใจ ดีใจจนบอกไม่ถูก
อารมณ์ทุกอย่างมารวมกันในเวลานั้น เลยรีบโทรไปเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่า
การปฏิบัติธรรมทำให้ ผมพบพระในท้องแล้วก็มีความสุขมาก
หลังจากนั้นผมจึงปฏิบัติทุกวันไม่เคยขาดเลย อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ประสบการณ์ภายในของผมก็พิเศษเพิ่มขึ้นไปอีกคือ
องค์พระที่กลางท้องผมผุดขึ้นมาอย่างมากมายไม่ขาดสายเยอะมาก ๆ เลยครับ
องค์พระใสสว่างมาก ครั้งนี้ผมทั้งดีใจ ตกใจ ตื่นเต้น มีความสุขที่สุด
จนหัวใจเต้นแรงไปตามองค์พระที่ผุดขึ้นมา ท่านองค์ใหญ่ขึ้น ๆ วันนั้นผมปีติจนนอนไม่หลับ
ช่วงแรกที่เห็นองค์พระ กัลยาณมิตรได้แนะนำให้ผมเรียนถามพระอาจารย์นิโคลัส
เกี่ยวกับประสบการณ์การปฏิบัติธรรม ท่านก็แนะนำว่าให้ดูที่กลางองค์พระไปอย่างเฉย
ๆ นิ่ง ๆ พอทำอย่างนี้ ผมก็เลยเห็นองค์พระทุกวัน โดยนึกถึงกลางท้อง
ก็จะมองเห็นองค์พระง่ายมาก ท่านผุดขึ้นมาเร็วมาก แค่ผมหยุดนิ่ง ๆ เฉย ๆ เท่านั้น
หลวงพ่อท่านสอนไว้ว่า
ธุรกิจกับจิตใจต้องไปด้วยกัน ผมก็นำมาใช้ โดยก่อนออกจากบ้านไป ทำงานทุก ๆ เช้า
ผมจะสวดมนต์นั่งสมาธิ แผ่เมตตา ขณะขับรถจะตรึกองค์พระไปด้วย ตอนพักกลางวัน
เมื่อมีเวลาเหลือผมจะอยู่ในห้องเงียบ ๆ คนเดียว เพื่อนั่งสมาธิหลับตาสบาย ๆ
จนเห็นองค์พระใส หลังจากนั้นผมก็ค้นพบว่างานทุกอย่างที่ทำสำเร็จได้อย่างง่าย ๆ
จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๕๐
ผมเข้าโครงการบวชนานาชาติ รุ่นที่ ๕
หลังจากที่นั่งสมาธิจนกระทั่งเข้าถึงองค์พระภายใน ผมก็ได้ลองอธิษฐานจิตหลังจากที่ใจสงบนิ่งว่า
ขอให้บริษัทให้รถคันใหม่แก่ผม (รถเบนซ์) และผมก็นึกภาพรถคันนั้นมาใส่ไว้ในกลางกาย
ทำบ่อย ๆ อธิษฐานถี่ ๆ แล้วไม่นานหลังจากลาสิกขาออกมา ผมก็ได้รถคันนั้นมาจริงๆ
ต่อมาผมได้ทราบข่าวบุญการสร้างหลังคามหารัตนวิหารคด (โมดูล) จากภรรยา เราปรึกษากันว่าจะเป็นเจ้าของบุญใหญ่ในครั้งนี้ให้ได้
เราอยากเป็นเจ้าของบุญโมดูล ซึ่งในตอนที่เราตั้งใจกันนั้น
แม้เราจะพอมีเงินอยู่บ้างแต่ก็มีเพียงแค่หลักแสน แต่บุญหลังคามหารัตนวิหารคด
เราตั้งใจทำในระดับหลักล้าน และก็หลายล้านเสียด้วย อีกทั้งเวลาก็เหลือแค่ ๒ เดือนกว่า
ๆ และเราก็ไม่เคย ทำบุญใหญ่อย่างนี้มาก่อนเลย"
จากสิ่งที่คุณวู ยู ฮง เล่ามาทั้งหมด
ทำให้เราพอจะทราบว่า การนั่งสมาธิทำให้ดวงใจของเขาใสสว่างและมองเห็นคุณค่าของบุญ
ใจของเขาแผ่ขยายกว้างใหญ่ จนกระทั่งทำให้เขากล้าที่จะสร้างบุญใหญ่ คือ หลังคามหารัตนวิหารคด
เพื่อเป็นสถานที่รวมพุทธบุตรเรือนล้านในอนาคต ทั้ง ๆ ที่
ในขณะนั้นเขามีเงินเพียงแค่หลักแสน ซึ่งดูเหมือนยากที่จะเป็นไปได้
แต่ผู้มีใจอันหยุดนิ่งดีแล้วมักมีหนทางสู่ความสำเร็จอย่างที่เราคาดไม่ถึง
"เมื่อผมและภรรยาตกลงกันว่า
หลวงพ่อให้บุญใหญ่กับเรามาแล้ว เราก็จะทำให้สำเร็จ ผมก็ใช้หลักการเดิม คือ
กราบอาราธนามหาปูชนียาจารย์ไว้ที่กลางกาย ตรึกนึกถึงองค์พระธรรมกาย
พร้อมภาวนาไปเรื่อย ๆ จนเห็นองค์พระท่านใสสว่าง สงบ นิ่งสบาย
ผมก็เอาโมดูลเข้าศูนย์กลางกาย ทำทุกวันแล้วก็อธิษฐาน ขอให้ทำได้สำเร็จ ผมไม่ได้คิดจะโอ้อวดตัวเอง
แต่อยากจะบอกว่าการปฏิบัติธรรมนั้นมีอานุภาพมากมายจริง ๆ คือ หลังจากนั้นผมก็สามารถทำบุญโมดูลได้สำเร็จภายในเดือนเศษ ๆ เท่านั้นเองครับ
ด้วยเหตุนี้ทำให้ผมเชื่อมั่นในสมาธิเป็นอย่างยิ่ง สมาธิช่วยได้ครับ
เรื่องยาก ๆ ก็กลายเป็นเรื่องง่าย ๆ สำหรับคนกินเงินเดือนอย่างผม
ผมขอเป็นพยานยืนยันว่า วิชชาธรรมกายนี้มีพลังเกินอธิบาย
และศูนย์กลางกายเป็นเครื่องนำมาซึ่งความสำเร็จจริง ๆ ครับ เมื่อทำบุญใหญ่สำเร็จ
เราก็มีความสุขมาก ๆ เชื่อมั่นในบุญและศรัทธา ในมหาปูชนียาจารย์ทุกท่าน
ผลของสมาธิที่ทำเป็นประจำทำให้ผมเปลี่ยนอุปนิสัยใจร้อน โมโหง่าย
กลายเป็นคนใจเย็น ฟังมาก นิ่งมากขึ้น ผมมีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูง
ผมก็นำเอาสมาธิเข้ามาช่วยจนสุขภาพของผมค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ
ครอบครัวของผมก็มีความสุขสบาย การเงินผมก็ดีขึ้นทุกปี จนผมทำบุญเป็นประธานรองกฐินตั้งแต่เข้าวัดปีแรกจนถึงปัจจุบันและทำบุญอื่น ๆ ได้อีกมาก บริษัทก็มีงานเข้ามามากมาย สามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างลุล่วง เช่น เจ้านายให้ผมเข้าไปติดต่อแก้ไขปัญหาของบริษัทส่วนตัว ๒ แห่ง ซึ่งปัญหาดังกล่าวเรื้อรังมา ๒
ปีกว่าแล้ว ไม่มีใครแก้ไขได้ แต่เมื่อผมเข้าไปจัดการก็สามารถแก้ไขสำเร็จผ่านไปได้ด้วยดีทั้ง ๒ สาย ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาทั้งหมดผมเริ่มต้นด้วยการนั่งสมาธิ
บางครั้งก่อนเข้าประชุม ผมจะนึกถึงองค์พระทุกครั้ง ขอบารมีพระธรรมกาย หลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยายช่วยผม แล้วสมองของผมก็จะแจ่มใส มีระบบการคิด การพูดที่ดีมาก คือ พูดจาชัดเจน คล่องแคล่ว มั่นใจ คิดงานออกง่าย ตัดสินใจงานได้เร็วขึ้น แก้ปัญหาได้ถูกต้อง หน้าที่การงานก็ดีขึ้น สิ่งนี้เองคือเหตุและผลจากการทำสมาธิ และการเห็นองค์พระ ทำให้ผมเชื่อมั่นอย่างปฏิเสธไม่ได้เลย เพราะเห็นถึงคุณค่าของการปฏิบัติธรรม ผมและเพื่อน ๆ ที่เป็นแกนนำจึงได้ร่วมกันก่อตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรม ชื่อว่า Dhammakaya Meditation Center ขึ้นที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ โดยมีคุณฮอน (Hon Beng Aun) เป็นประธานศูนย์ฯ และผมทำหน้าที่เป็นรองประธาน โดยเปิดศูนย์ฯ อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งปัจจุบันมีผู้สนใจมาปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
บางครั้งก่อนเข้าประชุม ผมจะนึกถึงองค์พระทุกครั้ง ขอบารมีพระธรรมกาย หลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยายช่วยผม แล้วสมองของผมก็จะแจ่มใส มีระบบการคิด การพูดที่ดีมาก คือ พูดจาชัดเจน คล่องแคล่ว มั่นใจ คิดงานออกง่าย ตัดสินใจงานได้เร็วขึ้น แก้ปัญหาได้ถูกต้อง หน้าที่การงานก็ดีขึ้น สิ่งนี้เองคือเหตุและผลจากการทำสมาธิ และการเห็นองค์พระ ทำให้ผมเชื่อมั่นอย่างปฏิเสธไม่ได้เลย เพราะเห็นถึงคุณค่าของการปฏิบัติธรรม ผมและเพื่อน ๆ ที่เป็นแกนนำจึงได้ร่วมกันก่อตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรม ชื่อว่า Dhammakaya Meditation Center ขึ้นที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ โดยมีคุณฮอน (Hon Beng Aun) เป็นประธานศูนย์ฯ และผมทำหน้าที่เป็นรองประธาน โดยเปิดศูนย์ฯ อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งปัจจุบันมีผู้สนใจมาปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
สำหรับกฐิน ๑๐๐ ปี คุณยายอาจารย์ฯ
ผมและครอบครัวก็ตั้งใจจะแทนคุณคุณยายท่านสุดกำลัง และต้องทำอย่างถูกหลักวิชชา คือ
เราทั้งครอบครัว ต้องนั่งสมาธิทุกวัน และผมก็นำเอาอาคาร ๑๐๐ ปี คุณยายอาจารย์ฯ
เข้ากลางกาย ให้เห็นใสเป็นแก้ว พร้อมทั้งอธิษฐานให้เราทั้ง ๒ เป็นประธานกองกฐิน
ฉลอง ๑๐๐ ปี คุณยายอาจารย์ฯ เป็นทองแผ่นเดียวกับหลวงพ่อให้สำเร็จครับ"
ความสำเร็จของชีวิตจักเกิดขึ้นอย่างง่าย ๆ
ถ้าใจของทุกคนหยุดนิ่งอยู่ที่แหล่งแห่งความสำเร็จ คือ ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
โดยเฉพาะกองกฐิน ๑๐๐ ปี คุณยายอาจารย์ฯ ถ้าใจของทุกคนรวมเป็นหนึ่งเดียว กับคุณยาย
เห็นคุณยายชัดใสที่ศูนย์กลางกายตลอดเวลา ไม่ว่าใครจะตั้งใจทำบุญกี่กองหรือกี่แผ่นทอง
ย่อมสำเร็จเป็นอัศจรรย์อย่างแน่นอน
เรื่อง : Son Backhome e-mail : garaboon_jdai@hotmail.com
สำเร็จทุกเรื่อง
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
22:56
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: