ตักบาตรพระและทอดกฐิน ณ แผ่นดินดอกบัว








แม้จะเป็นอำเภอเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี แต่บัดนี้อำเภอสองพี่น้องกลายเป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ที่มีการบำเพ็ญบุญกุศลที่ผู้คนมากมายหลั่งไหลมาจากทั่วโลก ไปร่วมตักบาตรพระกว่าหมื่นรูป เพื่อเฉลิมฉลองอนุสรณ์สถาน มหาวิหารพระมงคลเทพมุนี และทอดกฐินสามัคคี ณ วัดสองพี่น้อง เพื่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำหน้าวัด อันยังความปรารถนาของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำฯ ให้สำเร็จลงได้ ...อย่างเป็นอัศจรรย์

แผ่นดินนี้ไซร้..มิใช่ธรรมดา

ณ ผืนแผ่นดินที่ไม่ธรรมดาแห่งหนึ่งของอำเภอสองพี่น้อง นอกจากจะมีลักษณะเป็นรูปดอกบัว มีน้ำล้อมรอบเกือบทุกด้านแล้ว ยังถือว่าเป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นดินแดนบ้านเกิดของหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ที่ได้บันทึกภาพเหตุการณ์อดีตที่สำคัญอันควรแก่การรำลึกถึง ซึ่งถ้าหากย้อนหลังไปกว่า ๑๒๖ ปี เราคงจะเห็นภาพของกุลบุตรผู้เปี่ยมด้วยบุญบารมีอันมีนามว่า สด มีแก้วน้อย ได้ถือกำเนิดขึ้น เมื่อท่านเติบโตแล้ว แทนที่จะได้เที่ยวเตร่สนุกสนาน เหมือนวัยรุ่นที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ท่านต้องเข้ารับผิดชอบหน้าที่คุมเรือออกค้าข้าวแทนบิดาที่จากไปก่อนวัยอันควร และเราคงจะเห็นภาพของกุลบุตรท่านนี้ตัดสินใจออกบวชเข้าสู่เพศบรรพชิต ณ วัดสองพี่น้องที่อยู่ตรงข้ามบ้านตนเอง เมื่ออายุได้ ๒๒ ปี และนับตั้งแต่วันนั้น ท่านก็มุ่งศึกษาและฝึกฝนตนเอง ออกจาริกไปพำนักยังสำนักเรียนและวัดต่าง ๆ จนค้นพบการปฏิบัติที่สามารถเข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาได้ จนบัดนี้กุลบุตรท่านดังกล่าวกลายเป็นมหาปูชนียาจารย์ที่ผู้คนทั้งโลกและ ธาตุธรรมเคารพยกย่องว่า “ท่านคือพระผู้ปราบมาร” และปัจจุบันแผ่นดินแห่งนี้ได้เกิดเหตุการณ์แห่งประวัติศาสตร์ ที่มีการตักบาตรพระกว่าหมื่นรูปและมีผู้คนมากมายจากทั่วทุกสารทิศเดินทางไปแสวงบุญ

ตักบาตรพระกว่าหนึ่งหมื่น
บนผืนแผ่นดินดอกบัว

เช้ามืดของวันเสาร์ที่ ๓๐ ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้คนมากมายหลายหมื่นชีวิตจากทั่วทุกสารทิศทั้งในและต่างประเทศ ต่างไปพร้อมเพรียงกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ณ แผ่นดินดอกบัวแห่งนี้ ทุกคนมุ่งไปเอาบุญใหญ่ด้วยการตักบาตรพระกว่า ๑๑,๑๒๖ รูป บนพื้นที่อันเป็นแผ่นดินบ้านเกิดของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ (สด จนฺทสโร) เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของการสถาปนาอนุสรณ์สถาน มหาวิหารพระมงคลเทพมุนี ด้วยบรรยากาศที่มีแดดร่มลมตกและเย็นใจเย็นกายด้วยสายลมต้นฤดูหนาว ท่ามกลางดอกเฟื่องฟ้าที่กำลังออกดอกบานสะพรั่ง และที่สำคัญอย่างยิ่ง นอกจากจะมีพระภิกษุมาเป็นเนื้อนาบุญถึงกว่าหมื่นรูปแล้ว ยังได้รับความเมตตาจากพระมหาเถรานุเถระผู้มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดถึง ๖ จังหวัด ได้แก่ พระเทพสุวรรณโมลี (หลวงพ่อสะอิ้ง) เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ทำหน้าที่เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และได้รับความเมตตาจากพระธรรมปิฎก เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทฯ เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี พระเทพวรเวที เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระราชรัตนมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม พระราชปริยัติสุธี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี พระราชกิตติเมธี เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี และพระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทัตตชีโว) รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นต้น






ดอกเฟื่องฟ้าบานสะพรั่ง
บุญไหลหลั่งทั่วลานธรรม

พิธีกรรมเริ่มขึ้นด้วยจากการจุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัย แล้วกล่าวแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ต่อจากนั้นเป็นการกล่าวถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน กล่าวถวายปัจจัยสี่และไทยธรรมแด่คณะสงฆ์ และกล่าวคำอธิษฐานจิต จนพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์สำเร็จเรียบร้อยด้วยดี จากนั้นคณะสงฆ์อันประกอบด้วยพระมหาเถรานุเถระดังกล่าว ได้เมตตานำแถวพระภิกษุสงฆ์กว่าหมื่นรูป รับอาหารบิณฑบาตจากมหาชน ที่พร้อมเพรียงกันด้วยศรัทธาอย่างเนืองแน่น ซึ่งบริเวณพื้นที่ที่เป็นลานจัดงาน นอกจากจะงดงามด้วยดอกเฟื่องฟ้าที่กำลังบานสะพรั่งแล้ว ในจิตใจของผู้ไปร่วมงานทั้งหลาย ล้วนอิ่มเอิบเบิกบานและปลื้มปีติด้วยการทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ ณ แผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ และที่น่าปลาบปลื้มคือการจัดงานครั้งนี้ ดำเนินไปด้วยดีด้วยกำลังของอาสาสมัคร นักเรียน นักศึกษา ผู้ล้วนแล้วแต่เป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่กำลังจะเป็นผู้นำในการฟื้นฟูศีลธรรมโลก พวกเขาได้แสดงให้เห็นถึงความสนุกสนานเบิกบาน จากการไปร่วมเป็นเจ้าหน้าที่จัดงาน ที่ถือเป็นบุญบันเทิงที่มีค่า ที่หาใช่ว่าความสนุกสนานบันเทิงนั้นเกิดจากการไปชมคอนเสิร์ต การละเล่น หรือมีการประลองความเร็วของยานพาหนะที่เสี่ยงต่อชีวิตและความเสียหายของทรัพย์สินแต่อย่างใด



ทอดกฐินสามัคคี
สร้างเขื่อนหน้าวัดด้วยศรัทธา

หลังจากร่วมตักบาตรพระเสร็จเรียบร้อยแล้ว คลื่นมหาชนต่างก็หลั่งไหลไปที่วัดสองพี่น้อง ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลนัก ผู้คนและชาวบ้านคนเก่าแก่ในพื้นที่ต่างตื่นเต้นและตื่นตาตื่นใจ ที่ไม่เคยมีงานทอดกฐินครั้งใดยิ่งใหญ่และอลังการเท่ากับงานทอดกฐินครั้งนี้ และแม้จะมีการจัดพิธีถวายผ้ากฐิน ณ อาคารเปิดโล่งของวัดสองพี่น้อง แต่ก็มีผู้มีบุญที่แต่งกายด้วยชุดขาว มานั่งพร้อมเพรียงกันอย่างสงบ และร่วมถวายกฐินสามัคคีด้วยจิตศรัทธา ด้วยความปลื้มปีติที่สามารถรวมพลังยังความปรารถนาของพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ ซึ่งท่านพระครูสิริวัฒนวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดสองพี่น้อง เล่าว่า วัดสองพี่น้องแห่งนี้ เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก นอกจากน้ำจะไหลผ่านอย่างเชี่ยวกรากแล้ว ยังเซาะทะลายเอาดินรอบวัดติดไปด้วย จนประมาณว่าเนื้อที่ของวัดถูกน้ำกัดเซาะหายไปกว่า ๓ ไร่ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว เจ้าอาวาสวัดสองพี่น้องยังกล่าวว่า พระเดชพระคุณหลวงปู่เคยปรารภ ไว้ในอดีตว่าอยากจะสร้างเขื่อนเพื่อกั้นน้ำและป้องกันดินที่จะถูกน้ำกัดเซาะรอบวัดสองพี่น้อง และบัดนี้สิ่งที่ท่านปรารถนาและปรารภเอาไว้ได้สำเร็จลงด้วยพลังแห่งศรัทธา โดยการนำของหลวงพ่อธัมมชโย หลังจากถวายผ้ากฐินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหล่าสาธุชนผู้ใจบุญก็ร่วมกันถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน และทยอยกันเดินทางกลับด้วยใบหน้าที่อิ่มเอิบด้วยบุญ มุ่งสู่เคหสถานของตนโดยสวัสดิภาพ






ความทรงจำอันล้ำค่า
มิอาจร้างราไปจากใจ

การจัดงานตักบาตรที่มีพระภิกษุสงฆ์จำนวน ๑๑,๑๒๖ รูปในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของจังหวัดสุพรรณบุรี และถือว่าเป็นกิจกรรมอันสำคัญอย่างยิ่งบนแผ่นดินรูปดอกบัวอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ และเชื่อว่าด้วยอานุภาพแห่งบุญกุศลในครั้งนี้ ..ย่อมจะส่งผลให้เกิดความสงบร่มเย็นแก่ประเทศชาติบ้านเมืองและแผ่ขยายสู่สังคมชาวโลกอีกกว้างไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานครั้งนี้ยังถือว่าเป็นต้นบุญต้นแบบอันดีงามที่อนุชนรุ่นหลังจะได้ประพฤติปฏิบัติตาม ซึ่งถือว่าเป็นการสืบต่อประเพณีอันดีงามและสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนยาวนานต่อไป และแม้วันเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด แต่ภาพแห่งความดีก็ถูกบันทึกไว้บนผืนแผ่นดินแห่งนี้ แผ่นดินที่เป็นจุดสำคัญแห่งการแผ่ขยายพระอริยสัจธรรมแห่งพระพุทธศาสนา ..และถือเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานบนเส้นทางแห่งมหาปูชนียาจารย์ ที่ในอนาคตจะมีผู้มีบุญหลั่งไหลไปแสวงบุญและรำลึกถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่ ผู้ค้นพบการปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงธรรมกายแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจะเป็นการจรรโลงและสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยาวนานต่อไปตราบสิ้นกาลนาน ...





Cr. จันทร์  ซีโร่
วารสารอยู่ในบุญ  ฉบับที่ ๙๗  เดือนพฤศจิกายน  พ.ศ. ๒๕๕๓
ตักบาตรพระและทอดกฐิน ณ แผ่นดินดอกบัว ตักบาตรพระและทอดกฐิน  ณ แผ่นดินดอกบัว Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 01:57 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.