เครื่องดับเพลิงใจ


เพลิงร้อนเผาเรือนชานจนมอดไหม้ เพลิงอารมณ์เผาเรือนใจจนมอดม้วย และ 'คนใจร้อนมักตายไว!'

นี่มิใช่คำขู่ แต่ยืนยันด้วยหลักทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ระบุว่า คนที่ใจร้อนหรือคนเลือดเดือด รังสีแห่งอัคคีในอารมณ์จะทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ ระบบการทำงานต่างๆ ในร่างกายจะปรวนแปร เป็นปัจจัยให้เกิดโรคร้ายต่างๆ อีกทั้งยังทำให้แก่เร็วและอายุสั้น ส่วนคนที่จิตใจเยือกเย็นหนักแน่น มีความเมตตาปรานีจนเป็นนิสัย หัวใจก็เต้นเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอ สภาพร่างกายเป็นปกติไม่วูบวาบ ทำให้อายุยืน ดังนั้นคนที่ไม่อยากอายุสั้น พึงรีบดับเพลิงในใจ

มีไหมเครื่องดับเพลิงที่ว่า คำตอบคือ "มี"

คุณรัตติกาล สโกว์ จากประเทศเดนมาร์ก คือหนึ่งในผู้ใช้เครื่องมือดับเพลิงใจอย่างได้ผลยืนยัน

คุณรัตติกาล มีชื่อเป็นไทย เพราะเธอเป็นคนไทย บ้านเกิดอยู่จังหวัดเพชรบูรณ์ แต่ย้ายมาอยู่เดนมาร์กกว่า ๒๐ ปีเต็ม เธอเล่าว่า "ดิฉันจะเป็นคนที่หงุดหงิดง่ายและใจร้อน เวลาโมโหจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ ถ้าอารมณ์เดือดขึ้นมา ก็จะด่าไม่ยั้งชนิดที่ว่า อย่าเดินเข้ามาในจังหวะที่โมโห ไม่ว่าคุณจะเป็นใครฉันด่าไม่เลี้ยง เช่น วันหนึ่งดิฉันบอกให้สามีอบพิซซ่าให้ลูกๆ แต่พอกลับจากทำงาน ลูกสาวบอกว่า พิซซ่าไหม้และไม่สุก พอได้ยินเท่านั้นเอง ความโกรธลุกเป็นไฟประหนึ่งจะเผาได้ทั้งครัว พูดกับสามีแบบประชดประชันแล้วก็ขว้างพิซซ่าทิ้ง แต่พิซซ่าไปชนราวขึงผ้า แล้วก็กระเด็นกลับมาที่ตัว เลอะไปหมด สักพักพอหายซ่า สามีก็บอกว่า "นี่เธอ..เพราะความโกรธของเธอ ทำให้พิซซ่าก็ไม่ได้ทานแถมผลจากความโกรธยังย้อนกลับทำให้เสื้อผ้าเธอเปื้อนอีกต่างหาก" ทำให้ดิฉันนึกได้ว่ามันก็จริงอย่างที่เขาพูดนะ"

ปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ก็ถึงวันแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของผู้หญิงอารมณ์ร้อนคนนี้

"วันนั้นเป็นอาทิตย์ต้นเดือนค่ะ ดิฉันทำอาหารมาเลี้ยงพระและสาธุชนที่วัดพุทธเดนมาร์ก วันนั้นมีเพื่อนกัลยาณมิตรชื่อบุญล้อม เธอได้แนะนำเรื่องการทำบุญว่ามีอานิสงส์อะไรบ้าง และการทำบุญไม่ใช่แค่การทำทานเท่านั้น การรักษาศีล และเจริญภาวนาก็เป็นบุญด้วย เหนือสิ่งอื่นใด ในวันนั้น ทางวัดได้เปิด MV ชุด UNSEEN ให้ดู ซึ่งเป็นกิจวัตรการทำงานของหลวงพ่อธัมมชโย ดิฉันได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบถึงกับร้องไห้ ปลื้มและตื้นตันใจว่า หลวงพ่อท่านต้องทำงานหนักขนาดนี้เพื่อสอนธรรมะแก่คนทั้งโลก หลังจากนั้นจึงได้ไปจูนคลื่นทีวีหาช่อง DMC เพื่อฟังธรรมะที่หลวงพ่อท่านสอน และได้เริ่มปฏิบัติธรรม

ตอนที่ปฏิบัติธรรมครั้งแรกก็มืดตื้อมืดมิด ไม่เห็นอะไรเลย แต่ใจก็สงบนะคะ วันต่อมาได้รับรูปพระเดชพระคุณหลวงปู่ จากการร่วมบุญถวายที่ดินสร้างวัดพุทธเดนมาร์ก พอได้นั่งสมาธิต่อหน้ารูปหลวงปู่ ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นค่ะ ตอนนั้นดิฉันก็เพียงนั่งนิ่งๆ เฉยๆ ไม่ได้นึกอะไร ปล่อยใจว่างๆ หยุดความคิดทุกอย่าง แล้วก็พบแสงสว่างที่นวลตาปรากฏขึ้น แสงที่เห็นนั้นสว่างอยู่ตรงใบหน้า จากนั้นก็เคลื่อนย้ายลงมาที่กลางท้อง มีความรู้สึกว่าตัวลอย ไม่ติดอาสนะ เบาหวิวไปทั้งตัว มีความสุขมากๆ ในชีวิตไม่เคยเห็นแสงสว่างที่บริสุทธิ์และสบายตาขนาดนี้มาก่อนเลย

จากนั้นดิฉันก็นั่งสมาธิทุกวัน ยิ่งนั่งก็ยิ่งสว่าง มีดวงแก้วผุดซ้อนขึ้นมาเรื่อยๆ อยากจะหยุดดวงแก้วไว้ที่กลางท้อง แต่ไม่รู้จะหยุดได้อย่างไร ความรู้สึกเหมือนตัวของเราหายไป ไม่มีตัวตนในโลกนี้ มีแต่ความสบาย พอลืมตาขึ้นมา น้ำตาไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ บางครั้งเห็นพระพุทธรูปผุดขึ้นมาให้เห็นที่ศูนย์กลางกาย นั่งทุกครั้งก็ขนลุกขนพอง เหมือนมีมวลของความสุขเข้าไปอยู่ทุกอณูขุมขน ยิ่งนั่งก็ยิ่งสบาย

พอได้นั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอก็ทำให้รู้สึกสบายใจ ใจเย็น อารมณ์เย็น ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ เปลี่ยนแปลงตัวเองไปได้อย่างมาก จนเพื่อนร่วมงานยังถามเลยว่า "รัตติกาล เธอไม่สบายหรือ" ตอนแรก ดิฉันก็ไม่เข้าใจคำถาม ภายหลังก็นึกได้ว่า คงเพราะตัวเองอารมณ์เย็น ไม่ขี้หงุดหงิด ใช้เหตุผลมากขึ้นแถมยังพูดจาไพเราะขึ้นอีก เพื่อนก็เลยถามเชิงหยอกเย้ามาอย่างนี้"

ผลพวงจากการที่คุณรัตติกาลได้เข้าวัดนั่งสมาธิ จนเปลี่ยนแปลงตัวเองจากคนเลือดร้อนเป็นนางฟ้าอารมณ์เย็น อุณหภูมิความเย็นดังกล่าวยังส่งผลดีไปยังบุคคลในครอบครัวอีกด้วย

"ดิฉันมีลูกสาวคนเล็กชื่อ น้องแอนเน็ต อายุ ๘ ขวบ ซึ่งเธอก็ตามมาวัดด้วยทุกครั้ง นั่งสมาธิด้วยกันทุกวันและกราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ก่อนนอนทุกคืน เวลาน้องแอนเน็ตมาวัด ได้ถวายภัตตาหาร และนั่งสมาธิ เธอจะรู้สึกว่า เธอได้บุญเยอะ และเธอยังได้ดูวีซีดีนรก-สวรรค์จากที่วัดด้วย พอไปโรงเรียน ก็นำความรู้ต่างๆ ไปเล่าให้เพื่อนฟังว่า บุญ-บาป นรกกับสวรรค์มีจริงๆ นะ แล้วอย่าไปฆ่าสัตว์ ห้ามโกหก และห้ามตีพ่อแม่เดี๋ยวจะเป็นเปรต เธอสอนให้เพื่อนรู้จักการแบ่งปัน แถมยังแนะนำเพื่อนว่า ถ้าพวกเธอไม่สบายใจให้ลองนั่งหลับตาเฉยๆ ไม่ต้องคิด ไม่ต้องพูดอะไร ลองดูสัก ๕-๑๐ นาทีก็ได้ แล้วเธอจะเปลี่ยนไปเป็นอีกคน พอเพื่อนๆ ได้ลองทำก็มาบอกว่า ฉันอารมณ์เย็นขึ้นและความโกรธก็หายไป ทำให้เพื่อนของเธออยากตามมาที่วัดกันทั้งห้องเลย หนูแอนเน็ตก็นั่งสมาธิเห็นแสงสว่างและบ่อน้ำใสๆ ที่กลางตัว วันต่อมาเห็นเป็นสระน้ำและดอกบัว วันต่อมาเห็นลูกแก้วใสในดอกบัว และอีกวันต่อมา ก็เห็นองค์พระและมีลูกแก้วอยู่ในมือของท่านด้วย มีอยู่วันหนึ่ง หลังจากสวดมนต์ทำวัตรเย็น เธอนั่งสมาธิร่วมกับผู้ใหญ่ น้องแอนเน็ตนั่งได้เป็นชั่วโมง เห็นองค์พระสีทอง จากองค์เล็กๆ ก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนมีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าวัด น้องแอนเน็ตบอกว่ามีความสุขความสบายเหมือนได้พักผ่อน หลังจากนั่งแล้วยังได้ความสบายมากกว่าเดิมอีกด้วย และการเปลี่ยนแปลงของน้องแอนเน็ต คือ กิริยามารยาทอ่อนน้อมมากขึ้น คอยถามคุณแม่ตลอดว่า คุณแม่เหนื่อยไหมคะ มีอะไรให้หนูช่วยหรือเปล่า สมาธิทำให้ครอบครัวของเรามีความสุขขึ้น

มนุษย์มี "ใจ" เป็นธาตุสำเร็จ ถ้าใจดวงนี้เร่าร้อน ผลสัมฤทธิ์ที่เกิดกับชีวิตก็รุ่มร้อน ลุกลาม ก่อความสูญเสียอย่างคาดไม่ถึง ดังนั้นผู้เจริญทั้งหลาย จึงมีหลักในการดำเนินชีวิตที่ว่า "หยุดให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้" ไม่ปล่อยให้ใจร้อนรุ่ม ลนลานจนเสียการเสียกิจ หรือเสียชีวิตก่อนวัย อันควร หากรู้สึกว่า เพลิงอารมณ์เริ่มเผาผลาญหัวใจ มีวิธีการง่ายๆ ที่จะดับเพลิงร้ายนั้น คือ "นั่งสมาธิ หลับตาเบาๆ ผ่อนคลายสบาย วางใจนิ่งๆ ที่ศูนย์กลางกาย ทิ้งทุกอย่าง วางทุกสิ่ง นิ่งอย่างเดียว เดี๋ยวดีเอง"

เรื่อง : Son Backhome  e-mail : garaboon_jdai@hotmail.com
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๗๕ ประจำเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒
เครื่องดับเพลิงใจ เครื่องดับเพลิงใจ Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 01:38 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.