ธุดงค์ธรรมชัย เดินไปแผ่ความสุข

หลังจากฝึกฝนอบรมตนเองมาตลอดทั้งพรรษา พระธรรมทายาท รุ่นเข้าพรรษา ๑๐๐,๐๐๐ รูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย ก็ได้ออกเดินธุดงค์เพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนา พัฒนาวัดร้างในเส้นทางที่ดำเนินผ่านไป

ทุกย่างก้าวของการจาริกธุดงค์ของท่าน แม้จะผ่านเส้นทางที่ลำบาก ท่ามกลางแดดผ่าวและก้าวเดินไปบนกรวดที่แหลมคม แต่ความลำบากของระยะทางก็ไม่ได้ทำให้ท่านท้อถอยแต่อย่างใดเลย ที่สำคัญการเดินธุดงค์ครั้งนี้ได้มีพระเถรานุเถระ เจ้าคณะชั้นปกครองหลายรูปเมตตาเดินนำหน้าพาธุดงค์ เป็นขวัญกำลังใจให้แก่พุทธบุตรธรรมทายาทเป็นอย่างยิ่ง

เริ่มที่จังหวัดสระบุรี นำโดยพระธรรมปิฎก เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี ท่านเห็นถึงความสำคัญในการที่พระธรรมทายาทจะได้ออกเดินธุดงค์เพื่อไปพัฒนาวัดร้าง จึงได้เมตตามาเป็นขวัญและกำลังใจให้พระลูกพระหลานในการเดินธุดงค์ครั้งนี้

พระธรรมปิฎก

จังหวัดที่ ๒ คือ จังหวัดสุพรรณบุรี นำโดยพระเทพสุวรรณโมลี (หลวงพ่อสอิ้ง) เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี โดยเริ่มเดินธุดงค์ในวันที่ ๘ พฤศจิกายน เริ่มต้นที่วัดป่าเลไลยก์ มุ่งหน้าสู่วัดโพธิ์คอย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ระยะทางประมาณ ๑๐ กิโลเมตร ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นอดีตวัดรุ่ง แต่ปัจจุบันมีพระประจำวัดเพียง ๒ รูป และเจ้าอาวาสกำลังอาพาธหนัก ธรรมทายาทที่เดินธุดงค์มาอยู่พัฒนาวัดนี้เป็นเวลา ๒ วัน วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ เดินธุดงค์ไปตามเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ มุ่งสู่วัดน้อย (วัดหลวงพ่อเนียม) เพื่อไปกราบนมัสการหลวงพ่อเนียม จากนั้นธุดงค์ต่อไปอีกประมาณ ๑๐ กิโลเมตร มุ่งสู่วัดสุขเกษม อ.บางปลาม้า เพื่อพัฒนาวัดและจัดกิจกรรมในชุมชนเป็นเวลา ๒ วัน วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ ธุดงค์ต่อไปยังวัดสองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง และได้จัดกิจกรรมรวมใจ ณ แผ่นดินเกิดของพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) แล้วจึงสิ้นสุดการเดินธุดงค์

พระเทพสุวรรณโมลี

พระธรรมฐิติญาณ เจ้าคณะภาค ๑๐ และพระราชธรรมโสภณ เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด เมตตานำพระธรรมทายาทเดินธุดงค์ธรรมชัย ในวันที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยเริ่มเดินจากบึงพลาญชัย อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ผ่านประตูสาเกต มุ่งไปยังวัดบ้านเปือย อ.เมือง ระยะทางกว่า ๓ กิโลเมตร โดยพระธรรมทายาทจะได้พร้อมใจกันพัฒนาวัด และพักค้าง ๑ คืน ก่อนจะเดินธุดงค์ไปพัฒนาวัดอื่น ๆ ในวันต่อไป

พระธรรมฐิติญาณ

จังหวัดลพบุรี พระราชปริยัติสุธี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ได้เมตตานำพระธรรมทายาทออกเดินธุดงค์ธรรมชัย จากวงเวียนพระนารายณ์สู่วัดเขาพระงาม มีจุดหมายปลายทางที่สำนักสงฆ์บวรบรรพต รวมระยะทาง ๑๖ กิโลเมตร

พระราชปริยัติสุธี

ส่วนที่จังหวัดมหาสารคามนำโดยพระราชปริยัตยาทร รองเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม ตัวแทนพระเทพสารคามมุนี เจ้าคณะจังหวัด ซึ่งท่านได้เมตตานำเดินธุดงค์ เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยเริ่มต้นที่วัดป่าสงเคราะห์คนชรา อ.เมือง จ.มหาสารคาม มุ่งหน้าสู่วัดหนองบัว อ.แกดำ เป็นระยะทางกว่า ๑๕ กิโลเมตร เมื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง คณะพระธรรมทายาทได้ช่วยกันพัฒนาวัดให้สว่างไสวเป็นเวลา ๒ วัน แล้วจึงธุดงค์ไปพัฒนาวัดอื่น ๆ ต่อไป

ส่วนที่จังหวัดลำพูน พระราชปัญญาโมลี เจ้าคณะจังหวัดลำพูน เมตตานำพระธรรมทายาทเดินธุดงค์ธรรมชัย เมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ และในวันเดียวกันนี้ ยังมีพระธรรมคุณาภรณ์ เจ้าคณะภาค ๑๔ เมตตานำพระธรรมทายาทเดินธุดงค์ธรรมชัยอีกด้วย

พระราชปัญญาโมลี   เจ้าคณะจังหวัดลำพูน
เมตตานำพระธรรมทายาทเดินธุดงค์ธรรมชัย

สำหรับการเดินธุดงค์ที่จังหวัดสระบุรีนั้น พระธรรมปิฎก เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นประธานนำพระธรรมทายาทผู้ออกเดินธุดงค์ธรรมชัย ท่านบอกว่า "ธุดงค์ธรรมชัยเป็นการซ้อมเดินธุดงค์ครั้งที่ ๑ในเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ และเป็นการเดินธุดงค์ครั้งแรกในชีวิตของอาตมาเลย" เพราะในสมัยหนุ่มท่านมุ่งศึกษาธรรมะอย่างเอาจริงเอาจัง จนแตกฉาน สอบผ่านประโยค ๙ จบแล้วก็ไปเป็นพระอาจารย์สอน ไม่มีเวลาจะเดินธุดงค์ไปไหนเลย ครั้งนี้ท่านจึงมุ่งมั่นตั้งใจมากเป็นพิเศษ ก่อนออกเดินท่านได้บอกกับอุปัฏฐากว่า  "ไม่ต้องขับรถตาม ให้ไปรอรับอาตมาที่ปลายทางได้เลย"

การเดินธุดงค์ในครั้งนี้ ท่านกำหนดให้เดินไปยังเส้นทางที่ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อที่พระธุดงค์จะได้เป็นขวัญกำลังใจ และเป็นเนื้อนาบุญแก่ญาติโยมที่ประสบภัย ให้พวกเขาได้ทำบุญใหญ่ และเพื่อช่วยกันพัฒนาวัดที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ตลอดเส้นทางชาวบ้านพากันมารอรับท่านเจ้าคณะจังหวัดและพระธรรมทายาทกันอย่างล้นหลาม อุ้มลูกจูงหลานมานั่งคุกเข่ารอกันตั้งแต่ตี ๕ ผู้ใหญ่บางคนยืนน้ำตาคลอ บอกว่าอายุ ๖๐ กว่าปีแล้ว ยังไม่เคยเห็นพระธุดงค์มากมายขนาดนี้มาก่อน ทั้งยังเดินกันด้วยความสงบสำรวม เมืองทั้งเมืองจึงดูสว่างไสวไปหมด อีกทั้งยังมีเด็ก ๆ และชาวบ้านมารอล้างเท้าพระธุดงค์กันเป็นจำนวนมาก แม้ชีวิตจะผจญอยู่ท่ามกลางวิกฤตภัยธรรมชาติ แต่ชาวบ้านกลับนำสิ่งที่ดีที่สุดมาจัดเตรียมเป็นภัตตาหาร ถวายทานด้วยความศรัทธา พระเดชพระคุณท่านได้กล่าวสัมโมทนียกถา ให้ศีล ให้พร และแนะนำให้สาธุชนทั้งหลายมาเอาบุญใหญ่ เพื่อแก้ไขปัญหาโลกวิกฤต ด้วยการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ๑ ล้านคน

ส่วนที่จังหวัดลพบุรีนั้น ถือเป็นการเปิดบันทึกประวัติศาสตร์การสร้างบารมีที่โลกต้องจารึกเป็นตำนาน เมื่อพระราชปริยัติสุธี หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ประกาศชัยชนะเหนือความเสื่อมของสังขาร นำทหารใหม่แห่งกองทัพธรรม ออกประกาศธรรมขององค์พระชินสีห์ไปทั่วพื้นที่จ.ลพบุรีได้อย่างสมบูรณ์ ท่านได้เมตตานำพระธรรมทายาทในโครงการบวชพระแสนรูป ออกเดินธุดงค์ธรรมชัย จากวงเวียนพระนารายณ์สู่วัดเขาพระงาม มีจุดหมายปลายทางที่สำนักสงฆ์บวรบรรพต แม้ขณะนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อจะมีอายุสังขารถึง ๗๑ ปีแล้ว แต่นั่นก็มิใช่อุปสรรค ท่านสวมหัวใจนักรบที่ยิ่งใหญ่ ก้าวเดินด้วยความองอาจสง่างาม รอยยิ้มปรากฏฉายบนใบหน้า อยู่เป็นขวัญกำลังใจให้กับพระธรรมทายาทตลอดเส้นทาง การเดินธุดงค์ครั้งประวัติศาสตร์นี้ มีญาติโยมสาธุชนมารอต้อนรับพระเดชพระคุณหลวงพ่อและพระธุดงค์กันอย่างเนืองแน่น พากันอุ้มลูกจูงหลานออกมากราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และพระธุดงค์ด้วยความปลื้มจนน้ำตาไหล เพราะไม่เคยเห็นพระธุดงค์จำนวนมากเช่นนี้มาก่อน บางคนถึงกับรำพึงออกมาว่า "พระเดินสวยจังเลย"

ช่วงบ่ายเป็นการเดินธุดงค์ท่ามกลางแสงแดดแผดกล้า แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นดั่งธงชัย เป็นผู้นำพระธรรมทายาทก้าวเดินไปท่ามกลางเปลวแดดที่ร้อนระอุ และยังคงเป็นจอมทัพนำเดินตลอดเส้นทางถึงเป้าหมายรวมระยะทางกว่า ๑๖ กิโลเมตร พระราชปริยัติสุธีได้กล่าวเปิดใจว่า  “ดีใจมากที่สุดที่ได้มาเดินนำพระโครงการบวช ๑๐๐,๐๐๐ รูป รู้สึกปลื้มใจกับการเดินในวันนี้ อยากทดสอบตัวเองว่าอายุก็มากแล้ว สังขารร่างกายไม่อำนวย จะเดินขึ้นที่สูงก็ไม่ได้ เหนื่อย.. วันนี้ตั้งใจจะเดินแค่ ๑๐๐ เมตรก็จะพอแล้ว เพราะร่างกายไม่ไหว แต่เมื่อเริ่มเดินรู้สึกอาการดีขึ้น อาการเมื่อยก็ไม่มี เดินได้เรื่อย ๆ เป็นสิ่งที่ภูมิใจและดีใจมาก ๆ กลับไปคืนนี้จะเขียนเป็นคติประจำตัวว่า

"ชิตังเม เราชนะแล้ว ชนะด้วยการฝึกตัวเราเอง ด้วยการปฏิบัติ เป็นสิ่งที่เราภูมิใจ ได้ชื่อว่าเป็นหลักของพระศาสนา อย่างน้อยก็เป็นแบบอย่างให้พระรุ่นหลัง ๆ ปลื้ม ที่เราได้ทำกิจของสงฆ์ได้อย่างบริบูรณ์ ในชีวิตได้บวชเป็นพระ และเป็นผู้นำของจังหวัด ได้ทำอย่างนี้ชื่อว่าสอนพระสอนเณรด้วยการปฏิบัติ การทำให้ดูก็คือทำอย่างนี้ รู้สึกว่าดีใจ ..หายเหนื่อย"

ท่านยังได้กล่าวถึงโครงการบวชพระแสนรูปด้วยว่า

"พระราชภาวนาวิสุทธิ์ท่านมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ท่านได้จัดโครงการบวชพระ ๑๐๐,๐๐๐ รูป และจัดให้มีการเดินธุดงค์ นับว่าเป็นการสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นในหมู่พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ตรงเป้าที่คิดอยากจะพัฒนาทำวัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง ได้พระมาบวชแล้วก็มีพระมาอยู่ปฏิบัติ ช่วยกันรักษาพระศาสนา เป็นการคิดริเริ่มที่ดีมาก ขออนุโมทนาให้หลวงพ่อธัมมชโยหายทุกข์ หายโศก ให้มีกำลัง ให้มีอายุมั่นขวัญยืน จะได้เป็นกำลังใจแก่ลูกศิษย์ทั้งหลายสืบไป"

นอกจากในประเทศไทยแล้ว แม้ในต่างประเทศ คือ ที่วัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้จัดโครงการอุปสมบทหมู่ธรรมทายาท รุ่นบูชาธรรมพระภาวนาวิริยคุณ ในวาระครบ ๗๐ ปี และอนุโมทนากฐินคุณยายอาจารย์ฯ ปี ๒๕๕๓

การอุปสมบทหมู่ในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมโครงการถึง ๕๖ ท่าน ทำให้เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญครั้งแรกของโลกในสหรัฐอเมริกา นั่นก็คือ การเดินธุดงค์ธรรมชัยบนเส้นทางสัญจรสายสำคัญของเมืองอะซูซ่า ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวท้องถิ่นเป็นอย่างมาก และทำให้เกิดคำถามแก่ผู้คนมากมายว่า ท่านจะเดินไปไหน? ทำไมท่านไม่นั่งรถ? รองเท้า ท่านหายไปไหน? ท่านไว้ผมทรงอะไร? ชุดที่ท่านใส่นั้นเป็นสไตล์ไหน? ท่านแบกอะไรไปด้วย? ท่านอุ้มลูกอะไรอยู่ (บาตร)? ซึ่งทุกคำถามก็เป็นทางนำมาสู่การทำหน้าที่กัลยาณมิตรในการอธิบายขยายความ และยังเป็นโอกาสที่จะมอบสื่อธรรมะ เชิญชวนให้ชาวท้องถิ่นเข้ามาศึกษาและร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา

กล่าวได้ว่า การเดินธุดงค์ธรรมชัยในครั้งนี้ถือเป็นก้าวแห่งแสงสว่าง และเป็นการก้าวเดินอันนำไปซึ่งความสุข ความเบิกบานในชีวิตแก่ผู้คนทั้งหลาย เป็นนิมิตรหมายอันดีว่า ตราบใดที่พุทธบุตรและพุทธบริษัท ๔ ผู้ทำหน้าที่เป็นแสงสว่างให้แก่โลกยังไม่หยุดเดินทาง หรือยังไม่หยุดทำหน้าที่ ตราบนั้น ต้นกล้าแห่งสันติสุขอันแท้จริงจะถูกหว่านโปรยลงในใจของผู้คนทั่วทั้งโลก แล้ววันนั้นโลกจะถึงยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง เป็นโลกใบใหม่ที่เต็มเปี่ยมด้วยสันติสุขและสันติภาพอย่างแท้จริง

Cr. ธัมม์  วิชชา

วารสารอยู่ในบุญ  ฉบับที่ ๙๘  เดือนธันวาคม  พ.ศ. ๒๕๕๓