ทำไมเวลาทำบุญต้องกรวดน้ำ
ทำไมเวลาทำบุญต้องกรวดน้ำ
คำถาม
ทำไมเวลาทำบุญต้องกรวดน้ำ
ธรรมเนียมการกรวดน้ำมีที่มาที่ไปอย่างไร ถ้าลืมกรวดน้ำจะมีผลอย่างไรบ้าง?
คำตอบ
ประเพณีกรวดน้ำเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยพุทธกาล
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนพระเจ้าพิมพิสาร ผู้สร้างวัดแรกในพระพุทธศาสนา
ให้กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้กับญาติในอดีตชาติ ที่ละโลกแล้ว ไปเกิดเป็นเปรต
และมารอรับส่วนบุญอยู่นานเป็นพุทธันดร
แต่เนื่องจากพระเจ้าพิมพิสารระลึกชาติไม่ได้
จึงไม่ทรงทราบว่าญาติของพระองค์ในอดีตชาติ ไปเกิดเป็นเปรต และไม่ทรงทราบว่า
เขามารอรับส่วนบุญส่วนกุศลอยู่นานเป็นพุทธันดรแล้ว
เพราะฉะนั้นเวลาพระองค์ทำบุญก็เลยไม่ได้อุทิศส่วนกุศลให้ ญาติที่เป็นเปรตก็เลยยังเป็นเปรตต่อไป
ญาติเหล่านั้นเป็นทุกข์หนัก ก็เลยปรากฏตัวให้เห็นว่า
ตัวเองเป็นเปรต ส่งเสียงร้องโหยหวนอยู่ในวัง พระเจ้าพิมพิสารทรงเห็นเข้า
ก็รีบเสด็จไปกราบทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ทำไมมีเปรตมาร้องลั่นอยู่เต็มวัง
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เลยทรงเล่าเรื่องหนหลังให้ฟังว่า
เปรตเหล่านี้คือญาติในอดีตชาติของพระเจ้าพิมพิสาร
ในอดีตชาติพระเจ้าพิมพิสารทำบุญทำทาน ตั้งโรงทานเลี้ยงพระ เลี้ยงมหาชน
แต่ว่าญาติเหล่านี้ไม่มีกุศลศรัทธา
เลยยักยอกเอาของที่จะถวายสงฆ์ไปใช้ไปกินเป็นของตัว
ละโลกไปแล้วเลยต้องไปเกิดเป็นเปรต
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแนะนำให้พระเจ้าพิมพิสารทำบุญเลี้ยงพระ
แล้วกรวดน้ำอุทิศบุญ ส่งให้กับเปรตเหล่านั้น
พวกเปรตเหล่านั้นพอได้รับส่วนบุญส่วนกุศลเท่านั้น
ก็กลายสภาพไปเป็นเทวดาด้วยอำนาจบุญ
ถ้าทำบุญแล้วไม่อุทิศส่วนกุศล
ตัวเองจะได้บุญหรือเปล่า? ก็ต้องบอกว่าจะกรวดน้ำหรือไม่กรวดน้ำ อย่างไร
ๆ เราก็ได้บุญของเราอยู่แล้ว แต่ถ้ากรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ญาติ
ก็จะทำให้เขาพลอยได้รับส่วนบุญส่วนกุศลไปด้วย
แล้วก็พลอยเป็นสุขเช่นเดียวกับเปรตญาติของพระเจ้าพิมพิสาร
เวลาเราอุทิศส่วนกุศลด้วยการกรวดน้ำ
ให้ทำอุปมาในใจว่า สายน้ำที่รินลงไปนั้นก็เหมือนสายบุญ
เมื่อเราอุปมาในใจอย่างนั้นแล้ว บุญเราไม่พร่องไปหมดหรือ? ยุคนี้เศรษฐกิจรัดตัว
กว่าจะได้เงินมาทำบุญก็ยาก แล้วเที่ยวไปอุทิศให้ใครต่อใครไปทั่ว
บุญเราจะไม่หมดหรือ? ขอตอบว่าไม่หมด
ทำไมไม่หมด? ลองถามตัวเองดูก็ได้ว่า
ถ้าเราปลูกกล้วยไม้กระถางหนึ่ง กล้วยไม้นี้พอถึงเวลาก็ออกดอกสวยงาม กลิ่นก็หอม
แทนที่เราจะเอาไว้ดมคนเดียว ดูคนเดียว เอาไว้ในห้องนอนของเราเพียงลำพัง
เราก็เอาไปตั้งกลางห้องรับแขก แล้วก็ชักชวนพรรคพวก เพื่อนฝูง ญาติสนิทมิตรสหาย
มาดูกล้วยไม้สวย ๆ ของเรา แล้วมาช่วยกันดมความหอมนี้
ชวนเขามาตั้ง ๑๐ คน ๒๐ คน พอเขามาแล้ว
เขาเห็นความสวยของกล้วยไม้เขาก็ชื่นใจทุกคน พอได้กลิ่นเขาก็หอมด้วยกันทุกคน
ถามว่าญาติทั้ง ๑๐ คน ๒๐ คน มาชม มาดม กล้วยไม้ของเราแล้ว
ทำให้กล้วยไม้ของเราลดความสวยลงไปไหม? ไม่ลด ลดความหอมลงไปไหม? ไม่ลด
บุญที่เราอุทิศให้กับญาติของเราก็ไม่ได้พร่องไปเหมือนกัน
พอญาติได้รับบุญที่เราอุทิศส่วนกุศลให้เท่านั้น ชื่นใจขึ้นมาเลย ความทุกข์คลายลงไป
พอความทุกข์คลาย ก็นึกถึงความดี นึกถึงบุญในอดีตที่ตัวสร้างไว้ได้
พอนึกได้เท่านั้น บุญเก่ามาบรรจบกับบุญใหม่ที่เราอุทิศส่วนกุศลไปให้
สภาพเปรตหลุดไปเลย เกิดใหม่กลายเป็นเทวดานางฟ้าไปเลย
ถ้าจะว่าไปแล้ว การกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลเป็นเรื่องของคนใจใหญ่
คนมีจิตใจ เมตตากรุณา เพราะฉะนั้นปู่ย่าตาทวดถึงไม่ยอมพลาด ไหน ๆ ก็ได้บุญใหญ่แล้ว
ทำไมไม่ทำใจให้ใหญ่เพิ่มขึ้นไปอีก ว่าแล้วก็คว้าขันน้ำกรวดน้ำกันไปเลย
ทำบุญทุกครั้ง กรวดน้ำให้ได้ทุกครั้ง
ถ้าหาน้ำไม่ได้ ก็ทำใจให้นิ่ง ให้ใส ถ้าทั้งใส ทั้งสว่าง จนกระทั่งเห็นสายบุญ
อย่างนั้นไม่ต้องใช้น้ำเลย สายบุญนี้จะตรงดิ่งไปหาผู้ที่เราต้องการให้ถึง อย่างนั้นไม่ต้องใช้น้ำในคนโทแล้ว
น้ำใจที่งาม ๆ ส่งถึงกันเลย
เหมือนต่อเทียน ต่อไฟ ถึงเลย ทำไปเถิด ดีจริง ๆ
Cr. หลวงพ่อทัตตชีโว
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๙๘
เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
ทำไมเวลาทำบุญต้องกรวดน้ำ
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
02:04
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: