นักสร้างบารมี กับพันธกิจยอยกพระพุทธศาสนา


นักสร้างบารมี กับพันธกิจยอยกพระพุทธศาสนา

ครั้งหนึ่งนั้น พระพุทธศาสนาได้เจริญรุ่งเรืองในเกาะศรีลังกา  จนกระทั่งมาถึงยุคล่าอาณานิคม ศรีลังกาถูกชาติตะวันตกหลายชาติ เช่น โปรตุเกส และอังกฤษ ผลัดเปลี่ยนกันมารุกรานช่วงชิงทรัพยากรเป็นเวลากว่า ๔๐๐ ปี  นอกจากเสียเอกราชทางการเมืองแล้ว ผู้ปกครองก็มุ่งเป้าเพื่อที่จะทำลายพระพุทธศาสนาให้หมดไปจากเกาะศรีลังกาให้ได้  ชาวพุทธถูกกดขี่ข่มเหงทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ราวกับจะถูกต้อนให้ตกทะเล





         



          
รัฐบาลได้สั่งห้ามชาวพุทธประกอบพิธีทางศาสนาโดยเด็ดขาด วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาถูกยกเลิก เช่น วันวิสาขบูชาไม่ให้เป็นวันหยุดอีกต่อไป แล้วประกาศวันหยุดของศาสนาผู้ที่ครอบครอง แทน และสนับสนุนการเฉลิมฉลองอย่างเต็มที่ ตำแหน่งระดับสูงสงวนไว้ให้กับผู้ที่นับถือศาสนาของผู้ปกครองเท่านั้น ชาวพุทธหากว่าไม่ยอมเปลี่ยนศาสนาจะได้รับตำแหน่งชั้นล่างเท่านั้น มีวัดร้างเพิ่มขึ้น ที่ดินและทรัพย์สินของวัดร้างถูกยึดไปเป็นของรัฐ หรือของศาสนาอื่น พะภิกษุถูกวัยรุ่นศาสนาอื่นดูถูกดูหมิ่น ล้อเลียนในที่สาธาณะ ศาสนิกอื่นเขียนหนังสือหรือบทความโจมตีพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในยุคนั้นอย่างเต็มที่

ท่านคุณานันทะกับพันธกิจกอบกู้พระพุทธศาสนาในศีลังกา

แต่กรุงศรีลังกาไม่สิ้นคนดี เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วมา เด็กชายคนหนึ่งถือกำเนิดขึ้นในครอบคัวชาวสิงหล เนื่องจากศรีลังกาอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่ง เขาจึงได้ชื่อภาษาฝรั่งว่าไมเคิล ส่วนตัวแล้ว หนูน้อยไมเคิลมีอัธยาศัยที่ใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษา กล้าแสดงความคิดเห็น มีความทรงจำเป็นเยี่ยม และเปี่ยมไปด้วยวาทศิลป์และปฏิภาณ

เมื่อหนูน้อยไมเคิลอายุได้ ๑๒ ปี ก็ได้พบจุดหักเหในชีวิต เขาได้ไปเที่ยวงานวัดบนเขาแห่งหนึ่ง เขาช่วยงานเป็นอาสาสมัคร รู้สึกอิ่มเอิบเพลิดเพลินอยู่ในบรรยากาศหลายวันก็เลยตัดสินใจขอบวชเป็น สามเณรที่วัดนั้นนั่นเอง เขาได้รับนามว่า "คุณานันทะ" ในวันบรรพชา สามเณรคุณานันทะได้เทศน์โปรดญาติโยมในทันที เป็นการเทศน์กัณฑ์แรกในชีวิตของสามเณร มีผู้มาฟังเป็นพัน ๆ คน โดยที่ผู้ฟังไม่รู้สึกอยากกลับบ้านเลยทั้ง ๆ ที่เป็นการเทศน์โต้รุ่งและเป็นการเทศน์กัณฑ์แรก ผู้คนเลื่องลือถึงความสามารถ และความสง่างามของสามเณรไปทั่วศรีลังกา แม้จะโด่งดัง สามเณรน้อยหาได้หลงใหลในคำสรรเสริญไม่ แต่กลับมุ่งพัฒนาตนเองในทุกด้าน เพื่อจะกอบกู้พระพุทธศาสนาให้ได้ ดังเช่น

๑. รักการฝึกฝนอบรมตนเองเป็นอย่างมาก
๒. ฝึกแสดงธรรมอย่างสม่ำเสมอ และค้นคว้าหลักธรรมต่าง ๆ จนแตกฉาน

๓. สอนตนเองได้ว่า ท่านจะต้องรับภารกิจงานพระพุทธศาสนาอันยิ่งใหญ่ในอนาคต

เมื่อสามเณรอายุได้ ๒๑ ปี ก็ได้อุปสมบทที่วัดโคลัมโบ ที่เป็นศูนย์กลางการเผยแผ่ศาสนาอื่น สมัยนั้น ชาวพุทธเมื่อถูกรุกรานจากศาสนาอื่นมักจะ

๑. สงบเสงี่ยมเจียมตัว พร้อมใจกันวางอุเบกขา

๒. ไม่กล้าเผชิญหน้าหรือโต้ตอบกันตรง ๆ

๓. แผ่เมตตาเพียงอย่างเดียว โดยไม่ปรับปรุงสิ่งใด ๆ ให้ดีขึ้น

๔. พากันดูดาย ไม่กระตือรือร้นที่จะร่วมกันขจัดภัยพาลของพระพุทธศาสนา

แต่ท่านคุณานันทะมีบุคลิกไม่เหมือนชาวพุทธทั่วไป ท่านได้ฝึกตนอย่างยิ่งยวดในทุกรูปแบบ เป็นพุทธบุตรผู้เป็นพระแท้ ที่มุมานะในการที่จะกอบกู้พระพุทธศาสนา ท่านได้ทำการโต้วาทะกับบาทหลวงแห่งคริสต์ศาสนา ๕ ครั้ง โดยใช้เวลาถึง ๙ ปีเศษ คือ ไม่ได้ต่อเนื่องกันทุกวัน พอเพลี่ยงพล้ำก็ไปซ้อมใหม่ ไปประเมินผลหาจุดบกพร่องของตัว พอพร้อมดีแล้วก็นัดกันมาโต้วาทะอีก พอเพลี่ยงพล้ำก็นัดไปซ้อมใหม่อีก จากหลักธรรมที่ประกอบด้วยเหตุและผล และประกอบด้วยเมตตาธรรมในการโต้วาทะ ไม่มีการทำให้เสียหน้าหรือขายหน้า ทำให้ผู้ฟังเข้าใจพระพุทธศาสนาว่าเป็นคำสอนที่ดีมีประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติและเทวดา

การโต้วาทะตั้งแต่ครั้งที่ ๑ ถึงครั้งที่ ๔ นั้น ทำให้ชื่อเสียงของท่านคุณานันทะเป็นที่รู้จักกันไปทั่ว ชาวพุทธเริ่มมีพลังใจในการที่จะมาช่วยท่านยอยกพระพุทธศาสนา และทำกิจกรรมทางพุทธศาสนามากขึ้น สามัคคีกันมากขึ้น ว่าอย่างไรว่าตามกัน แม้ว่ายังถูกภาคัฐบาลกดขี่ข่มเหงอยู่ก็ตาม






สัจจัง เว อมตา วาจา 

สัจธรรมต้องเป็นอมตะ

การโต้วาทะครั้งที่ ๕ เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ. ๒๔๑๖ เป็นการโต้วาทธรรมครั้งสำคัญที่สุด สาเหตุเกิดจากการที่ศาสนาอื่นได้กล่าวจ้วงจาบพระพุทธศาสนาอีก ท่านคุณานันทะจึงกล่าวเชิญมา โต้วาทะกัน ณ เมืองปานะดุระ โดยแบ่งเวลาสนทนา ๒ วัน รวม ๕ รอบ มีเวลาพักเพื่อเตรียมเนื้อหามาโต้แย้งกัน ผลที่เกิดขึ้นปรากฏว่าฝ่ายศาสนาอื่นพ่ายแพ้ราบคาบ ไม่กล้ามาเผชิญหน้ากับท่านอีกต่อไป ผลต่อเนื่องที่ยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวอเมริกันชื่อ เฮนรี่ สตีลโอกอด ได้ไปอ่านพบเข้าและมีบทบาทในการเข้าไปแก้กฎหมายต่าง ๆ เช่น ให้อังกฤษยกเลิกกฎหมายห้ามชาวพุทธฉลองวันสำคัญทางศาสนาของตน ดังนั้น ชาวพุทธจึงทำพิธีฉลอง วันวิสาขบูชาได้เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๔๒๘ หลังจากว่างเว้นมายาวนาน

ศาสนิกอื่นที่มาร่วมฟังการโต้วาทธรรมในครั้งนั้น บางคนถึงกับเสื่อมศรัทธาในศาสนาของตน หันมานับถือพุทธศาสนา การข่มเหงและเบียดเบียนชาวพุทธก็หมดไป

ตลอดชีวิตของท่านคุณานันทะนั้นเป็นไปเพื่อความอยู่เป็นสุขของชาวพุทธทั้งประเทศ ไม่ให้ตกอยู่ ภายใต้อำนาจอยุติธรรมจากศาสนาอื่น เนื่องจากท่านทุ่มเททำงานศาสนาอย่างหนักไม่หยุดหย่อนเลย ท่านจึงอาพาธอยู่เนือง ๆ แพทย์บอกให้ท่านวางมือเสียบ้าง แต่ท่านก็ไม่ได้ทำตามคำแนะนำของแพทย์ จนกระทั่งท่านได้มรณภาพอย่างสงบด้วยสิริอายุเพียง ๖๗ ปีเท่านั้น แต่เป็นวันเวลาที่มีคุณค่า เพราะได้ทำหน้าที่เป็นพุทธบุตรผู้กอบกู้พระพุทธศาสนาในศรีลังกาได้สำเร็จ ท่านจึงได้ไปเป็นเทพบุตรผู้มีรัศมีกายสว่างไสว เสวยทิพยสมบัติในสวรรค์ชั้นดุสิตด้วยความปลื้มในบุญ






พันธกิจการยอยกพระพุทธศาสนา  
ของนักสร้างบารมีพันธุ์รื้อวัฏฏะ

ยอดนักสร้างบารมีผู้มีหัวใจโชนนิรันดร์ทุกท่าน เมื่อเทียบเวลาในมนุษยโลกกับดุสิตบุรีช่างเป็นช่วงเวลาที่สั้นเหลือเกิน เวลา ๑๐๐ ปีของเรานั้น เท่ากับ ๖ ชั่วโมงในดุสิตบุรี เราสละทิพยสมบัติมาไม่กี่ชั่วโมง เพื่อเอาบารมีกลับไปให้ได้มากที่สุด ก่อนมาทุกท่านต่างมีมโนปณิธานที่หาญกล้าว่า "จะลงมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก และเพิ่มเติมบุญบารมีให้แก่กล้ามากยิ่งขึ้น แล้วจึงค่อยกลับขึ้นไปพักที่ดุสิตบุรี" ดังนั้น นอกจากจะรักษาพระพุทธศาสนาไม่ให้เสื่อมถอยลงไปแล้ว พันธกิจของนักสร้างบารมี พันธุ์รื้ออวัฏฏะ ยังจะฟื้นฟูให้รุ่งเรืองเฟื่องฟูกว่าเดิม อีกทั้งจะเผยแผ่ไปทั่วโลกอีกด้วย แม้จะเป็นกองเสบียง ก็จะลุยเคียงบ่าเคียงไหล่ สนับสนุนโครงงานของหลวงพ่ออย่างเต็มกำลัง

เมื่อท่านคุณานันทะลงมาจากดุสิตบุรีเพียงหนึ่งเดียวยังทำได้ แล้วทำไมนักส้างบารมีพันธุ์รื้อวัฏฏะ ที่ลงมากันเป็นทีมอย่างพวกเราจะทำไม่ได้ เราทุกคนทำได้อยู่แล้ว จากนี้ไป เส้นทางการสร้างบารมี ของเราจะไม่มีวันมืดมิด เพราะเรามีพระพ่อผู้เป็นดุจตะวันธรรม คอยโชนแสงนำทางและต่อเติมพลังใจให้เราตลอดเวลา ถึงเวลาแล้วที่ทั้งฝ่ายบรรพชิต และ คฤหัสถ์ต้องฝึกตนให้เป็นประดุจดั่งท่านคุณานันทะ ด้วยการหันมาศึกษาพุทธศาสนา และนำไปปฏิบัติอย่างจริงจังจนเข้าถึงพระแท้ในตัว จึงจะได้ชื่อว่าเป็น ชาวพุทธแท้ผู้พิทักษ์พระพุทธศาสนา

ชาวพุทธแท้..จะต้องรักพระพุทธศาสนา เมื่อพระสงฆ์โดนรังแก ต้องไม่มัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเพราะกลัวตาย แล้ววางอุเบกขา ถ้าประเทศไทยไม่มีพระ แล้วชาวพุทธจะอยู่ได้อย่างไร

ชาวพุทธแท้..ต้องกล้าเผชิญหน้าหรือกล้าแสดงทัศนะให้เขารู้ว่า พระพุทธศาสนานี่แหละสามารถนำผู้ปฏิบัติไปสู่สวรรค์นิพพานได้อย่างแท้จริง

ชาวพุทธแท้..เมื่อพุทธศาสนากำลังมีภัย จะไม่มัวแผ่เมตตาแต่เพียงอย่างเดียว แต่จะใช้ปัญญาหาทางปรับปรุงแก้ไข กระตือรือร้น สามัคคีร่วมใจกันขจัดภัยพาลของพระพุทธศาสนา

เมื่อไรที่พระแท้กับชาวพุทธแท้รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว เมื่อนั้น ผู้ไม่หวังดีทั้งหลายย่อมมิอาจทำให้พุทธศาสนาเสื่อมหายไปจากผืนแผ่นดินไทยได้ และเมื่อไรที่เราสามารถยอยกพระพุทธศาสนาให้สูงเด่นเป็นที่พึ่งแก่ชาวโลกได้สำเร็จ เมื่อนั้นเราก็จะได้กลับไปเสวยทิพยสมบัติ ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ พร้อมกับบุญบารมีที่หนาแน่นกว่าเดิม..

เราทุกคน คือผู้สร้างประวัติศาสตร์ในการยอยกพระพุทธศาสนา

เราทุกคน คือผู้สร้างสันติภาพโลก

เพราะเราทุกคน.. คือยอดนักสร้างบารมีพันธุ์รือวัฏฏะ ผู้มุ่งปราบมารไปสู่ที่สุดแห่งธรรม




Cr. เรื่อง : พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ. ๙ / พระมหาวิริยะ ธมฺมสารี ป.ธ. ๙
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๘๓ ประจำเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๒
นักสร้างบารมี กับพันธกิจยอยกพระพุทธศาสนา นักสร้างบารมี กับพันธกิจยอยกพระพุทธศาสนา Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 01:02 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.