หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๕๘)
ในฉบับที่แล้ว ผู้เขียนเพิ่งจะได้กล่าวถึงประเด็นแต่พอสังเขปเกี่ยวกับ “คุณค่าของคาถาธรรมกาย” ความนอบน้อมถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอันมีมาแต่ยุคโบราณ โดยผู้เขียนได้กล่าวถึงการบรรยายทางไกลเรื่อง “ที่มาของคาถาธรรมกาย” ของ ดร.กิจชัย เอื้อเกษม นักวิจัยอาวุโสของสถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัย ซึ่งบรรยายไว้เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ที่อาคาร ๑๐๐ ปี คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง โดยได้นำมาขยายความไว้บางส่วน เนื่องด้วยเนื้อหาของ “คาถาธรรมกาย” (รวมทั้งหลักฐานธรรมกายต่าง ๆ) นั้น เป็นเรื่องที่มีความละเอียดและซับซ้อนยิ่ง แม้จะมีการอรรถาธิบายเพิ่มขึ้นเท่าใดก็ไม่อาจสาธยายได้ครบถ้วน ทั้งนี้โดยความเห็นของผู้เขียนแล้ว ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเรื่องราวของหลักฐานธรรมกายนั้นเป็นเรื่องลึกซึ้ง มีความลุ่มลึกทั้งในภาคปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ โดยตัวของเรื่องราวเองกับทั้งในการศึกษาค้นคว้านั้น พบว่ามีการทำงานศึกษาค้นคว้าเพิ่มขึ้นทุก ๆ วัน ด้วยคุณลักษณะดังนี้ ผู้เขียนจึงเห็นว่า การอรรถาธิบายขยายความเรื่องหลักฐานธรรมกายนั้น เป็นสิ่งที่ยิ่งอธิบายก็ยิ่งมองเห็นปริมณฑลที่กว้างไกลออกไปอย่างไม่อาจประมาณได้ทีเดียว
โปสเตอร์งานเสวนาหลักฐานธรรมกาย |
ดังที่ผู้เขียนเคยกล่าวไว้เสมอว่า บทคาถาธรรมกายนั้นมิได้เป็นของใหม่ โดยเฉพาะเมื่อคณะนักวิจัยของสถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัย (DIRI) ได้ศึกษามากขึ้น ก็ยิ่งพบความเก่าแก่และความสอดคล้องกันอย่างน่าประหลาดใจ ทั้งที่เอกสารหลักฐานต่าง ๆ เหล่านั้นอยู่คนละยุคคนละสมัย ถูกค้นพบมาจากคนละพื้นที่ทั้งในพื้นที่ที่เคยนับถือพระพุทธศาสนามาแต่ก่อน และในพื้นที่ที่ยังนับถือพระพุทธศาสนาอยู่ ความเชื่อมโยงอันนี้กำลังค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาหากันอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นคำตอบที่ชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่า เรื่องราวของธรรมกายนั้นเป็นความจริงแท้เพียงใด ซึ่งความสำเร็จทีละขั้น ๆ ในยุคของเรา ก็จะช่วยทำให้ความจริงเกี่ยวกับธรรมกายนั้นค่อย ๆ สมบูรณ์ขึ้น ๆ ในอนาคตด้วย ทั้งในแง่ของปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธทีเดียว
ดังได้ทราบมาแล้วว่า เนื้อหาของคาถาธรรมกายนั้นเป็นการพรรณนาถึงพุทธคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นหลัก และเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนชาวไทยมาช้านานแล้ว โดยปรากฏหลักฐานทางโบราณคดีและวรรณกรรมทางพุทธศาสนามากมาย ทั้งนี้นอกจากคาถาพระธรรมกายแล้ว ยังพบเรื่องราวของพระธรรมกายในที่อื่น ๆ อีก เช่น ในคัมภีร์จตุรารักขา ซึ่งพบทั้งที่เขียนด้วยอักษรขอม-ไทยและอักษรธรรม คัมภีร์จตุรารักขา คือ คู่มือแนะนำการปฏิบัติธรรมที่มีมาแต่โบราณ ประกอบด้วยคาถาบาลี ๓๒ คาถา ในคาถาที่ ๑๑ มีเนื้อความแปลได้ว่า แม้รูปกายของพระองค์ที่ปรากฏอยู่ก็ยังเป็นเรื่องอจินไตย ไม่จำเป็นต้องพูดถึงพระธรรมกายซึ่งมั่งคั่งไปด้วยญาณคือความรู้ที่ไม่ทั่วไป (อสาธารณะ)²
คัมภีร์จตุรารักขา |
เมื่อย้อนมาพิจารณาในยุคสมัยของเรา บุคคลผู้ที่ควรกล่าวว่าเป็นผู้อรรถาธิบายขยายความเรื่องราวของคาถาธรรมกายให้ชัดเจนขึ้นมากที่สุด (ตรงกับสาระหลักของคาถาธรรมกายที่มีมาแต่ครั้งโบราณไว้มากที่สุด) ก็คือ พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายนั่นเอง ดังนั้นเมื่อเราค่อย ๆ นำบทพระธรรมเทศนาของท่านมาศึกษาและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็จะพบว่า บทพระธรรมเทศนาของพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) นี้เอง ที่เท่ากับเป็นบทขยายความอย่างละเอียดของคาถาธรรมกายโดยตรง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นบทขยายความธรรมดา หากแต่เป็นการขยายความโดยพิสดารทีเดียว ดังข้อความในหลาย ๆ ตอนว่า “... ธรรมกายนี้เองเป็นพุทธรัตนะ ซึ่งแปลว่า แก้ว คือ พุทธะ เมื่อรู้จักพุทธรัตนะแล้ว ก็ควรรู้จักธรรมรัตนะเสียทีเดียว ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ กายทิพย์ กายรูปพรหม อรูปพรหม เป็นธรรมรัตนะ แต่เป็นส่วนโลกีย์ ส่วนธรรมที่ทำให้เป็นธรรมกายนั้นเป็นโคตรภู ต่อเมื่อใดธรรมกายเลื่อนขึ้นไปเป็นพระโสดาแล้ว ธรรมที่ทำให้เป็นธรรมกายพระโสดานั้นเอง เป็นโลกุตตระ
ส่วนศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ ที่อยู่ในศูนย์กลางของดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ กายทิพย์ กายรูปพรหม และกายอรูปพรหมเป็นโลกียมรรค เพราะกายทั้ง ๔ นั้นเป็นโลกีย์ ธรรมจึงเป็นโลกีย์ไปตามกาย ส่วนศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ ที่อยู่ในศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นธรรมกายเป็นโลกุตตระ เพราะธรรมกายของพระโสดาเป็นโลกุตตระ ธรรมจึงเป็นโลกุตตระไปตามกาย ธรรมที่ทำให้เป็นกายต่าง ๆ นี้เอง เป็นธรรมรัตนะ ซึ่งแปลว่า แก้วคือธรรม เมื่อรู้จักธรรมรัตนะแล้ว ก็ควรรู้จักสังฆรัตนะเสียทีเดียว ธรรมกายหรือกายธรรมหมดทั้งสิ้น ยกธรรมกายของพระสัพพัญญูและธรรมกายของพระปัจเจกพุทธเจ้าออกเสีย นอกจากนั้นเป็นธรรมกายของสาวกพุทธทั้งสิ้น มีมากน้อยเท่าใดเป็นสังฆรัตนะ แก้ว คือ สงฆ์...”⁴
“พระรัตนตรัยเป็นแก้วจริง ๆ หรือเปรียบด้วยแก้ว ถ้าเป็นทางปริยัติ เข้าใจตามอักขระแล้ว เป็นอันเปรียบด้วยแก้ว ถ้าเป็นทางปฏิบัติ เข้าใจตามปฏิบัติแล้วเป็นแก้วจริง ๆ ซึ่งนับว่าประเสริฐเลิศกว่าวิญญาณกรัตนะและอวิญญาณกรัตนะซึ่งมีในไตรภพ ลบรัตนะในไตรภพทั้งหมดสิ้น...”⁵
“อรหํ เป็นพระคุณข้อต้น (ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) มีนัยจะแสดงดังต่อไปนี้ ...
...อรหํ เป็นเนมิตกนาม เกิดขึ้นเองพร้อมกับที่พระองค์บรรลุพระโพธิญาณ อรหํ เป็นคำที่พวกเรานักปฏิบัติธรรมเชิดชูกันหนักหนา ถึงแก่ได้นำมาใช้เป็นบทบริกรรมภาวนาในเมื่อนั่งสมาธิ ฉะนั้นจึงขอนำมาแปลไว้ในที่นี้ เพื่อจะได้ซาบซึ้งพระคุณนามข้อนี้ไว้บ้าง แต่การจะพรรณนาให้สิ้นสุดได้ เมื่อคิดเทียบแล้วก็เท่ากับอากาศในปีกนก กล่าวคือบรรดาอากาศทั้งหลายในสากลโลก มีมากสุดคณนา แต่คิดเฉพาะอากาศเท่าที่ปีกนกกระพือขณะบินหนหนึ่ง จะมีอากาศอยู่ในระหว่างปีกนิดเดียวในจำนวนอากาศทั้งหลาย ฉันใดก็ฉันนั้น... อรหํ แปลสั้น ๆ ว่า ไกล ว่า ควร เป็นสองนัยอยู่ “ไกล” หมายความว่าไกลจากกิเลสหรือพ้นจากกิเลสเสียแล้ว ... ไกล ตรงกันข้ามกับปุถุชนคนเรา ซึ่งยังใกล้ชิดกิเลส พระองค์บริสุทธิ์ผุดผ่องดังแท่งทองชมพูนุท หรืออีกนัยหนึ่งว่าใสเหมือนดวงแก้วอันหาค่ามิได้ สมคำว่า “พุทธรัตนะ”⁶
พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) |
อนึ่ง เมื่อเรานำข้อความที่ปรากฏในคาถาธรรมกายจากศิลาจารึกหลักที่ ๕๔ (จารึกพระธรรมกาย) ที่ระบุว่าอยู่ในพุทธศักราช ๒๐๙๒ ในแผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ก็จะพบอีกว่า ข้อความในคาถาธรรมกายเป็นการกล่าวถึงญาณรู้แจ้งและพระคุณต่าง ๆ ของพระธรรมกายนั้น ล้วนสอดคล้องกับพระธรรมเทศนาของพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ด้วย ดังข้อความเริ่มต้นว่า
“...สพฺพญฺญุตญาณปวรสิสํ นิพฺพานารมฺมณปวรวิลสิตเกสํ จตุตฺถชฺฌานปวรนลาตํ วชฺชิรสมาปตฺติ ญาณํปวรอุณาภาสํ...”
แปลความว่า ข้าพเจ้าขอนอบน้อมผู้มีสัพพัญญุตญาณประดุจดั่งเศียร มีอารมณ์ในพระนิพพานประดุจดั่งพระศก มีจุตตถฌานประดุจดั่งพระนลาฏ มีวชิรสมาปัตติญาณประดุจดั่งแสงพระอุณาโลม ข้อความต่อจากนั้นเป็นการพรรณนาถึงพระพุทธคุณ ๓๐ ประการกับส่วนต่าง ๆ ในพระวรกาย เช่น มีพระขนงคู่งามเกินกว่าแสงงามของนิลกสิณ มีพระเนตรทั้งคู่ประดุจดั่งทิพพจักขุ ปัญญาจักขุ สมันตจักขุ พุทธจักขุ และธรรมจักขุ มีทิพพโสตญาณประดุจดั่งพระกรรณทั้งคู่ มีโคตรภูญาณประดุจดั่งพระนาสิกโด่งงาม จนถึงจตุสติปฏฺฐานปวรกายพนฺทนํ แปลว่ามี สติปัฏฐาน ๔ ประดุจดั่งรัดประคด ขณะเดียวกันในคาถาธรรมกายนี้ก็ยังปรากฏข้อความกล่าวสรรเสริญพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ประเสริฐเหนือกว่ามนุษย์และเทวาทั้งหลายด้วยพระธรรมกาย ดังข้อความว่า
“...อญฺเญสํเทวมนุสฺสานํ พุทฺโธอติวิโรจติ ยสฺสตมุตฺตมงฺคาทิญาณํ สพฺพญฺญุตาทิกํ ธมฺมกายมคฺคํ พุทฺธํ นเมตํ โลกนายกํ อิมํ ธมฺมกายพุทฺธลกฺขณํ โยคาวจรกุลปุตฺเตน ติกฺขญาเณน สพฺพญฺญุพุทฺธภาวํ ปตฺเถนฺเตน ปุนปฺปุนํ อนุสฺสริตพฺพํ ฯ สพฺพญฺญุตญาณํ นาม กถํ ฯ...”
แปลความว่า พุทธลักษณะอันเป็นธรรมกายนี้ อันพระโยคาวจรกุลบุตร ผู้มีญาณอันแข็งกล้า ซึ่งปรารถนาความเป็นสัพพัญญูพุทธภาวะ พึงระลึกถึงเนือง ๆ ...”
ข้อความเหล่านี้ถึงเวลาจะห่างกันไกลนับเป็นร้อย ๆ ปี แต่ก็นับว่าเป็นความน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง เหมือนกับว่าบทพระธรรมเทศนาของหลวงปู่ฯ นั้น ก็เท่ากับเป็นการอธิบายคาถาธรรมกายในภาคปฏิบัติและเพื่อให้พุทธศาสนิกชนในยุคต่อไปได้ใช้เป็นหลักฐานยืนยันความมีอยู่จริงของพระธรรมกายนั่นเอง
(อ่านต่อฉบับหน้า)
----------
¹ ความเห็นของ ดร.กิจชัย เอื้อเกษม (วันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓)
² จาก “ร่องรอยธรรมกายในคัมภีร์จตุรารักขา” โดยสุปราณี พณิชยพงศ์ ๒๕๕๗
³ ภาคแปลเป็นภาษาไทยยวนมีชื่อเฉพาะว่า มหาสันติงหลวง
⁴ พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ ๓ เรื่อง “รตนตฺตยคมนปณามคาถา” (วันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๒).⁵ ชีวประวัติและอมตเทศนา พระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อวัดปากน้ำ (ฉบับสมบูรณ์), กรุงเทพฯ: วัดปากน้ำ, ๒๕๕๐, หน้า ๔๙.
⁶ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ, พิมพ์ครั้งแรก, กรุงเทพฯ: บริษัท นฤมิต โซล (เพรส) จำกัด, หน้า ๕๕-๕๖.
เรื่อง : นวธรรมและคณะนักวิจัย DIRI
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๒๑๑ ประจำเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
***สามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ขอให้ใส่ Cr. ผู้เขียนด้วย***
คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญในรูปแบบของ PDF
***สามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ขอให้ใส่ Cr. ผู้เขียนด้วย***
คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญในรูปแบบของ PDF
คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญในรูปแบบของ E-book
http://dhammamedia.org/YNB%202563/211%20YNB%200763/YNB0763.html
คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๒๑๑ ประจำเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้ที่นี่
http://dhammamedia.org/YNB%202563/211%20YNB%200763/YNB0763.html
คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๒๑๑ ประจำเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้ที่นี่
- ความสุขสงบ ณ ศูนย์มาโซโร
- วัดพระธรรมกายมอบอุปกรณ์ต้านภัยโควิด-๑๙
- ตู้ปันสุขจากชุมชนชาววัดพระธรรมกาย
- บุญใหญ่ในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา
- หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๕๘)
- ข่าวสารเครือข่ายคณะศิษย์
- หลวงพ่อตอบปัญหา
- ย้อนอดีต...ท่องประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา (ตอนที่ ๓๐)
- ทำไมถึงต้องย้ำบ่อย ๆ ว่า "เราเกิดมาสร้างบารมี"
หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๕๘)
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
01:44
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: