อานิสงส์การถวายน้ำที่ปรากฏในพระไตรปิฎก


( มก. เล่ม 48 หน้า 63)

การทำบุญถวายน้ำฉัน น้ำใช้ แด่พระภิกษุในยามยาก จะทำให้ผู้ถวายได้อานิสงส์ยิ่งใหญ่อันไม่มีประมาณ ดังปรากฏในนาวาวิมาน

ในครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานโอวาทแก่ภิกษุจำนวน 16 รูป ในเมืองสาวัตถี พระภิกษุเหล่านี้ก็ได้หลีกเร้นบำเพ็ญเพียรตั้งใจปฏิบัติธรรมกันอย่างเต็มที่ จนกระทั่งถึงวันออกพรรษา ภิกษุทั้ง 16 รูป ก็พากันเดินทางไกลผ่านเส้นทางที่ยากลำบาก ผ่านถิ่นทุรกันดาร ทำให้ท่านถูกเปลวแดดแผดเผา จนเกิดความกระหายนํ้ามาก

แต่ด้วยบุญที่พระภิกษุเหล่านั้นเคยทำมา ทำให้ท่านได้มาพบหญิงคนหนึ่ง ซึ่งพอหญิงคนนั้นเห็นกิริยาอาการของพระภิกษุทั้งหลายก็ทราบทันทีว่า..กำลังกระหายเป็นแน่

จึงคิดว่า..วันนี้เป็นบุญลาภที่เราจะได้มีโอกาสทำบุญกับเนื้อนาบุญเช่นนี้ จึงค่อยๆ เดินเข้าไปแล้วนั่งลงไหว้ด้วยความเคารพแล้วกล่าวนิมนต์ว่า..ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ ขอนิมนต์ทุกๆ องค์ เป็นเนื้อนาบุญให้แก่ดิฉันด้วยเถิด โปรดรับนํ้าแล้วนิมนต์ฉันเถิด”

จากนั้นภิกษุทั้ง 16 รูปก็กรองนํ้าแล้วดื่ม จากนั้นก็เอานํ้าลูบไปที่มือและเท้าให้เกิดความเย็นสบายแก่ร่างกาย แล้วกล่าวว่า “ดูก่อนอุบาสิกา วันนี้ท่านได้ทำบุญใหญ่ถวายนํ้าดับความกระหาย ขอให้ชีวิตของท่านมีแต่ความสุข สงบร่มเย็นประดุจนํ้าที่เย็นสบายนี้เถิด” จากนั้นพระทุกรูปพากันอนุโมทนาในการถวายนํ้าดื่มแก่หญิงนั้นแล้วก็เดินทางมุ่งหน้าไปสู่วัดเชตวันต่อไป

การถวายนํ้าดื่มในวันนั้น เป็นภาพแห่งความปีติประทับใจที่ติดตาติดใจของนางอยู่ตลอดเวลา  ทั้งหลับ ทั้งตื่น ยืน เดิน นั่ง นอน ทุกอิริยาบถ นางสามารถตรึกระลึกถึงบุญที่ได้กระทำในครั้งนั้น  จนเกิดมหาปีติท่วมท้นแม้กาลเวลาจะผ่านไปหลายสิบปีความปีตินี้ก็ยังอยู่ในใจของนางจนกระทั่งนางละโลก

ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่ได้ตั้งใจถวายนํ้าในครั้งนั้น  ทำให้นางได้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีมหาวิมานบังเกิดขึ้นพร้อมกับต้นกัลปพฤกษ์  แม่นํ้าทิพย์อุบัติขึ้น ปูลาดด้วยหาดทรายขาวที่สวยงามระยิบระยับราวกับเงินและแก้วมุกดา อีกทั้งยังมีธารนํ้าใสบริสุทธิ์ไหลรอบๆ วิมาน ประดุจพรายแก้วมณีล้อมรอบมหาวิมานเอาไว้ และมากไปกว่านั้น ตรงสองฝั่งของแม่นํ้าใกล้ๆ ประตูอุทยาน ก็มีสระโบกขรณีขนาดใหญ่บังเกิดขึ้น ซึ่งในสระนั้นก็เต็มไปด้วยดอกบัวทิพย์ที่มีสีสรรสวยงามมีชั้น ช่อ กลีบและเกสรเป็นสีทองใสเปล่งประกาย ก้านเป็นสีเงิน ใบบัวเป็นรัตนะคือ บุษราคัม

และที่น่าทึ่งไปกว่านั้น ยังมีนาวาทองลำใหญ่  ทำให้เทพธิดาได้เสวยมหาสมบัติเที่ยวพักผ่อนอยู่ในนาวาทองอย่างมีความสุข จนทำให้เทพธิดานึกย้อนหลังไปในสมัยที่ตนเองเคยเกิดเป็นมนุษย์ เห็นบุญที่ตัวเองทำเอาไว้ก็ยิ่งเกิดมหาปีติยินดีร่าเริงใจยิ่งนักว่า..ด้วยผลแห่การสร้างบุญของเรานี้ทำให้เราได้มหาสมบัติทิพย์อันโอฬารเช่นนี้...

ต่อมาวันหนึ่ง พระมหาโมคคัลลานะ อัครสาวกผู้เลิศด้วยฤทธิ์ ท่านเที่ยวจาริกไปในเทวโลก เห็นเทพธิดาตนนี้กำลังเล่นอยู่ในนาวาทองที่สวยงาม พระเถระมองดูมหาสมบัติของนางแล้ว เห็นสมบัติทิพย์ที่ละเอียดประณีตมากมายก็คิดว่า นางเทพธิดาผู้งดงามนี้  ได้สั่งสมบุญพิเศษอะไรไว้หนอจึงทำให้ได้สมบัติที่พิเศษกว่าผู้อื่นอย่างนี้  จึงถามว่า “ดูก่อนเทพนารี ท่านขึ้นนาวาทองยืนอยู่ วิมานของท่านก็งดงาม เนรมิตเป็นสัดส่วนพอดี  มีแสงสว่างแผ่ขยายไปรอบทิศ วรรณะของท่านก็รุ่งเรือง มหาสมบัติใหญ่เกิดขึ้นกับท่านมากมายอย่างนี้ สมัยที่ท่านเป็นมนุษย์ได้ทำบุญพิเศษอะไรไว้ถึงได้เสวยทิพยสมบัติเห็นปานนี้???

จากนั้นเทพธิดากล่าวตอบว่า “ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ เมื่อครั้งที่เป็นมนุษย์อยู่  ดิฉันได้พบพระภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้รับความลำบากกาย กระหายนํ้า จึงขวนขวายถวายนํ้าดื่มกับท่าน  ผู้ใดก็ตามที่ถวายนํ้าดื่มกับภิกษุทั้งหลายผู้กระหายนํ้า  แม่นํ้าทิพย์หลายสายที่สวยงาม ดารดาษด้วยดอกไม้อันเป็นทิพย์ มีนํ้าใสเย็นก็จะบังเกิดขึ้นแก่ผู้นั้น ผู้ที่ได้ทำบุญไว้ดีแล้วย่อมได้มหาวิมานอันประเสริฐ สง่างาม นี้เป็นผลแห่งกรรมดีที่ดิฉันสร้าง  พระคุณเจ้าผู้มีอานุภาพมาก ผลแห่งบุญนี้ น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ดิฉันได้เสวยมหาสมบัติใหญ่อย่างนี้  ก็ด้วยผลแห่งกรรมดีแท้ๆ”

นี่เป็นทิพยสมบัติที่เกิดขึ้นจาการถวายน้ำฉัน น้ำใช้แด่พระภิกษุในยามยาก อีกทั้งยังน้อมถวายด้วยความปีติยินดี สามารถนึกถึงบุญนี้ได้ตลอดชีวิต

ดังนั้น ในวันวิสาขบูชา ที่เราจะมาทำบุญถวายค่าน้ำ ค่าไฟ บำรุงวัดนี้ ก็จะทำให้เราได้บุญมากเช่นกัน เพราะการทำบุญค่าน้ำนั้น เท่ากับเราได้ถวายน้ำให้พระ เณร อุบาสก อุบาสิกา สาธุชนที่มาวัด ดื่ม-ใช้ ทั้งหมดจำนวนหลายหมื่น หลายแสนคน

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ผู้ทำได้บุญอันไม่อาจจะนับจะประมาณได้ เพราะเท่ากับผู้ทำได้ถวายความเย็นกาย เย็นใจ ความสะอาดกาย สะอาดใจ ดับกระหายจนทำให้ชื่นอก ชื่นใจ สดชื่น มีกำลังเรี่ยวแรงในการปฏิบัติธรรมและเผยแผ่ธรรม สืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้ยาวไกลต่อไป

ฉะนั้นให้เราทำบุญนี้ด้วยความปลื้มปีติ นึกถึงบุญให้ได้ทั้งก่อนทำ ขณะทำ และหลังทำ เพื่อเวลาบุญส่งผล จะทำให้เราได้ทิพย์สมบัติอันประณีตวิจิตรเหมือนอานิสงส์ที่เทพธิดาได้รับ เพราะขณะทำบุญเราทำด้วยจิตที่ประณีต และปลื้มในบุญตลอดเวลา...






ถ้าอยากรู้ว่าทำไมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงตรัสแนะนำให้ทำบุญถวายน้ำ
คลิก http://dhamma-media.blogspot.com/2017/04/blog-post_52.html

Cr.สำนักสื่อธรรมะ
อานิสงส์การถวายน้ำที่ปรากฏในพระไตรปิฎก อานิสงส์การถวายน้ำที่ปรากฏในพระไตรปิฎก Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 02:20 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.