จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนโลกในปี พ.ศ. ๒๕๕๕

แม้ว่าในปีคริสตศักราช ๒๐๑๒ หรือตรงกับพุทธศักราช ๒๕๕๕ จะตรงกับคำทำนายของชาวมายาโบราณว่าจะเป็นจุดสิ้นโลก ทำให้ชาวโลกจำนวนมากหวั่นไหวไปกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในโลก ขณะนี้กลับมีคนรุ่นใหม่กลุ่มหนึ่งเชื่อว่าปี พ.ศ. ๒๕๕๕ นี้ จะเป็นจุดสิ้นสุดของความมืดมิดในจิตใจของมวลมนุษยชาติ และจะเป็นจุดเริ่มต้นของโลกยุคใหม่ที่ชาวโลกจะมีแต่ความรัก ความสมัครสมานสามัคคีกัน ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ได้รวมตัวกันในนามพีซเอเจนต์ ( Peace Agents ) เพื่อก่อการปฏิวัติด้วยความดี และเริ่มต้นจากสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุด แต่ทรงพลานุภาพอันยิ่งใหญ่ คือใจของเรานั่นเอง

พีซเรฟโวลูชัน (Peace Revolution) เป็นโครงการที่เกิดขึ้นในปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ตามดำริของหลวงพ่อธัมมชโย ที่อยากจะเห็นแต่ละประเทศในโลกนี้มีตัวแทนที่มีใจ มีไฟ มีฝัน ในการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ โดยเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงใจของตัวเอง ขณะนี้ เว็บไซต์ www.peacerevolution.net มียอดสมาชิกออนไลน์ แล้ว ๑๐,๗๔๐ คน จาก ๑๗๗ ประเทศ และมีจำนวนพีซเอเจนต์กว่า ๑๗๒ คน จากกว่า ๖๐ ประเทศ

เยาวชนเก่งและดีที่จะเข้าร่วมโครงการจะต้องผ่านบททดสอบบันทึกความดีออนไลน์ ๔๒ วัน และ จัดพันธกิจพิเศษ Special Ops โดยการจัดนั่งสมาธิออนไลน์ในประเทศของตัวเอง ก่อนที่จะเดินทางมา อบรมเพื่อเป็นตัวแทนแห่งสันติภาพที่ประเทศไทยเป็นเวลา ๒ สัปดาห์ จากนั้นจึงจะได้ขึ้นทำเนียบพีซเอเจนต์ ซึ่งการอบรมในแต่ละครั้งมียอดผู้สมัครกว่า ๔๐๐ คน แต่คัดเอาแค่ ๓๐ คน เรียกว่าคัดโคตรเพชรกันเลยทีเดียว หากไม่มีความมุ่งมั่นในการค้นหาและพัฒนาตนเองอย่างแท้จริงแล้ว คงไม่สามารถดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ได้ ซึ่งตำแหน่งนี้ยังหมายถึงภารกิจระดับชาติของพีซเอเจนต์อีกด้วย ที่จะใช้ใจที่หยุดนิ่งเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ ให้สันติสุขเบ่งบานในใจของชาวโลกชั่วนิรันดร์

ซึ่งภารกิจ "จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนโลกใน ปี พ.ศ ๒๕๕๕" หรือ Change the World Tour in the Beginning ของพีซเรฟโวลูชันนั้น เริ่มต้นจากประเทศในกลุ่มละตินอเมริกา ซึ่งภาพวิดีโอปฏิบัติการระดับชาติของพีซเอเจนต์แต่ละท่าน ถูกเปิดตัวในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมที่ผ่านมา

แม้โบลิเวียจะเป็นประเทศเล็ก ๆ และยากจนที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ แต่ก็ขอเปิดตัวแคมเปญ Change the World Tour in the Beginning เป็นประเทศแรก ชาวโบลิเวียส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรม ประชากรพูดภาษาสเปนเป็นหลัก เมืองหลวงของโบลิเวีย คือ กรุงลาปาซ ซึ่งเป็นที่รู้จักของชาวโลกส่วนใหญ่ คำว่า “ลาปาซ” เป็นภาษาสเปน แปลว่า สันติภาพ กรุงลาปาซมีลักษณะเป็นหุบเขา อยู่สูงกว่าน้ำทะเล ๓,๖๕๐ เมตร

อาราเซลี เมนดิลูเช พีซเอเจนต์หนึ่งเดียวชาวโบลิเวียคนนี้ มีงานอดิเรกที่ทำอย่างจริงจัง คือการทำงานเพื่อสังคมในนามวายโบลิเวีย (WHY Bolivia) ที่เธอกับเพื่อน ๆ ร่วมกันก่อตั้งขึ้น เธอเริ่มต้นแนะนำโครงการกับคุณแม่ ซึ่งท่านทำบันทึกความดีออนไลน์เสร็จแล้ว ๔๒ วัน และยังชักชวนเพื่อน ๒ คน ซึ่งเป็นแกนนำของวายโบลิเวียให้ร่วมนั่งสมาธิออนไลน์ กระทั่งขยายสู่ทีมงานวายในเมืองต่าง ๆ และเยาวชนที่อยู่ในโครงการของวายกว่า ๑๐๐ คน อีกด้วย

ชาวโบลิเวียเข้าร่วมปฏิบัติธรรม ๓ วันที่เมืองโคชาบัมบา

กิจกรรมที่นั่น มีทั้งการจัดปฏิบัติธรรม ๓ วัน ที่เมืองโคชาบัมบา และการจัดรอบนั่งสมาธิ (Meditation Workshop) ร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศและองค์กรที่สนใจอีก ๗ ครั้ง ใน ๓ เมือง คือ กรุงลาปาซ โคชาบัมบา และเอลอัลโต สำหรับการจัดปฏิบัติธรรมนั้น ทีมงานวายคัดกรองเยาวชนมา ๕๐ คน รวมกับบุคคลทั่วไปที่สนใจ รวมทั้งสิ้น ๗๕ คน ซึ่งเกินความคาดหมายเป็นอย่างยิ่ง เพราะที่นั่นสมาธิยังเป็นเรื่องใหม่มาก แต่ไม่น่าเชื่อว่าเยาวชนรุ่นใหม่กลับให้ความสนใจอย่างล้นหลาม และยังมีผลการปฏิบัติธรรมที่น่าสนใจ คือ โล่ง โปร่ง เบา สบาย มีความสุข ไปจนถึงตัวหาย ตัวขยายใหญ่ ตกจากที่สูง ไม่มีลมหายใจ เห็นแสงสว่าง เห็นดวงแก้ว และเห็นตัวเองนั่งสมาธิอยู่ภายในดวงใส เป็นต้น

ประเทศที่สองที่เข้าร่วมในแคมเปญ Change the World Tour in the Beginning คือ โคลอมเบีย ซึ่งเป็นประเทศในอเมริกาใต้ที่มีพรมแดนติดกับบราซิล, เปรู, เอกวาดอร์, ปานามา และเวเนซูเอลา มีชายฝั่งติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลแคริบเบียน มีเมืองหลวงคือกรุงโบโกตา ซึ่งอยู่สูงจากน้ำทะเลกว่า ๒,๖๐๐ เมตร เมื่อพูดถึงโคลอมเบีย เรามักจะนึกถึง ปัญหายาเสพติด อาชญากรรม และการลักพาตัว แต่สิ่งนี้ไม่สามารถปิดกั้นหัวใจของบรรดาพีซเอเจนต์ที่ต้องการจะสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นที่นั่นได้ พีซเอเจนต์ที่โคลอมเบียเป็นชายแมน ๆ ทั้งหมด ๖ คน ซึ่งเกิดจากการชักชวนจากเพื่อนถึงเพื่อน ภารกิจครั้งนี้เป็นผลงานของพีซเอเจนต์ ๔ คน คือ ฟรานซิสโก นิโคลาส ฮูลิโอ และฮวน ซึ่งยังเรียนและทำงานอยู่ แม้ว่าจะอยู่ในช่วงสอบ แต่ก็ยังสลับคิวช่วยในการประสานงานได้อย่างลงตัว แถมยังชักชวนครอบครัวมาช่วยจัดงานได้อย่างน่าประทับใจ

ภารกิจที่นั่นเต็มไปด้วยเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ระทึกใจ และปลาบปลื้มใจคละเคล้ากันไป เพราะทันทีที่ทีมงานย่างกรายไปถึงกรุงโบโกตา ก็เกิดเหตุระเบิดลอบสังหารอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขึ้นในช่วงเวลาที่กำลังจัดเมดิเทชันเวิร์กชอป (Meditation Workshop) ที่มหาวิทยาลัย ซึ่งมีทั้งอธิการบดี คณบดี และนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมเกือบ ๒๐๐ คน ถือเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดในรอบ ๑๐ ปี ทำให้สถานที่ราชการและโรงเรียนหลายแห่งต้องประกาศหยุดทำการ แต่เราจะพูดถึงเฉพาะเหตุการณ์ที่น่าปลาบปลื้มใจ อย่างเช่นที่มหาวิทยาลัยบอสเค (Universidad El Bosque) ซึ่งคณบดีคณะบริหารธุรกิจมีแนวคิดว่า นักธุรกิจควรมีจิตสาธารณะ ควรเอากำไรไปช่วยสังคม ประเทศชาติจะได้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน เมื่อท่านทราบข่าวโครงการพีซเรฟโวลูชัน ก็อยากนิมนต์พระอาจารย์ไปแนะนำ สมาธิแก่อาจารย์และนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจเพราะท่านเห็นว่าสมาธิเป็นของสากล ไม่เกี่ยวกับศาสนา และยังเป็นประโยชน์ทั้งต่อร่างกายและจิตใจ สามารถเพิ่มศักยภาพภายในได้ จึงเป็นที่มาของการไปจัดงานที่มหาวิทยาลัยนี้ และในระยะเวลาเพียงแค่ ๓ วัน มีการจัดรอบนั่งสมาธิไป ๘ ครั้ง โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมทั้งสิ้น ๕๔๑ คน ซึ่งมีจำนวนไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าที่โบลิเวียเลย ส่วนผลการปฏิบัติธรรมก็มีตั้งแต่ โล่ง โปร่ง เบา สบาย มีความสุข ผ่อนคลาย ตัวหาย มือหาย ตัวขยายใหญ่ ไปจนถึงเห็นจุดสว่าง เห็นพระอาทิตย์ พระจันทร์ในกลางท้อง เป็นต้น

ประเทศที่สาม คือ เปรู ซึ่งมีกรุงลิมาเป็นเมืองหลวง มีเมืองกุสโกเป็นที่ตั้งของมาชูปิกชู มรดกโลก อันเลืองชื่อ นอกจากนี้ยังเป็นดินแดนแห่งพ่อมดหมอผีอีกด้วย แต่คนรุ่นใหม่ในวันนี้กำลังหันมาสนใจกับการพัฒนาตนเองทั้งด้านกายภาพและจิตวิญญาณ ทำให้สถาบันสอนโยคะและสมาธิกำลังเป็นเทรนด์ของที่นี่ และเปรูถือว่าเป็นจุดกำเนิดของการสร้างวีรกรรม และพันธกิจอันหลากหลายในเวลาต่อมาของเหล่าพีซเอเจนต์ในประเทศต่าง ๆ เพราะหนึ่งปีที่แล้วพีซเอเจนต์กาบี ได้เริ่มปฏิบัติการสะท้านกรุงลิมาเป็นครั้งแรก ทำให้พีซเอเจนต์ทั่วโลกต่างก็เกิดความทึ่งและฮึกเหิมอยากทำให้ได้อย่างนี้บ้าง

ปฏิบัติการในปีนี้ เริ่มต้นด้วยการจัดปฏิบัติธรรม ๓ วันเป็นครั้งแรก โดยมีผู้เข้าร่วมมากถึง ๔๕ คน และยังจัดรอบนั่งสมาธิอีก ๘ รอบ ทำให้ตลอด ๖ วัน กับ ๙ พันธกิจ มีชาวเปรูเข้าถึงความสุขภายในไปทั้งสิ้น ๕๑๕ คน ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายเดิมที่มีอยู่กับการติดต่อเครือข่ายใหม่ผ่านหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัว สื่อมวลชน ท้องถิ่น และโซเชียลเน็ตเวิร์ก (social network) อย่างเฟสบุค (Facebook) มาเป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างของพีซเอเจนต์เปรู คือการจัดนั่งสมาธิออนไลน์อย่างเหนียวแน่นและยาวนาน

ปฏิบัติธรรมที่เมืองลิมา

การนั่งสมาธิออนไลน์เกิดขึ้นครั้งแรกที่บ้านของกาบี เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๓ หรือวันสันติภาพสากล ปัจจุบันบรรดาพีซเอเจนต์ที่เปรูก็ยังผลัดกันทำหน้าที่เจ้าภาพจัดงานมาจนถึงทุกวันนี้เป็นเวลาเกือบ ๒ ปีแล้ว

พันธกิจในปีนี้ ทำให้เกิดการก้าวกระโดดของงานอย่างน่าสนใจ เมื่อทางเทศบาลลิมาซึ่งเป็นเทศบาลที่ใหญ่ที่สุด ทราบข่าวผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจ ที่เกิดขึ้นจากรอบปฏิบัติธรรมในที่ต่าง ๆ จึงติดต่อผ่านพีซเอเจนต์ดิอานา เพื่อนิมนต์พระอาจารย์ไปจัดที่เทศบาลลิมาบ้าง เพราะเขาอยากได้กิจกรรมดี ๆ อย่างนี้มานานแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นพันธกิจสำคัญต่อไปของพีซเอเจนต์เปรู ในการมอบสันติสุขภายในให้กับคนเปรูอย่างกว้างขวางในอนาคตอันใกล้นี้

หากพูดถึงบราซิล หลายคนคงนึกถึงฟุตบอลเป็นอันดับแรก หรือดนตรีจังหวะบอสซาโนวา กาแฟ แม้กระทั่งป่าอเมซอน แต่วันนี้บราซิลถือว่าเป็นมหาอำนาจในกลุ่มประเทศละตินอเมริกา มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีประชากรเกือบ ๒๐๐ ล้านคน ใช้ภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาราชการ มีกรุงบราซิเลียเป็นเมืองหลวง และเซาเปาโลเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด

แต่สิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้ของบราซิล คือการที่ผู้คนเริ่มหันมาสนใจดูแลและพัฒนาตัวเองในรูปแบบ ต่าง ๆ ทำให้เกิดการยอมรับในวิถีปฏิบัติใหม่ ๆ และก่อให้เกิดพันธกิจที่ไม่น่าเชื่อแต่เป็นความจริงขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา คือพีซเอเจนต์ฮาฟาเอลา อเลซซานดรา ซานดรา และมาริอานา สามารถปฏิบัติพันธกิจระดับโลกลุล่วงได้ด้วยการจัดปฏิบัติธรรม ๓ วัน และจัดรอบนั่งสมาธิ ๙ รอบ ที่เมืองเบโลฮอไรซอนชี เมืองเซาเปาโล และกรุงรีโอเดอจาเนโร นอกจากนี้ยังเข้าร่วมการประชุมสภาเยาวชนนานาชาติที่กรุงรีโอเดอจาเนโรอีกด้วย ทำให้ตลอดระยะเวลา ๑๒ วัน ใน ๓ เมือง มีคนเข้าร่วมกิจกรรม ทั้งสิ้น ๘๔๐ คน ถือว่าเป็นนิมิตหมายใหม่ในวงการ Change the World เลยก็ว่าได้

การเดินทางเริ่มจากเมืองเบโลฮอไรซอนชีเพราะเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของทั้ง ๔ สาว ซึ่งช่วยกันติดตามและตามติดกระทั่งสามารถจัดกิจกรรมได้ครบทุกรสชาติ ซึ่งพวกเธอเองต่างก็ปลื้มใจในผลงานที่เกิดขึ้นเช่นกัน ขอยกตัวอย่างที่มหาวิทยาลัย UFMG ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดของเมืองนี้ และเป็นมหาวิทยาลัยที่พีซเอเจนต์ของเราเรียนอยู่ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีนักศึกษาเข้าร่วมถึง ๒ รอบ รวม ๔๐๐ คน ซึ่งนักศึกษาเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่เคยนั่งสมาธิกันมาก่อน แต่ห้องกลับเงียบมาก

จากการสอบถามพบว่า ส่วนใหญ่นึกนิมิตได้ รู้สึกสงบ สบาย ผ่อนคลาย มีความสุข บ้างก็รู้สึกตัวหาย ไม่รับรู้ต่อสิ่งรอบข้าง เห็นความสว่าง เป็นต้น เรียกได้ว่าผลตอบรับดีเกินควรเกินคาด ทางทีมงานเองต่างก็ไม่นึกว่าคนบราซิลรุ่นใหม่จะให้ความสนใจกับสมาธิมากขนาดนี้

หลังจากเสร็จพันธกิจที่เมืองเบโลฮอไรซอนชีแล้ว ทีมงานไปกันต่อที่เมืองเซาเปาโล เมืองใหญ่ที่สุด ของประเทศและของอเมริกาใต้ เป็นเมืองศูนย์กลางทางธุรกิจคล้ายมหานครนิวยอร์ก ซึ่งที่นี่มีการจัดรอบนั่งสมาธิ ๕ รอบ เพราะมีเวลาเพียงแค่ ๒ วัน โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเครือข่ายท้องถิ่น ในการติดต่อประสานงานกับองค์กรและสถาบันการศึกษาสำคัญ ๆ อย่างเช่น ที่ FGV (Fundacao Getulio Vargas) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยด้านบริหารธุรกิจที่ดังที่สุดของเมืองเซาเปาโล และ PUC (Pontificia Universidade Catolica) มหาวิทยาลัยคาทอลิกที่เก่าแก่ที่สุด โดยได้นิมนต์พระอาจารย์ไปสอนสมาธิ

หลังจากนั้นทีมงานเดินทางต่อไปยังกรุงรีโอเดอจาเนโร เพื่อไปจัดปฏิบัติธรรม ๓ วัน ให้กับแกนนำในการจัดการประชุมสภาเยาวชนโลก (World Youth Congress) และบุคคลทั่วไป เพื่อเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการประชุมระดับโลก ที่ควรเริ่มต้นจากใจที่หยุดนิ่ง ณ ฐานที่ตั้งเดียวกันเสียก่อน ถึงจะพูดภาษาเดียวกัน นั่นคือภาษาแห่งสันติภาพ และจะนำมาซึ่งหนทางในการแก้ปัญหาของโลกที่แท้จริง

จากนั้นทีมงานได้เข้าร่วมการประชุมเยาวชนโลก ซึ่งมีเยาวชนเข้าร่วม ๓๐๐ กว่าคน จาก ๑๐๐ กว่าประเทศ และเป็นการประชุมเยาวชนโลกครั้งแรก ที่มีพระอาจารย์ไปนำนั่งสมาธิ ถึงแม้สิ่งนี้จะยังเป็นเรื่องแปลกใหม่ แต่ก็ได้รับความสนใจจากเยาวชนเป็นอย่างมาก หลายคนกล่าวว่า สมาธิทำให้เขาสงบ สดชื่น มีพลังและมีความหวัง ซึ่งสิ่งนี้จะมีผลในเชิงบวกกับการประชุมอย่างแน่นอน ไม่เฉพาะทำให้เกิดความรัก สมัครสมานสามัคคีในหมู่ผู้เข้าประชุมเท่านั้น แต่เป็นการปฏิวัติการประชุมระดับโลกได้อย่างลงตัว

ตลอดระยะเวลา ๓๖ วัน คือ ตั้งแต่วันที่ ๕ พฤษภาคม ถึง ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ใน ๔ ประเทศ คือโบลิเวีย, โคลอมเบีย, เปรู และบราซิล กับ ๙ เมือง คือ ลาปาซ, โคชาบัมบา, เออัลโต, โบโกตา, ลิมา, คาเยา, เบโลฮอไรซอนชี, เซาเปาโล และริโอเดอจาเนโร ทีมงานจัดปฏิบัติธรรม ๓ วันไปทั้งหมด ๔ ครั้ง และจัดรอบนั่งสมาธิไปถึง ๓๔ รอบ มีผู้คนได้รับความสุขจากสมาธิไปแล้ว ๒,๔๒๘ คน นอกจากนี้ยังได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนในแต่ละประเทศ ซึ่งเห็นได้จากการช่วยประชาสัมพันธ์งาน การเข้าร่วมทำสมาธิด้วยตัวเอง และการขอสัมภาษณ์พระอาจารย์หลังงานเลิก สิ่งเหล่านี้ล้วนแสดงถึงความต้องการสันติสุขภายในของมนุษย์ทุกเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์