ได้ตึก 18 ล้านแค่เพียงกระพริบตา
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ
ลูกชื่อ พรประไพ เป็นหนึ่งในเจ้าของบริษัทรับทำบัญชีรายหนึ่งค่ะ
ลูกชื่อ พรประไพ เป็นหนึ่งในเจ้าของบริษัทรับทำบัญชีรายหนึ่ง |
พี่น้องทั้งหมดของลูกที่เป็นเจ้าของบริษัทร่วมกันค่ะ |
หลวงพ่อคะ
ช่วงนี้ครอบครัวของลูกเจอวิกฤติหนักเหลือเกินค่ะ
เพราะสถานที่ตั้งของบริษัทกำลังจะหมดสัญญาเช่าเซ้งในปี 2560 นี้แล้วค่ะ
ทำให้ลูกต้องรีบหาสถานที่ตั้งของบริษัทใหม่ด่วนที่สุด แต่พอลูกไปขอกู้เงินกับแบงค์
18 ล้านบาท เพื่อมาซื้อตึกสูง 4 ชั้นครึ่ง 2 คูหาติดกัน เพื่อไว้เป็นที่ตั้งบริษัท
ธนาคารก็ไม่ยอมอนุมัติ เพราะเขาให้เหตุผลว่าสถานที่ที่ลูกจะซื้อเป็นที่ตาบอด
ตึก 2 คูหา 4 ชั้นครึ่ง ที่ลูกจะซื้อเป็นที่ตั้งของบริษัทแห่งใหม่ค่ะ |
ด้วยเหตุนี้..ลูกจึงไปติดต่อธนาคารแห่งที่
2 ให้มาดูว่าเป็นที่ตาบอดจริงหรือไม่
เพื่อจะได้ขอกู้กับธนาคารนี้แทน แต่ด้วยความกังวลว่าจะไม่ได้เงินกู้นี่เอง
พี่น้องทั้ง 5 คนของลูกจึงรวมพลังกัน อธิษฐานขอบารมีหลวงปู่ฯ
หลวงพ่อฯ คุณยายฯ แต่ที่พิเศษไปกว่านั้น คือ
ลูกได้ไปพนมมือกราบรูปคุณยายฯที่ใส่กรอบไว้ในบ้าน เพราะคุณยายฯเคยบอกว่า
แม้ยายฯไม่อยู่แล้ว..ยายฯก็ช่วยได้
จากนั้นลูกก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้คุณยายฯฟังเพื่อขอให้ท่านช่วย
โดยเล่าไปน้ำตาก็ไหลไป แล้วทันใดนั้นเอง ลูกก็ต้องอึ้งสุดขีด เพราะรูปคุณยายฯ
กระพริบตาให้ลูกค่ะ!!! และเพื่อความชัวร์ ลูกจึงรีบเช็ดน้ำตาให้แห้ง แล้วเปิดไฟทั่วบ้าน
แล้วก็กลับมาพนมมือถามคุณยายฯที่รูปใหม่ว่า
คุณยายฯกระพริบตารับรู้สิ่งที่ลูกพูดจริงๆรึเจ้าค่ะ
แล้วทันใดนั้นเอง...รูปคุณยายฯท่านก็กระพริบตาคอนเฟิร์มลูกเป็นครั้งที่ 2 ค่ะ
รูปคุณยายอาจาร์ยฯ ที่บ้านของลูก ที่ลูกอธิษฐานขอ แล้วท่านก็กระพริบตาค่ะ |
เล่นเอาลูกหายคาใจ
แล้วได้กำลังใจกลับมาว่า..อย่างน้อยคุณยายฯก็รับรู้
ซึ่งท่านก็คงไม่ทิ้งลูกหลานของท่านแน่นอน
และแล้วเรื่องอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นจริงๆค่ะ คือ วันรุ่งขึ้นธนาคารแห่งที่ 2
ก็โทรมาทันที บอกว่า..ไม่ได้เป็นที่ตาบอด..สามารถให้กู้ได้ 18
ล้านบาท จากนั้นลูกก็ไม่รอช้า รีบไปโอดีเงินออกมา 1
ล้านบาท เพื่อไปวางมัดจำในการซื้อตึกทันที แต่พอวางมัดจำไปแล้ว
เหตุการณ์อันไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นจนได้ เพราะธนาคารก็เกิดเปลี่ยนใจโทรมาบอกลูกว่า
ไม่ปล่อยกู้ให้แล้ว เนื่องจากเอกสารของลูกมีปัญหา ซึ่งเหตุการณ์พลิกล็อกตรงนี้
ทำให้ลูกอยากจะล้มทั้งยืนเลยค่ะ เพราะถ้าลูกไม่มีเงิน 18
ล้านไปซื้อตึกในวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2559
ก็จะต้องถูกริบเงินมัดจำ 1 ล้านบาทไปทันที
ซึ่งก็เท่ากับลูกเจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัดที่หนักกว่าเดิม เพราะไม่ได้ทั้งตึก ไม่ได้ทั้งเงินกู้
แถมเสียเงินฟรีอีก 1 ล้าน
แม้สถานการณ์แย่ลงขนาดนี้ ลูกก็ไม่ยอมแพ้
จึงรีบไปทำเรื่องกู้กับธนาคารแห่งที่ 3 ต่อทันที แต่อนิจจา..เขากลับบอกว่า
ขอเวลาพิจารณาอย่างน้อย 1 เดือน ถึงจะให้คำตอบว่ากู้ได้หรือไม่
เพราะต้องทำการประเมินใหม่ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ลูกก็คงหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะเหลือเวลาอีกแค่ 10
กว่าวัน ก็จะถึงวันกำหนดโอนตึก เมื่อเป็นดังนี้..ลูกจึงงัดกลยุทธ์เดิมมาใช้อีกคือ
ไปพนมมือขอคุณยายฯหน้ารูปท่านอีก ทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้เลย
และก็เป็นอะไรที่เหลือเชื่อมากๆ เพราะรูปคุณยายฯกระพริบตาให้ลูกอีกแล้วค่ะ
จนลูกใจชื้นลุกขึ้นมากระโดดอย่างสุดแรงเกิด
ทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่าคุณยายฯจะช่วยลูกด้วยวิธีการใด แต่พอวันที่ 6
มีนาคม พ.ศ.2559 ตอน 18.00 น.
อยู่ๆ...ธนาคารก็เกิดอะเลิร์ทอะไรก็ไม่ทราบโทรมาบอกว่า “อนุมัติเงินกู้ให้เรียบร้อยแล้ว”
คือ เหลือเชื่อมาก..ว่ามันเป็นไปได้อย่างไร เพราะธนาคารยอมอนุมัติง่ายๆแบบเร็วผิดปกติ
จนลูกได้เงิน 18 ล้านมาซื้อตึกได้ทันเวลาแบบเฉียดฉิว
แถมดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารนี้ ก็ถูกกว่าธนาคารที่ 2
อีกค่ะ
แต่ที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ หลังจากที่ลูกซื้อตึก 2 คูหานี้ได้ในราคา
18 ล้านบาทแล้ว อีก 3 วันต่อมา
ตึกใกล้ๆกับที่ลูกซื้อ ก็ติดประกาศขายคูหาละ 20 ล้านบาท
ซึ่งถือว่าราคาแพงกว่าที่ลูกซื้อมาก เพราะถ้าซื้อ 2 คูหาก็จะตกอยู่ที่
40 ล้านบาท แถมตึกนี้ยังสูงแค่ 4 ชั้นเองค่ะ
ไม่ใช่ 4 ชั้นครึ่งแบบของลูก สรุป คือ
งานนี้..ลูกได้ของดีราคาถูกสุดขีด คือ 2 คูหา แค่ 18 ล้านเท่านั้น
อีกทั้งตึกที่เป็นบริษัทใหม่ของลูก ก็มีพื้นที่มากกว่าบริษัทเดิม แถมทำเลยังดีกว่า
เพราะอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า ใกล้สถานีรถไฟ
BTS และ BRT ซึ่งลูกได้ทั้งหมดนี้
ก็เพราะคุณยายฯช่วยไว้แท้ๆ เลยค่ะ และช่วงนี้พอลูกทราบข่าวว่าจะมีการหล่อคุณยายฯ
ลูกและครอบครัวก็ประเดิมทำทันทีที่ 1 S ค่ะ
ซึ่งลูกและครอบครัวก็กราบขอพรจากหลวงพ่อด้วยค่ะ
ได้ตึก 18 ล้านแค่เพียงกระพริบตา
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
01:10
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: