ความทรงอภิญญาของคุณยายฯ ที่ผมเจอกับตัวเอง

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ

ผม นายแพทย์ ยศพนธ์  ปองทอง เรียนจบคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ ปัจจุบันเป็นหมอเฉพาะทางด้านศัลยกรรมครับ

คุณหมอ ยศพนธ์ หมอเฉพาะทางด้านศัลยกรรม
ผมเป็นหมอเฉพาะทางด้านศัลยกรรมครับ

หลวงพ่อครับ ในฐานะผมเรียนจบสายวิทยาศาสตร์ ปกติแล้วคนเรียนจบสายนี้ เขาไม่ค่อยเชื่ออะไรที่ไม่มีเหตุผลหรือสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้หรอกครับ แต่เมื่อผมมาเจอคุณยายฯอาจารย์ ผมก็ขอยืนยันว่า ท่านเป็นบุคคล..อจินไตย ที่วิทยาศาสตร์ตามหลังท่านไม่ทันที่ผมกล้าพูดแบบนี้ ก็เพราะในภาวะที่ไม่มีศาสตร์ไหนในโลกช่วยผมได้ แต่คุณยายฯใช้พุทธศาสตร์ช่วยผมได้ทุกครั้ง อย่างในครั้งที่คุณแม่ผมเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 2  ช่วงนั้นคุณแม่อาการสาหัสมากในระดับที่มีเลือดออกมากเป็นเดือนๆ ซึ่งหมอที่รพ.ศิริราชก็บอกว่า ต้องผ่าตัดรังไข่และมดลูกออกทั้งหมด แต่ก็ไม่รับรองว่า..จะหายขาดหรือไม่ แต่จากประสบการณ์ก็เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า คนไข้มะเร็ง..สุดท้ายก็ต้องตาย เพียงแต่จะยืดเวลาแห่งความทรมานของใครไปได้นานกว่ากัน

แต่หลวงพ่อครับ ตอนคุณแม่ผมเป็นมะเร็ง ตอนนั้นแม่ผมอายุแค่ 50 ปีเองครับ คือ ยังน้อยเกินกว่าที่ท่านจะจากโลกนี้ไป และถ้าท่านตายไปจริงๆ ผมเองก็ไม่รู้จะอยู่อย่างไร เพราะท่านเป็นหลักทุกอย่างในบ้าน ด้วยเหตุนี้ผมจึงมีความทุกข์ความกังวลสุดประมาณ จนกระทั่งผมตัดสินใจมากราบคุณยายฯที่ครัวยามาตอนเกือบ 7 โมงเช้า ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาที่ท่านยุ่งกับงานครัวมาก จนไม่มีเวลารับแขก แต่ด้วยความเมตตาของคุณยายฯ ท่านก็เลยบอกให้ผมเขียนชื่อกับนามสกุลแม่ไว้ แล้วบอกว่า ยายจะช่วยและหลังจากนั้น แม่ก็เข้าห้องผ่าตัด ซึ่งหลังจากผ่าตัดนี่เอง แม่มีอาการดีขึ้นรวดเร็วมาก อีกทั้งไม่มีการลามของเซลล์มะเร็ง จึงไม่ต้องให้คีโม ไม่ต้องฉายแสง ไม่ต้องกินยาใดๆ จนมีอายุรอดมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งท่านอายุได้ 76 ปีแล้วครับ

คุณแม่ของผมครับ ปัจจุบันยังแข็งแรงมาวัดได้ครับ

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงศรัทธาคุณยายฯอย่างแรงกล้า และพอมีเรื่องเดือดร้อนที่ไม่มีใครในโลกช่วยได้

ผมก็จะมากราบคุณยายฯแทบทุกครั้ง อย่างในเรื่องเศรษฐกิจของครอบครัวผม หลังจากคุณแม่ผ่าตัด และหายขาดจากมะเร็งแล้ว ท่านก็มาทำธุรกิจบ้านจัดสรร แต่พอทำไปทำมา ก็ทำท่าจะเจ๊ง เพราะหนี้สินท่วมหัวถึง 20 กว่าล้านบาท บ้านที่สร้างมาก็ขายไม่ออก ขาดทุนย่อยยับ และไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจริญขึ้นเลยครับ ตรงข้ามกลับฉายแววชัดเจนว่า เจริญลงๆ จนจะซี้แหง๋แก๋แล้วครับ ด้วยเหตุนี้ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงมากราบคุณยายฯ เรียนท่านว่า....

คุณยายฯครับ ผมอยากให้คุณยายฯช่วยให้ผมหมดหนี้หมดสินหน่อยครับ ไม่รวยก็ไม่เป็นไร เพราะผมแย่แล้วครับซึ่งคุณยายฯท่านก็พูดประโยคเดิมว่า แล้วยายจะช่วยซึ่งนับจากนั้น ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดหลายอย่าง คือ อยู่ๆน้าสาวก็เอาเงินสดๆ มาช่วยใช้หนี้ให้ 5 ล้านบาท แล้วบ้านก็เกิดขายได้อย่างไม่มีเหตุผล ส่วนบ้านที่ขายไม่ได้ ก็เปลี่ยนเป็นธุรกิจบ้านเช่าแทน จนเงินทะลักเข้ามาอย่างรวดเร็ว  จนปลดหนี้ได้หมดภายใน 2 ปี อย่างเหลือเชื่อเลยครับ

ซึ่งนอกจากคุณยายฯจะช่วยปลดหนี้ก้อนใหญ่ให้ครอบครัวผมแล้ว ท่านยังช่วยผมด้านการงานอีก อย่างในครั้งที่ผมอยากเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ เพื่อความก้าวหน้าในชีวิต ผมจึงไปสมัครงาน ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งตำแหน่งนี้เขารับแค่คนเดียวเท่านั้น และคนที่จะเข้าไปทำงานในตำแหน่งนี้ ก็มีเด็กเส้นที่จะเข้าไปอยู่แล้ว คือ ดูแล้วยังไงๆ ผมก็ไม่มีทางทำงานในตำแหน่งนี้ได้เลยจริงๆ แต่ด้วยความที่ผมอยากได้งานที่นี่มาก จึงไปกราบคุณยายฯ คุณยายท่านก็จับหัวผม แล้วก็นั่งเข้าที่สักครู่ แล้วท่านก็บอกว่า ขอให้ได้จากนั้นไม่นานผมก็ได้รับข่าวดีสุดขีด คือ อยู่ๆ ทางหน่วยงานราชการนี้ ก็เปิดรับตำแหน่งนี้เพิ่มเป็น 2 อัตรา อย่างไม่มีเหตุผล ซึ่งผมก็ได้งานในตำแหน่งนี้เป็นอัศจรรย์ครับ สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกว่า คุณยายฯท่านเป็นผู้ทรงอภิญญาที่มีความบริสุทธิ์บริบูรณ์มาก ซึ่งหากเราได้ทำบุญเพื่อเชื่อมสายบุญกับท่าน เราก็จะได้บุญอันไม่มีประมาณกับท่านไปด้วย แล้วพอผมทราบว่าจะมีการหล่อคุณยายฯองค์ที่ 3 ผมก็ประเดิมปิดกองไปแล้วครับ

และก็อยากชวนทุกคนมาเอาบุญกับคุณยายฯด้วยกัน อีกทั้งมาตักบาตรแสนรูปกันให้เยอะๆนะครับ ท้ายที่สุดนี้..กระผมกราบขอพรจากหลวงพ่อด้วยครับ
ความทรงอภิญญาของคุณยายฯ ที่ผมเจอกับตัวเอง ความทรงอภิญญาของคุณยายฯ ที่ผมเจอกับตัวเอง Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 00:39 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.