หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๒๓)
อย่างไรก็ดี
เมื่อกล่าวถึงความสำเร็จของการทำงานวิจัยนั้น
สิ่งที่น่ายินดีอีกอย่างหนึ่งในห้วงเวลาเดียวกันนี้ก็คือ การที่ดร.ชนิดา
จันทราศรีไศล บ.ศ. ๙ คนแรกของวัดพระธรรมกาย
นักวิจัยของสถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัยได้รับเกียรติให้ตีพิมพ์ผลงานร่วมกับศาสตราจารย์ริชาร์ด
ซาโลมอน (Richard
Salomon) และทีมงานของท่านในหนังสือ
Buddhist Manuscripts in the
Schøyen Collection เล่มที่ ๔
ซึ่งหลังจากที่รอคอยมาเป็นเวลานับสิบปีหลังจากออกเล่มที่ ๓ ในปี ค.ศ. ๒๐๐๖ (พ.ศ.
๒๕๕๐)
ซึ่งการได้รับเกียรติครั้งนี้ถือเป็นประจักษ์พยานสำคัญในความร่วมมือกันทางวิชาการมาอย่างยาวนานระหว่างทีมงานของศาสตราจารย์ Jens Braarvig ทีมงานของศาสตราจารย์ Richard Salomon และสถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัยมาจนถึงปัจจุบันด้วย
สำหรับความเป็นมานั้น ดร.ชนิดาเล่าว่า ในปี
พ.ศ. ๒๕๕๔ ทางทีมงานได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อธัมมชโยให้ไปศึกษาคัมภีร์ภาษาคานธารี
ซึ่งจัดเป็นคัมภีร์เก่าแก่ที่สุดของพระพุทธศาสนาเท่าที่ค้นพบมาจนถึงเวลานี้ จึงได้ประสานงานกับศาสตราจารย์ริชารด์
ซาโลมอน แห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ซึ่งเป็นสถาบันหลักที่ศึกษากลุ่มคัมภีร์ดังกล่าวเพื่อส่งนักวิจัยไปร่วมศึกษาด้วย
และเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่โครงการฯ ทางมหาวิทยาลัยได้เอื้อเฟื้อโดยการจัดห้องเรียนภาษาคานธารีเบื้องต้น
(Klub Junior
/ basic Gandhari) ให้ควบคู่กับการให้เข้าร่วมประชุมกลุ่มในทีมศึกษาคัมภีร์ (Kharosthi Klub) และเข้าร่วมฟังในห้องเรียนภาษาสันสกฤตชั้นต่าง
ๆ ด้วย ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการศึกษาคัมภีร์คานธารี
โดยเริ่มต้นศึกษาตั้งแต่เปิดภาคเรียนปลายเดือนกันยายนพ.ศ. ๒๕๕๔
ใน Klub Junior นั้น สมาชิกนักวิจัยได้เรียนพื้นฐานของภาษา
ตัวอักษร การฝึกอ่านจากจารึกโบราณและคัมภีร์ที่ตีพิมพ์แล้ว ส่วนใน Kharosthi Klub เป็นการศึกษาร่วมกันของผู้ที่คุ้นเคยกับภาษาคานธารีแล้ว
มาช่วยกันวิเคราะห์เนื้อหาหรือประเด็นปัญหาในการศึกษาชิ้นส่วนคัมภีร์คานธารีที่ยังไม่ตีพิมพ์
ซึ่งผู้รับผิดชอบแต่ละชิ้นจะนำเข้ามาหารือใน Klub
หลังจากที่ทีมนักวิจัยดีรีได้ฝึกอ่านคัมภีร์คานธารีมาระยะหนึ่งแล้ว
ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ดร.ทิม ซึ่งเป็นครูฝึกของ Klub Junior ได้ทดลองเอาชิ้นส่วนเล็กๆ ของคัมภีร์คานธารีชิ้นหนึ่งมาให้อ่าน
มีคำว่า นิพพาน ความสุข และมีชื่อของสมาธิระดับต่างๆ ที่น่าสนใจ
ดร.ชนิดาจึงขอมาเป็นการบ้านเพื่อสืบค้นเปรียบเทียบกับพระไตรปิฎกบาลี พบว่า
เนื้อหาตรงกับนิพพานสูตร (นิพพานสุขสูตร) ในอังคุตตรนิกาย นวกนิบาต
จึงทำเนื้อหาเปรียบเทียบกันและส่งให้อาจารย์ดูเป็นการส่งการบ้าน
ในภายหลังจึงทราบว่า
ความจริงคัมภีร์กลุ่มนี้เคยนำมาอ่านกันใน Kharosthi Klub ราวสิบปีก่อน แล้วยังเก็บไว้เฉยๆ ไม่ได้ตีพิมพ์เนื่องจากยังไม่มีใครระบุได้ว่าเป็นคัมภีร์อะไร
และเมื่อ ดร.ชนิดาทราบชัดแล้วว่าเป็นพระสูตรจากอังคุตตรนิกาย ศาสตราจารย์ซาโลมอน หัวหน้าโครงการ
จึงให้นำคัมภีร์กลุ่มนี้ เฉพาะที่เป็นลายมือเดียวกันออกมาให้ช่วยกันอ่านทั้งหมด
สิ่งที่พบเพิ่มขึ้นคือ คัมภีร์ชิ้นอื่นๆ ในกลุ่มนี้ที่เขียนด้วยลายมือเดียวกันเป็นพระสูตร
ในอังคุตตรนิกายทั้งหมด โดยอยู่ในหมวด ๙-๑๑ ทั้งสิ้น
และมีการจัดเรียงของพระสูตรใกล้เคียงกันมากกับในพระไตรปิฎกบาลี นอกจากนี้ยังพบว่ามีอีกลายมือหนึ่งที่จารึกพระสูตรในอังคุตตรนิกายต่อเนื่องจากลายมือแรกนี้
ซึ่งเมื่อนำมาต่อกันแล้วจะเห็นภาพการจัดลำดับของพระสูตรที่ตรงกันหรือไปในทิศทางเดียวกันกับพระสูตรบาลี
การค้นพบนี้จึงนับว่ามีความสำคัญต่อวงการการศึกษาคัมภีร์พุทธดั้งเดิมในฐานะที่เป็นคัมภีร์ลายมือเขียนชุดแรกที่ยืนยันว่าครั้งหนึ่ง
ในอดตีอันไกลพ้น ภาษาคานธารีเคยเป็นภาษาที่บันทึกคัมภีร์หลักในพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกันกับพระไตรปิฎกบาลี
และการบันทึกคัมภีร์พุทธในยุคพุทธศตวรรษที่ ๗-๘ นั้น
มีการจัดหมวดหมู่ของพระสูตรกันแล้ว
ยิ่งกว่านั้นการค้นพบคัมภีร์กลุ่มนี้ยังยืนยันว่า ในอดีตพระพุทธศาสนาสายวิภัชชวาท
(ต้นสายของเถรวาทในปัจจุบัน) ได้เคยเผยแผ่มาถึงดินแดนคันธาระนานแล้ว
ดังผลของการศึกษาร่วมกันของนักวิชาการจาก ๒
สถาบันดังกล่าวซึ่งรายงานไว้ในบทความในหนังสือเล่มนี้แล้ว
ในขณะที่ในแง่ของหลักฐานธรรมกายการศึกษาคัมภีร์คานธารีกลุ่มนี้ยืนยันความถูกต้องของคำสอนในวิชชาธรรมกายในบางประเด็นไว้ด้วย
เช่น
ยืนยันคุณสมบัติของนิพพานว่าเป็นความสุขที่เที่ยงแท้
แตกต่างจากสังขารธรรมที่ยังตกอยู่ในไตรลักษณ์
ยืนยันว่า การเห็นบุญ-บาป ธรรมขาว-ธรรมดำ
ดังที่พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำกล่าวไว้นั้น
เป็นคุณวิเศษที่ถูกต้องในพระพุทธศาสนา แม้พระพุทธองค์เองที่ทรงพยากรณ์สิ่งต่างๆ
ก็ด้วย ทรง “เห็นแจ้งและรู้แจ้ง” ก่อนเช่นกัน
ยืนยันว่า
การเห็นไม่จำเป็นต้องยึดติดและการทำใจหยุดนิ่งโดยไม่ยึดติดกับสิ่งที่เห็นหรือรับรู้
ซึ่งเป็นสิ่งที่มหาปูชนียาจารย์สอนนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ถูกต้อง ควรทำ
และนำไปสู่การพ้นทุกข์ ตรงตามหลักฐานที่มีในคัมภีร์พุทธดั้งเดิม
จึงนับเป็นย่างก้าวที่สำคัญยิ่งในการศึกษารวบรวมหลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณที่เราซึ่งเป็นลูกหลานพระมงคลเทพมุนี
(สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ควรภาคภูมิใจและปีติใจ
ขอเจริญพร
เอกสารอ้างอิง
หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๒๓)
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
01:51
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: