โครงการเดินธุดงค์ธรรมชัยจะทำให้พระพุทธศาสนาของเรามีการสืบทอดให้จีรังยั่งยืนต่อไปได้อย่างไร ?



โครงการเดินธุดงค์ธรรมชัยตามเส้นทางพระผู้ปราบมารจัดขึ้นเพื่อให้ศิษยานุศิษย์รำลึกนึกถึงพระคุณของหลวงปู่และเจริญรอยตามปฏิปทาของท่าน เพื่อให้เข้าถึงความสุขภายในอย่างแท้จริง และเพื่อกลั่นผืนแผ่นดินไทยให้สะอาดบริสุทธิ์ ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองดังเช่นในสมัยพุทธกาล

เส้นทางพระผู้ปราบมาร คือ เส้นทางชีวิตของพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ตั้งแต่สถานที่ถือกำเนิด : อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี, สถานที่บรรพชาอุปสมบท : วัดสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี, สถานที่บรรลุธรรม : วัดโบสถ์บน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี, สถานที่สอนธรรมครั้งแรก : วัดบางปลา อ.บางเลน จ.นครปฐม, สถานที่ทำวิชชา : วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพมหานครและสถานที่สืบสานวิชชาธรรมกาย : วัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ธุดงค์ธรรมชัยเส้นทางพระผู้ปราบมาร เป็นภารกิจสำคัญของการทำงานเพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนา เพราะว่าการเดินธุดงค์นี้มีประโยชน์ ๓ ด้าน คือ ๑. เป็นการฝึกฝนอบรมตนเองของพระกองพันเนื้อนาบุญ ๒. ชาวพุทธทั่วโลกมีโอกาสสร้างบุญใหญ่ตลอดเส้นทางซึ่งเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองอย่างแท้จริง บุญที่เกิดแก่ทุก ๆ คนจะรวมเป็นพลังบุญเพื่อทำให้ประเทศไทยร่มเย็น และทำให้โลกทั้งโลกร่มเย็น ๓. เป็นความมั่นคงยั่งยืนของพระพุทธศาสนา การเดินธุดงค์นี้ช่วยสืบอายุพระพุทธศาสนา เป็นหัวใจสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา

ธุดงค์เป็นข้อปฏิบัติประเภทที่ทำด้วยความสมัครใจ มิใช่การบังคับกัน เรื่องธุดงค์นี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตไว้ เป็นอุบายกำจัดขัดเกลากิเลสอย่างเข้มข้น ทำให้เกิดความมักน้อยสันโดษ เพราะว่าในการเดินธุดงค์สมบัติต้องน้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้

การเดินธุดงค์ยังเป็นโอกาสดีที่พระธุดงค์จะได้ฝึกฝนตนเอง    เพราะการรู้จักตนเองและการพัฒนาตนเองอย่างถูกวิธีทำได้ยาก ถ้าจะให้รู้จักตนเองชัด เราต้องเลิกมองออกนอกตัว ต้องมองเข้ามาในตัวเอง ต้องรู้จักตนเองจากการรู้จักพฤติกรรมของตัวเอง ต้องรู้จักนิสัยหรือคุณธรรมศีลธรรมของตนเอง

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้หมั่นสำรวจตัวเอง ๕ ด้าน คือ ๑. สำรวจว่าศรัทธาของเราต่อพระรัตนตรัยเป็นอย่างไร ๒. ศีลมั่นคงขนาดไหน ๓. จาคะมีขนาดไหน ๔. ปัญญามีขนาดไหน ๕. ปฏิภาณมีขนาดไหน

การเดินธุดงค์เป็นการเดินฝ่ากระแสกิเลสของชาวโลกและตัวเอง เพราะว่าพอเดินทางไกลเป็นร้อย ๆ กิโลเมตร เมื่อเหนื่อยเข้าหิวเข้า ศรัทธาของตัวเองต่อพระรัตนตรัยขณะนี้เป็นอย่างไร ต้องหมั่นประคับประคองให้ดี, ศีลเป็นอย่างไร ยังรักษาได้ดีอยู่หรือไม่ โดยทั่วไปในยามเหนื่อย ยามหิว ยามลำบาก ศีลมีโอกาสพร่อง, จาคะ ทั้งสละความสะดวกสบายและอารมณ์ที่ไม่อยากจะให้มันมากระทบ แต่มันก็มากระทบ สละได้ดีขนาดไหน

เมื่อเหนื่อย เพลีย หิว ปัญญายังเฉียบอยู่ไหม ทำอย่างไรจะใช้ปัจจัย ๔ อย่างประหยัดและยังรักษาความสะอาดได้ด้วย การเดินธุดงค์จะบังคับให้ฉลาดขึ้นในการใช้ปัจจัย ๔ และฉลาดในการบริหารเวลา และตลอดการเดินก็มีปัญหาสุขภาพให้แก้ตลอด เช่น ควรทิ้งน้ำหนักอย่างไรในขณะเดิน เท้าจะได้ไม่พอง ต้องมีปฏิภาณในการแก้ปัญหาเหล่านี้

การเดินธุดงค์ยังเคี่ยวเข็ญให้ผู้เดินมีศรัทธาเพิ่มขึ้น ศีลเข้มข้นขึ้น จาคะความเสียสละ โดยเฉพาะการสละอารมณ์ไม่ดีทั้งหลายเพิ่มขึ้น ปัญญาและปฏิภาณก็เพิ่มขึ้นตลอดทาง การเดินธุดงค์จึงเป็นวิธีหล่อหลอมความเข้มแข็งความเฉียบขาดของผู้ที่เดินธุดงค์อย่างดี มิเพียงเท่านั้น ผู้ที่ให้การสนับสนุนการเดินธุดงค์ก็มีโอกาสพัฒนาทั้งศรัทธา ศีล จาคะ ปัญญา และปฏิภาณตลอดทางอีกด้วยเช่นกัน

ในการเดินธุดงค์ กำหนดกันว่า วันหนึ่งจะเดินประมาณ ๑ โยชน์ (๑๖ กิโลเมตร) ถือตามสมัยพุทธกาล ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงนำสงฆ์หมู่ใหญ่เดินธุดงค์ไปโปรดสัตว์โลกทรงเดินประมาณวันละ ๑ โยชน์ เมื่อครบ ๑ โยชน์แล้ว ก็หาที่พัก เราก็ดำเนินรอยตามรอยบาทของพระองค์ เมื่อได้ที่พักกว้างขวางพอรองรับพระธุดงค์ทั้งหมดบริเวณไหน ในรัศมีประมาณ ๑ โยชน์ ก็เลือกเอาบริเวณนั้น

ในชีวิตจริง เราต้องทำสมาธิให้ได้ในทุกอิริยาบถ สำหรับผู้ฝึกใหม่ให้เริ่มต้นด้วยท่านั่งซึ่งจะทำให้มีกำลังใจฝึกได้อย่างยั่งยืน จากนั้นก็ฝึกในท่ายืน ท่าเดิน พระธุดงค์เดินไปก็ สัมมาอะระหังไป เป็นการอาศัยการเดินธุดงค์หลายร้อยกิโลเมตรฝึกสมาธิในท่าเดิน ซึ่งเมื่อตั้งใจฝึกจริง ๆ แล้ว ด้วยจำนวนระยะทางขนาดนี้ พอที่จะทำให้ประสบผลสำเร็จ พร้อมที่จะเป็นขุนพลกองทัพธรรมในภายภาคหน้านำชาวพุทธทั่วโลกสู้กับกิเลสกันได้

การสู้รบกับกิเลสมารซึ่งฝังอยู่ในใจเรามาตั้งแต่เกิด จำเป็นจะต้องรักษาอารมณ์ให้ดีในการเดินธุดงค์จึงต้องไม่ช้าไป ไม่เร็วไป เดินเร็วจะเหนื่อยไป เดินช้ายืดยาด จังหวะการเดินไม่สม่ำเสมอ ก็จะเมื่อย สิ่งที่ต้องฝึกก็คือ การรักษาอารมณ์ให้ได้สม่ำเสมอ ดังนั้นจึงกำหนดชัดลงไปว่า ระยะทางเท่านี้ควรใช้เวลาเท่านี้

พระธุดงค์ที่ปฏิบัติข้อวัตรอยู่ในขณะนี้ท่านทำหน้าที่พระได้อย่างดีที่สุดแล้ว เพราะว่าท่านทำถูกข้อวัตรปฏิบัติ สิ่งที่ท่านปฏิบัติอยู่เป็นบ่อเกิดแห่งศรัทธาของญาติโยม ท่านทำให้ชาวพุทธไม่ลืมพระสงฆ์และมีศรัทธามากขึ้นต่างคนก็ต่างดีใจที่ได้เห็นชาวพุทธมารวมตัวกันต้อนรับพระ บังเกิดเป็นความภาคภูมิใจที่ศาสนาพุทธยังมีพระที่น่าเลื่อมใสมากมายอย่างนี้ ถ้าหากพระเราฝึกตัวแล้วอยู่แต่ในวัดญาติโยมทางบ้านคงไม่มีโอกาสทราบว่า ในขณะนี้ยังมีขุนพลกล้าของกองทัพธรรมอีกจำนวนนับพัน ที่ตั้งใจบวชศึกษาฝึกฝนอบรมตนเอง ปฏิบัติธรรมตามรอยบาทพระศาสดาเพื่อการบรรลุธรรม เพื่อสู้กับกิเลส

ผู้นำบุญทั้งหลายก็ได้ไปทำหน้าที่กัลยาณมิตรชักชวนญาติโยมที่อยู่สองข้างทางให้มาต้อนรับพระธุดงค์ มาร่วมกันทำหน้าที่เป็นเจ้าของพระพุทธศาสนา ทำหน้าที่ฟื้นฟูศีลธรรมโลก ทั้งรักษา ทั้งเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปพร้อม ๆ กัน ชาวบ้านตลอดทางก็ปลื้มปีติที่ได้รับพระธุดงค์  ถือเป็นบุญบารมีที่ทำได้ยากและดีใจที่เส้นทางนี้เป็นเส้นทางบุญต้อนรับพระขอให้บุญบารมีที่สั่งสมนี้ทำให้ได้หลุดพ้นกิเลส

โครงการนี้ทำให้สาธุชนได้เข้าใจว่า การธุดงค์ก็ตาม การปราบกิเลสก็ตาม มีอยู่จริงมิใช่เป็นเพียงตำนาน เมื่อมีการแจ้งข่าวบุญนี้ออกไป มีสาธุชนพากันออกมาต้อนรับพระธุดงค์จากทั่วทุกสารทิศ จากจังหวัดต่าง ๆ จากประเทศเพื่อนบ้านก็มี แสดงให้เห็นว่า ศาสนาพุทธของเรายังจะคงอยู่คู่โลกต่อไปอีกแสนนาน

การที่คุณครูได้พาเด็ก ๆ มาต้อนรับพระธุดงค์ตามเส้นทางพระผู้ปราบมารนี้ จะทำให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ว่า หลวงปู่บรรลุธรรมอย่างไร และควรปฏิบัติตามท่านอย่างไร และนี้ก็คือวิธีปลูกฝังพระพุทธศาสนาลงไปสู่จิตใจเยาวชนที่ถูกต้องที่สุด ให้ตาของหนูได้เห็นจีวรสีเหลืองอร่ามของพระภิกษุที่เดินฝ่าเปลวแดดมาด้วยใบหน้าผ่องใส สงบเสงี่ยมสง่างาม ให้หูของหนูได้ฟังถ้อยคำอันเป็นทางมาแห่งบุญว่า สาธุให้มือของหนูได้พนมขึ้นประดุจดอกบัวก้มกราบบูชาพระรัตนตรัย ให้ความดีงามปลูกฝังเข้าไปในใจของเยาวชนตั้งแต่เยาว์วัย จะได้อยากรักษาพระพุทธศาสนาเอาไว้ อนาคตโลกจะเฟื่องฟูด้วยศีลธรรม ด้วยพลังแห่งความดีของลูกหลานชาวพุทธของเรา

เท้าของคนเรานั้นรับน้ำหนักตัวในขณะเดินและยืนไม่เท่ากัน  ย่างก้าวแต่ละก้าวเท้าต้องรับน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเป็น ๒ เท่า เมื่อเดินธุดงค์ด้วยเท้าเปล่าเป็นหมื่น ๆ ก้าว น้ำหนักแต่ละก้าวจะทบทวีเข้าไปเรื่อย ๆ เท้าก็มีโอกาสที่จะพอง ก็ได้อาศัยความนิ่มและความเย็นของกลีบดอกไม้ทำให้เดินได้สะดวกขึ้น การโปรยกลีบดอกไม้ต้อนรับพระธุดงค์จึงเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินธุดงค์ ทุกท่านที่มาอำนวยความสะดวก ก็จะมีอานิสงส์คือต่อไปจะได้รับความสะดวกสบายในทุกที่ที่ย่างก้าวไป

ในแต่ละวันที่เดินธุดงค์ไปถึงจุดหมายก็จะมีพิธีล้างเท้าอันศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่โบราณมาเวลาพระอาคันตุกะไปถึงวัดไหน พระในวัดนั้นและชาวบ้านแถวนั้นจะมาช่วยกันล้างเท้าเป็นการต้อนรับ นวดเท้าให้ด้วย ทำไมต้องทำเช่นนั้น ? ก็ลองคิดดูเถิดว่า เมื่อพระท่านเดินมาเป็นระยะทางไกล เท้าจะทำงานหนักแค่ไหน ก็ต้องระบมเป็นธรรมดา ถ้าได้ล้างเท้านวดเท้าด้วย กำลังก็จะฟื้นเร็ว พร้อมที่จะไปทำภาวนาให้เข้าถึงธรรมที่ยิ่ง ๆ ขึ้นไปได้ง่าย

ในการเดินธุดงค์แต่ละวันโดยมีระยะทางเป็นโยชน์ ถ้าเดินรวดเดียวคงย่ำแย่ ก็ต้องอาศัยจุดพักดื่มปานะระหว่างทางและจุดพักค้างในเวลากลางคืน ซึ่งขบวนพระกองพันเนื้อนาบุญเป็นพันรูป พื้นที่ที่จะใช้พักระหว่างทางต้องใหญ่พอสมควร และเจ้าของพื้นที่ก็จะต้องตั้งใจรับบุญนี้ด้วย จึงจะได้รับความสะดวกสบาย

ระหว่างเดินธุดงค์นั้น ก็ได้รับความเมตตาและการสนับสนุนจากคณะสงฆแ์ต่ละท้องที่ด้วยดี ที่พักระหว่างทางบางครั้งก็ได้วัด โรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือองค์การบริหารส่วนตำบล โดยมีผู้นำและประชาชนในท้องถิ่นมาอำนวยความสะดวกจัดเตรียมสถานที่และถวายภัตตาหารแด่พระธุดงค์ ซึ่งเป็นบุญกุศลใหญ่ที่ทุกคนร่วมกันอนุโมทนา และเป็นเหตุให้ทุกคนจะประสบกับความสุข ความเจริญ และบุญนี้ยังส่งถึงบรรพบุรุษของประเทศชาติ ที่ได้ช่วยกันบำรุงรักษาพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบทอดมาจนถึงรุ่นของเราที่ได้มาทำบุญใหญ่กันนี้

ผู้มีปัญญานั้น เมื่อเริ่มคิดจะทำบุญ ก็จะมองให้ชัดเจนว่าบุญนี้มีอานิสงส์คือผลดีต่อเนื่องจากวันนี้ถึงวันที่สุดแห่งธรรมมากน้อยขนาดไหน เช่น ข้าวที่ตักบาตรวันนี้ ๑ ช้อนหรือ ๑ ทัพพี ผลจะเป็นอย่างไร หลวงพ่อหลวงพี่ที่รับบาตร จะเปลี่ยนข้าวนี้ให้เป็นเรี่ยวแรงของท่าน เรี่ยวแรงนี้ถ้าท่านเอาไปศึกษาธรรมะความแตกฉานที่ท่านได้ ก็ได้เอาไปใช้ดับกิเลสในใจท่าน แล้วถ้าท่านเอาไปเทศน์สอนญาติโยม เมื่อโยมได้รับธรรมะไป ก็เอาไปฆ่ากิเลสในใจของเขา ถ้าขณะนั้นมีญาติโยมหลายคนฟังธรรมะจากท่าน บุญก็ทับทวีไปอีก หากญาติโยมเหล่านั้นนำธรรมะไปปฏิบัติต่อเนื่องตลอดชีวิต แล้วญาติโยมได้ธรรมะ ได้บุญเท่าไรต้นบุญก็เกิดจากข้าวช้อนนั้น ทัพพีนั้น ของเราไม่ว่าญาติโยมไปทำความดีอะไร เราก็มีส่วนในบุญกับเขาด้วย แม้ญาติโยมเหล่านั้นนำธรรมะที่ได้จากพระรูปนั้น ที่ได้เรี่ยวแรงจากข้าวของเราไปอบรมลูกหลานได้บุญอีกเท่าไร เราเจ้าของข้าวช้อนนั้น ทัพพีนั้น ได้บุญต่อเนื่องไปอีกด้วย ข้าวช้อนนั้น ทัพพีนั้น ส่งผลเป็นทั้งเรี่ยวแรง เป็นทั้งบุญของพระ บุญของญาติโยม เป็นทั้งอายุพระพุทธศาสนา เป็นทั้งความสุขของชาวโลกต่อเนื่องกันไม่รู้จบ

มองภาพการเกิดบุญที่ต่อเนื่องกันเป็นลูกโซ่     นับตั้งแต่คิดที่จะทำยังเห็นภาพผลบุญต่อเนื่องกันขนาดนี้ ขณะทำบุญจะมองเห็นชัดยิ่งกว่า เพราะว่าได้เห็นหลวงพ่อหลวงพี่ที่มารับบาตรท่านตั้งใจ เราผู้ถวายก็ยิ่งปลื้ม ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารไปก็ปลื้มไป ก่อนนอนก็มาทบทวนอีกด้วย ถ้าทบทวนอย่างนี้เป็นประจำ ไม่ว่าบุญน้อยบุญใหญ่ที่ทำไปแต่ละอย่าง แต่ละบาท เราจะปลื้มได้พันล้านแน่นอนยิ่งทบทวนบุญด้วยความปลื้มบ่อย ๆ บุญก็ทับทวี ก็ได้บุญบ่อย ๆ อย่างนี้แหละที่เขาเรียกว่า อยู่ในบุญอย่างนี้บาปจะไม่ได้ช่องแทรกเข้ามาในใจ เมื่อเป็นอย่างนี้ ความคิดก็จะมีแต่คิดดี ๆ เพราะมีแต่บุญหล่อเลี้ยงใจ คำพูดแต่ละคำก็เป็นคำพูดที่มีบุญเลี้ยง เป็นคำพูดที่ดี ๆ และทุกย่างก้าว ทุกอิริยาบถก็มีแต่บุญเกิดตลอดทาง

บนเส้นทางศักดิ์สิทธิ์ของธุดงค์ธรรมชัยเส้นทางพระผู้ปราบมาร ได้หลอมดวงใจของพุทธศาสนิกชนให้คิดดี พูดดี ทำดี ทุกแห่งที่พระธุดงค์ท่านเดินผ่านไป ก็มีบุญหล่อเลี้ยงตลอดทาง เพราะท่านบริกรรมคาถาไปด้วย ท่านภาวนา สัมมาอะระหังตลอดทาง แม้เจ้าหน้าที่ที่ติดตามอำนวยความสะดวกก็ภาวนา สัมมาอะระหังไปด้วย ญาติโยมที่โปรยกลีบดอกไม้ต้อนรับพระร่วมกันสาธุตลอดทางก็ได้บุญทั่วหน้ากัน เส้นทางนี้จึงเป็นเส้นทางบุญ ใครถนัดจะสร้างบุญอย่างไร ก็มาร่วมเอาบุญตามถนัด บุญกุศลที่ทำในครั้งนี้ก็จะหล่อเลี้ยงใจ เมื่อได้ทำบุญ จิตใจของเราจะถูกยกให้สูงขึ้น แล้วบุญก็จะติดตามเราไปให้บังเกิดความศรัทธาในพระพุทธศาสนาทุกภพทุกชาติ เข้าถึงธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้โดยง่ายไปทุกภพทุกชาติตราบวันถึงที่สุดแห่งธรรม

Cr. หลวงพ่อทัตตชีโว
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๘๒ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑
โครงการเดินธุดงค์ธรรมชัยจะทำให้พระพุทธศาสนาของเรามีการสืบทอดให้จีรังยั่งยืนต่อไปได้อย่างไร ? โครงการเดินธุดงค์ธรรมชัยจะทำให้พระพุทธศาสนาของเรามีการสืบทอดให้จีรังยั่งยืนต่อไปได้อย่างไร ? Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 00:50 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.