ศาสนาพุทธนี้อยู่ได้ด้วยการให้

อีกวันหนึ่งของชีวิตดี ๆ เริ่มที่วัดพระธรรมกาย...
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑ สาธุชนทั้งชาวไทยและเมียนมาต่างเดินทางมุ่งสู่วัดพระธรรมกาย เพื่อร่วมงานบุญใหญ่ ซึ่งวันนี้มี ๒ งาน คือ พิธีถวายมหาสังฆทานสมทบกฐิน ๒๓๓ วัดทั่วประเทศ และพิธีทอดผ้าป่าเมียนมา - ไทย ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๑

๑

งานบุญแรกจัดที่ห้องแก้วสารพัดนึกสภาธรรมกายสากล โดยคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายร่วมใจกันจัดขึ้นเพื่อร่วมบุญกับวัดที่ไม่มีใครจองเป็นเจ้าภาพกฐิน ให้ทุกวัดมีโอกาสได้รับผ้ากฐินโดยทั่วถึงกัน และยังเป็นการช่วยแก้ไขปัญหากฐินตกค้างอีกด้วย

ปัญหาเรื่องกฐินตกค้างนี้มีมานานแล้วที่ผ่านมามีบางวัดถึงกับไม่ได้รับกฐินต่อเนื่องนานหลายปี ดังนั้นถ้าหากชาวพุทธไม่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ในอนาคตอันไม่ไกลนักวัดเหล่านี้ต้องกลายเป็นวัดร้างแน่นอน เพราะไม่มีวัดใดตั้งอยู่ได้โดยปราศจากการเอาใจใส่ดูแลของพุทธบริษัท และหากปล่อยให้มีวัดร้างเกิดขึ้นมากมาย ก็จะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของศาสนาพุทธ ฉะนั้นการที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายบริจาคทรัพย์มาทำนุบำรุงพระศาสนาในวันนี้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความอยู่รอดของพระพุทธศาสนาอันเป็นที่รักและหวงแหนยิ่งของเรา ดังที่พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ เคยกล่าวไว้ว่า

“ศาสนาพุทธนี้อยู่ได้ด้วยการให้ ถ้าเลิกให้สักเดือนเดียว ข้าวปลาอาหารไม่ให้กันละ หยุดกันหมดทั้งประเทศ ทุกบ้านทุกเรือนไม่ให้กันละ ศาสนาดับ พระเณรสึกหมดหายหมดไม่เหลือเลย นี้เพราะอะไร เพราะการให้นี้เอง การให้นี้สำคัญนัก เพราะทุกคนอยู่ได้ด้วยการให้ทั้งนั้น” (๒๐ กันยายน ๒๔๙๖)

๒

พิธีถวายมหาสังฆทานสมทบกฐิน ๒๓๓ วัดทั่วประเทศในวันนี้ หลวงพ่อทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เมตตาเป็นประธานสงฆ์ โดยมีเจ้าอาวาสหรือผู้แทนจากวัด ๒๓๓ วัดในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศเป็นเนื้อนาบุญ และมีพุทธศาสนิกชนผู้ใจบุญเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ด้วยความปีติปลาบปลื้มที่ได้ช่วยสืบต่ออายุพระศาสนาด้วยการทำบุญกฐินกับวัดถึง ๒๓๓ วัด ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ใคร ๆ ทั่วไปจะมีโอกาสทำได้ง่ายๆ

กัลยาณมิตรพรสวรรค์ เต็มดวงจิตต์ และกัลยาณมิตรพรรณวดี เต็มดวงจิตต์ นำกล่าวคำถวายมหาสังฆทานสมทบกฐิน ๒๓๓ วัดทั่วประเทศ

๓

งานบุญอีกงานที่จัดขึ้นในวันนี้ก็คือ พิธีทอดผ้าป่าเมียนมา - ไทย ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๑

ชาวเมียนมาได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีความรักความศรัทธาในพระพุทธศาสนาชนิดที่ต้องยอมยกนิ้วให้ อีกทั้งยังมีความยึดมั่นในพระธรรมคำสอนอย่างเหนียวแน่น ดังนั้นไม่ว่าไปอยู่แผ่นดินไหน พวกเขาก็ไม่ละทิ้งการสั่งสมบุญกุศลที่เคยชินมาตั้งแต่ศีรษะเท่ากำปั้น จะต้องหาโอกาสทำบุญ หาโอกาสทำนุบำรุงพระศาสนาอยู่เสมอ ดังเช่นวันนี้พวกเขาก็สละวันหยุดพักผ่อนจากการทำงานอันเหนื่อยล้า พากันเดินทางไปทอดผ้าป่าที่วัดพระธรรมกายด้วยจิตที่เบิกบานแจ่มใสในเครื่องแต่งกายชุดประจำชาติหลากสีสัน

๔

พิธีทอดผ้าป่าจัดขึ้นที่มหารัตนวิหารคด โดยมีหลวงพ่อ Twante Sayadaw และพระมหาสมเกียรติ วรยโส ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เมตตาเป็นประธานสงฆ์

พิธีกรรมเริ่มด้วยการอาราธนาศีล ๕ แล้วสวดธรรมจักรร่วมกันเพื่อความเป็นสิริมงคลจากนั้นปฏิบัติธรรมเพื่อเตรียมกาย วาจา ใจ ให้ใสบริสุทธิ์ เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับกระแสธารแห่งบุญจากการทอดผ้าป่าที่กำลังจะเกิดขึ้น

ขณะอยู่ในพิธี สาธุชนชาวเมียนมามีความสงบสำรวมเป็นอย่างยิ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติของชาวพุทธ ทำให้พิธีทอดผ้าป่าเบื้องหน้าพระมหาธรรมกายเจดีย์เปี่ยมไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ก่อให้เกิดความรู้สึกดี ๆ และความปีติเบิกบานใจแก่ทุกรูปทุกคนที่อยู่ในงาน

เย็นนี้ สาธุชนผู้มีบุญทั้งชาวไทยและเมียนมาก็ไม่พลาดที่จะเก็บเกี่ยวบุญอีกบุญหนึ่งคือ การเวียนประทักษิณบูชาพระมหาธรรมกายเจดีย์ พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าล้านพระองค์ก่อนเดินทางกลับบ้านด้วยความอิ่มเอิบอยู่ในบุญ ทั้งทาน ศีล ภาวนา ที่ได้กระทำมาในวันนี้...

“ผู้ใดทำบุญไว้อย่างดีแล้ว ย่อมเพลิดเพลินในโลกนี้ ละโลกนี้ไปแล้ว ก็มีความเพลิดเพลินในโลกหน้า เขาย่อมเพลิดเพลินในโลกทั้งสอง เพราะมองเห็นว่า เราได้สั่งสมบุญไว้อย่างดีแล้วย่อมเพลิดเพลินในสุคติโลกสวรรค์ยิ่งขึ้นไป” พุทธพจน์

Cr. กองบรรณาธิการ

วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๙๒ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๑

***สามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ขอให้ใส่ Cr. ผู้เขียนด้วย***

คลิกบทความได้ที่นี่ https://dhamma-media.blogspot.com/2018/12/blog-post_11.html

คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๙๒ ประจำเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ได้ที่นี่