แค่คิดจะสร้างพระ ผังสำเร็จก็บังเกิดขึ้น
คนเรามักจะมีอะไรไม่คาดฝันเสมอ
และก็ยากที่จะตอบได้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร แต่สำหรับสาวเจ้าของไร่คนนี้
เธอกลับรู้ถึงคำตอบที่มาช่วยพลิกชีวิตเธอได้อย่างง่ายดาย สิ่งที่เธอทำ
เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ทำได้ แต่คงต้องรีบหน่อย เพราะนี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะทำสิ่งนั้น
กัลฯ แกะ สระทองวี
เจ้าของไร่สับปะรดจากราชบุรี
เธอเล่าถึงความเป็นมาของตัวเองว่า “อายุ ๖๔ ปี
แล้วค่ะ ใคร ๆ จึงมักเรียกนำหน้าชื่อว่า ‘ป้า’ ทั้ง ๆ
ที่เราก็ยังสวยเหมือนสาวหวานกลางไร่อยู่เลย
ตอนนี้อยู่บ้านคนเดียวกับหมาชื่อแม่น้ำหวานค่ะ เนื่องจากสามีไปทำงานที่จังหวัดชุมพร
ส่วนลูกแท้ ๆ ก็อยู่จังหวัดพิษณุโลก ก็เลยขอเงินสามีมาลงทุนทำไร่สับปะรด ๑๐ ไร่
และเนื่องจากหมาแม่น้ำหวานทำไร่ไม่เป็น ก็เลยทำไร่อยู่คนเดียวมา ๕ ปีแล้วค่ะ
ก็เพราะทำอยู่คนเดียวเท่าที่แรงมีนี่แหละ จึงขาดทุนย่อยยับมาโดยตลอด
เพราะสับปะรดออกไม่เต็มไร่บ้าง ต้นยังเล็กอยู่บ้าง คือ ปลูก ๑๐ ไร่
เก็บเกี่ยวผลผลิตได้จริง ๆ ก็แค่ ๔ ไร่เท่านั้น แถมสับปะรดหัวเล็กไม่ได้มาตรฐาน
ขายไม่ได้ราคา มีปัญหาต่าง ๆ นานา คือ ลงทุนไป ๔-๕ หมื่นบาท
แต่ผลตอบแทนกลับคืนมาแค่ ๒ หมื่นบาท จึงขาดทุนอย่างนี้เรื่อยมา จนสามีบอกให้เลิก ๆ
ทำไปเสียเถิด...แต่เราก็ไม่เลิกค่ะเพราะไม่รู้จะทำอะไร จึงใช้ชีวิตชาวไร่มาเรื่อย
ๆ ขนาดปลูกสับปะรด ชีวิตก็ยังไม่เป็นสับปะรดสักที จึงอยากเป็นสับปะรดกับเขาบ้าง
จนมีคนมาชวนให้ไปบวชในโครงการอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนรุ่น ๕๐๐,๐๐๐ คน
ก็เลยมีโอกาสไปวัดพระธรรมกายครั้งแรก พอไปก็ได้เห็นมหาธรรมกายเจดีย์
เลยเกิดศรัทธาปลื้มใจน้ำหูน้ำตาไหล เพราะเขา บอกว่า หากสร้างเจดีย์เสร็จ
จะมีองค์พระมาประดิษฐานที่เจดีย์นี้ถึงล้านองค์ เราก็เลยเกิดความรู้สึกลึก ๆ ว่า
ในชีวิตนี้ เราน่าจะมีองค์พระประจำตัวกับเขาสักองค์ เพราะเราก็แก่มากแล้ว
ชาวไร่อย่างเรา บุญใหญ่อะไรในชีวิตก็ไม่เคยทำ อีกทั้งยังไม่ใช่คนร่ำคนรวย
ทำไร่ก็ขาดทุน หนำซ้ำเคยทำบุญมากที่สุดก็แค่ ๒๐-๑๐๐ บาทเท่านั้น..!!
“จากนั้น ก็เก็บเอาความรู้สึกที่อยากสร้างองค์พระไว้ในใจมาโดยตลอด
แต่ยังสร้างไม่ได้ เพราะไม่มีเงิน แต่ขณะทำไร่ไป ก็นึกถึงแต่องค์พระไป ไม่ว่าจะรดน้ำ
ฉีดปุ๋ย ก็สวดมนต์ สวดอธิษฐานขอหลวงปู่วัดปากน้ำตลอดเวลาว่า ขอให้สับปะรดงาม ๆ
เก็บเกี่ยวผลผลิตได้มาก ๆ เพราะอยากจะขายเพื่อเอาเงินไปสร้างพระกับเขาสักองค์ วัน
ๆ ก็คิดแต่แบบนี้ จนเริ่มมาสังเกตเห็นว่า อยู่ ๆ สับปะรดมันงามขึ้นเรื่อย ๆ
จนเป็นเรื่องแปลกที่สุดเท่าที่เคยเจอมา เพราะหัวมันใหญ่ผิดปกติกว่าทุกปี คือ
ปกติจะไม่ออกหัว หรือออกหัวเล็ก ๆ แต่ปีนี้..หัวหนึ่งหนักตั้ง ๓-๔ กิโลกรัม
ขายได้ราคากิโลละ ๘ บาท ถ้าเป็นปีก่อน ๆ ขายได้กิโลละ ๒-๓ บาทเท่านั้น..!!
“ปีนี้..เป็นปีแรกที่ทำไร่ได้เงินคืนทุน แถมมีเงินพอสร้างพระ ๑
องค์พอดี ซึ่งเราก็รวบรวมทำบุญไปเมื่ออาทิตย์ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ตอนนี้ได้เป็นหนึ่งในล้านแล้ว ได้ทำบุญองค์พระแล้ว มันปลื้มมาก ๆ เลยค่ะ
ไม่คิดว่าจะมีเงินมาให้ทำบุญได้สมความปรารถนาเป็นอัศจรรย์ถึงขนาดนี้
เพราะคิดมาตลอดว่า เราจะมีบุญได้สร้างพระกับเขาบ้างไหมหนอ เพราะหากเราตายไป
เงินสักบาทก็เอาติดตัวไปไม่ได้ ดังนั้นเราเกิดมาแล้ว
อย่างน้อยต้องทำบุญที่มีอานิสงส์มาก ๆ ทำบุญใหญ่ ๆ สักครั้งหนึ่ง
เพื่อให้บุญนี้ติดตัวเราไปในภพชาติเบื้องหน้า ชาตินี้ไม่ได้เกิดมาร่ำรวยอะไรนักหนา
พอทำบุญแล้วก็อธิษฐานให้ชาติหน้าสุขสบายกว่านี้ อย่าต้องลำบากอีกเลย
ขอให้ชีวิตอยู่ในศีลในธรรม ได้เข้าวัดปฏิบัติธรรมอย่างง่าย ๆ
อยากจะใช้บุญนี้ช่วยตัวเอง เพราะหากเราเป็นอะไรไป บุญนี้ก็จะเป็นที่พึ่ง
พาเราไปสู่ภพภูมิที่ดี
“สุดท้ายนี้ ก็อยากให้คนที่ยังไม่เคยสร้างพระ
ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นเจ้าขององค์พระ เพราะเหลืออีกไม่มากแล้ว
ช่วงนี้นับว่าเป็นโอกาสดี โอกาสทองเลยนะคะ อีกทั้งเราได้สัมผัสกับตัวเองแล้วว่า
บุญสร้างพระเป็นบุญที่ผู้ทำจะได้รับอานิสงส์เกินควรเกินคาดจริง ๆ เพราะเจอกับตัวเอง
ที่สับปะรดออกเต็มไร่อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อ้อ! แล้วอย่าลืมไปบวชกันให้มาก ๆ นะคะ
บวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนล้านงวดหน้าที่จะถึงนี้ ไม่พลาดแน่นอนค่ะ”
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า บุญที่เกิดขึ้นนั้น
ใช่ว่าต้องทำแล้วจึงจะได้ แต่บุญสามารถส่งผลได้ ตั้งแต่ก่อนทำ ไปจนถึงขณะกำลังทำ
และหลังจากทำแล้ว เรื่องราวของเธอคือเครื่องยืนยันความมีอยู่จริงของบุญ
หลังจากไปบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนที่วัดพระธรรมกาย
เพียงแค่ได้ไปเห็นเจดีย์และตั้งใจจะสร้างพระ เธอก็ได้รับผลขนาดนี้ นับประสาอะไรกับเมื่อได้ทำจริง
ๆ ดังนั้นบุญจากการสร้างพระครั้งนี้จึงไม่ธรรมดา
เพราะจะเป็นครั้งสุดท้ายก่อนปิดมหาธรรมกายเจดีย์อย่างถาวร เมื่อใครช่วยสร้างความสำเร็จให้แก่งานพระศาสนา
ชีวิตเราก็ย่อมประสบความสำเร็จติดตามมาด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
Cr. กองบรรณาธิการ
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๐๒
เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๔
แค่คิดจะสร้างพระ ผังสำเร็จก็บังเกิดขึ้น
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
02:02
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: