แรงศรัทธานานาชาติ ธรรมทายาทอินเตอร์
โครงการอบรมธรรมทายาทนานาชาติ
ครั้งที่ ๙
วันใหม่ของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นแล้ว
มิใช่วันใหม่ที่เกิดขึ้นจากการขึ้นของดวงอาทิตย์
แต่เป็นวันใหม่ของชีวิตที่เกิดจากการตัดสินใจ...ทำในสิ่งที่ชาวพุทธบางคน บอกว่า
"เอาไว้ก่อน"
ยอดแดดอาบลูบไล้ท้องฟ้ามานาน
ผืนดินที่ซุกซ่อนใต้พรมนุ่ม ๆ
ของยอดหญ้าสีเขียวยังคงอิ่มด้วยน้ำฝนที่ทยอยตกมาหลายวัน
แถวนาคธรรมทายาทนานาชาติในชุดขาวกว่าร้อยคนค่อย ๆ ก้าวเท้าซ้ายขวาอย่างช้า ๆ
กลายเป็นขบวนเวียนประทักษิณรอบอุโบสถที่ทำได้อย่างสงบเสงี่ยมสง่างาม ท่ามกลางสายตาสาธุชนนับพันคู่ที่เดินทางไกลเพื่อมาอนุโมทนา
ภายใต้บรรยากาศแสนชุ่มชื่นของต้นฤดูเข้าพรรษา
โครงการอบรมธรรมทายาทนานาชาติครั้งนี้
เดินทางมาถึงครั้งที่ ๙ แล้ว มีผู้สมัครตนเป็นพระจากทั่วโลก เช่น อังกฤษ อิตาลี
สิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ รวม ๑๕ ชาติ กว่า ๑๐๐ ท่าน เวลาอันมีค่าถึง ๑ เดือนเต็ม
นับจาก ๑๐ กรกฎาคม - ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๔
คือบทพิสูจน์ถึงความตั้งใจจริงของพวกท่านว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงตนเองได้มากเพียงใด
หลังจากฝึกฝนอบรมตนเองมาตลอด ๒
สัปดาห์แรก ในที่สุด วันเสาร์ที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
นาคธรรมทายาทก็ได้เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบท ณ อุโบสถวัดพระธรรมกายได้สำเร็จดังปรารถนา
และด้วยความเมตตาของหลวงพ่อธัมมชโย
ที่ต้องการขยายโอกาสให้ชาวโลกสามารถแสวงหาความจริงของชีวิตอย่างไม่มีข้อจำกัด
ปีนี้จึงแบ่งการอบรมออกเป็น ๓ ภาษา ทั้งภาอังกฤษ ภาษาจีน
และล่าสุดคือภาษาญี่ปุ่นสำหรับธรรมทายาทชาวญี่ปุ่นที่แม้ประเทศของพวกเขาเพิ่งจะบอบช้ำจากพิษสงภัยธรรมชาติ
ทั้งแผ่นดินไหว คลื่นยักษ์ รวมไปถึงสารกัมมันตภาพรังสี
แต่พวกเขาก็ยังไม่หมดกำลังใจทำความดี บินมาอบรมจำนวน ๖ คน
"ชีวิตอาตมาก่อนมาที่นี่
เรียกว่าเหนื่อยล้า ไร้ความฝัน...ความหวังหรือความสนุกสนานอะไรเหล่านั้นไม่มีเลย
ชีวิตช่างมืดมิดเสียจริง ๆ
และยังเศร้าใจไปกับประเทศญี่ปุ่นด้วยยิ่งได้ดูข่าวจากทั่วโลกแล้วก็ยังทำให้ทุกข์ใจเข้าไปอีก
" พระอิชิคาว่า สมิทฺโธ
ธรรมทายาทจากโตเกียว พยายามอธิบายความในใจในฐานะคนพื้นที่่ จริง ๆ แล้ว
นักร้องเพลงบลูอย่างท่านอาจไม่ได้มาบวชแล้วก็ได้
หากขาดฝีไม้ลายมือการชักชวนจากหมอนวดแผนไทยที่ท่านไปฝากตัวเป็นลูกค้าขาประจำตอนกลางวัน
เธอเป็นคนที่ทำให้ท่านเหมือนได้ชีวิตใหม่
"อาตมารู้สึกว่าชีวิตก่อนจะเข้าโครงการกับชีวิตตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปมากเลย
ตอนนี้ทุกอย่างดูสดใสไปหมด เราไม่ต้องไปรับรู้ข่างต่าง ๆ
ความไม่สบายใจก็ไม่ได้เจอเลย จะฉันอาหาร ฟังธรรม จะมองหรือรับรู้อะไร
ก็สดชื่นมีชีวิตชีวาไปหมด ชีวิตเป็นเรื่องของความสุขจริง ๆ"
สำหรับอีกหลายคนที่แม้จะไม่เจอกับอุปสรรค แต่เพราะความอยากค้นหาคำตอบบางอย่างให้แก่ตนเองก็เป็นแรงจูงใจมากพอที่จะผลักขาทั้งสองให้ก้าวมาเป็นหนึ่งในร้อยประจำโครงการนี้
เช่น พระอเล็สซานไดร ทีปาโภ ชาวอิตาลี
"แน่นอนครับ
ในฐานะที่เป็นชาวอิตาลีเป็นคนคริสต์ ดังนั้นนี่จึงเป็นประสบการณ์บวชครั้งแรก
เป็นประสบการณ์ที่ได้ใกล้ชิดศาสนาพุทธมากที่สุด อาตมาชอบที่จะศึกษาความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมและความแตกต่างทางความคิดว่าผู้คนอยู่ด้วยศาสนาปรัชญาและลัทธิความเชื่อต่าง
ๆ อย่างไร ซึ่งผมได้รู้วัฒนธรรมของชาวคาทอลิกและคริสเตียนแล้ว
ผมจึงอยากรู้เกี่ยวกับพุทธศาสนามากขึ้น"
คำตอบของท่านดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
เมื่อถูกถามว่า อะไรทำให้หันมาสนใจพระพุทธศาสนา
"คงไม่เรียกว่าตัวเองเป็นผู้รู้ในศาสนาพุทธ
แต่สิ่งที่อาตมาเห็นหลังจากมาอยู่เมืองไทยก็คือ เห็นผู้คนมีความสุขมากกว่าชาวยุโรป
แล้วพวกเขาเหล่านั้นก็เป็นชาวพุทธ
อาตมาจึงสงสัยและอยากรู้ว่าศาสนาพุทธมีผลต่อการดำเนินชีวิตของคนอย่างไรแล้วทำให้พวกเขาเหล่านั้นมีความสุขมามากขึ้นได้อย่างไร"
เสียงคำขออุปสมบทในภาคบ่ายเริ่มดังขึ้นภายในโบสถ์
แม้สำเนียนบาลีของนาคอเล็สซานไดรอาจฟังดูแปร่งหู และภายในใจจะตื่นเต้นไปบ้าง
แต่ท่านก็แสดงออกถึงความพยายามเป็นอย่างมาก และไม่ยอมให้การบวชครั้งแรกเป็นข้ออ้างที่จะทำอะไรผิดพลาดในร่มกาสาวพัสตร์ พระทุกรูปก็ต้องเป็นเช่นเดียวกัน
กว่าจะถึงขั้นนี้ได้ต้องผ่านการฝึกมาอย่างเข้มข้น ทั้งการกราบ การไหว้
การทำความสะอาดเสนาสนะ การสวดมนต์และการปฏิบัติธรรม ทว่าภายใต้ความอยากลำบากนี้เอง
กลับมีความสุขอยู่บนความเรียบง่าย จนธรรมทายาทรุ่นที่ผ่าน ๆ มาหลายท่าน
ต้องกลับมาลิ้มรสชาติของเพศสมณะอีกครั้ง
"ชีวิตนักบวชนั้นไม่เหมือนกับชีวิตของคนทั่วไป"
พระหวงเจิ้งหง อินฺทโก นักออกแบบภายใน วัย
๔๒ ปี กล่าวขึ้น ปีนี้ท่านเข้ารับการอบรมเป็นครั้งที่ ๓
จนเข้าใจชีวิตนักบวชได้ดีกว่าเพื่อน ๆ ในรุ่น "การอบรมธรรมทายาททั้ง ๓
ครั้งนั้น ช่วงครึ่งเดือนแรกเป็นการเรียนรู้ความเป็นอยู่ของพระ ทำให้ได้รู้ว่า
ชีวิตนักบวชนั้น มีเวลาเพื่อการสวดมนต์นั่งสมาธิ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง
เวลาทั้งหมดมอบให้แก่พระพุทธศาสนาจริง ๆ"
เช่นเดียวกับพระวิลเลียม เตชกโร ที่เคยเข้ามาบวชแล้วครั้งหนึ่ง
เมื่อกลับไปบ้านเกิดที่สิงคโปร์
ท่านก็พบว่าในหัวใจนั้นยังคงโหยหาความสงบสุขที่เคยได้รับจากการเป็นธรรมทายาท
ในที่สุดก็ตัดสินใจเด็ดขาด
สละทรัพย์สมบัติทั้งหมดและบอกลาครอบครัวที่อบอุ่นเพื่อมาอยู่ในเพศสมณะ หากมีโอกาส
ท่านบอกว่าจะอยู่เป็นพระต่อไปเรื่อย ๆ และสรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ ให้เราฟังว่า
"เวลาที่รอคอย...มาถึงแล้ว"
ส่วนในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรนั้นเหล่าพระธรรมทายาทนานาชาติกำลังจะรับรู้ได้เองในอีกไม่ช้านี้
ลองคิดดูเถิดว่า พวกท่านเหล่านั้นเป็นถึงชาวต่างชาติ กว่าจะได้บวช ต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลมา
หลายคนก็ไม่ได้เป็นชาวพุทธตั้งแต่เกิด
แต่พวกท่านไม่เพียงแค่สนใจเรียนรู้พระพุทธศาสนาเท่านั้น
แต่กำลังจะทำหน้าที่เป็นผู้สืบทอดคำสอนสู่ใจชาวพุทธทั้งปวง
คนไทยที่เป็นชาวพุทธมานานหากทำตัวนิ่งเฉย
ชายแมนแมนไม่ยอมออกมาบวชเพื่อกอบกู้ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาแล้วในอนาคตจะมีแต่พระชาวต่างชาติมาให้เรากราบไหว้ก็เป็นได้
Cr. กองบรรณาธิการ
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๐๖
เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
แรงศรัทธานานาชาติ ธรรมทายาทอินเตอร์
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
02:02
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: