เกิดเป็นชายทั้งที ชีวิตนี้ต้องบวชให้ได้




ความเคยชินมักจะทำให้คนเรามองข้ามคุณค่าของสิ่งที่ตนเองมีอยู่ ดังเช่น การมีอากาศหายใจ มีอวัยวะครบถ้วน มีงานทำ มีคนคอยดูแลห่วงใย ฯลฯ เมื่อสูญเสียสิ่งเหล่านี้ไป จึงจะเห็นว่าสิ่งที่เราเคยมีอยู่นั้น มีความสำคัญมากมายเพียงใด

อย่าประเมินสิ่งที่เรามีอยู่ต่ำเกินไป

เพราะสิ่งนั้นอาจมีค่าสูงมากสำหรับคนอื่นอย่างที่เราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว !

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่หลาย ๆ คนรู้สึกเคยชิน จนเห็นเป็นเรื่องธรรมดา ก็คือ การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ถ้าเมื่อไรมีคนมาบอกว่า การเกิดเป็นมนุษย์เป็นเรื่องยาก ก็มักไม่ค่อยมีใครเชื่อ เพราะรู้ ๆ กันอยู่ว่า บนโลกเรามีประชากรตั้งมากมาย ซึ่งตอนนี้ก็มีถึง ๖,๘๐๐ กว่าล้านคน (ธ.ค. ๒๕๕๒)

เรื่องนี้ ต้องลองเทียบจำนวนมนุษย์กับสัตว์ ทั้งสัตว์บก สัตว์น้ำ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์เลื้อยคลาน รวมทั้งแมลงต่าง ๆ เราจะพบว่า สัตว์มีจำนวนมากมายเสียจนไม่มีใครหรือเครื่องมือชนิดใดสามารถ คำนวณได้ แม้แต่ประเภทของสัตว์ก็ยังไม่สามารถรู้จักได้ครบถ้วน โอกาสที่จะเกิดเป็นสัตว์จึงมีสูงกว่า มนุษย์มากมาย

แล้วทำไมการเกิดเป็นมนุษย์จึงเป็นเรื่องยาก?

ในทางพระพุทธศาสนากล่าวไว้ว่า ใครจะมาเกิดเป็นมนุษย์ได้ต้องอาศัยกุศลกรรม คือ กรรมดี เช่น ต้องรักษาศีล ๕ บริสุทธิ์มาก่อน (ศีล ๕ คือ ศีลของความเป็นมนุษย์) ซึ่งผู้ที่รักษาศีล ๕ ได้บริสุทธิ์นั้น ถ้าสังเกตจากคนในยุคนี้ จะพบว่ามีน้อยจริง ๆ คนจำนวนน้อยนิดนี้แหละที่จะได้มาเกิดเป็นมนุษย์อีก ที่เหลือก็แยกย้ายกันไปตามกรรมที่ได้กระทำมา ความยากของการมาเกิดเป็นมนุษย์นั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า เปรียบเหมือนมีห่วงขนาดเล็กลอยเคว้งคว้างอยู่ในมหาสมุทร ทุก ๑๐๐ ปี จะมีเต่าตาบอดโผล่ขึ้นมาครั้งหนึ่ง โอกาสที่เต่าตาบอดตัวนี้จะสอดหัวเข้าไปในห่วงนั้นได้พอดีแม้จะมีน้อยมาก แต่โอกาสที่จะมาเกิดเป็นมนุษย์น้อยกว่านั้นเสียอีก

เรื่องยากอีกประการหนึ่งนอกจากการมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็คือ การได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา เพราะกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์จะมาตรัสรู้นั้น ต้องบำเพ็ญบารมีให้เต็มเปี่ยมเสียก่อน ไม่ใช่จะเป็นกันได้ง่าย ๆ พระโพธิสัตว์ท่านต้องบำเพ็ญบารมีเป็นเวลายาวนานอย่างน้อย ๒๐ อสงไขย กับแสนกัป บางพระองค์ต้องบำเพ็ญบารมีนานถึง ๘๐ อสงไขย จึงจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

(กัป เป็นหน่วยวัดเวลาที่ยาวนานมาก สมมติว่ามีขุนเขากว้างใหญ่สูง ๑ โยชน์ กว้าง ๑ โยชน์ ยาว ๑ โยชน์ ) (๑ โยชน์ เท่ากับ ๑๖ กิโลเมตร) ทุกเวลา ๑๐๐ ปี มีเทวดาเอาผ้าทิพย์เนื้อละเอียดมาลูบขุนเขานั้น ๑ ครั้ง ทำเช่นนี้ทุก ๑๐๐ ปี จนขุนเขานั้นสึกลงราบเสมอพื้นดิน ถือว่าเป็นเวลา ๑ กัป/อสงไขย เท่ากับ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ ยกกำลัง ๒๐)





ในเมื่อเราอุตส่าห์สร้างบุญกุศล รักษาศีล ๕ บริสุทธิ์ จนกระทั่งได้มาเกิดเป็นมนุษย์ และได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราก็ควรจะใช้โอกาสอันดีที่เกิดขึ้นได้ยากนี้ให้คุ้มค่า ด้วยการแสวงหาสิ่งที่มีค่ามากที่สุดมาเพิ่มเติมให้ชีวิตของเรา การเกิดมาครั้งนี้จะได้ไม่สูญเปล่าหรือขาดทุน

สิ่งที่มีค่าสูงสุดของทุกชีวิตในสังสารวัฏ ก็คือ "บุญ"  เพราะบุญคือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสุขความสำเร็จทั้งปวง ไม่ว่ามนุษย์หรือผู้ที่ละโลกไปแล้ว จะมีความสุขความเจริญได้ล้วนต้องใช้บุญทั้งสิ้น

การแสวงหาบุญมีได้หลายวิธี วิธีการหลัก ๆ ก็คือ ทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา แต่โอกาส ในการแสวงหาบุญของคนเรานั้นมีไม่เท่ากัน มีบุญบางอย่างที่บางคนทำไม่ได้ เช่น บุญบวชพระ เพราะบุญนี้เป็นบุญเฉพาะของลูกผู้ชายเท่านั้น  การเกิดมาเป็นผู้ชายจึงนับว่าทั้งโชคดีและมีบุญมาก เพราะสามารถเติมบุญแบบก้าวกระโดดได้ เนื่องจากการบวชพระจะทำให้ผู้บวชได้บุญเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย จากการบำเพ็ญบารมีอย่างเข้มข้นครบถ้วนทั้ง ๑๐ ประการ เช่น ศีลบารมี เราจะได้ถือศีลถึง ๒๒๗ ข้อ เนกขัมมบารมี ได้ประพฤติพรหมจรรย์อย่างบริสุทธิ์ บริบูรณ์ ฯลฯ ถ้าบวชแล้วตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ บุญนี้จะช่วยปิดอบาย เปิดสวรรค์ และทำให้ได้เกิดในบวรพระพุทธศาสนาเป็นเวลาถึง ๖๔ กัป ซึ่งจะทำให้เรามีโอกาสสั่งสมบุญในพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง ช่วยย่นระยะทางในการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏให้สั้นลง

และด้วยอำนาจบุญที่บวชเป็นพระแท้ ซึ่งถือเป็นการสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับพระศาสนา ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว ดังที่ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ได้กล่าวไว้ว่า  "เมื่อให้ความเจริญแก่พระพุทธศาสนาแล้ว ความเจริญก็หันเข้าสู่ตัว"

บุญบวชนี้ยังจะช่วยตัดรอนวิบากกรรม ที่อาจเคยพลาดพลั้งกระทำมาให้เบาบางลง และจะพลิกผันชีวิตจากร้ายให้กลายเป็นดี จากดีให้เป็นดียิ่ง ๆ ขึ้น

นอกจากตัวของเราเองจะได้บุญแล้ว พ่อแม่ก็จะได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ จะได้เป็นญาติกับพระศาสนา และจะมีโอกาสสร้างบุญกุศลเพิ่มขึ้น เพราะการมีลูกชายบวชอยู่ที่วัด จะทำให้ท่านได้ไปวัดบ่อยขึ้น

นอกจากนี้ หมู่ญาติที่มาอนุโมทนาการบวช ก็จะมีส่วนในบุญ และบุญนี้ยังอุทิศให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้วได้ด้วย



นอกจากบุญแล้ว เรายังได้อะไรอีกมากมายจากการบวช เช่น

ได้เรียนรู้คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นคำสอนที่ทรงคุณค่า เพื่อนำไปพัฒนาตนเองให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างถูกต้อง ดีงาม และ มีความสุข

ได้รู้ว่าคนเราเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต

ได้ฝึกเสขิยวัตร (มารยาทของพระภิกษุ) เช่น การฉันภัตตาหาร การกราบ การลุก การนั่ง ฯลฯ ซึ่งจะกลายเป็นมารยาทที่ดีติดตัวไป

ได้ฝึกกิจวัตรกิจกรรม ซึ่งจะช่วยบ่มเพาะคุณธรรมและนิสัยดี ๆ ให้เกิดขึ้น พร้อมที่จะเป็นคนดีที่โลกต้องการ

ได้นั่งสมาธิเป็นประจำทุกวัน ทำให้จิตใจสงบ มีความสุขมากขึ้น สุขภาพกายและสุขภาพจิตดีขึ้น ช่วยเพิ่มความฉลาดทางปัญญา (IQ) และความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน การทำงาน และการดำเนินชีวิตในสังคม และที่สำคัญทำให้ใจมีพลังมากขึ้นสามารถดึงดูดสิ่งดี ๆ คนดี ๆ ของดี ๆ ให้เข้ามาหา

นอกจากนี้ กระแสความดีจากการบวชของเราเพียงคนเดียว จะส่งผลสะเทือนได้ถึงระดับโลก เปรียบเสมือนการโยนก้อนหินเพียงก้อนเดียวลงน้ำ จะทำให้เกิดกระแสคลื่นกระทบกันต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงฝั่ง 

เริ่มจากตัวของเรา..

จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนใหม่ที่ดียิ่งขึ้น

พ่อแม่..จะได้ลูกที่ดีขึ้น

ลูก..จะได้พ่อที่ดีขึ้น

ภรรยา..จะได้สามีที่ดีขึ้น

หัวหน้า..จะได้ลูกน้องที่ดีขึ้น

ลูกน้อง..จะได้หัวหน้าที่ดีขึ้น

หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด จะได้คนดีเพิ่มขึ้น

ประเทศชาติและโลก ก็จะได้พลเมืองดีเพิ่มขึ้น ฯลฯ




ถ้ามีคนบวชพร้อมกันเป็นจำนวนมาก ผลดีต่อสังคม ประเทศชาติ และโลกของเราย่อมมากมายจนไม่อาจจะประมาณได้ นอกจากนี้ กระแสบุญจากการบวชของคนทุกหมู่บ้านทั่วทั้งแผ่นดิน จะพลิกผันวิกฤตของประเทศชาติ และพระพุทธศาสนาให้กลับฟื้นคืนดีขึ้นเป็นอัศจรรย์

แต่การบวชนั้น ไม่ใช่เกิดมาเป็นผู้ชายแล้วคิดจะบวชก็บวชได้ทุกคนเสมอไป เพราะในพระวินัย มีบัญญัติไว้ว่า ผู้บวชต้องเป็นชายแท้ มีอายุครบบวช เป็นบุคคลที่สังคมไม่รังเกียจ สุขภาพแข็งแรง ไม่พิกล พิการ ไม่เป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา และต้องสมบูรณ์ด้วยลักษณะต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้ ดังนั้น คนที่บวชได้จริง ๆ จึงมีจำนวนไม่มากเลย

ถ้าลองพิจารณาจากประชากรโลก ๖,๘๐๐ กว่าล้านคน พบว่าเป็นผู้ชายประมาณครึ่งหนึ่ง ที่เหลือเป็นผู้หญิง และในจำนวนผู้ชาย ๓,๔๐๐ ล้านคนนั้น ส่วนหนึ่งไม่ใช่ชายแท้ ส่วนหนึ่งเป็นเด็กอายุไม่ครบบวช ส่วนหนึ่งเป็นคนป่วยและคนพิการ อีกส่วนหนึ่ง มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนสำหรับการบวช และมีจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้จัก หรือไม่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา สรุปแล้วลูกผู้ชายแท้ ๆ ที่สามารถบวชเรียนได้เหลือไม่กี่คน หากใครมีคุณสมบัติพร้อมที่จะบวชได้ จึงควรให้โอกาสตนเองได้บวชเป็นพระ

ลูกผู้ชาย MAN MAN บางคนอาจไม่ทราบว่า มีคนจำนวนมากมายที่เขาอยากจะบวช แต่ไม่สามารถบวชได้ ลองสัมผัสถ้อยคำจากใจต่อไปนี้ แล้วจะตระหนักว่าเราคือผู้ได้โอกาส และควรจะใช้โอกาสนั้น ให้เป็นประโยชน์แก่ตนเองให้มากที่สุดเพราะ..ถ้าคนอื่นเขามีโอกาสเหมือนกับเรา เขาจะใช้มันอย่างคุ้มค่าแน่นอน


คุณภาวีชญาณ์   ศรีวรรณวัฒน์
อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว



"ดิฉันเกิดมาเป็นชายแต่ไม่แท้ เป็นเพศที่ ๓ ซึ่งถือว่าเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ของชีวิตเลยทีเดียว เพราะเป็นผู้ด้อยโอกาส อยากบวชก็บวชไม่ได้ แต่ดิฉันอยากได้บุญจากการบวช เพราะเป็นบุญใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับบุญอื่น ๆ ดิฉันจึงแสวงหาบุญด้วยการไปชวนคนมาบวช เมื่อครั้งที่มีโครงการบวช ๗,๐๐๐ ตำบล ดิฉันชวนได้ ๒๕ คน ครั้งนี้ก็ทุ่มเทชวนคนบวชอย่างสุดกำลัง เพื่อให้บุญกุศลนี้ช่วยให้เกิดมาเป็นชายแท้ในชาติต่อ ๆ ไปจะได้มีโอกาสบวชกับเขาบ้าง

อยากเชิญชวนชายแท้ทุกคนให้มาบวชค่ะ คุณเป็นผู้มีโอกาสที่ดิฉันไม่มี มาเติมบุญให้ตนเอง พ่อแม่ ประเทศชาติ และมาช่วยกันยอยกพระพุทธศาสนาของเราให้รุ่งเรืองนะคะ"


คุณดวงกมล  สุนทรขัณฑ์
นักศึกษาปริญญาเอกทุนรัฐบาล ก.พ. สาขาเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ
และ Graduate Student Instructor The University of  Utah สหรัฐอเมริกา



"อยากให้ผู้ชายตระหนักถึงความโชคดีที่ได้เกิดมาเป็นชาย เพราะผู้ชายเท่านั้นที่จะสามารถบวชเป็นพระภิกษุได้ การบวชครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะได้ทดแทนพระคุณพ่อแม่ แต่ยังได้ฝึกฝนตนเองและได้ศึกษาคำสอนของพระบรมศาสดา อันเป็นความจริงแท้ของชีวิตที่จะช่วยปิดอบายและเปิดสวรรค์ ให้กับผู้บวชและทุกคนในครอบครัว พ่อแม่ต้องการลูกที่มีความกตัญญูรู้คุณ ลูก ๆ ต้องการคุณพ่อที่เป็นต้นแบบที่ดี ภรรยาต้องการสามีที่เป็นที่พึ่งให้กับครอบครัว และสังคมต้องการผู้นำที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม มาช่วยกันสร้างครอบครัวให้อบอุ่น สร้างสังคมให้สงบสุข และธำรงรักษาพระพุทธศาสนา ด้วยการบวชในโครงการบวชพระแสนรูปกันนะคะ ถ้าดิฉันเกิดเป็นผู้ชายในชาตินี้ จะไม่ลังเลเลยจริง ๆ ค่ะ"

คุณมะลิ   รื่นณรงค์
อาชีพรับจ้างทั่วไป



"ชอบที่มีการบวช จะได้มีคนดี ๆ เกิดขึ้นมาก ๆ เสียใจนิดหน่อยที่มีแต่ลูกผู้หญิง ตัวเองก็เป็นผู้หญิง บวชไม่ได้ ดีใจกับทุกคนที่มาบวช เดินถูกทางแล้ว จะได้มีบุญมาก ๆ  ตอนนี้ดิฉันก็ไปชวนญาติมา ๓ คน อยากให้เขาเป็นคนดี คนที่เราชวนมาถ้าเขายังไม่สึกเราก็ได้บุญกับเขาไปเรื่อย ๆ ในฐานะคนชวน ถ้าเขาสึกออกไปแล้วเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ เป็นคนดีขึ้นเราก็ได้บุญ ถึงคนที่มีลูกผู้ชาย ให้ลูกมาบวชเถิดค่ะ พ่อแม่ก็จะได้บุญ ตัวลูกก็จะได้บุญ"


คุณเกษมศักดี์  กัมพลพาณิชวงศ์
อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว (ส่งออกเสื้อผ้า)



"ผมเคยบวชมาแล้ว ๒ ครั้ง โครงการนี้ผมก็ตั้งใจจะบวชอีก แต่ช่วงนี้สุขภาพไม่ดี ออกจากโรงพยาบาลมาไม่นาน ตอนนี้กำลังลุ้นอยู่ว่าถ้าสุขภาพดีขึ้น ก็จะบวชให้ได้เพื่อเติมบุญใหญ่ให้ตัวเอง ผมเชื่อเรื่องบุญและเห็นว่าการบวชในโครงการแบบนี้จะได้ฝึกฝนตนเอง และทุกกิจกรรมขณะบวชก็ทำให้บุญบังเกิดขึ้นตลอดเวลา

ชีวิตคนเราไม่แน่นอนนะครับ ใครสุขภาพแข็งแรงอยากให้รีบมาบวช จะได้มีบุญไว้คุ้มครองตัวเอง พ่อแม่ก็จะได้บุญ ครอบครัวก็ได้ด้วย ถึงแม้ได้เกิดเป็นผู้ชาย ถ้าวันไหนสุขภาพไม่ดีขึ้นมา อยากบวชก็บวชไม่ได้นะครับ"

ขอแถมอีกรายหนึ่ง รายนี้ขนาดไม่ได้เกิดเป็นมนุษย์ ก็ยังอยากบวช

ในสมัยพุทธกาล มีพญานาคตนหนึ่ง อยากจะพ้นจากความเป็นนาค จึงคิดว่า "ถ้าเราได้บวชเป็นภิกษุ ชาติต่อไปเราก็จะได้กลับไปเป็นมนุษย์อีกครั้ง" จึงแปลงร่างเป็นชายหนุ่มไปอุปสมบท

ครั้นเวลานอนหลับ ก็กลับกลายเป็นพญานาค ร่างกายใหญ่โตเต็มกุฏิ เพื่อนภิกษุมาเห็นก็ตกใจกลัว ร้องเอะอะเสียงดัง และไปตามภิกษุอื่นให้มาดู พญานาคตกใจสะดุ้งตื่นทำทีเป็นนั่งสมาธิอยู่บนอาสนะ พวกภิกษุพากันคาดคั้นว่า "ท่านเป็นใครกันแน่ ทำเช่นนี้เพื่ออะไร" พญานาครักษาศีล จึงไม่โกหก รับสารภาพว่า ตนเองเป็นพญานาค อยากจะได้บุญจากการบวช และอยากจะหลุดพ้นจากการเป็นพญานาค จึงปลอมตัวมาบวช

ต่อมาพวกภิกษุไปกราบทูลพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ตรัสเรียกพญานาคมาถาม ได้ความว่าเป็นเรื่องจริง จึงรับสั่งให้สึก เพราะผู้ที่จะบวชเป็นพระภิกษุได้มีแต่มนุษย์เท่านั้น พญานาคมีความอาลัยรักในเพศนักบวชมาก จึงกราบทูลขอฝากชื่อนาคเอาไว้ คำว่า  "นาค"  จึงเป็นชื่อเรียกผู้ที่จะบวชมาจนถึงทุกวันนี้




มาร่วมกันขีดเขียนประวัติศาสตร์ชีวิตอันงดงาม ด้วยการบวชเป็นพระแท้ในพระพุทธศาสนา กับ โครงการอุปสมบทหมู่ ๑๐๐,๐๐๐ รูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย ที่จะมีการอบรมระหว่างวันที่ ๑๙ มกราคม ถึง ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เพื่อสั่งสมบุญ แทนคุณแผ่นดิน สืบทอดพระศาสนา และบวชเอาบุญให้แม่ ...ผู้เป็นบุคคลที่ประเสริฐสุดในชีวิตของลูก เปรียบเสมือนพระอรหันต์ของลูก ผู้ให้ความรักและความเมตตาต่อลูกอย่างไม่มีใครเทียบได้

ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เป็นชายแท้ ได้พบพระพุทธศาสนา มีคุณสมบัติครบถ้วนสามารถบวชได้ ถ้าไม่บวชก็ไม่ต่างอะไรกับการถูกล็อตเตอรี แจ็คพ็อต รางวัลที่ ๑ แต่ไม่ไปขึ้นเงินมาใช้



Cr. มาตา
วารสารอยู่ในบุญ  ฉบับที่ ๘๗  เดือนมกราคม  พ.ศ. ๒๕๕๓
เกิดเป็นชายทั้งที ชีวิตนี้ต้องบวชให้ได้ เกิดเป็นชายทั้งที ชีวิตนี้ต้องบวชให้ได้ Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 01:19 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.