วันคุ้มครองโลก ๒๒ เมษายน...มหัศจรรย์วันเปลี่ยนโลก
ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญปัญหาและพบกับภาวะที่ก่อให้เกิดภัยอันตรายหลากหลายรูปแบบ
และมีแนวโน้มจะสลับซับซ้อนและทวีเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งปัญหาและความเดือดร้อนของชาวโลกนี้ ส่งผลให้คนกลุ่มหนึ่งเกิดแนวความคิดที่จะรวมตัวกันเรียกร้องให้ชาวโลกหันมาสนใจ
และเห็นความสำคัญของการคุ้มครองโลกให้อยู่รอดปลอดภัย ด้วยเหตุนี้เอง
วันคุ้มครองโลก (Earth
Day) จึงมีจุดเริ่มต้นครั้งแรกจากความคิดริเริ่มของวุฒิสมาชิกชาวอเมริกัน
Gaylord Nelson ที่ได้รณรงค์ให้ชาวอเมริกันร่วมกันพิทักษ์คุ้มครองโลก
โดยมีผู้เข้าร่วมเดินรณรงค์ในเมืองใหญ่ ๆ ของสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวนมากถึง ๒๐,๐๐๐,๐๐๐ คน
ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนชาวโลกให้เกิดจิตสำนึกหันมาดูแลโลกของเรา
ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติอันเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลายล้างอย่างรวดเร็ว เช่น การตัดไม้ทำลายป่า และการทิ้งกากสารเคมีอันเป็นผลพวงจากสงคราม
และกระบวนการอุตสาหกรรม ที่เป็นเหตุให้ผืนดินและผืนน้ำถูกปนเปื้อนด้วยมลพิษ
ซึ่งนับจากวันนั้นเป็นต้นมา กิจกรรมวันคุ้มครองโลกก็ขยายขอบข่ายไปทั่วทุกมุมโลกตราบกระทั่งทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม
ที่ผ่านมาจากอดีตถึงปัจจุบัน แม้ชาวโลกจะพยายามรณรงค์เรื่องนี้มากเพียงใด
แต่ก็ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก
การทำลายล้างทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรมนุษย์ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
ตราบเท่าที่มนุษย์ยังคงไม่เข้าใจว่า ต้นตอของปัญหาทั้งหมดในโลกนี้ล้วนเกิดขึ้นจากใจของมนุษย์ทั้งสิ้น
ดังนั้น หากชาวโลกหันมาแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ คือ ใจของมนุษย์
ย่อมนำไปสู่การคุ้มครองโลกที่สัมฤทธิ์ผลได้อย่างแน่นอน และบัดนี้
สิ่งที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโลกครั้งยิ่งใหญ่ ก็คือ
การรวมกันประพฤติปฏิบัติธรรมของชาวพุทธผู้รักสันติสุขหลายแสนคน
ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน ณ ศักราชนี้เอง
ข่าวด่วน...โลกจะสะเทือนเดือนเมษา
ในท่ามกลางประชาคมโลก หลายองค์กรได้ให้ความสำคัญกับกระแสของการรณรงค์เพื่อให้โลกสงบสุขดังกล่าว
องค์กรทางศาสนาก็ให้ความสำคัญกับกิจกรรมนี้ด้วยเช่นกัน โดยในส่วนของพระพุทธศาสนานั้น
องค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (ยพสล.) ได้มีมติให้วันที่ ๒๒ เมษายนของทุกปี
เป็นวันคุ้มครองโลก ภายใต้คำขวัญว่า "Clean the World Clean the Mind" เพราะตระหนักดีว่า
ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่ทรงคุณค่าที่สุด คือ ใจของมนุษย์ ซึ่งควรจะได้รับการปกป้องคุ้มครองรักษาด้วยธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ให้เป็นใจที่สะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากกิเลส คือ ความ โลภ โกรธ หลง
ที่คอยชักใยให้มนุษย์เกิดความคิด คำพูดและการกระทำที่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
ทำให้ได้รับความทุกข์ร้อนอย่างไม่รู้จักจบสิ้น
พร้อมกันนี้พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
ประธานมูลนิธิธรรมกายและเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
ก็ได้ดำริให้มีโครงการครั้งยิ่งใหญ่ที่ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของพระพุทธศาสนาและของโลก
ก็คือ โครงการอุปสมบทหมู่ ๑๐๐,๐๐๐
รูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย
ดังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ปรากฏเป็นที่ปลาบปลื้มใจแก่มหาชนมาแล้ว
ต่อมาพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านก็ดำริให้มีโครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ๑๐๐,๐๐๐ คนทั่วโลก
จนเกิดเป็นกระแสแห่งความนิยมต่อเนื่องเรียกร้องให้มีโครงการเช่นนี้อีก ในขณะนี้
จึงได้มีโครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ๕๐๐,๐๐๐ คนทั่วโลก ซึ่งจะเป็นปรากฏการณ์ที่จะทำให้โลกสั่นสะเทือนเดือนเมษายน
ด้วยกระแสแห่งบุญและอานุภาพแห่งความสงบสุขที่แผ่ขยายไปสูประชาชาติทั่วโลกอย่างกว้างขวาง
มหัศจรรย์วันเปลี่ยนโลก
วันที่ ๒๒ เมษายนปีนี้ จะมีกิจกรรมครั้งสำคัญและถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นแล้วจะไม่ย้อนกลับมาเกิดขึ้นอีก
คือ
๑.
การหล่อพระธรรมกายประจำตัวครั้งสุดท้าย ที่จะนำเข้าประดิษฐานภายในมหาธรรมกายเจดีย์
ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นพระรุ่นปิดเจดีย์ และต่อนี้ไปก็จะไม่มีการหล่อพระอย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้อีก
โดยผู้มีบุญที่เข้าร่วมในงานครั้งนี้ จะเป็นบุคคลพิเศษที่จะได้ยินเสียงมหาสุวรรณนิธิหลายแสนลูกไหลเรียงลงไปตามรางสู่เบ้าหลอมด้วยเสียงกังวานไพเราะที่จะประทับใจไปตลอดชีวิต
๒. การถวายมหาสังฆทานแด่คณะสงฆ์ ๑๐,๐๐๐ กว่าวัดทั่วประเทศ โดยเหล่าพระเถรานุเถระที่มาร่วมงานในครั้งนี้
ไม่เพียงจะมาเป็นเนื้อนาบุญแก่มหาชนนับแสนเท่านั้น ยังเป็นการแสดงให้ชาวโลกได้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของพระภิกษุสงฆ์ทั่วประเทศและทั่วโลก
ที่จะร่วมทำงานเพื่อปกป้องและสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนไปอีกตลอดกาลนาน เพราะเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเป็นภัยภายนอกและภัยภายในของ พระพุทธศาสนา กำลังทำให้องค์กรพระพุทธศาสนา
ตลอดจนวัดทั่วประเทศได้เกิดความตระหนักที่จะทำงานร่วมกัน
เพราะการทำเพียงลำพังตนเองนั้น ยากจะสำเร็จลงได้
๓.
การบวชและรับผ้าสไบแก้วของอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ๕๐๐,๐๐๐ คน ที่จะมาจากทั่วทุกสารทิศ
ทั้งในและต่างประเทศ ที่ยังไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อนนับตั้งแต่สร้างชาติไทยมา
๔.
การจุดธัมมจาริณีประทีปหลายแสนดวง ณ ลานมหาธรรมกายเจดีย์ ซึ่งจะเป็นการจุดโดยอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนผู้ที่ได้รับการบวชและประพฤติปฏิบัติตนอย่างถึงพร้อมด้วยศีลอันบริสุทธิ์
และจะเป็นแสงสว่างแห่งความบริสุทธิ์ทั้งจากภายนอกและภายใน
แผ่ขยายเป็นอานุภาพแห่งความสงบร่มเย็นไปสู่ประชาชาติทั่วโลก
สำหรับท่านที่ไปร่วมงานวันที่ ๒๒ เมษายน
ณ วัดพระธรรมกายครั้งนี้ นอกจากจะได้ร่วมในพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวแล้ว
ท่านยังจะได้รับเหรียญของขวัญที่ระลึก ซึ่งได้จัดทำเป็นพิเศษเฉพาะงานสำคัญครั้งนี้
คือ เหรียญ "๔๐ ปีวัดพระธรรมกาย"
ซึ่งจะมอบให้เฉพาะผู้มีบุญที่ไปร่วมในงานเท่านั้น
โลกจะสงบได้...
ด้วยใจมนุษย์ดำเนินตามพุทธวิธี
การดำเนินโครงการครั้งยิ่งใหญ่ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคม
และมวลมนุษยชาติครั้งนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นพุทธวิธีแห่งการนำไปสู่ความสุขสงบ
ที่ปราศจากการเบียดเบียนทำร้ายซึ่งกันและกัน มุ่งสร้างสรรค์แต่สิ่งที่เป็นความดีงาม
อันจะนำไปสู่การเป็นผู้มีจิตใจที่สงบผ่องใส
ดังคำสอนแห่งพระพุทธองค์ที่ทรงย้ำสอนให้ชาวโลก "ละความชั่ว ทำความดี และทำใจให้ผ่องใส"
นั่นเอง ทั้งนี้ ศัตรูที่แท้จริงของมวลมนุษย์ชาติหาใช่เพื่อนร่วมโลกที่ต่างกันด้วยภาษา
ชาติพันธุ์ หรือความเชื่อไม่ แต่แท้ที่จริงคือกิเลสที่อยู่ภายในใจของมนุษย์ทุกคน
ที่จำเป็นจะต้องขจัดออกไปให้หมดสิ้น ตามแนวทางที่พระบรมศาสดาได้ทรงวางไว้ คือ
การหมั่นทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา เพื่อเพิ่มพูนสิ่งดี ๆ
ให้เกิดขึ้นในใจของมนุษย์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้จิตใจของมนุษย์มีคุณภาพที่สูงขึ้น
จนกระทั่งเกิดความละอายที่จะทำความชั่วและกลัวผลของกรรมชั่วที่จะติดตามมาทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
ทั้งนี้
เพราะมนุษย์เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง
และมนุษย์คือกลไกสำคัญแห่งการดำเนินไปของสังคมโลก อีกทั้งเป็นศูนย์กลางพัฒนา
ที่จะนำไปสู่การสร้างสมดุลแก่สรรพชีวิต รวมถึงแก่สิ่งแวดล้อม
ดังนั้นวัดพระธรรมกายจึงมุ่งให้ความสำคัญแก่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
มุ่งนำสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อยกคุณภาพมนุษย์ให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างสมดุลทั้งด้านการพัฒนาวัตถุและการพัฒนาทางจิตใจ
และพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) แห่งวัดพระธรรมกาย
ท่านมุ่งที่จะหยิบยื่นสิ่งที่ดีที่มีคุณค่าให้แก่โลก
และมุ่งมั่นที่จะสถาปนาสันติสุขอันไพบูลย์แก่มวลมนุษย์ชาติด้วยพระพุทธธรรมอันประเสริฐ
เพราะเมื่อบุคคลทั้งหลาย เข้าถึงธรรมได้เวลาใด ณ เวลานั้น
ทุกคนจะรู้ว่าสันติสุขภายในจิตใจสร้างสรรค์ให้เกิดสันติภาพภายนอกอย่างแท้จริงได้
...เมื่อใดก็ตามที่มวลมนุษยชาติปล่อยวางความเชื่อเดิมไว้ชั่วคราว
แล้วก้าวเข้ามาศึกษาความจริง เมื่อนั้นมนุษย์ทุกคนย่อมสามารถสัมผัสกับความสุขอันละเอียดประณีตภายใน
ที่จะส่งผลให้จิตใจเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และจะหันมาส่งความรักความปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์
สรรพสัตว์ รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมทั้งปวง ซึ่งนับเป็นชัยชนะที่แท้จริง
ที่มวลมนุษย์ชาติเฝ้าแสวงหามาโดยตลอด เมื่อถึงจุดนั้น
โลกทั้งใบก็จะได้รับการคุ้มครองรักษา ด้วยธรรมะที่เกิดขึ้นกลางใจของมนุษย์อย่างแท้จริง...
Cr. พระสมศักดิ์ จนฺทสีโล
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๙๐
เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๓
วันคุ้มครองโลก ๒๒ เมษายน...มหัศจรรย์วันเปลี่ยนโลก
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
00:35
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: