หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๕๓)
การส่งเสริมการศึกษาพระบาลี
:
มรดกธรรมอันล้ำค่าที่จะนำไปสู่การค้นคว้าความรู้ภายใน
ในช่วง ๑ เดือนหลังออกพรรษาของทุกปี กิจกรรมสำคัญประการหนึ่งของชาวพุทธทั่วโลกก็คือ การทอดกฐินสามัคคี
หรือเทศกาลการผลัดเปลี่ยนผ้าไตรจีวรของพระภิกษุสงฆ์
เพราะนอกจากจะเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวในรอบปีที่พระพุทธองค์มีพระบรมพุทธานุญาตให้กระทำได้แล้ว
การทอดกฐินยังเป็นประดุจเครื่องหมายที่แสดงถึงการรวมจิตรวมใจของชาวพุทธในการช่วยกันทำนุบำรุงอุ้มชูพระพุทธศาสนาร่วมกันในทุก ๆ ด้านอีกด้วย
ซึ่งนับเป็นบุญใหญ่ที่บรรพบุรุษได้ส่งทอดเป็นมรดกธรรมให้เราร่วมกันปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งสำหรับลูกหลานของมหาปูชนียาจารย์ทุก ๆ คนนั้น ต่างก็ไม่ลืมที่จะตักตวงบุญใหญ่นี้กันอย่างเบิกบานในทุกวัดและทุกศูนย์สาขาทั่วโลกเป็นที่น่าอนุโมทนายิ่ง
ควบคู่กับกิจกรรมการสวดบทธัมมจักกัปปวัตนสูตร ที่พวกเราลูกหลานหลวงปู่
พระผู้ปราบมาร ได้ร่วมแรงร่วมใจสวดสืบเนื่องกันมา ก็ถือได้ว่าสามารถทำได้ทะลุเป้า
“ชิตัง เม” ๑,๘๑๑,๑๑๑,๑๑๑ จบ เป็นผลสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์เช่นเดียวกัน
ในฉบับที่แล้ว ผู้เขียนและคณะนักวิจัย DIRI
ได้กล่าวถึง “ความสำคัญของพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร
ว่าท่านนั้นเป็นยิ่งกว่าครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย”
โดยได้สรุปให้เห็นถึงคำตอบที่สำคัญกล่าวคือ
เป็นเพราะพระเดชพระคุณหลวงปู่นั้นเป็นบุคคลที่ได้ค้นคว้ารวบรวมความรู้ทั้งทางปริยัติ
ปฏิบัติ และปฏิเวธ ที่เคยมีอยู่ในอดีตให้กลับคืนมาเป็นชิ้นเดียวกันอีกครั้งหนึ่ง
เพื่อทำให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายสามารถนำเอาความรู้อันเป็นแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาที่รวมกับกระบวนการในการปฏิบัติธรรมไปใช้ได้จริงจนกระทั่งหลุดพ้นได้จริง
ๆ ทั้งยังสามารถยืนยันความมีอยู่ขององค์ความรู้ทั้ง ๓
ส่วนนี้ได้โดยไม่จำกัดกาลเวลา ทั้งนี้การที่ท่าน (พระเดชพระคุณหลวงปู่
พระผู้ปราบมาร)
สามารถก้าวเดินจากจุดเริ่มต้นนับตั้งแต่ท่านได้บรรพชาอุปสมบทจนถึงความสำเร็จนี้ได้ก็คือ
การที่ท่านให้ความสำคัญกับการศึกษาพระบาลีมาโดยตลอดชีวิตของท่านนั่นเอง
สิ่งสำคัญที่เราซึ่งเป็นลูกหลานของพระเดชพระคุณหลวงปู่
พระผู้ปราบมาร ต่างซาบซึ้งและเข้าใจกันโดยทั่วไปอยู่แล้วก็คือ ท่านเป็นพระมหาเถระที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาค้นคว้าธรรมปฏิบัติอย่างมาก
จนนำมาสู่ความเชี่ยวชาญแตกฉานในวิชชาธรรมกายเป็นอย่างสูง
แต่อีกประเด็นหนึ่งที่ยังอาจขาดไปก็คือ พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร ท่านส่งเสริมการศึกษาพระบาลีอย่างไร ? และท่านได้อาศัยการศึกษาพระบาลีเพื่อส่งเสริมความเข้าใจที่ชัดเจนในวิชชาธรรมกายอย่างไรบ้าง
? ๒ ประเด็นนี้ถือเป็นความรู้ที่น่าสนใจ
และควรศึกษาลงไปให้ชัดเจนลึกซึ้งอย่างมากในอนาคต
เพราะหากเราสามารถเชื่อมต่อองค์ความรู้ชุดนี้ได้สำเร็จ ก็จะยิ่งส่งผลให้องค์ความรู้ในการอธิบายเรื่องราวของธรรมกายและวิชชาธรรมกายมีความชัดเจนลุ่มลึกลงไปได้มากขึ้นอีก
เพราะสิ่งนี้ในทางกลับกันก็ย่อมจะเป็น “มรดกธรรมที่จะนำไปสู่การค้นคว้าความรู้ภายใน”
ในภาคปริยัติได้อีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อเรามีความเชื่อมั่นว่า
ภาษาบาลีคือภาษาสวรรค์ที่ถ่ายทอดความรู้อันบริสุทธิ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้
สำหรับคำตอบแรก พระเดชพระคุณหลวงปู่
พระผู้ปราบมาร ท่านส่งเสริมการศึกษาพระบาลีอย่างไรนั้น
ในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับชีวประวัติของพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร ได้ยืนยันไว้หลาย
ๆ แหล่งว่า พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านให้ความอุปการะและปกครองวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ตั้งแต่มีพระภิกษุสามเณรเพียง
๑๓ รูป ส่วนอุบาสิกาแม่ชีก็มีเพียงเล็กน้อย
เนื่องจากท่านนิยมเรื่องการศึกษาจึงส่งเสริมให้พระภิกษุ สามเณร ตลอดจนอุบาสิกาแม่ชีได้ศึกษาเล่าเรียนทั้งคันถธุระ (การศึกษาพระบาลีและนักธรรม) และวิปัสสนาธุระตามกำลังความสามารถของแต่ละท่าน
หาไม่แล้วก็ให้ช่วยงานวัดอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยไม่ยอมให้อยู่ว่าง¹ ท่านได้พยายามสนับสนุนส่งเสริมเรื่องการศึกษาและพัฒนาจนวัดปากน้ำมีความเจริญก้าวหน้าขึ้น
พระภิกษุ สามเณร และอุบาสิกาแม่ชีที่มีอยู่จำนวนไม่มากก็ได้เพิ่มขึ้นโดยลำดับ
และได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นสำนักเรียนในเวลาต่อมา (ปีพุทธศักราช ๒๔๙๐)
จนเมื่อถึงปีพุทธศักราช ๒๔๙๓
พระเดชพระคุณหลวงปู่จึงริเริ่มสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรมขึ้นหลังหนึ่ง
โดยสร้างเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสูง ๓ ชั้น ขนาด ๑๑ x ๖๐ เมตร ใช้งบประมาณสมัยนั้นราว
๓ ล้านบาทเศษ² หลังจากการสร้างอาคารเรียนพระปริยัติธรรมแล้ว พบว่าทำให้มีผู้นิยมมาบรรพชาอุปสมบทและจำพรรษาที่วัดปากน้ำ
ภาษีเจริญ มากขึ้นโดยลำดับ จนทำให้ปริมาณพระภิกษุเพิ่มขึ้นเป็น ๒๒๕ รูป สามเณรเพิ่มขึ้นเป็น
๒๐๕ รูป อุบาสิกาแม่ชีมีถึง ๔๐๐ คน และศิษย์วัดที่อยู่ประจำมีถึง ๕๐ คนด้วยกัน³ อย่างไรก็ตาม
จากการศึกษาประวัติของท่านทำให้พบว่า ก่อนที่พระเดชพระคุณหลวงปู่จะริเริ่มพัฒนาการศึกษาพระภิกษุสามเณรของวัดปากน้ำ
ภาษีเจริญ ขึ้นนั้น ท่านเคยเป็นผู้จุดประกายด้านการศึกษาให้แก่เด็ก ๆ
ในชุมชนรอบวัดมาก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ได้มาจำพรรษาที่วัดปากน้ำใหม่ ๆ⁴
ไม่เพียงแต่ในด้านปริมาณเท่านั้น
แต่เมื่อพิจารณาลงไปถึงในด้านคุณภาพแล้ว พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร ท่านก็ได้ให้ความสำคัญลงไปอย่างลึกซึ้งด้วยเช่นกัน
ไม่เฉพาะแต่การเทศน์สอนด้วยตนเองเพียงอย่างเดียว แต่ท่านยังได้จัดให้มีการเรียนการสอนแผนกคันถธุระ โดยแยกออกเป็นชั้นเรียนภาษาบาลี
นักธรรม ธรรมศึกษา สามัญศึกษา อย่างครบถ้วนทุกวิชาด้วย และพยายามจัดหาครูประจำมาทำการสอนอย่างต่อเนื่อง
(ทุกแผนก ทุกชั้น ชั้นละ ๓ รูป) ทั้งนี้พระภิกษุสามเณรที่เข้ารับการศึกษาจะต้องผ่านการทดสอบหลังจากเรียนจบหลักสูตรก่อน
โดยข้อสอบของวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ จากนั้นจึงจะคัดเลือกให้เข้าสอบบาลีสนามหลวงต่อไป⁵
เหตุผลที่พระเดชพระคุณหลวงปู่
พระผู้ปราบมาร ให้ความสำคัญกับการศึกษาพระบาลีอย่างมากนั้น
อาจลึกซึ้งยิ่งกว่าที่ใคร ๆ จะคาดถึงได้ นั้นเพราะเหตุใด ? กล่าวในกรณีนี้สำหรับผู้เขียนแล้วเชื่อว่าส่วนหนึ่งอาจเกิดจากเหตุผลเดียวกันกับที่ท่านเกิดความสงสัยในคำว่า
“อวิชชาปัจจยา” (ความไม่รู้นั้นเองเป็นปัจจัย: ผู้เขียน)
นับตั้งแต่ครั้งยังบวชได้เพียงวันเดียว
และด้วยเหตุผลนี้เองท่านจึงอาจต้องการปูพื้นฐานทางการศึกษาพระบาลีให้แก่พระภิกษุสามเณรของท่านให้มากที่สุด
เข้มแข็งที่สุด เพียงพอที่สุด ก่อนที่จะถ่ายทอดความรู้อันลึกซึ้งจากธรรมปฏิบัติในวิชชาธรรมกายให้ก็เป็นได้
เช่นเดียวกับที่ตัวท่านเองได้เอาชีวิตเป็นเดิมพันในการศึกษาพระบาลีควบคู่กับการปฏิบัติภาวนามาแล้วเป็นเวลานาน ก่อนที่จะได้บรรลุธรรมในกลางพรรษาที่
๑๒ ณ อุโบสถวัดโบสถ์บน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยอย่างน้อยที่สุดพระภิกษุสามเณรผู้มีความรู้จำนวนมาก
ๆ เหล่านั้นจะได้ทำหน้าที่ร่วม “เป็นทนายแก้ต่าง” ให้แก่วิชชาธรรมกาย และ
“หลักฐาน”
ที่ปรากฏในคำเทศน์สอนของท่านได้ถ่ายทอดจากรุ่นหนึ่งมาสู่อีกรุ่นหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์
อนึ่ง
เมื่อกล่าวในส่วนของการที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร ได้อาศัยการศึกษาพระบาลีเพื่อส่งเสริมความเข้าใจที่ชัดเจนในวิชชาธรรมกายนั้น ผู้เขียนเห็นว่าท่านได้ปฏิบัติเช่นนั้นมาตลอดชีวิตของท่าน
ดังจะเห็นได้จากหลักฐานที่ปรากฏในบทพระธรรมเทศนาที่ท่านแสดงทุกกัณฑ์
(ที่พอจะหลงเหลือให้รวบรวมไว้ได้ประมาณ ๖๙ กัณฑ์
และคณะศิษยานุศิษย์นำมาพิมพ์เผยแพร่จนถึงยุคปัจจุบัน) ว่า ในบทเทศนาธรรม
หลวงปู่ท่านจะยกคาถาบาลีขึ้นต้นเสมอ
แล้วแปลและขยายความจากคาถาบาลีไปในแง่มุมของการปฏิบัติและปฏิเวธอย่างลึกซึ้ง
จนถึงเรื่องของการเข้าถึงพระธรรมกายและการหลุดพ้นจากกิเลสและจากทุกข์ด้วยวิชชาธรรมกาย
ซึ่งเป็นที่น่าศึกษาอย่างยิ่งว่าคำอธิบายของท่านดังกล่าวนี้
ล้วนมีลักษณะที่ละเอียดและลุ่มลึกอย่างยากที่จะพบเห็นจากเอกสารแหล่งใดได้ ดังที่ท่านอธิบายในพระธรรมเทศนาของท่านในโอกาสต่าง ๆ ว่า
“สมฺมาสมฺพุทฺโธ...แปลตามศัพท์ว่า
ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองโดยชอบ ...แต่แท้จริงคำว่า พุทฺโธ
คำนี้เมื่อพิเคราะห์ให้ลึกซึ้งลงไปตามรูปศัพท์แล้วมีความหมายลึกซึ้งมาก
ต่างกันไกลกับคำว่า ชานะ หรือ วิชานะ
ซึ่งแปลว่ารู้แจ้งนั้น...เมื่อระลึกถึงพระบาลีในธัมมจักกัปวัตนสูตรที่ว่า 'จกฺขุํ
อุทปาทิ ญาณํ อุทปาทิ ปญฺญา อุทปาทิ วิชฺชา อุทปาทิ อาโลโก อุทฺปาทิ' ทำให้แลเห็นความว่าคุณวิเศษทั้ง ๕ อย่าง ดังบาลีที่ยกขึ้นกล่าวนี้
จะเป็นความหมายแห่งคำว่าพุทฺโธ ...ซึ่งเป็นเหตุสนับสนุนว่า ที่ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้นั้น ไม่ใช่รู้เฉย
ๆ แต่เป็นทั้งรู้ทั้งเห็น...” ⁶
“...วิปัสสนา คำนี้แปลตามศัพท์ว่า
เห็นแจ้ง เห็นวิเศษ หรือนัยหนึ่งว่าเห็นต่าง ๆ เห็นอะไร ? เห็นนามรูป แจ้งอย่างไร ? แจ้งโดยสามัญลักษณะว่าเป็นของไม่เที่ยง
เต็มไปด้วยทุกข์และเป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล เรา เขา มีข้อสำคัญที่ว่า
เห็นอย่างไร ? เป็นเรื่องแสดงยากอยู่ เห็นด้วยตาเรานี้หรือเห็นด้วยอะไร
ตามนุษย์ไม่เห็น ต้องหลับตามนุษย์เสีย ส่งใจไปจดจ่ออยู่ที่ศูนย์ดวงปฐมมรรค
เห็น จำ คิด รู้ มีอยู่ในดวงปฐมมรรคนั้น...”⁷
“ ...กายมนุษย์จะเป็นพระพุทธเจ้าไม่ได้
จะเป็นพระพุทธเจ้าได้ต้องเป็นธรรมกาย ธรรมกายเท่านั้นเป็นพระพุทธเจ้าได้
พระองค์รับสั่งด้วยพระองค์เองว่า ธมฺมกาโย อหํ อิติปิ เราตถาคตคือธรรมกาย
ธรรมกายนั้นเป็นพระพุทธเจ้า เป็นพระตถาคตแท้ ๆ
ไม่ใช่อื่น...อีกนัยหนึ่ง ในพระสุตตันตปิฎกแท้ ๆ วางตำราไว้ว่า เอตํ โข วาเสฏฺฐา
ธมฺมกาโยติ ตถาคตสฺส อธิวจฺนํ ดูก่อน วาเสฏฐโคตรทั้งหลาย คำว่าธรรมกาย ๆ
นั้น เป็นตถาคตโดยแท้ ทรงรับสั่งอย่างนี้ ธรรมกายนั้นเองคือตถาคตเจ้า
ธรรมกายนั้นเองคือ พุทธรัตนะ เป็นกายที่ ๙ ของมนุษย์นี้ ... กายที่ ๙
ของมนุษย์นี้เป็นพุทธรัตนะ แล้วดวงธรรมรัตนะก็อยู่ ณ ศูนย์กลางกายของพุทธรัตนะนั้น สะดือทะลุหลัง
ขวาทะลุซ้าย กลางกั๊กทีเดียว ข้างในวัดเส้นผ่าศูนย์กลางเท่าหน้าตัก..."⁸ ซึ่งเป็นที่น่าศึกษาอย่างยิ่งว่าคำอธิบายของท่านดังกล่าวนี้ล้วนมีลักษณะที่ละเอียดและลุ่มลึกอย่างยากที่จะพบเห็นจากเอกสารแหล่งใดได้
ดังที่ท่านอธิบายในพระธรรมเทศนาของท่านในโอกาสต่าง ๆ ว่าธรรมกายกลมรอบตัว
ใสเกินกว่าใส ใสเป็นแก้วจึงได้ชื่อว่าธรรมรัตนะ ธรรมเป็นแก้วดวงนั้นคือธรรมรัตนะ
ธรรมกายละเอียดอยู่ในกลางดวงธรรมรัตนะนั้น เหมือนพุทธรัตนะแบบเดียวกัน
หากกล่าวโดยสังเขปในที่นี้ก็คือ
พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร ท่านได้อาศัยการศึกษาพระบาลีเป็นเครื่องยืนยันความมีอยู่ของธรรมกายและวิชชาธรรมกายตลอดมา
ทั้งยังได้พยายามที่จะสนับสนุนส่งเสริมให้มีการศึกษาพระบาลีให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เพื่อคุณประโยชน์หลายประการ เช่น ๑) เมื่อการศึกษาพระบาลีในวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ก้าวหน้าขึ้นก็ย่อมจะทำให้มีพระภิกษุสามเณรเข้ามาศึกษาทั้งภาคปริยัติและปฏิบัติมากขึ้น
๒) เป็นการสร้างศาสนทายาทที่มีความรู้สมบูรณ์เหมาะแก่การเผยแผ่พระพุทธศาสนา
วิชชาธรรมกายมากขึ้น เป็นแบบแผนมากขึ้น ๓)
เป็นเครื่องยืนยันถึงความถูกต้องในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย ในวงกว้าง
๔) เป็นฐานขององค์ความรู้ที่พร้อมสำหรับการศึกษาค้นคว้าที่ถูกต้องของพระพุทธศาสนาภาคปฏิบัติสำหรับชนรุ่นหลัง
สำหรับผู้เขียนแล้ว เมื่ออธิบายมาถึง ณ
จุดนี้ สิ่งที่ผู้เขียนได้กระทำไปพร้อม ๆ กันก็คือ การพยายามไตร่ตรองต่อไปว่าในปัจจุบันนี้
ปฏิปทาของมหาปูชนียาจารย์
โดยเฉพาะในเรื่องของการศึกษาพระบาลีนั้นยังคงได้รับการสานต่อและมีการเชื่อมโยงต่อไปในอนาคตอย่างไรหรือไม่
ซึ่งนับเป็นความโชคดีอย่างยิ่งที่ในปัจจุบันวัดพระธรรมกายรวมทั้งศูนย์สาขาทั่วโลกก็ยังมีการสนับสนุนส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมและการศึกษาพระบาลีอยู่อย่างต่อเนื่อง
ควบคู่ไปกับการสนับสนุนส่งเสริมการศึกษาด้านอื่น ๆ เช่น ภาษาสันสกฤต ภาษาโบราณต่าง
ๆ หรือในสาขาที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาอย่างไม่ขาดสาย
นำเสนอผลงานวิจัยในหัวข้อ “Buddhist meditative techniques in Dunhuang manuscript S.2585”
ณ สถาบันวิจัยนีดแฮม (Needham Research Institute) แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
สถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัย (DIRI) และ มูลนิธิ ๖๐ ปีธรรมชัยเพื่อการศึกษา (DEF) ให้การสนับสนุนการสัมมนาในครั้งนี้
ในขณะที่บุคลากรอีกท่านหนึ่งคือ
พระวีรชัย เตชํกุโร ซึ่งกำลังศึกษาในระดับปริญญาเอก อยู่ ณ
มหาวิทยาลัยออสโล ประเทศนอร์เวย์ โดยศึกษาวิจัยการชำระคัมภีร์กิลกิต (Gilgit Manuscript) ที่มีอายุกว่า ๑,๒๐๐-๑,๓๐๐ ปี
ก็ใกล้จะสำเร็จการศึกษาภายในปลายปีนี้ (พุทธศักราช ๒๕๖๒) แล้วเช่นกัน
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เท่ากับเป็นเครื่องยืนยันว่าการส่งเสริมการศึกษาพระบาลีและการศึกษาชั้นสูงต่าง
ๆ นั้นจะเป็นมรดกธรรมที่สามารถจะนำให้เรายิ่งเข้าถึงความรู้ภายในที่ลึกซึ้งมากขึ้นในอนาคต
ดุจเดียวกับที่มหาปูชนียาจารย์ได้สร้างเป็นรอยทางไว้ให้เรา...
ขอเจริญพร
¹ สิงหล, บุคคลยุคต้นวิชชา ๓, กรุงเทพฯ: สุขุมวิทการพิมพ์,
๒๕๔๖, หน้า ๓๒-๓๓.
² สิงหล,
บุคคลยุคต้นวิชชา ๓, กรุงเทพฯ: สุขุมวิทการพิมพ์, ๒๕๔๖, หน้า ๓๔.
³ เรื่องเดียวกัน, หน้า ๔๑.
⁴ เกี่ยวกับเรื่องของการส่งเสริมการศึกษานั้น
ได้ปรากฏว่าแท้จริงแล้วพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร ไม่เพียงให้การสนับสนุนการศึกษาพระภิกษุสามเณรแต่เพียงอย่างเดียว แต่ท่านยังสนับสนุนการศึกษาแก่เด็ก ๆ ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงด้วย
โดยได้จัดตั้ง “โรงเรียนราษฎร์สำหรับเด็กชาวบ้าน” ขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เด็ก ๆ
ขาดการอบรม ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทั้งทางภาคราชการและชุมชนเป็นอย่างดี
จนกระทั่งเมื่อทางราชการได้จัดตั้งโรงเรียนขึ้นตามพระราชบัญญัติประถมศึกษา พ.ศ. ๒๔๖๔ (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ ๑ ตุลาคม ๒๔๖๔) ท่านจึงได้ยกเลิกไป หันมาทุ่มเทเรื่องการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมเพียงอย่างเดียว
⁵ เรื่องเดียวกัน, หน้า ๔๘.
⁶ ความตอนหนึ่งในบทพระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ ๒ เรื่อง “ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ”, หน้า ๑๘.
⁷ เรื่องเดียวกัน, หน้า ๒๓.
⁸ ความตอนหนึ่งในบทพระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ ๒๙ เรื่อง “ภัตตานุโมทนากถา” วันที่
๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๗
เรื่อง : นวธรรมและคณะนักวิจัย DIRI
คลิกอ่านบทความได้ที่นี่ https://dhamma-media.blogspot.com/2019/11/diri53.html
***สามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ขอให้ใส่ Cr. ผู้เขียนด้วย***
คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญในรูปแบบของ PDF
https://drive.google.com/file/d/18gu8XlvlXseruh8QaZ6CvVADzjt75MbO/view
https://drive.google.com/file/d/18gu8XlvlXseruh8QaZ6CvVADzjt75MbO/view
คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญในรูปแบบของ E-book
http://dhammamedia.org/YNB%202562/204%20YNB_6212/YNB204_1262.html
คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๒๐๔ ประจำเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้ที่นี่
- การปฏิวัติเพื่ออิสรภาพที่แท้จริง
- Unseen ปฏิปทาพระพ่อ (คุณครูไม่เล็ก)
- ปลื้มใจที่ได้ทอดกฐิน สร้างมหากาลทานแห่งปี
- อานิสงส์ของการให้ในยามคับขัน
- Change the Mind...Change the World
- เชื่อมสัมพันธ์พุทธไทย-เมียนมา พิธีเปิดอาคารเรียนพระปริยัติ พระครูบาไชยบูลย์ ธมฺมชโย
- พิธีมุทิตาสักการะครั้งประวัติศาสตร์
- สิ่งใดที่คุ้ม.. สิ่งนั้นจึงควร..
- ข่าวสารเครือข่ายคณะศิษย์
- หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๕๓)
- ลอยกระทง ตรงสู่ธรรม ฉลองชัยชิตัง เม ๑,๘๑๑,๑๑๑,๑๑๑ จบ
- ทำงานอย่างไรจึงจะมีกำลังใจ ไม่ท้อแท้ ไม่ท้อถอย ?
- ย้อนอดีต...ท่องประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา (ตอนที่ ๒๔)
- ความก้าวหน้าที่แท้จริง
คลิกที่รูป หรือ สแกน QR-CODE เพื่ออ่านบทความนี้
หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๕๓)
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
22:08
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: