ทำไมแม่คนนี้..ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกได้บวช
หลังแต่งงานไม่กี่เดือนก็เริ่มมีอาการแพ้ท้อง
คือ เวียนหัว หิวผิดปกติ จากอาหารที่เคยชอบมาก ๆอยู่ ๆ ก็เกิดเหม็นกินไม่ได้
จนอยากอาเจียน พอได้ไปพบแพทย์จึงได้ทราบว่าตัวเอง ตั้งครรภ์ได้ ๒ เดือนแล้ว ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นตอนนั้น
ตื่นเต้นมาก ..ตื่นเต้นที่กำลังจะได้เป็นแม่
และครั้งแรกที่ลูกในท้องดิ้นถีบเราจนท้องโย้ไปโย้มา ได้ตอกย้ำถึงความรู้สึกว่า
มีอีกชีวิตหนึ่งที่จะมาอยู่กับเราจริง ๆ จนกระทั่งครบกำหนดคลอด
ต้องเจ็บท้องเป็นชั่วโมง ทรมานมากจนทำให้เสี้ยววินาทีนั้น คิดถึงแม่ของเราเอง
คิดถึงแม่จนน้ำตาไหล และเพิ่งเข้าใจอย่างซาบซึ้งว่า แม่ของเราเจ็บแค่ไหน
เพิ่งเข้าใจถึงความรักที่แม่มีต่อเราตอนนั้นเองว่ามากขนาดไหน เพราะชีวิตน้อย ๆ
ที่กำลังจะคลอดอยู่นี้ ทำให้เรารักเขาขึ้นมาอย่างท่วมท้นทันที อย่างที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน
ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่รู้เลยว่า โตขึ้นเขาจะเป็นคนดีหรือไม่ดี
เขาจะดีได้สมกับความรักที่เราให้เขาหมดใจอย่างนี้ไหม
ครั้งแรกที่พยาบาลอุ้มลูกมาให้
เราได้ฝึกเป็นคุณแม่มือใหม่ในการให้นมลูก ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลย เห็นลูกตัวแดง ๆ
และอ่อนนุ่มนิ่มมาก จะประคองอุ้มลูกก็ยังไม่ชินมือ กลัวลูกเจ็บ กลัวลูกตกลงมา
ช่วงที่เราให้นมลูก ๓ เดือนนี้ เป็นช่วงเวลาแห่งภาระแต่มีความสุขที่สุด
เป็นช่วงแห่งความผูกพันกับชีวิตในอ้อมแขนอย่างแนบแน่น จนเผลอคิดไปไกลว่า
ชั่วชีวิตนี้คงไม่มีความรักไหนเป็นรักแท้ ที่ทำให้เราผูกพันอย่างสามารถเอาชีวิตเข้าแลกได้เหมือนชีวิตน้อย
ๆ ที่อยู่ในอ้อมอกนี้อีกแล้ว
วินาทีแห่งความพลัดพราก
ความรักที่เรามีต่อลูกได้เพิ่มขึ้นทุกวัน
ถึงขนาดคิดไปว่า แม้ความตายจะมาหยุดชีวิตเรา ณ ตอนนี้
ก็ไม่อาจหยุดความรักที่เรามีต่อลูกได้ แต่เพราะความจน และเราก็ไม่อยากอดตาย
อีกทั้งเรามีภาระ คือ ลูก ทำให้ต้องจำใจกลับไปรับจ้างทำงานโรงงานที่กรุงเทพ
เพื่อแลกกับค่าแรงงานขั้นต่ำ เราจึงต้องยกลูกให้ยายเขาเลี้ยงไปก่อน
ตอนพรากจากลูกนั้น ทำใจแทบไม่ได้ นอนร้องไห้น้ำตาไหลอยู่เป็นเดือน ๆ
เพราะคิดถึงลูกมาก พอเงินเดือนออก ก็รีบส่งธนาณัติไปให้ยายของเขาเพื่อเป็นค่านมลูก
อีกทั้งยังเขียนจดหมายไปถามเรื่องลูกไม่เคยขาด
นับจากนั้น...
เราต้องเร่ร่อนทำงานโดยไม่ได้อยู่กับลูก จึงมีความรู้สึกว่า
ลูกจะเข้าใจแม่อย่างเราไหม ลูกจะคิดกับเราอย่างไร
ลูกรักเราเหมือนกับที่เรารักเขาไหม ตลอดเวลาที่ผ่านมานานถึง ๒๑ ปี สิ่งหนึ่งที่อยู่ในใจเรานับตั้งแต่คลอดเขา
คือ เราไม่เคยได้ยินคำว่า “รักแม่” ออกจากปากเขาเลย... แต่สำหรับเราแล้ว
เราก็ไม่เคยรักลูกลดลงเลย
แถมยังทรมานใจที่ครอบครัวเราไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอย่างมีความสุขเหมือนกับครอบครัวอื่น
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เราเป็นห่วงลูกมากกว่าแม่ปกติทั่วไป
เพราะกลัวลูกจะกลายเป็นเด็กมีปัญหา
พอเขาโตเป็นวัยรุ่น
เป็นช่วงที่ลูกเกเรที่สุด จนเรารู้สึกทุกข์มาก วัน ๆ ต้องมานั่งกังวลว่า
ลูกจะไปตั้งวงเหล้าที่ไหน จะไปก่อเรื่องกับใคร จะไปนอนค้างบ้านเพื่อนคนไหน
ห่วงจนอดโทร.หาลูกไม่ได้ เพราะเราเห็นมานักต่อนักแล้วว่า
คนกินเหล้าสุดท้ายก็ขาดสติ ทำเรื่องที่ไม่คาดคิด บางครั้งก็ต้องมาเสียชีวิต
และถ้าลูกเราต้องเป็นอย่างนั้นไปจริง ๆ แม่อย่างเราจะทำอย่างไร
และพอเราโทร.ไปหาลูก เราบอกลูกว่า “อย่ากินเหล้านะลูก” เขาก็ตอบเราว่า “ครับแม่”
แต่ไอ้ครับ ๆ นี่แหละ กำลังเมาแป้คาขวดอยู่ และพอเราบอกลูกว่าอย่าดื้ออย่าเกเร
เขาก็ว่าแม่ไม่เข้าใจวัยรุ่น
ช่วงนั้น..ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนเป็นแม่อย่างเราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร
จนกระทั่งเราได้มารู้จักวัดพระธรรมกาย ทำให้เราซาบซึ้งในธรรมะ เห็นข้อวัตรปฏิบัติของหลวงพ่อ
เห็นพระที่มีศีลาจารวัตรงดงาม ทำงานให้พระพุทธศาสนาอย่างทุ่มชีวิตอย่างนี้
เราจึงเกิดความคิดขึ้นมาว่า อยากให้ลูกชายเรา ได้บวชเป็นพระวัดนี้กับเขาบ้าง
จะได้ฝึกตน แก้ไขในสิ่งไม่ดี และนับจากนั้นไม่ว่าจะทำบุญอะไร
ก็อธิษฐานขอให้ลูกชายเราได้บวช จนกระทั่งหลวงพ่อจัดให้มีโครงการบวช ๑๐๐,๐๐๐ รูป เราจึงคิดว่า
คราวนี้เป็นอย่างไรเป็นกัน ต้องเกลี้ยกล่อมให้ลูกชายบวชในโครงการนี้ให้ได้
เพราะเราอยากให้เขาเป็นคนดี
เราไม่อยากเป็นห่วงลูกไปจนวันสุดท้ายของชีวิตความเป็นแม่
จากนั้นเราก็โทร.ไปหาลูก
บอกให้เขามาหาแม่หน่อย พอเขามาเราก็พาเขาไปวัด พาลูกเข้าไปกราบรูปหล่อหลวงปู่วัดปากน้ำ
อธิษฐานบอกท่านว่า นี่คือ ลูกชายของลูก
วันนี้ลูกจะมายกลูกคนนี้ถวายให้เป็นลูกหลวงปู่
กราบขอบารมีหลวงปู่ดูแลให้เขาอยู่ในเส้นทางบุญ ขอให้เขาได้บวชด้วย
และช่วงที่เราพาลูกมากราบรูปคุณยายอาจารย์ฯ เราก็ได้บอกให้เขาสัญญากับเราว่า
นับจากนี้เขาจะไม่ทำตัวเกเรอีก เกิดมาชาตินี้แม่ไม่ขออะไรมาก
ขอให้ลูกบวชให้แม่ที่วัดนี้สักครั้งได้ไหม ลูกก็ตอบเราออกมาว่า บวชก็ได้...
ลูกหนีบวช
หลังจากที่ลูกรับปากเราว่าจะบวชก็จริง
แต่สิ่งที่เขาทำกลับตรงกันข้ามทุกอย่าง จนตอนหลังเรามารู้ว่า ลูกตอบเราไปอย่างนั้นเอง
แต่หากเขามาแอบรู้ความรู้สึกของผู้เป็นแม่ที่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้า
ที่จะให้ลูกชายได้บวชอยู่กับหลวงพ่อแล้ว เขาจะรู้ว่า คำพูดของเขาในวันนั้น
ทำให้เราดีใจมากที่สุดในชีวิตเหมือนไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
แต่พอเหตุการณ์กลายเป็นแบบนี้ ใจมันเจ็บแปลบ รู้สึกสะเทือนใจ เสียใจ
แต่ก็บอกใครไม่ได้ เพราะรู้ว่า ถ้าพูดไป เขาจะหาว่าเราเป็นแม่ที่เวอร์
หรือบังคับลูกจนเกินไป แต่หากทุกคนได้มายืนในสถานะเดียวกับเรา คือ เป็นแม่จน ๆ
ที่ไม่มีสมบัติอะไรจะให้ลูก แต่สิ่งเดียวที่จะให้เขาได้ คือ ทำให้เขาเป็นคนดี
ซึ่งหากสิ่งนี้แม่อย่างเรายังให้เขาไม่ได้อีก เราคงตายตาไม่หลับ
ตอนนั้นเรากังวลมากจนต้องลางานไปลพบุรี
ยอมขาดรายได้ไปช่วงหนึ่ง เพื่อไปพูดให้ลูกยอมบวชให้ได้ พอไปถึงลูกชายก็ถามเราว่า “แม่มาทำไม”
แต่เขามองตาเรา เขาก็รู้ว่าเราจะมาเอาเขาไปบวช ลูกชายก็เลยรีบโทร.หาเพื่อน
ให้ขับรถมารับพาเขาหนีไปนครสวรรค์ทันที
การกระทำของลูกในครั้งนั้น
ได้ทำให้แม่สะเทือนใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
การที่ลูกรับปากแม่แล้วไม่ยอมบวชให้และหนีไปอย่างนี้
ทำให้ทุกอย่างคลาดเคลื่อนเลือนรางไปหมด แม้เราโทรศัพท์ไปหาลูก เขาก็ไม่ยอมรับสาย
หายหน้าหายตาไปเลย และขณะเดียวกัน ยายเขาก็โทร.มาว่า
ลูกชายเราไปอยู่กับเพื่อนไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องอีกแล้ว ไปตั้งวงเหล้า
เป็นไอ้ขี้เมาอีก เราจึงคิดในใจว่า หากเราเอาลูกบวชได้ จะไม่ให้เขาบวชที่ลพบุรี
เพราะเพื่อนต้องไปชวนให้สึกออกมากินเหล้ากันต่อ กลัวลูกอยู่ไม่จบโครงการ
ช่วงนั้นจึงนั่งสมาธิอธิษฐานขอหลวงปู่ และทำทุกวิถีทาง
เดินสายหาคนไปช่วยพูดกับลูกชาย เพื่อให้เขายอมบวช
และสุดท้ายก็ไปปรึกษาพระอาจารย์หัวหน้าศูนย์อบรมที่ จ.ขอนแก่น บอกท่านว่า
อยากให้เขาบวชไกล ๆ บ้าน ให้บวชที่ขอนแก่น จะได้หนีกลับบ้านไม่ได้
ท่านก็รับปากว่าจะช่วย จากนั้นเราจึงโทร.ไปนัดแนะกับยายว่า
ทำอย่างไรก็ได้ให้หลานอยู่บ้านคืนนี้ให้ได้ จากนั้น.. เราผู้เป็นแม่ก็แอบเตรียมชุดนาค
เตรียมเครื่องใช้ในการอบรมทุกอย่างให้ครบ และคืนนั้นเอง..
พระอาจารย์ก็ให้คนขับรถตีรถจาก จ.ขอนแก่นไป จ.ลพบุรี ไปถึงบ้านเราเที่ยงคืน
ปรากฏว่าลูกหลับไปแล้ว แต่ก็ไปปลุกเขาขึ้นมา
และให้พระอาจารย์พูดชวนไปขอนแก่นในคืนวันนั้นทันที
ซึ่งทันเข้าโครงการอบรมธรรมทายาทเพราะเป็นวันเปิดการอบรมพอดี
นับจากนั้นเราก็นั่งภาวนาทุกลมหายใจว่าให้ลูกเราบวชให้ได้
ให้เขาอยู่จนครบโครงการให้ได้ นับวันรอจนถึงวันที่ต้องไปทำพิธีขอขมาด้วยใจที่ตุ๋ม
ๆ ต่อม ๆ ตลอดเวลาว่า ลูกจะหนีไปหรือยัง แต่พอเราเห็นลูกอยู่ในขบวนแถว
ก็รู้สึกดีใจ เต็มตื้นน้ำตาซึมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
และกราบแรกที่ลูกก้มกราบเรา เรานึกขอบพระคุณหลวงปู่ที่ช่วยให้เรามีวันนี้
เป็นวันที่แม่อย่างเรารอคอยมาชั่วชีวิตก็ว่าได้ ซึ่งก็เหลือเชื่อค่ะ ที่สุดท้ายลูกชายยอมบวชจนจบโครงการ
และก็ตัดสินใจบวชเป็นพระพี่เลี้ยงช่วยงานบวชอุบาสิกาแก้วต่อทั้ง ๒ รุ่น
ตอนลูกบวชอยู่
เรารู้สึกหมดห่วงในทุกสิ่ง หากเป็นไปได้เราอยากให้เขาบวชอย่างนี้ตลอดไป
สิ่งนี้เราไม่ได้ปรารถนาเพื่อตัวเอง แต่เราอยากให้ลูกบวชเพื่อให้เขามีชีวิตที่ปลอดภัยในวัฏสงสาร
เพราะความรักจากแม่แม้มากขนาดไหน หรือจะเอาหัวใจของความเป็นแม่มาเดิมพัน
ก็ช่วยให้ลูกไม่ให้ตกนรกจากความผิดพลาดที่เขาเคยทำมาไม่ได้
แต่หากเราทำให้ลูกได้บวช บุญบวชนี่แหละจะอุ้มไม่ให้ลูกเราตกนรก
เพราะไม่มีแม่คนไหนอยากให้ลูกตัวเองตกนรก และถ้าลูกเป็นพระเราก็ไม่ต้องห่วงอะไรมากว่า
วัน ๆ เขาจะไปกับใคร ไปไหน เพื่อนที่เขาคบดีไหม ขับรถดึก ๆ จะไปชนไหม
วันที่ลูกกินเหล้า เขาจะไปมีเรื่องไหม เพราะขณะบวชในโครงการของหลวงพ่อนี้
เขาต้องเอากำลังกาย กำลังใจมาช่วยงานพระศาสนา ช่วยงานหลวงพ่อ ซึ่งตัวเขาเองก็ได้บุญ
พระศาสนาก็เจริญ
คำว่ารักจากลูก
ที่แม่รอคอยมาถึง ๒๑ ปี
มีวันหนึ่งที่พระลูกชายโทร.มาหาเรา
ได้บอกเราว่า ท่านได้อะไรดี ๆ จากการบวชมากมาย ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ
ท่านภูมิใจที่ได้เป็นพระอาจารย์เทศน์สอนด้วย และท่านได้มาสารภาพกับเราว่า
ตลอดเวลาก็รู้ว่าโยมแม่รักและเป็นห่วง แต่ที่ผ่านมาขอดื้อบ้าง
เพราะเป็นช่วงวัยรุ่น และท่านก็บอกโยมแม่ว่า “รักโยมแม่นะ” พอเราฟังตรงนี้
เราเต็มตื้นมาจุกอยู่ที่คอ เพราะตลอดเวลา ๒๑ ปีเท่าอายุลูก เราไม่เคยรู้เลยว่า
ลูกคิดอย่างไรกับเรา แต่วันนี้เรารู้แล้วว่า เขารักแม่...
Cr. เรื่อง : ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์ ภาพถ่าย : ศูนย์ภาพนิ่ง
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๙๓
เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
ทำไมแม่คนนี้..ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกได้บวช
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
00:48
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: