๑. บวช ๒. นั่งสมาธิ ชีวิตเจ๋ง สุดยอดพลังดีไซน์ของลูกผู้ชาย
๑. บวช ๒. นั่งสมาธิ ชีวิตเจ๋ง
สุดยอดพลังดีไซน์ของลูกผู้ชาย
คุณณมกรเล่าให้ฟังว่า ตนเองนั้นเป็นคนที่ชอบจินตนาการ แต่เป็นจินตนาการที่จริงจัง "ผมออกจะเป็นคนแปลกคนอยู่สักนิด เป็นเด็กที่ชอบจินตนาการอะไรไปเรื่อย ๆ แต่ไม่เรื่อยเปื่อย เพราะผมจริงจังกับจินตนาการมาก ๆ ถ้ามีการประกวดด้านจินตนาการล่ะก็ผมชนะตลอด" ชีวิตก่อนเริ่มต้นเป็นนักออกแบบ อย่างจริงจังเขาเคยชนะเลิศการประกวดออกแบบนาฬิกา ระดับเอเชีย "Citizen Watch Design Asia" ที่ Citizen ร่วมกับ MTV แจกรางวัลที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของชีวิตการออกแบบ จนกระทั่งถูก Citizen และฟิลิปส์ ชวนทำงานด้วย เขาเลือกทำงานกับฟิลิปส์ เพราะมีชื่อเสียงด้านฐานความรู้ด้านงานออกแบบที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากนักจินตนาการ มาเป็นนักออกแบบผลิตภัณฑ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมนักออกแบบผลิตภัณฑ์แห่งประเทศไทยและกรรมการผู้จัดการบริษัท Cerebrum Design จำกัด
"ผมสนุกกับอาชีพมากครับ เป้าหมายของผมคือ นักพัฒนา Brand ไทยไปสู่ตลาดโลก เพราะจาก ประสบการณ์ที่ทำงานอยู่ที่บริษัท Philips Design (ฟิลิปส์ ดีไซน์) ที่สิงคโปร์และฝรั่งเศสเกือบ ๗ ปี ทำให้ผมรู้ว่า ทำแบรนด์ไทยไปทั่วโลกไม่ยาก คนไทยทำได้ ผมรับประกัน!!! และเหนือกว่านั้นสมาธิจะเป็นเทรนด์ใหม่ของมวลมนุษยชาติครับ"
สุดยอดพลังดีไซน์ของลูกผู้ชาย
คุณณมกรเล่าให้ฟังว่า ตนเองนั้นเป็นคนที่ชอบจินตนาการ แต่เป็นจินตนาการที่จริงจัง "ผมออกจะเป็นคนแปลกคนอยู่สักนิด เป็นเด็กที่ชอบจินตนาการอะไรไปเรื่อย ๆ แต่ไม่เรื่อยเปื่อย เพราะผมจริงจังกับจินตนาการมาก ๆ ถ้ามีการประกวดด้านจินตนาการล่ะก็ผมชนะตลอด" ชีวิตก่อนเริ่มต้นเป็นนักออกแบบ อย่างจริงจังเขาเคยชนะเลิศการประกวดออกแบบนาฬิกา ระดับเอเชีย "Citizen Watch Design Asia" ที่ Citizen ร่วมกับ MTV แจกรางวัลที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของชีวิตการออกแบบ จนกระทั่งถูก Citizen และฟิลิปส์ ชวนทำงานด้วย เขาเลือกทำงานกับฟิลิปส์ เพราะมีชื่อเสียงด้านฐานความรู้ด้านงานออกแบบที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากนักจินตนาการ มาเป็นนักออกแบบผลิตภัณฑ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมนักออกแบบผลิตภัณฑ์แห่งประเทศไทยและกรรมการผู้จัดการบริษัท Cerebrum Design จำกัด
"ผมสนุกกับอาชีพมากครับ เป้าหมายของผมคือ นักพัฒนา Brand ไทยไปสู่ตลาดโลก เพราะจาก ประสบการณ์ที่ทำงานอยู่ที่บริษัท Philips Design (ฟิลิปส์ ดีไซน์) ที่สิงคโปร์และฝรั่งเศสเกือบ ๗ ปี ทำให้ผมรู้ว่า ทำแบรนด์ไทยไปทั่วโลกไม่ยาก คนไทยทำได้ ผมรับประกัน!!! และเหนือกว่านั้นสมาธิจะเป็นเทรนด์ใหม่ของมวลมนุษยชาติครับ"
ด้วยธรรมชาติศิลปิน คุณมกรเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง มีความคิดสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลา และจินตนาการของเขาไม่เคยพลาด แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่คุณมกรยอมรับว่า จินตนาการของเขาพลาดไปนิด นั่นคือ เรื่องของการเข้าวัดและการบวช
ในอดีตผมเป็นคนห่างวัดมาก ชอบคิด ชอบทำ ชอบประดิษฐ์ ชอบแก้ปัญหา ชอบหาเหตุผล แต่ตกหล่นความชอบทางด้านพุทธศาสนา เพราะหลงเข้าใจผิดคิดว่าไร้สาระ ไม่เท่ ถ้าไปวัดจะเสียฟอร์ม แต่ผมก็ต้องยอมรับยอดหญิงนักวางแผนคนหนึ่ง นั่นคือ คุณแม่ของผมเอง ใช้สารพัดกุศโลบายให้ผมได้มาถึงวัดให้ได้ จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๔๑ แม่ก็พาผมมาวัดพระธรรมกายได้สำเร็จ เป็นปีที่ผมรู้สึกว่าตนเองหลุดรอดจากสภาวะเต่าล้านปี เพราะที่วัดแห่งนี้ โคตรเท่ Design วัดเท่มาก ผมคิดในใจว่า ใครออกแบบเนี่ย Minimal และ Modern สุดเยี่ยมเลย ต่อมาคุณแม่ก็ชวนผมมาวัดอีกครั้งโดยตั้งหัวข้อว่า "ไปดูดวงอาทิตย์ที่วัดกัน" ผมก็ตามแม่มาอย่างงง ๆ ชวนดูพระอาทิตย์ที่วัด เป็นไอเดียที่เก๋มาก ปรากฏว่า วันนั้นผู้คนต่างชี้ชวนกันดูพระอาทิตย์และผมแปลกใจมากว่า ทำไมดูพระอาทิตย์ได้ไม่แสบตา ดวงตะวันแท้ ๆ แต่ใสเป็นแก้ว ในใจก็คิดว่าวัดนี้มี Special Effect สุดยอด "ทำได้ไง" พยายามจะคิดหาสาเหตุของปรากฏการณ์นี้ ว่ามีนวัตกรรมใด สามารถทำให้พระอาทิตย์เป็นดวงแก้วใส ๆ ได้บ้าง คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก นอกจากนวัตกรรมทางจิตเท่านั้นที่พอจะเป็นไปได้ หลังจากนั้นผมก็ไปทำงานที่สิงคโปร์ไม่ได้มาวัดอีกเลย
จนปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ตอนนั้นกำลังจะย้ายไปทำงานที่ฝรั่งเศส และกำลังจะแต่งงานแม่ก็เลยบอกว่า "บวชก่อนแต่งได้ไหมลูก" เมื่อแม่ขอ ลูกผู้ชายอย่างเราก็ต้องให้ บวชให้แม่ไม่น่าจะยาก เคยจินตนาการว่า ชีวิตพระ "ง่าย ๆ กิน ๆ นอน ๆ" แต่พอมาจริง ๆ คะแนนจินตนาการเป็นศูนย์เป็นเรื่องที่เข็มขัดก็คาดไม่ถึง
การบวชเป็นการฝึกตัวที่เข้มข้นสมชายชาตรี ก่อนบวชต้องฝึกวินัยชนิด ร.ด.เรียกพี่ ผมทั้งอึ้ง ทั้งประทับใจ... กว่าจะมาเป็นพระ มันไม่ง่ายเลย ไม่เป็นไร ผมชอบอะไรที่ท้าทายอยู่แล้ว! วันที่เป็นสุดยอดของชีวิต คือวันที่ได้ห่มผ้าเหลือง ครั้งแรกแล้วพ่อกับแม่มากราบ...ทำอะไรไม่ถูกเลย ทั้งปลื้ม ทั้งงง ...ผมเข้าใจแล้วครับว่า การเป็นพระนี่มันท้าทายใจวัยรุ่น เหนือจินตนาการจริง ๆ...บอกได้เลยครับเป็นอะไรที่ทำได้ยากที่สุดในโลก...ถ้าคิด ต้องคิดดี ถ้าหยุดก็ต้องหยุดคิด...ผมว่า นี่แหละครับ คือเหตุผลว่า ทำไมคนจึงต้องกราบพระ มันเป็นอะไรที่ยากสุด ๆ จริง ๆ แต่ท้ายสุด ก็รอดมาได้ พร้อมกับแนวคิดที่เปลี่ยนไป... เป็นพระนี่สุดยอดจริง ๆ สมาธิก็เจ๋งจริง ๆ"
หลังจากที่ลาสิกขาออกมาแล้ว แม้จะวุ่นกับการสร้างตัว สร้างชื่อ แต่คุณมกรก็ไม่ทิ้งวัด โดยตัวเขาและทีมงาน ได้เข้ามาช่วยออกแบบสื่อให้กับชมรมพุทธศาสตร์สากลฯ เช่น V-Star, Peace Revolution และ Sun of Peace ซึ่งถือเป็นงานท้าทายในการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่
เขาพูดต่ออีกว่า "การฝึกสมาธิที่ได้จากการอบรมธรรมทายาทช่วยผมเรื่องงานได้มากอย่างยิ่ง ถ้าผมไม่นั่งสมาธิ รับรองมาเปิดบริษัทอย่างนี้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะช่วงแรกเครียดมาก ไหนจะเรื่องเงิน ไหนจะเรื่องลงทุน แล้วยังมีพนักงานต้องดูแลอีกหลายเรื่องมาก สมองยุ่งมาก พอเริ่มนั่งสมาธิก็นิ่ง..
ผมลองย้อนกลับไปคิดดูว่า ไอเดียที่เจ๋ง ๆ เกิดขึ้นเพราะอะไร คำตอบที่ได้ สมาธิล้านเปอร์เซนต์ พอนั่งสมาธิ ไอเดียดี ๆ ปิ๊ง ๆ มาเป็นสายเลยครับ พนักงานของผม ผมก็ให้ไปนั่งสมาธิกันหมดเลย เพราะดีไซน์เป็นงานที่ต้องคิดตลอดเวลา ถ้าไม่นิ่งความคิดจะกระจาย ไม่มีโฟกัส ไอเดียอ่อนกำลัง แต่พอได้นั่งสมาธิ บรรเจิดเลยครับ"
ปัจจุบันคุณมกรมีสไตล์การใช้ชีวิตที่แจ่มใสและเจ๋งสุด คือ ถือศีล ๕ ได้ครบ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเหล้า และบุหรี่เข้าวัดทำบุญเกือบทุกอาทิตย์และนั่งสมาธิก่อนนอนทุกคืน ชีวิตการงานก็ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม
สุดยอด CEO และนักออกแบบชื่อดังท่านนี้ฝากข้อคิดถึงคนรุ่นใหม่ไว้ว่า
"ผมคิดว่า ชีวิตในขณะนี้เป็นชีวิตที่ลงตัวสุด ๆ สิ่งที่เปลี่ยนชีวิตผมก็คือการอบรมธรรมทายาทครับ ผมอยากฝากถึงน้อง ๆ เยาวชนผู้มีสไตล์ท้าทายว่า ใครก็ตามที่ชอบสิ่งท้าทาย การบวชนี่ละไม่ธรรมดา ผมเองเป็นเด็กแนว เคยลองมาแล้วทุกอย่าง ทั้งหฤโหด ท้าทาย ทั้งด้านกีฬา การแข่งขันทั้งหลาย แต่พอมาถึงการบวชนี่เป็นเรื่องแปลกใหม่ "แจ่มเจ๋ง" ท้าทายทั้งกาย และใจแบบสุด ๆ ผมว่ามันคุ้มจริง ๆ ลูกเสือต้องไว้ลาย แต่ลูกผู้ชายต้องบวชธรรมทายาท สักครั้งในชีวิต นอกเหนือจากการบวชแทนคุณแล้ว ที่สำคัญคือ เป็นการธำรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและเกียรติยศ อันสง่างามของลูกผู้ชายครับ เกียรติของพระอาทิตย์ คือแสงสว่าง แต่เกียรติของลูกผู้ชายคือ การได้ห่มผ้าเหลือง ถึงได้ชื่อว่า แมนจริง"
โดยสรุป จุดเปลี่ยนที่สำคัญของสุดยอด นักดีไซน์ที่ชื่อ มกร เชาวน์วาณิชย์ คือ ๑. บวชธรรมทายาท ๒.นั่งสมาธิ ซึ่งเราเชื่อว่า จุดเปลี่ยนนี้ ผู้ชายทั้งโลกควรลองทำเพื่อชีวิตที่เจ๋งสมชายชาตรี
ในอดีตผมเป็นคนห่างวัดมาก ชอบคิด ชอบทำ ชอบประดิษฐ์ ชอบแก้ปัญหา ชอบหาเหตุผล แต่ตกหล่นความชอบทางด้านพุทธศาสนา เพราะหลงเข้าใจผิดคิดว่าไร้สาระ ไม่เท่ ถ้าไปวัดจะเสียฟอร์ม แต่ผมก็ต้องยอมรับยอดหญิงนักวางแผนคนหนึ่ง นั่นคือ คุณแม่ของผมเอง ใช้สารพัดกุศโลบายให้ผมได้มาถึงวัดให้ได้ จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๔๑ แม่ก็พาผมมาวัดพระธรรมกายได้สำเร็จ เป็นปีที่ผมรู้สึกว่าตนเองหลุดรอดจากสภาวะเต่าล้านปี เพราะที่วัดแห่งนี้ โคตรเท่ Design วัดเท่มาก ผมคิดในใจว่า ใครออกแบบเนี่ย Minimal และ Modern สุดเยี่ยมเลย ต่อมาคุณแม่ก็ชวนผมมาวัดอีกครั้งโดยตั้งหัวข้อว่า "ไปดูดวงอาทิตย์ที่วัดกัน" ผมก็ตามแม่มาอย่างงง ๆ ชวนดูพระอาทิตย์ที่วัด เป็นไอเดียที่เก๋มาก ปรากฏว่า วันนั้นผู้คนต่างชี้ชวนกันดูพระอาทิตย์และผมแปลกใจมากว่า ทำไมดูพระอาทิตย์ได้ไม่แสบตา ดวงตะวันแท้ ๆ แต่ใสเป็นแก้ว ในใจก็คิดว่าวัดนี้มี Special Effect สุดยอด "ทำได้ไง" พยายามจะคิดหาสาเหตุของปรากฏการณ์นี้ ว่ามีนวัตกรรมใด สามารถทำให้พระอาทิตย์เป็นดวงแก้วใส ๆ ได้บ้าง คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก นอกจากนวัตกรรมทางจิตเท่านั้นที่พอจะเป็นไปได้ หลังจากนั้นผมก็ไปทำงานที่สิงคโปร์ไม่ได้มาวัดอีกเลย
จนปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ตอนนั้นกำลังจะย้ายไปทำงานที่ฝรั่งเศส และกำลังจะแต่งงานแม่ก็เลยบอกว่า "บวชก่อนแต่งได้ไหมลูก" เมื่อแม่ขอ ลูกผู้ชายอย่างเราก็ต้องให้ บวชให้แม่ไม่น่าจะยาก เคยจินตนาการว่า ชีวิตพระ "ง่าย ๆ กิน ๆ นอน ๆ" แต่พอมาจริง ๆ คะแนนจินตนาการเป็นศูนย์เป็นเรื่องที่เข็มขัดก็คาดไม่ถึง
การบวชเป็นการฝึกตัวที่เข้มข้นสมชายชาตรี ก่อนบวชต้องฝึกวินัยชนิด ร.ด.เรียกพี่ ผมทั้งอึ้ง ทั้งประทับใจ... กว่าจะมาเป็นพระ มันไม่ง่ายเลย ไม่เป็นไร ผมชอบอะไรที่ท้าทายอยู่แล้ว! วันที่เป็นสุดยอดของชีวิต คือวันที่ได้ห่มผ้าเหลือง ครั้งแรกแล้วพ่อกับแม่มากราบ...ทำอะไรไม่ถูกเลย ทั้งปลื้ม ทั้งงง ...ผมเข้าใจแล้วครับว่า การเป็นพระนี่มันท้าทายใจวัยรุ่น เหนือจินตนาการจริง ๆ...บอกได้เลยครับเป็นอะไรที่ทำได้ยากที่สุดในโลก...ถ้าคิด ต้องคิดดี ถ้าหยุดก็ต้องหยุดคิด...ผมว่า นี่แหละครับ คือเหตุผลว่า ทำไมคนจึงต้องกราบพระ มันเป็นอะไรที่ยากสุด ๆ จริง ๆ แต่ท้ายสุด ก็รอดมาได้ พร้อมกับแนวคิดที่เปลี่ยนไป... เป็นพระนี่สุดยอดจริง ๆ สมาธิก็เจ๋งจริง ๆ"
หลังจากที่ลาสิกขาออกมาแล้ว แม้จะวุ่นกับการสร้างตัว สร้างชื่อ แต่คุณมกรก็ไม่ทิ้งวัด โดยตัวเขาและทีมงาน ได้เข้ามาช่วยออกแบบสื่อให้กับชมรมพุทธศาสตร์สากลฯ เช่น V-Star, Peace Revolution และ Sun of Peace ซึ่งถือเป็นงานท้าทายในการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่
เขาพูดต่ออีกว่า "การฝึกสมาธิที่ได้จากการอบรมธรรมทายาทช่วยผมเรื่องงานได้มากอย่างยิ่ง ถ้าผมไม่นั่งสมาธิ รับรองมาเปิดบริษัทอย่างนี้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะช่วงแรกเครียดมาก ไหนจะเรื่องเงิน ไหนจะเรื่องลงทุน แล้วยังมีพนักงานต้องดูแลอีกหลายเรื่องมาก สมองยุ่งมาก พอเริ่มนั่งสมาธิก็นิ่ง..
ผมลองย้อนกลับไปคิดดูว่า ไอเดียที่เจ๋ง ๆ เกิดขึ้นเพราะอะไร คำตอบที่ได้ สมาธิล้านเปอร์เซนต์ พอนั่งสมาธิ ไอเดียดี ๆ ปิ๊ง ๆ มาเป็นสายเลยครับ พนักงานของผม ผมก็ให้ไปนั่งสมาธิกันหมดเลย เพราะดีไซน์เป็นงานที่ต้องคิดตลอดเวลา ถ้าไม่นิ่งความคิดจะกระจาย ไม่มีโฟกัส ไอเดียอ่อนกำลัง แต่พอได้นั่งสมาธิ บรรเจิดเลยครับ"
ปัจจุบันคุณมกรมีสไตล์การใช้ชีวิตที่แจ่มใสและเจ๋งสุด คือ ถือศีล ๕ ได้ครบ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเหล้า และบุหรี่เข้าวัดทำบุญเกือบทุกอาทิตย์และนั่งสมาธิก่อนนอนทุกคืน ชีวิตการงานก็ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม
สุดยอด CEO และนักออกแบบชื่อดังท่านนี้ฝากข้อคิดถึงคนรุ่นใหม่ไว้ว่า
"ผมคิดว่า ชีวิตในขณะนี้เป็นชีวิตที่ลงตัวสุด ๆ สิ่งที่เปลี่ยนชีวิตผมก็คือการอบรมธรรมทายาทครับ ผมอยากฝากถึงน้อง ๆ เยาวชนผู้มีสไตล์ท้าทายว่า ใครก็ตามที่ชอบสิ่งท้าทาย การบวชนี่ละไม่ธรรมดา ผมเองเป็นเด็กแนว เคยลองมาแล้วทุกอย่าง ทั้งหฤโหด ท้าทาย ทั้งด้านกีฬา การแข่งขันทั้งหลาย แต่พอมาถึงการบวชนี่เป็นเรื่องแปลกใหม่ "แจ่มเจ๋ง" ท้าทายทั้งกาย และใจแบบสุด ๆ ผมว่ามันคุ้มจริง ๆ ลูกเสือต้องไว้ลาย แต่ลูกผู้ชายต้องบวชธรรมทายาท สักครั้งในชีวิต นอกเหนือจากการบวชแทนคุณแล้ว ที่สำคัญคือ เป็นการธำรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและเกียรติยศ อันสง่างามของลูกผู้ชายครับ เกียรติของพระอาทิตย์ คือแสงสว่าง แต่เกียรติของลูกผู้ชายคือ การได้ห่มผ้าเหลือง ถึงได้ชื่อว่า แมนจริง"
โดยสรุป จุดเปลี่ยนที่สำคัญของสุดยอด นักดีไซน์ที่ชื่อ มกร เชาวน์วาณิชย์ คือ ๑. บวชธรรมทายาท ๒.นั่งสมาธิ ซึ่งเราเชื่อว่า จุดเปลี่ยนนี้ ผู้ชายทั้งโลกควรลองทำเพื่อชีวิตที่เจ๋งสมชายชาตรี
Cr. เรื่อง : Son Backhome e-mail : garaboon_jdai@hotmail.com
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๗๗ ประจำเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
๑. บวช ๒. นั่งสมาธิ ชีวิตเจ๋ง สุดยอดพลังดีไซน์ของลูกผู้ชาย
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
01:43
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: