ถวายโล่ประกาศเกียรติคุณ แด่พระราชภาวนาวิสุทธิ์




ในวันมาฆบูชา ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา ฯพณฯ รัดเนอะสิริ วิกเคลอะเมอะนาเยอะเกอะ นายกรัฐมนตรี แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ได้ให้เกียรติเดินทางมาถวายโล่ประกาศเกียรติคุณแก่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) เนื่องในโอกาสถวายองค์พระธรรมกาย ๒๒๒ องค์ ประดิษฐาน ณ วัดทั่วประเทศศรีลังกา ท่ามกลางมหาสมาคมของผู้มีบุญนับแสนคนจากทั่วโลกที่ร่วมเป็นสักขีพยานภายในลานธรรมมหาธรรมกายเจดีย์ นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของความสัมพันธ์ทางพุทธศาสนาระหว่างประเทศไทย และประเทศศรีลังกาที่บังเกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง


เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยและประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา หรือที่คนไทยเราเรียกขานกันมาช้านานว่า "ศรีลังกา" นั้น ทั้งสองประเทศมีสายสัมพันธ์ทางด้านพระพุทธศาสนาที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนานนับพันปี โดยเริ่มจากศรีลังกาได้ส่งคณะสงฆ์มาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ โดยเริ่มต้นจากอาณาจักรศรีวิชัยทางตอนใต้ และแผ่ขยายมาสู่กรุงสุโขทัย  ในยุคของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช สืบทอดกันมาถึงทุกวันนี้

ทางด้านสยามประเทศของเรานั้น  ในสมัยอยุธยา พระเจ้าบรมโกศทรงส่งพระสมณทูตไปช่วยฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในลังกา  หลังจากที่ดินแดนแห่งนี้ได้รับผลกระทบจากการยึดครองและเผยแผ่ศาสนาของชาวตะวันตกมาเป็นเวลากว่า ๒๐๐ ปี ทำให้พระพุทธศาสนาในศรีลังกากลับมาเจริญรุ่งเรืองและหยั่งรากลึกลงในจิตวิญญาณของชาวศรีลังกาได้อย่างมั่นคงตราบจนปัจจุบัน

ในส่วนของมูลนิธิธรรมกายและวัดพระธรรมกายเองก็มีความสัมพันธ์อันดีกับคณะสงฆ์และรัฐบาลของประเทศศรีลังกา โดยเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๙ องค์กรยุวพุทธสงฆ์โลก หรือ WBSY (World Buddhist Sangha Youth) ซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นโดย พระมูกูนูเวละ อนุรุทธะ เถโร ซึ่งเป็นพระภิกษุชาวศรีลังกา ได้จัดการประชุมประจำปี ครั้งที่ ๓ ขึ้น ที่เมืองวาราคาโปลา ประเทศศรีลังกา ในครั้งนั้น ที่ประชุมของ WBSY มีมติถวายรางวัลสันติภาพ Universal Peace Award แด่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ในฐานะบุคคลที่ให้การสนับสนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเพื่อสร้างสันติภาพในระดับโลก โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ อเตาเดอะ เสนาวิรัดเนอะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและพัฒนามนุษย์ เป็นผู้แทนจาก รัฐบาลศรีลังกา เดินทางมาถวายรางวัลนี้ในวันมาฆบูชา ๓ มีนาคม ๒๕๕๐ ที่ผ่านมา 

โล่ประกาศเกียรติคุณ
เนื่องในโอกาสถวายองค์พระธรรมกาย ๒๒๒ องค์ ประดิษฐาน ณ วัดทั่วประเทศศรีลังกา


สำหรับโล่ประกาศเกียรติคุณที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีของศรีลังกาให้เกียรติเดินทางมามอบถวายในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการที่ ฯพณฯ รัดเนอะสิริ วิกเคลอะเมอะนาเยอะเกอะ นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ส่งจดหมายกราบนมัสการพระราชภาวนาวิสุทธิ์ เพื่อขอความอนุเคราะห์พระประธานเพื่อนำไปมอบให้กับวัดต่างๆ ในประเทศศรีลังกา ซึ่งพระราชภาวนาวิสุทธิ์ก็มีความยินดีอย่างยิ่ง จึงได้เชิญชวนท่านเจ้าภาพผู้มีบุญมาร่วมกันสร้างพระธรรมกาย จำนวน ๒๒๒ องค์ โดยในวันคุ้มครองโลก ๒๒ เมษายน ๒๕๕๑ ที่ผ่านมา ได้มีพิธีกดปุ่มเปิดม่านองค์พระธรรมกายที่จะนำไปถวายให้แก่วัดต่าง ๆ ทั่วประเทศศรีลังกา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่สาธุชนผู้มีบุญนับแสนคน ตลอดจนคณะสงฆ์ที่เดินทางมาจากทั่วประเทศกว่า ๒๐,๐๐๐ วัด ได้มีโอกาสเห็นองค์พระธรรมกาย เกตุดอกบัวตูมสีทองอร่าม ที่งดงามด้วยลักษณะมหาบุรุษ ประทับนั่งสงบนิ่งอยู่บนแผ่นฌานเหนือจักรแก้ว


ถัดมาในวันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ได้จัดให้มีพิธีบรรจุพระธาตุลงบนพระเศียรของพระธรรมกายทั้ง ๒๒๒ องค์ ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่มีความศักดิ์สิทธิ์และงดงามในทุกขั้นตอน สร้างความปลื้มปีติให้แก่เหล่าสาธุชนที่เดินทางมาจากทั่วประเทศ รวมถึงคณะสงฆ์จากองค์กรยุวพุทธสงฆ์โลก และ ฯพณฯ เจ. บี. ทิสานายกะ เอกอัครราชทูตศรีลังกา ประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้แทนของรัฐบาลศรีลังกาที่ให้เกียรติมาร่วมพิธีกรรมครั้งประวัติศาสตร์นี้ด้วย จากนั้นในวันที่ ๑๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๑ องค์กรยุวพุทธสงฆ์โลกได้จัดพิธีส่งมอบ และเฉลิมฉลององค์พระธรรมกาย ๑๒๒ องค์ ที่ส่งมาจากประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ณ สนามกีฬา เบอร์นาร์ด อลุวิหาราเยอะ เมืองมาตะเล และพิธีส่งมอบองค์พระธรรมกายถวายแด่วัดทั่วประเทศศรีลังกา จำนวน ๑๐๐ องค์ในวันศุกร์ที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ณ โรงละครที่รำลึก จอห์น เดอะ ซิลวา กรุงโคลัมโบ ซึ่งได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีมาเป็นประธานในการเปิดงาน โดยมี พระครูปลัดภูเบศ ฌานาภิญฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายนำคณะตัวแทนจากมูลนิธิธรรมกาย ไปร่วมบุญพิธีนี้
ซึ่งปัจจุบันนี้ องค์พระธรรมกายทุกองค์ได้ประดิษฐานอยู่ในวัดต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศศรีลังกา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ด้วยเหตุนี้เอง ทางรัฐบาล คณะสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนชาวศรีลังกา รู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาของ พระราชภาวนาวิสุทธิ์เป็นอย่างยิ่ง จึงเห็นชอบที่จะถวายโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่ พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ในวันมาฆบูชาปีนี้ ซึ่งเป็นวันสำคัญที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการเผยแผ่พระสัทธรรมไปสู่มวลมนุษยชาติ และสิ่งนี้ก็เป็นมโนปณิธานของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ที่จะสืบสานมรดกธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยการนำความรู้ดั้งเดิมของพระพุทธองค์ เผยแผ่ไปทั่วโลก เพื่อให้ชาวโลกทุกคนได้รู้ว่า พระธรรมกายคือกายตรัสรู้ธรรม ที่มีอยู่ภายในตัวของมนุษย์ทุกคน และ เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ด้วยการปฏิบัติธรรม ซึ่งไม่จำกัดด้วยเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ ทั้งนี้ การถวายพระธรรมกาย ๒๒๒ องค์แก่วัดต่างๆ ในประเทศศรีลังกา คือ จุดเริ่มต้นที่จะนำพุทธปฏิมากร กายมหาบุรุษปรากฏสู่สายตาชาวโลก เพื่อก่อเกิดแรงบันดาลใจให้มนุษย์ทุกคนได้เริ่มต้นแสวงหาสิ่งที่เป็นที่พึ่งและที่ระลึกอันสูงสุด ซึ่งมีอยู่ในตัวของทุก ๆ คนต่อไป


สำหรับการมอบถวายโล่ประกาศเกียรติคุณในครั้งนี้ นับว่าเป็นเกียรติอย่างสูงสุดที่ ฯพณฯ รัดเนอะสิริ วิกเคลอะเมอะนาเยอะเกอะ นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา เดินทางมามอบโล่ด้วยตนเอง และยังได้ให้เกียรติกล่าวสุนทรพจน์ อันสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าแห่งมิตรไมตรีอันดีงามระหว่างประเทศบ้านพี่เมืองน้องทางพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับโลกปัจจุบัน ที่เต็มไปด้วยการขยายตัวของลัทธิความเชื่อต่าง ๆ นับเป็นสุนทรพจน์ที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้มีบุญจากทั่วโลกนับแสนคนในวันนั้น
นอกจากนี้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีศรีลังกายังได้ร่วมพิธีจุดโคมมาฆประทีปถวายเป็นพุทธบูชา ซึ่งท่านได้กล่าวถึง ความประทับใจจากการจุดโคมมาฆประทีป และการได้มีโอกาสเดินทางมาร่วมงานบุญในครั้งนี้

"แสงประทีปจากโคมมาฆะเป็นสิ่งที่สวยงามและดึงดูดใจผมเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ สิ่งที่ปรากฏ แจ่มแจ้งแก่สายตาของผมก็คือ ความสงบนิ่งตลอดช่วงพิธีกรรม ที่บังเกิดขึ้นท่ามกลางคนนับแสนคน ธรรมชาติของความสงบนี้บ่งบอกถึงความมีระเบียบวินัย สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า พระพุทธศาสนาได้ให้กำเนิดวิถีแห่งความเป็นพุทธะภายใน บรรยากาศในวันนี้ ผมสัมผัสได้ถึงความมั่นคงและยิ่งใหญ่ของพระพุทธศาสนาของเรา ตลอดจนความสามัคคีของพุทธศาสนิกชน พิธีในวันนี้เป็นพิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่ และเป็นสิ่งที่เกินกว่าจะจินตนาการได้ว่า พิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ จะสามารถจัดให้สำเร็จลุล่วงได้ภายใน ระยะเวลาอันสั้น ผมขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้จัดพิธีกรรมอันสุดวิเศษนี้ขึ้นมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเชื่อมั่นว่าสถานที่แห่งนี้คงมิใช่เป็นเพียงแค่วัดหรือมูลนิธิธรรมดา แต่ทว่าเป็นอาณาจักรแห่งธรรม ที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง..."

สำหรับการเดินทางมาถวายโล่ประกาศเกียรติคุณ และร่วมงานวันมาฆบูชาของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ของประเทศศรีลังกาในครั้งนี้ นับเป็นประวัติศาสตร์ แห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศบ้านพี่เมืองน้องทางพระพุทธศาสนา ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น และมิตรไมตรีต่อกัน และพร้อมที่จะร่วมกันทำงานพระศาสนา เพื่อสร้างสันติสุขให้เกิดแก่ชาวโลกในอนาคตต่อไป


สาส์นประกาศเกียรติคุณแด่พระราชภาวนาวิสุทธิ์
โดยนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา
เนื่องในโอกาสถวายองค์พระประธาน ๒๒๒ องค์ ประดิษฐาน ณ วัดทั่วประเทศศรีลังกา
กราบนมัสการพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ประธานมูลนิธิธรรมกาย และพระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณ รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย สวัสดีแขกผู้มีเกียรติจากต่างประเทศ และกัลยาณมิตรวัดพระธรรมกาย รวมทั้งพุทธศาสนิกชนทุกท่าน

กระผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญมาร่วมงานบุญวันมาฆบูชา ซึ่งจัดโดยมูลนิธิธรรมกาย ณ บุญสถานอันสงบในจังหวัดปทุมธานีแห่งนี้ ในฐานะตัวแทนของชาวพุทธศรีลังกา กระผมรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ที่พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ประธานมูลนิธิธรรมกาย ได้มอบของขวัญอันล้ำค่าคือ องค์พระธรรมกายจำนวน ๒๒๒ องค์เพื่อนำไปประดิษฐานตามวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศศรีลังกาเมื่อปีที่ผ่านมา

ทั้งประเทศศรีลังกาและประเทศไทย ต่างเป็นประเทศพุทธศาสนาที่ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น ต่อกันนั้นเกิดจากพื้นฐานความสัมพันธ์ทางด้านศาสนา
ประเทศศรีลังกาได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา นิกายเถรวาท หลังจากที่พระพุทธศาสนา ได้เริ่มเสื่อมลงในประเทศอินเดีย และจากที่นี่เอง ทำให้คำสอนอันประเสริฐของพระบรมศาสดาแผ่ขยายออกไปทั่วภูมิภาคเอเชีย ได้มีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีว่า ชาวพุทธไทยและศรีลังกามีการติดต่อสัมพันธ์กันย้อนหลังไปถึงยุคทวารวดี เมื่อครั้งที่ภัยจากการรุกราน ของชาวต่างชาติ และการล่าอาณานิคมทำให้พระพุทธศาสนาในประเทศศรีลังกาเสื่อมถอยลง ประเทศศรีลังกาก็ได้ขอความอนุเคราะห์จากประเทศไทย หรือกรุงสยามในครั้งนั้น ให้มาช่วยฟื้นฟู การอุปสมบทขึ้นอีกครั้ง
เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งที่แม้ว่าสถานการณ์โลกจะผันผวนไปอย่างไรก็ตาม แต่ทั้งสองประเทศ ยังคงยืนหยัดดำรงตนเป็นเมืองพุทธอยู่ได้ในยุคปัจจุบัน ขณะที่ประเทศพุทธศาสนาทุก ๆ ประเทศ ล้วนแต่ประสบภัยต่าง ๆ รอบด้าน ภัยที่มีต้นกำเนิดมาจากภายในเช่นการก่อการร้าย และภัยภายนอก ซึ่งเกิดจากองค์กรศาสนาสมัยใหม่ ที่พยายามเกลี้ยกล่อมกลุ่มคนผู้ด้อยโอกาสในสังคมให้เปลี่ยนศาสนา ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศพุทธศาสนาจะต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพราะความสามัคคีของเรา จะทำให้เราสามารถเอาชนะภัยอันตรายเหล่านี้ไปได้

คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เป็นสัจธรรมอันเป็นนิรันดร์ เป็นคำสอนที่เป็นสัจธรรม อันมีผลสามารถนำไปใช้ได้จริง แม้เวลาจะผ่านไปถึง ๒,๕๐๐ กว่าปีมาแล้ว ก็ยังเป็นสัจธรรม ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง แม้ในปัจจุบันนี้ เพราะทุก ๆ คำสอนสามารถนำมาใช้อธิบายและแก้ปัญหาร้ายแรงอันเกิดขึ้นกับมวลมนุษยชาติได้ในโลกสมัยใหม่ คำสอนของพระองค์เรื่องสันติภาพ ความโอบอ้อมอารี ความเมตตาปรานี และอุเบกขานั้น สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ ที่มนุษย์ทุกคนประสบได้จริง อีกทั้งยังสามารถชี้หนทางแห่งกุศลธรรมให้มนุษยชาติอีกด้วย

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้รับการพัฒนาไปอย่างกว้างไกล จนกระทั่งทำให้โลกนี้กลายเป็นโลกไร้พรมแดน แต่การพัฒนาก็มีทั้งคุณประโยชน์และโทษมหันต์แก่มนุษยชาติ การพัฒนาสมัยใหม่หลาย ๆ อย่างบ่อนทำลายเยาวชนของเรา และเป็นเรื่องที่น่าเศร้า ที่ระดับของศีลธรรมและจริยธรรมในหลาย ๆ ประเทศรวมถึงประเทศพุทธศาสนากำลังถดถอย

ฉะนั้น เป็นหน้าที่ของผู้นำประเทศพุทธทั้งหลายที่จะต้องอบรมสั่งสอนค่านิยมที่แท้จริงของพระพุทธศาสนา เพื่อปกป้องลูกหลานของเราจากภาวะความเสื่อมโทรมของศีลธรรม คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ การแข่งขันกันในด้านการศึกษาทำให้เยาวชนของเรา ไม่มีเวลาเพียงพอสำหรับการปลูกฝังความรู้ด้านศีลธรรมและศาสนา

พระพุทธศาสนาเป็นมรดกอันล้ำค่าที่เราจะได้มอบไว้ให้แก่อนุชนรุ่นหลัง ดังธรรมบทที่ว่า "สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ การให้ธรรมทานชนะการให้ทั้งปวง"
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาในประเทศศรีลังกาที่จะจัดให้มีโรงเรียนธรรมะวันอาทิตย์ เพื่อสอนความรู้พื้นฐานด้านพระพุทธศาสนาให้แก่เยาวชน และกระตุ้นให้พวกเขาเหล่านั้น ประพฤติตนให้เหมาะสมกับการเป็นพุทธศาสนิกชน กระผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทราบว่า ทางมูลนิธิธรรมกาย ได้ยึดแนวทางเดียวกัน โดยส่งเสริมให้มีการศึกษาธรรมะ ผ่านการสอบตอบปัญหาธรรมะเพื่อสันติภาพโลก หรือ World-PEC ยิ่งไปกว่านั้น กระผมรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ที่ทางมูลนิธิได้ขยายกิจกรรมนี้ออกไปยังประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศศรีลังกาด้วย กระผมขอแสดงความยินดีกับทางมูลนิธิธรรมกาย ที่สามารถจัดให้มีการสอบตอบปัญหาธรรมะนี้ได้สำเร็จลุล่วงถึง ๓ ครั้งติดต่อกันแล้ว

กระผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้ชนะการสอบในวันนี้จะเป็นประชาชนต้นแบบของสังคม และจะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวในการฟื้นฟูศีลธรรมโดยยึดพื้นฐานจากคำสอนในพระพุทธศาสนา
ขอให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ผู้สนับสนุนให้เกิดโครงการเหล่านี้ มีอายุยืนยาวเพื่อเป็นกำลังสนับสนุนงานของพระพุทธศาสนาสืบไป

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยจงดลบันดาล ให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และประสบแต่ความสุขตลอดไป
            

 กราบนมัสการมาด้วยความเคารพยิ่ง

สุนทรพจน์  พระราชภาวนาวิสุทธิ์
เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และประธานมูลนิธิธรรมกาย
เจริญพร ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา และแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน

อาตมภาพ ในนามวัดพระธรรมกาย มูลนิธิธรรมกาย และเหล่ากัลยาณมิตรผู้รักสันติสุขจากนานาชาติทั่วโลก ขออนุโมทนาและขอขอบใจ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างยิ่ง ที่ ฯพณฯ ได้ให้เกียรติเดินทางมาร่วมพิธีวันมาฆบูชา และแสดงสุนทรพจน์ที่มีความสำคัญ ในท่ามกลางมหาชน ณ มหาธรรมกายเจดีย์แห่งนี้ และได้มีการถ่ายทอดภาพและเสียงผ่านดาวเทียมไปยังผู้ชมผู้ฟังทั่วโลก
ประเทศไทยและประเทศศรีลังกานั้น มีความสัมพันธ์กันมาตั้งแต่โบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางด้านพระพุทธศาสนา ที่ทั้งสองประเทศได้เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันมา ตั้งแต่อดีตจนถึงยุคปัจจุบัน และวัดพระธรรมกายและมูลนิธิธรรมกายก็เป็นองค์กรหนึ่ง ที่ได้ดำเนินกิจกรรมทางพระพุทธศาสนามาอย่างต่อเนื่องกว่า ๔๐ ปี เพื่อที่จะสถาปนาสันติสุขอันไพบูลย์ ให้เกิดขึ้นแก่ชาวโลกด้วยสันติวิธี ด้วยการยึดถือความสงบและเคารพในศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ โดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา หรือเผ่าพันธุ์
ดังนั้น การที่อาตมภาพ ตลอดจนหมู่คณะกัลยาณมิตร วัดพระธรรมกาย และมูลนิธิธรรมกาย ได้ร่วมกันถวายพระธรรมกาย อันเป็นพระพุทธปฏิมากร เพื่อนำไปประดิษฐาน ณ ประเทศศรีลังกา จำนวน ๒๒๒ องค์นั้น นอกจากจะเป็นการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางด้านพระพุทธศาสนาระหว่างสองประเทศแล้ว ด้วยเหตุผลอีกประการหนึ่ง คือ เป็นเพราะ ฯพณฯ ประธานาธิบดี ตลอดจน ผู้บริหารประเทศในปัจจุบัน ได้แสดงออกซึ่งความเป็นพุทธศาสนิกชนที่น่านิยมนับถืออย่างยิ่ง เพราะทราบว่า ได้จัดให้มีการแสดงธรรม ณ ทำเนียบประธานาธิบดีเป็นประจำทุกเดือน โดยมี ฯพณฯ ประธานาธิบดี และคณะผู้บริหาร เข้าร่วมฟังธรรมและปฏิบัติธรรมอย่างน่าอนุโมทนา และสมควรเป็นต้นบุญต้นแบบแห่งความเป็นนักปกครองอย่างน่าเลื่อมใส จึงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า พระพุทธศาสนาจะยังคงเจริญรุ่งเรือง และนำสันติสุขมาสู่สังคม มนุษยชาติไปอีกยาวนาน
อนึ่ง การสอบตอบปัญหาศีลธรรมเพื่อสันติภาพโลก ที่ได้จัดขึ้นจนถึงครั้งที่ ๓ นี้ ถือเป็น การเปิดโอกาสให้ผู้คนทั้งหลาย ได้ศึกษา ทบทวนความรู้ และทดสอบความเข้าใจเนื้อหาธรรมะ ซึ่งเป็นความรู้ของท่านผู้รู้ เป็นความรู้ของผู้บริสุทธิ์ หลุดพ้นจากกิเลส และเป็นความรู้อันประเสริฐ เพราะตลอดเวลา ๒,๕๐๐ กว่าปีที่ผ่านมา พระพุทธศาสนาก็ได้พิสูจน์ถึงความเป็นอริยสัจธรรมที่ได้นำสังคมนานาชาติไปสู่ความเป็นอารยประเทศได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม การสืบทอดอายุพระพุทธศาสนานั้น ทุกคนต้องร่วมมือกัน จะมีเพียงลำพังคนใดคนหนึ่งหรือองค์กรใด องค์กรหนึ่งไม่ได้ จำเป็นต้องร่วมมือทำกันทุกคนและทุกองค์กร และเป็นความหวังอย่างยิ่งที่วัดพระธรรมกาย มูลนิธิธรรมกาย จะได้ร่วมมือกันกับพุทธศาสนิกชน ชาวศรีลังกา เพื่อนำพระพุทธธรรมคำสอนเผยแผ่ให้ชาวโลก ประสบแต่สันติสุขอันไพบูลย์ อย่างแท้จริง
ในที่สุดนี้ อาตมภาพขออำนวยพรให้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติ ทุกท่าน จงประสบแต่ความสุขและความเจริญ ประสบแต่ความรุ่งเรืองในชีวิต และสามารถสืบสาน มโนปณิธานอันสูงส่ง แห่งบรรพบุรุษไทยและศรีลังกา ในอันที่จะสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นแก่โลกด้วยแสงแห่งพระพุทธธรรมได้ตลอดกาลนาน เทอญ

ขอเจริญพร


Cr. ธีรนาถ
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๗๗ ประจำเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
ถวายโล่ประกาศเกียรติคุณ แด่พระราชภาวนาวิสุทธิ์  ถวายโล่ประกาศเกียรติคุณ แด่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 01:21 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.