พิธีจุดวิสาขประทีปและโคมลอย ถวายเป็นพุทธบูชา ครั้งที่ ๒ ณ ประเทศมองโกเลีย
บทความพิเศษ
เรื่องกองบรรณาธิการ
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า พระพุทธศาสนาเริ่มเผยแผ่เข้ามาสู่ดินแดนมองโกเลียในปัจจุบันราวช่วงระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๗-๑๘ และเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดในสมัยพระเจ้าอัลตันข่าน ที่ทรงประกาศให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติของจักรวรรดิมองโกลในปี พ.ศ. ๒๑๒๐ แต่ทว่า พระพุทธศาสนาในมองโกเลียที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาหลายร้อยปี กลับต้องมาเสื่อมสลายอย่างรวดเร็ว หลังจากที่มองโกเลียได้รับเอกราชจากจีนเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๔ ด้วยความช่วยเหลือของสหภาพโซเวียต ซึ่งมีผลให้มองโกเลียต้องเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ เป็นเหตุให้ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๐๖-๒๕๐๘ ทหารโซเวียตที่เข้ามาอยู่ในมองโกเลียได้ทำลายวัด โบราณสถาน และคัมภีร์ต่าง ๆ ในพระพุทธศาสนาลงเป็นจำนวนมาก ต่อมาเมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี พ.ศ.๒๕๓๓ มองโกเลียจึงได้เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ภายใต้ชื่ออย่างเป็น ทางการว่า "สาธารณรัฐมองโกเลีย" (Republic of Mongolia) และพระพุทธศาสนาก็ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
ปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่ของมองโกเลียนับถือพระพุทธศาสนานิกายวัชรยาน ชาวพุทธส่วนใหญ่เห็นคุณค่าและเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ชาวมองโกเลียเข้าวัดเพื่อฟังพระหรือลามะสวดมนต์ ทำบุญ พร้อมทั้งสนทนาธรรมซักถามปัญหาต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ ชาวพุทธในมองโกเลียยังนิยมจุดประทีปเพื่อบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากันเป็นปกติ โดยใช้เทียนไร้ควันซึ่งพวกเขาคิดค้นขึ้นมาเองเพื่อใช้จุดภายในบ้านเป็นการเฉพาะ ส่วนการสวดมนต์และการนั่งสมาธินั้น ชาวพุทธมองโกเลียมีความเชื่อกันมาช้านานว่า ทั้งสองสิ่งนี้เป็นกิจกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีไว้สำหรับให้ลามะประพฤติปฏิบัติเท่านั้น
แต่หลังจากที่หลวงพ่อธัมมชโยได้ส่งคณะพระภิกษุและทีมงานลูกพระธัมฯ เข้าไปเจริญสัมพันธไมตรีกับคณะสงฆ์มองโกเลีย ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ และต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐ ก็ได้จัดให้มีโครงการปฏิบัติธรรม The Middle Way Meditation Retreat ขึ้นที่ประเทศมองโกเลีย ทำให้ชาวมองโกเลียเริ่มต้นรู้จักวิธีการปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย ซึ่งในเวลาต่อมา ได้แผ่ขยายไปสู่ใจของชาวมองโกเลียนับหมื่นคนที่ได้มีโอกาสมาร่วมกันปฏิบัติธรรมในพิธีลอยโคมวิสาขประทีป ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันวิสาขบูชาที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวมองโกเลียต่างรู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะการที่ได้มีโอกาสสวดมนต์และนั่งสมาธิ ทำให้พวกเขารู้สึกเสมือนว่า ได้ใกล้ชิดองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากยิ่งขึ้น
จุดวิสาขประทีปครั้งที่ ๒ ณ มองโกเลีย
สำหรับวันวิสาขบูชา ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา หลวงพ่อธัมมชโยได้เมตตาส่งคณะพุทธบุตรจากวัดพระธรรมกาย และเหล่ากัลยาณมิตรลูกพระธัมฯ หลายสิบชีวิต เดินทางไปช่วยกันจัดเตรียมงานจุดวิสาขประทีป ครั้งที่ ๒ ณ ประเทศสาธารณรัฐมองโกเลีย เพื่อเป็นการสานต่อความสำเร็จจากการจัดงานครั้งแรก และเป็นการเชื่อมสายสัมพันธ์ระหว่างคณะสงฆ์ไทยกับคณะสงฆ์มองโกเลียให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่แท้จริง นั่นคือ การทำงานร่วมกันเพื่อฟื้นฟูคำสอนดั้งเดิมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้กลับมาสว่างไสวอีกครั้งในดินแดนแห่งนี้
การจัดงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมจากท่านลามะมุงจากัลแห่งองค์กรใจเปี่ยมสุข (Peaceful Mind Foundation) พร้อมทั้งอาสาสมัครชาวมองโกเลียหลายร้อยคนมาช่วยจัดเตรียมอุปกรณ์ และสถานที่จัดงาน ทีมงานทุกคนต่างปลื้มปีติที่ได้เป็นต้นบุญใหญ่ในการจัดเตรียมงานเพื่อชาวพุทธในประเทศมองโกเลียทุก ๆ คน
ข่าวการจัดงานจุดโคมวิสาขประทีป ครั้งที่ ๒ นี้ ได้รับการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ของมองโกเลีย ทั้งทางวิทยุ เว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ รวมถึงสถานีโทรทัศน์อีก ๔ ช่อง ที่ช่วยออกอากาศเชิญชวนชาวมองโกเลียมาร่วมงานถึงวันละ ๘ ครั้ง และมีการตั้งจุดขายบัตรเข้างานกระจายไปทั่วทุกซอกทุกมุมของเมืองหลวง คือ กรุงอูลานบาตอร์ อีกด้วย
บทพิสูจน์พลังศรัทธาของสาธุชนมองโกเลีย
เมื่อถึงวันงาน คือ วันวิสาขบูชา ซึ่งตรงกับวันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ก่อนหน้านั้นบรรยากาศในกรุงอูลานบาตอร์ท้องฟ้าสดใส อากาศอบอุ่นสบายด้วยแสงแดด แต่แล้วอยู่ ๆ ฝนกลับเทลงมาอย่างหนักตั้งแต่คืนวันที่ ๘ ส่งผลให้ช่วงบ่ายของวันที่ ๙ ก็เริ่มเกิดลมกรรโชกแรงพร้อมหิมะก้อนหนาที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องแทบมองไม่เห็นสนามกีฬาแห่งชาติซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดงานเลยทีเดียว และยังส่งผลให้อากาศที่เคยอบอุ่นในช่วงหลายวันก่อนหน้านี้ ลดลงมาเหลือแค่ ๔ - ๕ องศาเซลเซียสเท่านั้น และเมื่อเวลายิ่งล่วงเลยไปก็ไม่มีวี่แววเลยว่าหิมะจะหยุดตกก่อนถึงเวลาเริ่มงานได้อย่างไร เมื่อเหตุการณ์เฉพาะหน้ากลับพลิกผันเป็นเช่นนี้ พุทธบุตรและทีมงานลูกพระธัมฯ ทุกรูป ทุกคน ต่างก็ช่วยกันนึกถึงบุญและอาราธนาบารมีธรรมของมหาปูชนียาจารย์ เพื่อขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาอุปสรรคอันเหลือวิสัยเช่นนี้
แต่แล้วความอัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้น ประมาณ ๕ โมงเย็น หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักพร้อมลมกรรโชกแรงเริ่มชะลอตัว จนกระทั่งสภาพอากาศกลับมาเป็นปกติ เหมือนดังว่ามีมือของผู้วิเศษที่ยื่นเข้ามาช่วยปกคลุมท้องฟ้าของประเทศมองโกเลียเอาไว้ เพื่อป้องกันลมและหิมะไม่ให้มารบกวนการจุดวิสาขประทีปถวายเป็นพุทธบูชา ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้
แต่ทว่าสิ่งที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่านั้น ก็คือ พลังศรัทธาอันแรงกล้าของพุทธศาสนิกชนชาวมองโกเลีย เพราะเมื่อหิมะเริ่มหยุดตก ก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่พี่น้องชาวมองโกเลียทุกเพศทุกวัยกว่า ๒๐,๐๐๐ คน ต่างเริ่มทยอยหลั่งไหลกันเข้ามาสู่สนามกีฬาแห่งชาติ จนกระทั่งเต็มความจุของพื้นที่จัดงาน ซึ่งหมายถึงว่าผู้ที่มาร่วมงานทุกท่านต้องเดินทางออกจากบ้านในขณะที่หิมะกำลังตกหนัก ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครคาดเดาได้เลยว่าหิมะจะหยุดตกเมื่อไร และงานในวันนี้จะสามารถจัดขึ้นได้หรือไม่ แต่ทว่าสภาพอากาศอันเลวร้ายก็ไม่อาจแปรเปลี่ยนความตั้งใจของสาธุชนผู้มีบุญชาวมองโกเลียได้ ดังนั้น ทุกท่านจึงพร้อมใจกันออก จากบ้านโดยไม่หวั่นต่ออุปสรรคใด ๆ หลายท่านต้องเดินทางฝ่าสายลมแรงและหิมะอันเหน็บหนาวเป็นเวลาหลายชั่วโมงเพื่อมาร่วมงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงพลังศรัทธาอันแรงกล้าของชาวมองโกเลียที่มีต่อพระพุทธศาสนาได้เป็นอย่างดี
วิสาขประทีปสว่างไสว รวมใจไทย - มองโกล
พิธีกรรมในภาคค่ำเริ่มต้นขึ้น เมื่อท่านลามะมุงจากัล ประธานองค์กรใจเปี่ยมสุข (Peaceful Mind Foundation) ของมองโกเลีย กล่าวต้อนรับผู้ที่มาร่วมงานทุกคน จากนั้น ท่านลามะพิวรีบัทแห่งวัดกังดาน วัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมองโกเลีย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านศีลธรรมของประธานาธิบดีมองโกเลีย กล่าวเปิดงาน
หลังจากนั้นพระครูปลัดภูเบศ ฌานาภิญฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย กล่าวสุนทรพจน์ในนามของหลวงพ่อธัมมชโย และจุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัย พร้อมจุดไฟเอกเป็นปฐมฤกษ์ ต่อด้วยคณะลามะของมองโกเลียจำนวนกว่า ๖๐ รูป ร่วมกันสวดมนต์ จากนั้น พระครูปลัดภูเบศ ฌานาภิญฺโญ แนะนำการสวดมนต์ การรับไตรสรณคมน์ และวัฒนธรรมชาวพุทธเบื้องต้น คือ การกราบไหว้และการกล่าวสาธุการ ซึ่งสาธุชนชาวมองโกเลียต่างตั้งใจปฏิบัติเป็นอย่างดี เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วพระครูปลัดภูเบศ ฌานาภิญฺโญ จึงนำเหล่าสาธุชนสวดบูชาพระรัตนตรัย นำนั่งสมาธิเป็นภาษาอังกฤษ โดยมีท่านลามะมุงจากัลแปลเป็นภาษามองโกเลีย สาธุชนที่มาร่วมพิธีได้เรียนรู้การทำใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกาย เพื่อเข้าถึงสันติสุขภายใน ซึ่งทุกคนสามารถนั่งสมาธิได้อย่างสงบนิ่งเป็นเวลานานกว่า ๓๐ นาที จากนั้น ท่านลามะมุงจากัลได้นำสาธุชนกล่าวคำอธิษฐานจิต
เวลา ๒๑.๓๐ น. ช่วงเวลาสำคัญของงานในวันนี้ก็มาถึง นั่นคือ พิธีจุดโคมประทีปและโคมลอย ถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในวันวิสาขบูขา เมื่อถึงเวลาสว่าง โคมที่ปักอยู่ในลานสนามกีฬาและโคมลอยนับหมื่นดวงได้ถูกจุดขึ้น จนทำให้ลานของสนามกีฬาแห่งชาติที่มืดมิดกลับพลันสว่างไสวขึ้นจนเต็มพื้นที่ เมื่อแหงนมองไปบนฟ้าก็เห็นแสงทองของโคมลอยที่ค่อย ๆ เรียงรายเป็นสายขึ้นสู่ท้องฟ้า ดุจดั่งภาพของทางช้างเผือก ซึ่งในที่สุดพิธีกรรมครั้งนี้ก็เสร็จสิ้นลงได้อย่างสมบูรณ์แบบ และทำให้สาธุชนมองโกเลียหลายคนถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปีติ และภาพของพิธีกรรมทั้งหมดได้ถูกถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์ไปสู่สายตาของชาวมองโกเลียทั่วประเทศ และยังถูกนำเสนอเป็นข่าวใหญ่ผ่านสื่อต่าง ๆ ในวันรุ่งขึ้นอีกด้วย
บัดนี้ประทีปธรรมภายนอกได้ถูกจุดขึ้นอีกครั้ง พร้อม ๆ กับประทีปธรรมภายในที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติธรรม ซึ่งจะยังคงสว่างไสวอยู่ ณ กลางใจของผู้มีบุญชาวมองโกเลียต่อไป เพื่อรอวันที่ลูกหลานของท่านเจงกีสข่านจะได้ช่วยกันทำหน้าที่กัลยาณมิตร เพื่อเผยแผ่คำสอนดั้งเดิมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองในดินแดนแห่งนี้อีกครั้ง เหมือนดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา...
Cr. กองบรรณาธิการ
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๘๐ ประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒
พิธีจุดวิสาขประทีปและโคมลอย ถวายเป็นพุทธบูชา ครั้งที่ ๒ ณ ประเทศมองโกเลีย
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
01:09
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: