ทำบุญกับใครดี
คำถาม
สังคมของเราตอนนี้มีคนจนอยู่มาก เราควรจะช่วยเหลือคนจนหรือ ทำบุญกับพระสงฆ์ดี?
คำตอบ
พูดง่าย ๆ คำถามนี้กำลังจะถามว่า สร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาล น่าจะดีกว่าสร้างวัดใช่ไหม
คำถามประเภทนี้คล้าย ๆ กับคำถามว่า เสื้อกับกางเกงอะไรสำคัญกว่ากัน ซึ่งความจริงแล้วสำคัญด้วยกันทั้งคู่ คุณใส่เสื้อแต่ไม่ได้นุ่งกางเกง ยุ่งเหมือนกัน นุ่งกางเกงไม่ใส่เสื้อ ยุ่งอีกเหมือนกัน โดยรวมก็คือ ในเรื่องของการทำบุญกับวัด หรือการสร้างวัด และเรื่องของการสังคมสงเคราะห์ หรือทำบุญทำทานกับคน ๒ อย่างนี้ต้องทำคู่กันไป
เพราะโรงเรียน คือ สถานที่ที่สอนให้คนเราฉลาดในเรื่องเทคโนโลยีด้านวัตถุ หรือฉลาดในเรื่องของ การทำมาหากิน วัดสอนเรื่องความฉลาดในด้านจิตใจ หรือฉลาดในด้านเทคโนโลยีทางใจ ส่วนโรงพยาบาลมีไว้สำหรับรักษาทางกายเป็นหลัก วัดก็มีหน้าที่คล้าย ๆ โรงพยาบาล คือรักษาโรค แต่เป็นโรคทางใจ
โรงเรียนทางโลกก็ให้ความรู้ทางโลก หรือให้เทคโนโลยีทางโลก แต่ต้องระวัง เพราะว่าตั้งแต่โบราณมาได้พิสูจน์กันแล้วว่า ความรู้ทางด้านวิชาการหากเกิดกับคนพาล จะมีแต่ความพินาศ นำความเดือดร้อนมาให้ เพราะว่าเขาจะเอาความรู้ไปใช้ในทางที่ผิด
ตัวอย่างเช่น ไปเรียนวิชาวิศวะมา ถ้าเอามาก่อสร้างบ้านเรือน ทำเครื่องยนต์ เครื่องจักร เครื่องใช้ ก็ดีไป แต่ถ้าความรู้ชนิดนี้ไปตกอยู่ในมือโจร ตกอยู่ในมือของคนที่ขาดศีลขาดธรรม ก็อาจจะเอาความรู้ทางด้านวิศวะไปทำระเบิดมาบอมบ์กัน
ตรงนี้เองมาถึงหัวเลี้ยวหัวต่อว่า ถ้าอย่างนั้นสร้างโรงเรียนเมื่อไรละก็ ควรจะสร้างอยู่ใกล้วัด หรือว่าอยู่ในที่เดียวกัน ซีกโรงเรียนไว้สอนนักเรียนให้มีความรู้ทางโลก อีกซีกของบริเวณนั้น สร้างวัดเอาไว้อบรมศีลธรรมลูกหลานของเรา ให้ความรู้คู่กับศีลธรรม สมัยปู่ย่าตาทวดของเราแต่โบราณมาแล้วโรงเรียนกับวัดอยู่คู่กัน เพราะฉะนั้น เด็กโตขึ้นมาก็ได้ทั้งความรู้และความดี คือ มีศีลธรรมกำกับ ทั้งเก่งทั้งดี
คำถามประเภทนี้คล้าย ๆ กับคำถามว่า เสื้อกับกางเกงอะไรสำคัญกว่ากัน ซึ่งความจริงแล้วสำคัญด้วยกันทั้งคู่ คุณใส่เสื้อแต่ไม่ได้นุ่งกางเกง ยุ่งเหมือนกัน นุ่งกางเกงไม่ใส่เสื้อ ยุ่งอีกเหมือนกัน โดยรวมก็คือ ในเรื่องของการทำบุญกับวัด หรือการสร้างวัด และเรื่องของการสังคมสงเคราะห์ หรือทำบุญทำทานกับคน ๒ อย่างนี้ต้องทำคู่กันไป
เพราะโรงเรียน คือ สถานที่ที่สอนให้คนเราฉลาดในเรื่องเทคโนโลยีด้านวัตถุ หรือฉลาดในเรื่องของ การทำมาหากิน วัดสอนเรื่องความฉลาดในด้านจิตใจ หรือฉลาดในด้านเทคโนโลยีทางใจ ส่วนโรงพยาบาลมีไว้สำหรับรักษาทางกายเป็นหลัก วัดก็มีหน้าที่คล้าย ๆ โรงพยาบาล คือรักษาโรค แต่เป็นโรคทางใจ
โรงเรียนทางโลกก็ให้ความรู้ทางโลก หรือให้เทคโนโลยีทางโลก แต่ต้องระวัง เพราะว่าตั้งแต่โบราณมาได้พิสูจน์กันแล้วว่า ความรู้ทางด้านวิชาการหากเกิดกับคนพาล จะมีแต่ความพินาศ นำความเดือดร้อนมาให้ เพราะว่าเขาจะเอาความรู้ไปใช้ในทางที่ผิด
ตัวอย่างเช่น ไปเรียนวิชาวิศวะมา ถ้าเอามาก่อสร้างบ้านเรือน ทำเครื่องยนต์ เครื่องจักร เครื่องใช้ ก็ดีไป แต่ถ้าความรู้ชนิดนี้ไปตกอยู่ในมือโจร ตกอยู่ในมือของคนที่ขาดศีลขาดธรรม ก็อาจจะเอาความรู้ทางด้านวิศวะไปทำระเบิดมาบอมบ์กัน
ตรงนี้เองมาถึงหัวเลี้ยวหัวต่อว่า ถ้าอย่างนั้นสร้างโรงเรียนเมื่อไรละก็ ควรจะสร้างอยู่ใกล้วัด หรือว่าอยู่ในที่เดียวกัน ซีกโรงเรียนไว้สอนนักเรียนให้มีความรู้ทางโลก อีกซีกของบริเวณนั้น สร้างวัดเอาไว้อบรมศีลธรรมลูกหลานของเรา ให้ความรู้คู่กับศีลธรรม สมัยปู่ย่าตาทวดของเราแต่โบราณมาแล้วโรงเรียนกับวัดอยู่คู่กัน เพราะฉะนั้น เด็กโตขึ้นมาก็ได้ทั้งความรู้และความดี คือ มีศีลธรรมกำกับ ทั้งเก่งทั้งดี
ส่วนเรื่องโรงพยาบาล พบว่าโรคที่เกิดกับมนุษย์มี ๒ ประเภท
๑. โรคประจำสังขาร คือ โรคแก่ โรคเจ็บ โรคตาย โรคประเภทนี้โรงพยาบาลรักษาได้ ไม่หนักหนาสาหัส เป็นของธรรมดา
๒. โรคแส่หามาเอง คือ กินเหล้าก็ได้หลายโรค เที่ยวกลางคืน เที่ยวคืนเดียวก็ได้อีกหลายโรค โกหกได้อีกหลายโรค ไปคดไปโกงเขาก็ได้อีกหลายโรค โรคเครียด โรคอะไรสารพัดตามมา เพราะแส่หามาทั้งนั้น
โรคแส่หามาเอง มาจากไหน ก็มาจากผิดศีล แล้วจะแก้อย่างไรสำหรับโรคที่แส่หามาเอง ก็ต้องสร้างวัดไว้ให้ดี แล้วนิมนต์หลวงพ่อ หลวงพี่ที่ชำนาญมาประจำที่วัด ให้ท่านช่วยอบรมศีลให้ อบรมธรรมะให้ ศีลและธรรมที่ท่านให้จะกลายเป็นวัคซีนป้องกันโรคแส่หามาเอง
Cr. หลวงพ่อทัตตชีโว
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๗๙ ประจำเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
ทำบุญกับใครดี
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
23:58
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: