แบ่งเวลาให้ลูกรัก... ก่อนที่จะสายเกินไป
ตอบ : พ่อแม่ ควรจะทราบก่อนว่าธรรมชาติของเด็กที่เด่นๆ มี ๒ ประการ คือ
ประการแรก เด็กเป็นเสมือนผ้าขาวสะอาด เด็กต้องการตัวอย่างหรือต้นแบบในการคิด การพูดและการกระทำ สิ่งใดมาถึงก่อน เด็กจะรับสิ่งนั้นไว้เป็นแบบอย่าง ดังนั้นถ้าเด็กได้รับแต่สิ่งที่ดีก่อน เด็กก็จะมีโอกาสทำความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป และมีฐานกำลังความดีไว้ต่อต้านความชั่วที่เข้ามาภายหลัง ทำให้เอาตัวรอดได้ง่าย
ประการที่สอง เมื่อเด็กทำอะไรผิด ในระยะ ๒-๓ ครั้งแรก เด็กจะมีพิรุธให้เห็นได้ชัด ทำให้เราหาทางแก้ไขได้ทันท่วงที ถ้าผู้ใหญ่ไม่รู้ หรือปล่อยปละละเลย เด็กก็จะเกิดความเคยชิน ทำผิดเป็นนิสัย โดยไม่มีพิรุธให้ผู้ใหญ่จับได้ ทำให้เสียนิสัยที่ดีงามไปในที่สุด
ในการอบรมเด็ก ผู้ใหญ่จึงควรจะต้องทำในสิ่งต่อไปนี้ คือ
๑. พยายามหาโอกาสอยู่ใกล้ชิดเด็กให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เช่น ทุกๆ วัน ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะมีงานยุ่งอย่างไรก็ตาม ต้องหาเวลามารับประทานอาหารร่วมกับลูกทุกคนอย่างน้อย ๑ มื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมื้อเย็น เพื่อว่าถ้าลูกทำอะไรถูกต้องดีงาม ก็จะได้ชมเชยให้เกิดกำลังใจ ถ้าลูกทำผิดพลาด จะได้ว่ากล่าว ตักเตือนแนะนำสั่งสอน หรือถ้าผิดร้ายแรง ก็ลงโทษกันได้อย่างทันทีทันควัน และที่สำคัญก็คือ จะได้มีโอกาสอบรมคุณธรรมให้ลูก
๒. ก่อนนอนทุกคืน ควรจะได้มีเวลานำลูกๆ สวดมนต์ไหว้พระ ทั้งพ่อทั้งแม่หรืออย่างน้อยคนใดคนหนึ่ง เพื่อที่จะปลูกฝังให้ลูกคุ้นเคยกับพระศาสนา และเมื่อลูกสวดมนต์เสร็จแล้ว ควรสอนให้ลูกได้ทำใจสงบสักครู่เพื่อแผ่เมตตา ขณะเดียวกันควรสอนให้ลูกรู้จักสำรวจตัวเองทุกวันก่อนนอน จะได้เป็นคนดีมีเหตุผล มีที่พึ่งทางใจ
๓. ทุกสัปดาห์โดยเฉพาะวันหยุด ควรหาเวลาให้ลูกๆ ทุกคนได้ร่วมกิจกรรมในบ้าน เช่น ตัดหญ้ากวาดบ้าน หรือเข้าครัวเพื่อให้ลูกรู้จักการรับผิดชอบต่อครอบครัว รู้จักรักใคร่กลมเกลียวสามัคคีกัน ยิ่งกว่านั้นจะต้องให้ลูกรู้จักการเข้าวัดทำบุญตักบาตร นอกเหนือจากการตักบาตรหน้าบ้านทุกวันด้วย จะได้คุ้นเคยกับการสะสมบุญกุศลเป็นที่พึ่งแก่ชีวิต
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรระมัดระวังอย่างมาก คือ เมื่อรู้สึกว่าอารมณ์ไม่ดี จิตใจวุ่นวาย จนเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ควรรีบหลีกห่างออกจากลูก ไปทำความสงบใจในห้องพระ หรือไปหามุมสงบตามวัดวาอาราม เพื่อสงบสติอารมณ์ อย่าได้แสดงอาการเจ้าอารมณ์ให้ลูกเห็นเด็ดขาด
เมื่อพ่อแม่รู้จักปลีกเวลาให้ลูกอย่างนี้ ก็เป็นหลักประกันได้ว่าลูกจะมีพื้นฐานความประพฤติที่ดีงามตั้งแต่เล็ก พร้อมที่จะรองรับคุณธรรมความดีได้ทุกประเภท เพราะความใกล้ชิดที่พ่อแม่ทุ่มเทให้ลูก แม้เพียงวันละเล็กละน้อย จะกลายเป็นความเชื่อมั่น ความมั่นใจของลูกในการที่จะยืนหยัดต่อสู้โลกต่อไป
ส่วนคุณพ่อคุณแม่เอง เมื่อทำอย่างนี้แล้วก็มั่นใจได้ว่า เมื่อลูกๆ เติบโตแล้ว เขาจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีอนาคตสดใสเป็นกำลังที่เข้มแข็งของชาติในอนาคตข้างหน้า
เรื่อง : หลวงพ่อทัตตชีโว
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๐ ประจำเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
ประการแรก เด็กเป็นเสมือนผ้าขาวสะอาด เด็กต้องการตัวอย่างหรือต้นแบบในการคิด การพูดและการกระทำ สิ่งใดมาถึงก่อน เด็กจะรับสิ่งนั้นไว้เป็นแบบอย่าง ดังนั้นถ้าเด็กได้รับแต่สิ่งที่ดีก่อน เด็กก็จะมีโอกาสทำความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป และมีฐานกำลังความดีไว้ต่อต้านความชั่วที่เข้ามาภายหลัง ทำให้เอาตัวรอดได้ง่าย
ประการที่สอง เมื่อเด็กทำอะไรผิด ในระยะ ๒-๓ ครั้งแรก เด็กจะมีพิรุธให้เห็นได้ชัด ทำให้เราหาทางแก้ไขได้ทันท่วงที ถ้าผู้ใหญ่ไม่รู้ หรือปล่อยปละละเลย เด็กก็จะเกิดความเคยชิน ทำผิดเป็นนิสัย โดยไม่มีพิรุธให้ผู้ใหญ่จับได้ ทำให้เสียนิสัยที่ดีงามไปในที่สุด
ในการอบรมเด็ก ผู้ใหญ่จึงควรจะต้องทำในสิ่งต่อไปนี้ คือ
๑. พยายามหาโอกาสอยู่ใกล้ชิดเด็กให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เช่น ทุกๆ วัน ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะมีงานยุ่งอย่างไรก็ตาม ต้องหาเวลามารับประทานอาหารร่วมกับลูกทุกคนอย่างน้อย ๑ มื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมื้อเย็น เพื่อว่าถ้าลูกทำอะไรถูกต้องดีงาม ก็จะได้ชมเชยให้เกิดกำลังใจ ถ้าลูกทำผิดพลาด จะได้ว่ากล่าว ตักเตือนแนะนำสั่งสอน หรือถ้าผิดร้ายแรง ก็ลงโทษกันได้อย่างทันทีทันควัน และที่สำคัญก็คือ จะได้มีโอกาสอบรมคุณธรรมให้ลูก
๒. ก่อนนอนทุกคืน ควรจะได้มีเวลานำลูกๆ สวดมนต์ไหว้พระ ทั้งพ่อทั้งแม่หรืออย่างน้อยคนใดคนหนึ่ง เพื่อที่จะปลูกฝังให้ลูกคุ้นเคยกับพระศาสนา และเมื่อลูกสวดมนต์เสร็จแล้ว ควรสอนให้ลูกได้ทำใจสงบสักครู่เพื่อแผ่เมตตา ขณะเดียวกันควรสอนให้ลูกรู้จักสำรวจตัวเองทุกวันก่อนนอน จะได้เป็นคนดีมีเหตุผล มีที่พึ่งทางใจ
๓. ทุกสัปดาห์โดยเฉพาะวันหยุด ควรหาเวลาให้ลูกๆ ทุกคนได้ร่วมกิจกรรมในบ้าน เช่น ตัดหญ้ากวาดบ้าน หรือเข้าครัวเพื่อให้ลูกรู้จักการรับผิดชอบต่อครอบครัว รู้จักรักใคร่กลมเกลียวสามัคคีกัน ยิ่งกว่านั้นจะต้องให้ลูกรู้จักการเข้าวัดทำบุญตักบาตร นอกเหนือจากการตักบาตรหน้าบ้านทุกวันด้วย จะได้คุ้นเคยกับการสะสมบุญกุศลเป็นที่พึ่งแก่ชีวิต
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรระมัดระวังอย่างมาก คือ เมื่อรู้สึกว่าอารมณ์ไม่ดี จิตใจวุ่นวาย จนเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ควรรีบหลีกห่างออกจากลูก ไปทำความสงบใจในห้องพระ หรือไปหามุมสงบตามวัดวาอาราม เพื่อสงบสติอารมณ์ อย่าได้แสดงอาการเจ้าอารมณ์ให้ลูกเห็นเด็ดขาด
เมื่อพ่อแม่รู้จักปลีกเวลาให้ลูกอย่างนี้ ก็เป็นหลักประกันได้ว่าลูกจะมีพื้นฐานความประพฤติที่ดีงามตั้งแต่เล็ก พร้อมที่จะรองรับคุณธรรมความดีได้ทุกประเภท เพราะความใกล้ชิดที่พ่อแม่ทุ่มเทให้ลูก แม้เพียงวันละเล็กละน้อย จะกลายเป็นความเชื่อมั่น ความมั่นใจของลูกในการที่จะยืนหยัดต่อสู้โลกต่อไป
ส่วนคุณพ่อคุณแม่เอง เมื่อทำอย่างนี้แล้วก็มั่นใจได้ว่า เมื่อลูกๆ เติบโตแล้ว เขาจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีอนาคตสดใสเป็นกำลังที่เข้มแข็งของชาติในอนาคตข้างหน้า
เรื่อง : หลวงพ่อทัตตชีโว
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๐ ประจำเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
แบ่งเวลาให้ลูกรัก... ก่อนที่จะสายเกินไป
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
01:24
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: