อธิษฐานหรือทำบุญเช่นไร ถึงจะไม่เป็นโรคร้าย






เมื่อเปรียบเทียบโรคอัลไซเมอร์กับโรคร้ายแรงอื่น ๆ โรคอัลไซเมอร์นับว่าเป็นโรคที่น่ากลัวมาก เพราะว่า ผู้ป่วยจะจำบุญเก่าที่ทำมาไม่ได้เลย ส่วนบุญใหม่ก็ทำไม่เป็น ดังนั้นเราควรอธิษฐานเช่นไร หรือทำบุญอย่างไรถึงจะไม่เป็นโรคนี้


ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่า โรคร้ายทั้งหลายที่เบียดเบียนเรา หรือโรคเล็กน้อยก็ตาม เกิดกับเราได้อย่างไร 

โรคแบ่งออกเป็น ๒ จำพวก

พวกที่ ๑ คือ โรคประจำสังขาร โรคชรา ซึ่งหนีไม่พ้น กินไม่ได้นอนไม่หลับบ้าง ฟันโยก ตาฟาง หูตึงบ้าง เมื่อตอนอายุใกล้จะร้อยอย่างนี้ก็ธรรมดา อย่างนี้เขาเรียกว่า โรคประจำสังขาร 

พวกที่ ๒ เป็นโรคที่แส่หามาเอง เช่น โรคเอดส์ นอนอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่เป็นหรอก ไปแส่เที่ยวกลางคืนมาก็เลยเป็น

พวกชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ตัวเองไปฆ่าเขาด้วยอาการอย่างไร ถึงเวลาเข้าเขาก็ฆ่าตัวเองด้วย อาการอย่างนั้น ก็ทำให้อายุตัวเองสั้น แล้วก่อนตายอาการที่ทำไว้อย่างไร เขาก็มาเล่นงานจนกระทั่งเราต้องเป็นอย่างนั้นด้วย โรคที่เกิดจากการกินเหล้า อัลไซเมอร์ สติเสื่อมสารพัด โรคที่เกิดจากการโกหก ความจำเสื่อม โรคที่เกิดจากคดโกงเขา วางแผนจะปล้นจะโกงเขาสารพัด ผลสุดท้ายประสาทก็กิน สารพัดโรคที่แส่หามา คือ หามาด้วยอาการที่ผิดศีลแต่ละข้อนั่นแหละ แล้วก็เลยกลายมาเป็นโรคประจำ กลายเป็นโรคบีบคั้นสังขารของเรา ไม่ให้เป็นสุขกับเขา

เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อยากเป็นโรค ไม่ว่าอัลไซเมอร์หรือโรคอะไรก็ตามที ก็มีวัคซีนป้องกันสารพัดโรคให้ ก็คือศีล ๕ นั่นเอง ตั้งใจรักษาอย่าให้ขาดตกบกพร่องอันใดอันหนึ่งเด็ดขาด เอาชีวิตเป็นเดิมพันในการรักษาศีล ๕ ข้อ แล้วโรคเก่า ๆ ที่มันติดมาข้ามภพข้ามชาติเพราะเวรที่เคยก่อไว้ ก็มีแต่จางไป ๆ โรคใหม่ไม่มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้ เราปิดประตูตายไปแล้ว ปิดด้วยวัคซีนพิเศษยี่ห้อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

รับศีลกับพระทุกวัน วันละ ๕ ข้อ วันนี้ไม่เจอพระก็พระพุทธรูปในบ้านนั่นแหละ กราบ ๓ ครั้ง ตั้งนะโม ๓ จบแล้วทบทวนเลย

ปาณาติปาตา เวรมณี วันนี้หัวเด็ดตีนขาดไม่ฆ่า อายุไม่สั้น

อทินนาทานา เวรมณี วันนี้หัวเด็ดตีนขาดไม่ขโมย ไม่คดไม่โกงใคร อย่างนี้ ป้องกันโรคทรัพย์จางดีเหลือเกีน ไม่มีใครมาปล้นมาลักของเราแล้ว

กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี วันนี้หัวเด็ดตีนขาดไม่เจ้าชู้ สงบเสงี่ยมเจียมตัว โรคเอดส์ก็ไม่มา นี้เป็นตัวอย่าง

มุสาวาทา เวรมณี วันนี้หัวเด็ดตีนขาดไม่โกหก ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ แล้วไม่ไปยุให้รำตำให้รั่ว ครอบจักรวาลไปเลย พูดแต่คำที่เป็นสุภาษิต เป็นอรรถเป็นธรรมไปอย่างนี้ ปากก็เป็นมงคล โรคความจำเสื่อมก็จะไม่มี

สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี วันนี้หัวเด็ดตีนขาด ไม่ว่าเหล้า ไม่ว่าเบียร์ ไม่ว่า กระแช่ ไม่ว่าบุหรี่
ไม่ว่ายาบ้า ยาอะไรไม่เอาทั้งนั้น อย่างนี้อัลไซเมอร์ปิดประตูตาย


ทุกครั้งที่จะออกจากบ้าน โบราณท่านให้สโลแกนเอาไว้แล้ว เช้าใดยังไม่ได้ให้ทาน เช้านั้นอย่าเพี่งกินข้าว เติมบุญเสียก่อน วันใดยังไม่ได้ตั้งใจรักษาศีล ยังไม่มีวัคซีนคุ้มกันสารพัดโรค วันนั้นอย่าเพี่งออกจากบ้าน คืนใดยังไม่ได้นั่งสมาธิ จะ ๕ นาที ๑๐ นาที จะครึ่งชั่วโมง หรือ กี่ชั่วโมงก็ตามที คืนนั้นจะยังไม่ยอมนอน แล้วจะทำอะไรหรือ? ยังไม่ยอมนอน ก็ทำใจให้สงบก่อนจะได้เข้าถึงพระธรรมกายในตัวกับเขาบ้าง เมื่อใจสงบแล้ว ใจจะไม่ลำเอียง สี่งใดผิดก็เห็นว่าผิด สี่งใดถูกก็เห็นว่าถูก มีความเป็นกลางเนื่องจากใจสงบ ยี่งใจเป็นกลางมีความสงบมากขึ้นเท่าไร ก็ยี่งเห็นโทษภัยจากการละเมิดศีลมากขึ้นเท่านั้น เมื่อเห็นโทษภัยจากการละเมิดศีลมาก ก็เลยกลายเป็นการเตือนใจตัวเองให้ห่างอบายมุขเยอะ ๆ ห่างคนพาลเยอะ ๆ ห่างสี่งแวดล้อมเลว ๆ ทั้งหลายเยอะ ๆ ถ้าอย่างนี้โอกาสที่เราจะไปละเมิดศีลก็จะไม่มี วัคซีนป้องกันสารพัดโรคในตัวเรา ในใจเราก็มีแต่จะมั่นคงยี่งขึ้น ภาพตรงนี้ต้องชัด

ยี่งกว่านั้นการที่เราสวดมนต์นั่งสมาธิทุกคืน ๆ ยังเป็นการสำรวจบัญชีบุญบัญชีบาปของเราอีกด้วย ธนาคารหรือบริษัทห้างร้านใหญ่ ๆ ที่เขามั่นคงไม่คลอนแคลน เขาเช็กบัญชีรายรับรายจ่ายทุกวัน เขาจึงได้มั่นคง เราเองจะให้ชีวิตมั่นคง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บอะไรมารบกวน ก็ต้องสำรวจตรวจสอบบัญชีบุญบัญชีบาปของเรา บัญชีบาปมาจากไหน มาจากผิดศีลเป็นหลัก เพราะฉะนั้นสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิเสร็จก็อธิษฐานเลย หรือเวลาเราทำบุญทำทานทุกครั้ง อธิษฐานให้เราเป็นผู้ที่บริสุทธี์ด้วยกาย วาจา ใจ ตลอดไปทุกภพทุกชาติ คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว อย่าได้มาเกิดกับเราเลย นิดเดียวก็ไม่เอา ให้คิดดี พูดดี ทำดี เป็นประจำทุกลมหายใจอย่างนี้ นี่คือเรา

แถมนึกถึงบุญ ทบทวนบัญชีบุญ บุญแต่ละอย่างที่เราทำมาในวันนั้น บวกเข้าไปกับบุญที่เคยทำล่วงหน้านั้น ทำมาเท่าไรก็ตามที มาทบทวนทุกวัน ๆ ทำอย่างนี้แล้วอธิษฐานซ้ำเข้าไปอย่างนี้ ให้บริสุทธี์ด้วยกาย วาจา ใจ เรื่อยไป เป็นอย่างนี้หนักเข้า ๆ โรคภัยไข้เจ็บใด ๆ มาไม่ถึง ยี่งถ้าจะให้ดีไปกว่านั้นอีก เกิดมาเป็นเราแล้วชาตินี้ก็อย่าได้ไปฆ่าใคร แม้แค่จะคิดสักนีดหนึ่งก็ไม่เอา คิดละเมิดศีลสักนิดก็ไม่เอา แล้วใครทั้งโลกก็อย่ามาคิดฆ่าเราเลย เราไม่ฆ่าใคร แล้วใครก็อย่ามาฆ่าเรา ขนกันมาเป็นกองทัพก็อย่ามาฆ่าเราได้เลย เจอหน้าเราให้มีแต่จิตใจเมตตาสงสารรักใคร่ปรานีเราเหมือนลูก เหมือนหลาน เหมือนญาติว่านเครือเนื้อหน่อไปเลย เราเห็นคนทั้งโลกก็ให้มีความรู้สึกอย่างนั้น

แล้วก็ให้เราสามารถเป็นกัลยาณมิตรเตือนตัวเองได้ เตือนคนอื่นได้ ไม่ให้ไปซ่องเสพสี่งเลวร้ายต่าง ๆ อธิษฐานอย่างนี้เรื่อยไป ไม่ว่าโรคอะไรก็มาไม่ถึงหรอก เพราะความบริสุทธี์ กาย วาจา ใจ ของเรานี่เอง




Cr. หลวงพ่อทัตตชีโว
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๘๓ ประจำเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๒
อธิษฐานหรือทำบุญเช่นไร ถึงจะไม่เป็นโรคร้าย อธิษฐานหรือทำบุญเช่นไร ถึงจะไม่เป็นโรคร้าย Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 01:32 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.