๑๐ ตุลามหาปีติ
๑๐ ตุลามหาปีติ
“Freedom (ฟรีดอม)” คำสั้น ๆ เพียง ๒ พยางค์ที่มีความหมายว่า “อิสรภาพหรือเสรีภาพ” แต่แฝงไปด้วยความนัยหลายหลากที่ลึกซึ้งและน่าขบคิดค้นหา จึงเป็นที่มาของคำถามที่ว่า “เราได้ชื่อว่าเป็นผู้มีอิสรภาพแล้วหรือยัง” คำตอบของคำถามนี้ เชื่อว่าทุก ๆ ท่านคงมีคำตอบปรากฏขึ้นในใจแตกต่างกันออกไป แต่หากพิจารณาตามทัศนะทางพระพุทธศาสนาแล้ว เชื่อว่าคงเหลือเพียงคำตอบเดียวในคำถามนี้เท่านั้น คือ “ใจเราเป็นอิสระจากหมอกมืดดำที่เรียกว่ากิเลสแล้วหรือยัง” ดังนั้นผู้ที่ค้นพบวิธีการและลู่ทางเพื่อนำไปสู่เป้าหมายนี้ จึงควรค่าแก่การเคารพนอบน้อมบูชาเป็นอย่างยิ่ง
พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นบุคคลที่เราท่านทั้งหลายจำต้องตระหนักซาบซึ้งในพระคุณที่ท่านได้กระทำไว้อย่างดีแล้วและแสดงออกซึ่งกตัญญูกตเวทิตาจิตในเมื่อโอกาสเอื้ออำนวยมาถึง เพราะท่านคือบุคคลที่ค้นพบคำว่า “หยุดเป็นตัวสำเร็จ” อีกทั้งมรดกธรรมนี้ยังได้ผ่านการสืบทอดต่อ ๆ กันมาจากรุ่นสู่รุ่น กระทั่งตกทอดมาถึงพวกเราท่านทั้งหลายให้ได้ประพฤติปฏิบัติกันจนถึงปัจจุบันนี้ และเนื่องด้วยวันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ นี้ เป็นวาระครบ ๑๓๖ ปี วันคล้ายวันเกิดด้วยรูปกายเนื้อของท่าน วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี จึงได้จัดกิจกรรมงานบุญขึ้นอย่างมากมาย ได้แก่ พิธีตักบาตรพระ ณ บ้านแก้วเรือนทองคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง พิธีปฏิบัติธรรม พิธีกล่าวคำถวายห้องประดิษฐานมยุรนาวากาศและสะพานบุญทรัพย์อนันต์ พิธีกล่าวคำถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน พิธีทอดผ้าป่าบำรุงวัดครั้งที่ ๔ พิธีจุดแสงทิพย์ รวีสวรรค์ พิธีปลูกต้นทรัพย์บานชื่น พิธีจุดประทีป ๒๐,๐๐๐ ดวง พิธีเวียนประทักษิณรอบพระมหาธรรมกายเจดีย์ พิธีฉลองชัยชิตัง เม ในการสวดมนต์บทธัมมจักกัปปวัตนสูตรครบ ๒,๗๖๖,๐๐๐,๑๓๖ จบ เป็นต้น
กิจกรรมงานบุญทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเป็นทางมาแห่งบุญกุศลที่จะอำนวยผลอันน่าพอใจให้พวกเราท่านทั้งหลาย นอกจากนี้ ด้วยเหตุดังกล่าวมาข้างต้นนั้น พระเดชพระคุณหลวงปู่จึงนับว่าเป็นสุดยอดกัลยาณมิตรผู้เลิศผู้ประเสริฐของพวกเราทั้งหลาย และในหนทางแห่งการสร้างบารมีนั้น จะขาดเสียซึ่งกัลยาณมิตรไม่ได้เลย เพราะกัลยาณมิตรคือทั้งหมดของพรหมจรรย์ ดังเรื่องราวตอนหนึ่งในสมัยพุทธกาล เมื่อครั้งพระพุทธองค์ประทับอยู่ที่สักกรนิคม แคว้นสักกะ ครั้งนั้นพระอานนท์ผู้เป็นพุทธอุปัฏฐากได้เข้าเฝ้าพระบรมศาสดาพร้อมกับกราบทูลในทำนองที่ว่า กัลยาณมิตรเป็นกึ่งหนึ่งแห่งพรหมจรรย์เลยทีเดียว แต่ครั้นพระพุทธองค์สดับเช่นนั้น กลับตรัสทัดทานแย้งว่า กัลยาณมิตรคือทั้งหมดของพรหมจรรย์ สมดังพุทโธวาทตอนหนึ่งในอุปัฑฒสูตรว่า
“มา เหวํ อานนฺท อวจ มา เหวํ อานนฺท อวจ สกลเมว หิทํ อานนฺท
พฺรหฺมจริยํ ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตา กลฺยาณสหายตา กลฺยาณสมฺปวงฺกตา ฯ”
(สํ.มหา. (บาลี) ๑๙/ ๕/ ๒)
“ดูก่อนอานนท์ เธออย่าได้กล่าวอย่างนั้น เธออย่าได้กล่าวอย่างนั้น
ก็ความเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี นี้เป็นพรหมจรรย์ทั้งสิ้นทีเดียว”
(สํ.มหา.อ. (ไทย) ๓๐/ ๕/ ๗)
ในปริโยสานกาลนี้ ผู้เขียนพร้อมทั้งทีมงานทุกท่านขอตั้งจิตอนุโมทนาบุญกับผู้มีบุญ ลูกหลานหลวงปู่ทุกท่าน ที่ได้มาสืบทอดปณิธานสืบสานวัฒนธรรมชาวพุทธ ด้วยการบำเพ็ญบุญกุศลเสริมเติมสิริมงคลให้แก่ตนในวันสำคัญเช่นนี้ และขอความสุขสวัสดีมีชัยจงบังเกิดมีแก่นักสร้างบารมียอดกัลยาณมิตรทุกท่านมา ณ โอกาสนี้
เรื่อง : พระมหาศุภณัฐ จนฺทชโย ป.ธ.๙
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๒๑๕ ประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓
***สามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ขอให้ใส่ Cr. ผู้เขียนด้วย***
คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญในรูปแบบของ PDF
- ความสุขสงบท่ามกลางชีวิตดิจิทัล
- ทำไมจึงไม่ท้อและไม่ทิ้งการเรียนพระบาลี
- อนุโมทนาบุญกฐินสัมฤทธิ์และกฐินสมทบเกือบพันวัด
- ชมรมพุทธศาสตร์สากลฯ จัดอบรมประธานกฐินสัมฤทธิ์เด็กดี V-Star ทั่วไทย ปีที่ ๑๓
- ๑๐ ตุลามหาปีติ
- หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๖๒)
- พลิกชีวิตด้วยเงิน ๕ บาท
- มอบทาน มอบธรรม จากใจชาววัดพระธรรมกาย
- ข่าวสารเครือข่ายคณะศิษย์
- หลวงพ่อตอบปัญหา
- ย้อนอดีต...ท่องประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา (ตอนที่ ๓๔)
- อะไรมีค่าที่สุดตอนใกล้หลับตาลาโลก ?
ไม่มีความคิดเห็น: