"ผม" ควรจะได้รับการยกย่องหรือควรถูกทำลาย
ผมคงไม่น่ากลัวจนเกินไป
เพราะผมจะสามารถทำร้ายใคร ๆ ได้ ก็ต่อเมื่อเจ้าตัวยินยอมเท่านั้น!!
น้ำตา/
คำขอร้อง/ เหล้า/ สามี/ กลางคืน/ ลูกวิ่งมากอดแม่
/ อุบัติเหตุ/ หนี้สิน/ การผวาซ้ำ ๆ ของลูก/ .../ ทุก
ๆวัน...
และนี่ก็คือบางฉากของหนึ่งในหลาย
ๆ เรื่อง จากการที่ผมเข้าไปเป็นตัวหลัก ในการสร้างสิ่งเลวร้ายให้กับหลายครอบครัว
รวมทั้งครอบครัวที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปนี้
กนก อภิรมรัตน์
บุคคลผู้มีตัวตนจริงที่ผมได้ทำลายเขา
และทำร้ายความรู้สึกของผู้เกี่ยวข้องทางสายเลือดอย่างเลือดเย็น ราวกับมิตรที่ชั่วที่สุดที่อยู่ใกล้ชิดเขาตลอดเวลา
กนกรู้จักกับผมในครั้งที่เขาเรียนอยู่
มศ.๓ โดยการแนะนำของเพื่อนวัยรุ่นด้วยกัน เราคุยกันถูกคอมาก
เพราะทุกคนเชื่อว่าผมเป็นตัวเชื่อมสัมพันธไมตรีที่ดีที่สุดในขณะนั้น
แต่ทุกครั้งที่มีการทะเลาะวิวาทเกิดขึ้น ต้นเหตุทั้งหมดมันมาจากผมซึ่งทุกคนก็รู้อยู่แก่ใจดี
ผมและกนกคบกันมายาวนาน
ด้วยความรู้สึกที่แน่นแฟ้นมากขึ้น แต่แล้ว
เขาก็ได้ตัดสินใจแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่ง (อภินันท์ หรือคุณปิ่ว)
ด้วยความรักที่เขาทุ่มเทให้เธออย่างมากมายเกินกว่าผมหลายเท่านัก ทั้ง ๆ
ที่เธอมาทีหลังผมซะอีก
ถึงกระนั้นผมก็ไม่เคยหวาดหวั่นเลยว่า
ความสัมพันธ์ของผมจะถูกทำให้จืดจางลง หรือเวลาที่เขาจะให้แก่ผมลดน้อยถอยลงไป
แต่ตรงกันข้าม กนกกลับติดผมมากขึ้น และอยู่กระชับมิตรกับผมแทบทุกคืนหลังเลิกงาน
เรา
ดื่ม กิน เที่ยวด้วยกัน และบางครั้งเขาต้องเสียเงินไปเป็นหมื่นต่อเดือน เพื่อซื้อผมให้อยู่เป็นเพื่อนเขา
ความจริง
ความมีมนุษยธรรมน่าจะเกิดขึ้นในใจของผมบ้าง
แต่ไม่...เพราะธรรมชาติของผมไม่เข้าใจหรอกว่า มนุษยธรรมคืออะไร
แม้ผมจะรู้ว่ากนกและคุณปิ่วมีลูกที่น่ารักถึง ๓ คนแล้ว
ผมไม่ควรไปทำลายความอบอุ่นของครอบครัวนี้ ผมทำให้เขาทะเลาะกันบ่อยครั้ง
ทำให้ลูกคนเล็กผวาเข้ามากอดแม่
ถามแม่ด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากให้พ่อผู้เป็นที่รักที่สุดมาหาผม แต่ทำยังไงได้... กนกเลือกผมทุกครั้ง
เพราะเขาติดผมมากจนมองข้ามความรักในสายเลือดที่มีต่อลูกที่น่ารักทั้ง ๓ คนไป
บ่อยครั้งที่ลูกชายคนโตต้องพยายามทำหน้าที่แทนพ่อ
และแสดงความห่วงใยแม่ เพื่อให้แม่รู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่ทุกอย่างกลับแย่ลง
ทั้งหนี้สินที่เพิ่มทับทวีเป็นล้าน ๆ
ซึ่งผมรู้ว่ากนกเครียดและผมทำได้ดีที่สุดก็คือ ทำให้เขามึนและลืมไปชั่วคราว
พร้อม ๆ กับการทำลายสุขภาพอย่างแยบยลที่สุด หรือได้เรียกว่าฆ่าเขาอย่างช้า ๆ
ผมรู้ดีว่าคุณปิ่วเกลียดผมมาก เพราะเธอรู้ว่า
ผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวเธอไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน
และยังอยากให้ผมออกไปจากชีวิตครอบครัวของเธอ เพราะสิ่งที่เธอกลัวที่สุดคือ
กลัวอนาคตลูกทั้ง ๓ คนจะเอาอย่างพ่อ เพราะความเดียงสาของเด็ก ๆ
ไม่อาจปกป้องการซึมซับพฤติกรรมต้นแบบที่เลวร้าย จากพ่ออันเป็นที่รักได้ ซึ่งถ้าลูก
ๆ เอาตามอย่างพ่อขึ้นมาจริง ๆ
นั้นก็หมายถึงดวงใจของผู้เป็นแม่ต้องรับสภาพตกนรกทั้งเป็น
และในที่สุดเธอก็ได้ไปหาบุคคลที่เป็นความหวังสุดท้าย
ที่คิดว่าน่าจะช่วยเธอได้ คน ๆ นั้นคือ คุณแม่ของกนก ซึ่งก็ได้คำแนะนำว่า
ให้เธอพาเข้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่เป็นเขตหวงห้ามสำหรับผม
เพราะผมไม่อาจเข้าไปที่นั่นได้ เขาเรียกที่นั่นว่า วัดพระธรรมกาย
กนกตัดสินใจไปที่นั่น
ตามความเห็นของแม่ผู้บังเกิดเกล้าและภรรยา แล้วในที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้นกับเขาอย่างที่ผมเองก็คาดไม่ถึง
คือ เขาได้ตัดสินใจเลิกคบกับผมอย่างเด็ดขาด อย่างไม่มีเยื่อใย
ซ้ำร้ายยังให้สัญญากับภรรยาว่าจะไม่กลับมาหาผมอีก
ความรู้สึกของผมตอนนี้
ไม่คิดเสียใจอะไรหรอก แม้ความสัมพันธ์ของเราจะลึกซึ้งยาวนานถึง ๒๓ ปี
แต่ผมแปลกใจว่า อะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนความคิดได้ถึงขนาดนี้
และแล้วผมก็ได้รับรู้ว่า ลึก ๆ กนกอยากเลิกกับผม แต่ยังหาเหตุผลที่ดีที่สุดให้กับตัวเองไม่ได้และไม่มีกำลังใจพอที่จะเอาชนะใจตัวเอง
แต่บัดนี้กนกพบสิ่งนั้นแล้วที่วัดพระธรรมกาย และจากคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย
กนก เปลี่ยนแปลงเป็นคนใหม่ เขากลับไปกราบแม่
และมอบสิ่งที่เขาได้ตัดสินใจทำเพื่อเป็นของขวัญให้กับท่าน
นับจากนั้นมาชีวิตครอบครัวเขาเริ่มดีขึ้นมาอีกครั้ง
เสียงของการทะเลาะวิวาทกลับกลายมาเป็นเสียงสวดมนต์
พวกเขาพากันมาวัดและไปศูนย์ปฏิบัติธรรมใกล้บ้านทุกวัน
จนกระทั่งได้ให้ลูกชายทั้งสองคนเข้าอบรมธรรมทายาท ปัญหาหนี้สินก็เริ่มหมดลง
ทุกอย่างในชีวิตของเขาเริ่มดีขึ้นในทุก ๆ ด้าน
มาถึงตอนนี้
ผมทำร้ายกนกไม่ได้อีกต่อไป ไม่ว่าจะใช้วิธีที่แยบยลเพียงใดก็ตาม
แต่ความเลวร้ายของผมยังไม่จบแค่นั้น แต่ผมคงไม่เล่าต่อในที่นี้
เพราะผมเชื่อว่าทุกคนย่อมรู้สึกถึงความสูญเสียที่ใหญ่หลวงที่ผมก่อขึ้นเป็นอย่างดี
และจะลึกซึ้งมากขึ้น ถ้าความหายนะเหล่านี้เกิดขึ้นกับคุณเอง หรือคนที่คุณรัก
แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น
คุณจะยังคงยกย่อง “เหล้า” อย่างผม
หรือควรทำลายผมให้สิ้นซากดี หรือมาช่วยกันคิดในโจทย์ข้อต่อไปว่า
เราจะมีวิธีการอย่างไรที่จะกำจัดผมให้หมดไปจากโลก
หรือเปลี่ยนผมให้กลายเป็นทรัพยากรที่ให้ความวัฒนะกับมวลมนุษยชาติต่อไป
ครอบครัวแก้วของคุณกนก อภิรมรัตน์ |
เรื่อง : ร. ลิ่วเฉลิมวงศ์ สำนักสื่อธรรมะ
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๑ ประจำเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๔๖
"ผม" ควรจะได้รับการยกย่องหรือควรถูกทำลาย
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
20:06
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: