นักโทษแห่งวัฏสงสาร ตอนที่ ๑




นักโทษแห่งวัฏสงสาร
พระธรรมเทศนาโดยหลวงพ่อทัตตชีโว
ในรายการ โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง DMC
(Dhammakaya Media Channel) วันพฤหัสบดีที่ ๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔
-------------------------------------------------------------

ในระยะ ๒ - ๓ เดือน ที่ผ่านมา (ปลายปีพุทธศักราช ๒๕๕๔) ประเทศไทยประสบภาวะน้ำท่วมหนักเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางความทุกข์ยากลำบากทั้งหลายนั้น พี่น้องนักสร้างบารมีในประเทศไทย และในอีกหลาย ๆ ประเทศ ได้แสดงน้ำใจช่วยเหลือผู้กำลังประสบอุทกภัยด้วยน้ำใสใจจริง ซึ่งน่าอนุโมทนาบุญเป็นอย่างยิ่ง

ในช่วงนั้น พวกเราได้จัดกองทุนช่วยเหลือ และจัดทีมอาสาสมัครกระจายกำลังกันลงไปช่วยเหลือในหลาย ๆ จังหวัดอย่างต่อเนื่อง เช่น ชัยภูมิ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ อ่างทองสุพรรณบุรี นครปฐม อยุธยา ปทุมธานี เป็นต้น โดยนำถุงยังชีพ ยารักษาโรค เครื่องอุปโภค บริโภคไปมอบให้อย่างทั่วถึง โดยไม่ให้มีใครตกหล่น

บางท่านก็บอกบุญหมู่ญาตพี่น้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้บริจาคสิ่งของอุปโภค บริโภค เช่น ข้าวสารอาหารแห้ง เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ เข้ามาสมทบกองทุนช่วยเหลือของเรา

บางท่านแม้บ้านตนเองก็ถูกน้ำท่วม แต่พอทราบข่าวว่าวัดพระธรรมกายใกล้จะถูกน้ำท่วมก็รีบกระวีกระวาดเดินทางมาถึงวัดจนได้ พอมาถึงก็ลงไปช่วยงานตามถนัด ทั้งงานเตรียมเสบียง งานแพทย์ งานกู้ภัย งานก่อสร้าง งานแบกหาม สวมหัวใจพระโพธิสัตว์ทำได้ทุกอย่าง ไม่มีเกี่ยงบุญ

บางท่านถนัดงานฝ่ายเสบียงก็มาเป็นอาสาสมัครหุงข้าวปลาอาหารเลี้ยงผู้ประสบภัยในเขตจังหวัดปทุมธานีและอยุธยา บางท่านก็ตามพรรคพวกพี่น้องมาช่วยกันบรรจุอาหารใส่กล่องให้ทันเวลาวันละ ๓ มื้อ จำนวนหลายหมื่นกล่องต่อวัน

บางท่านที่ถนัดงานอาสากู้ภัย ก็ทำหน้าที่ลำเลียงเสบียงอาหารเข้าไปยังพื้นที่ประสบภัยนำถุงยังชีพลุยน้ำเสี่ยงอันตรายไปมอบเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบทุกข์หลายหมื่นครอบครัวในหมู่บ้านรอบ ๆ วัด บางท่านเมื่อเห็นสภาพบ้านเรือนที่แช่อยู่ในน้ำลึกดูน่าอันตรายมาก ก็ชวนผู้ประสบภัยให้อพยพออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงของวัดพระธรรมกาย

บางท่านที่ถนัดงานสายแพทย์ก็ทำหน้าที่แพทย์ พยาบาล ตรวจอาการเจ็บไข้ได้ป่วยผู้ประสบภัยอย่างละเอียดถี่ถ้วน พร้อมทั้งมอบยารักษาคนไข้ให้พ้นขีดอันตราย

บางท่านที่ถนัดงานภาคสนาม ก็พยายามติดต่อสมัครพรรคพวกให้มาช่วยกันกรอกกระสอบทรายนับล้านถุง ต่างอดตาหลับขับตานอนกรอกกระสอบทรายอยู่ ๑๐ วัน ๑๐ คืน จึงได้กระสอบทรายหลายแสนถุงมาสร้างแนวกำแพงกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมรอบวัด และได้กระสอบทรายอีกนับล้านถุงไปสร้างคันกั้นน้ำยาวกว่า ๘ กิโลเมตร ตามแนวคลองระพีพัฒน์เพื่อช่วยชะลอมวลน้ำกว่า ๑๖,๐๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร จากภาคเหนือที่ไหลเข้าท่วมอำเภอคลองหลวงให้ช้าลง จึงสามารถช่วยผ่อนหนักเป็นเบาให้กับชาวคลองหลวงจำนวนหลายหมื่นครอบครัว ขณะเดียวกันก็สามารถช่วยเพิ่มเวลาในการเตรียมตัวป้องกันน้ำท่วมให้กับประชาชนในหลาย ๆ พื้นที่ของกรุงเทพฯ ในการอพยพไปยังสถานที่ปลอดภัยได้อีกหลายวัน นับว่าได้ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาให้กับชาวเมืองหลวงของประเทศไทยไม่น้อยเหมือนกัน

ในยามยากเช่นนี้ไม่มีใครสามารถทำงานตามลำพังได้ จำเป็นต้องรวมพลังใจจากทุกสารทิศทั่วโลกมากู้วิกฤตของประเทศจึงจะสำเร็จ หลวงพ่อต้องขออนุโมทนากับพี่น้องนักสร้างบารมีทุกคน ทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก ที่มีน้ำใจทุ่มเทกำลังลงมาช่วยเหลือกันอย่างสุดความรู้ความสามารถ จนกระทั่งช่วยเหลือประคับประคองพี่น้องชาวไทยให้ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความวิปโยคนี้ไปได้สำเร็จ

ตักบาตรพระมาแล้วเป็นพันรูปหมื่นรูป ทำบุญไม่เคยขาดเลยแม้แต่วันเดียว ทำไมบ้านยังถูกน้ำท่วม ทำไมยังประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ได้ บุญไม่ช่วยเราบ้างเลยหรือ

อุปสรรคบนเส้นทางชีวิตนักสร้างบารมี

บางท่านที่เพิ่งเข้าวัด ยังศึกษาธรรมะได้ไม่นาน ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทั้ง ๆ ที่ตั้งใจสร้างบุญมาอย่างต่อเนื่อง ตักบาตรพระมาแล้วเป็นพันรูปหมื่นรูป ทำบุญไม่เคยขาดเลยแม้แต่วันเดียวทำไมบ้านยังถูกน้ำท่วม ทำไมยังประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ได้ บุญไม่ช่วยเราบ้างเลยหรือ ต่างอยากจะขอฟังเหตุผลจากหลวงพ่อในมุมมองของพระพุทธศาสนาบ้าง

วันนี้ก็เลยขอถือโอกาสมาตอบคำถาม เพื่อบรรเทาความสงสัย ไขข้อคับข้องใจผ่านรายการ โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาให้ทราบพร้อม ๆ กันทั่วโลก

ความจริงของชีวิตมนุษย์

ในขั้นต้นจะต้องทราบก่อนว่า มีความจริงตามธรรมชาติชนิดข้ามภพข้ามชาติอยู่ ๒ เรื่องใหญ่ คือ

๑. ธรรมชาติแท้จริงของชีวิตมนุษย์

๒. ธรรมชาติแท้จริงของโลกและจักรวาล

ความจริงของเรื่องทั้งสองนี้ ถูกปกปิดเป็นความลับมานานแสนนาน

ธรรมชาติแท้จริงของชีวิตมนุษย์

แท้จริงแล้วมนุษย์ทุกคนคือ นักโทษประหารที่ถูกคุมขังอยู่ในโลกนี้ ตั้งแต่วันเกิดจนกระทั่งถึงวันตาย

เราไม่สามารถออกไปจากโลกนี้ได้เลย อาจจะมีบางคนที่เคยออกไปถึงดวงจันทร์ หรืออาจจะเป็นดาวดวงไหนในอนาคต แต่ในที่สุดก็จะต้องย้อนกลับมาตายในโลกนี้

ทำไมเราจึงไม่รู้สึกตัวว่ากำลังติดคุกอยู่ ?

ทั้งนี้ก็เพราะว่าโลกที่เราอาศัยอยู่นี้กว้างใหญ่ไพศาลมาก จนกระทั่งตัวเราไม่รู้สึกว่าตนมีสภาพไม่แตกต่างจากนักโทษที่กำลังถูกจองจำอยู่ในคุก ทำนองเดียวกับลูกไก่เจี๊ยบ ๆ หรือลูกหมูอี๊ด ๆ ที่วิ่งเล่นอยู่ตามใต้ถุนบ้าน มันก็คงจะรู้สึกว่าแสนจะมีอิสรเสรี อยากกินก็ได้กิน อยากนอนก็ได้นอน อยากขับถ่ายก็ได้ขับถ่าย มันไม่รู้เลยว่า อีกไม่นานมันก็จะกลายเป็นไก่ชุบแป้งทอด เป็นหมูหันในร้านอาหาร โดยผู้มีอำนาจเหนือพวกมัน

ลูกไก่ลูกหูมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีสภาพเป็นนักโทษอยู่ตามบ้านเรือนต่าง ๆ ฉันใด มนุษย์ทุกคนในโลกใบนี้ ก็ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีสภาพเป็นนักโทษอยู่ในคุกมหึมามาตั้งแต่วันแรกเกิดจนถึงวันตาย ฉันนั้น

เราเริ่มติดคุกนี้มาตั้งแต่เมื่อไร ?

ถ้ามองแบบตื้น ๆ เผิน ๆ ก็จะได้คำตอบว่า เราเริ่มติดคุกมาตั้งแต่วันแรกเกิด ในทันทีที่คลอดออกจากครรภ์มารดา เราก็เริ่มติดคุกมาตั้งแต่วินาทีนั้น

เมื่อเราตายไปแล้ว จะถือว่าพ้นคุกหรือไม่ ?

ไม่ นั่นเพราะว่าแม้เราจะตายไปแล้ว แต่ก็จะต้องกลับมาเกิดใหม่อีก การตายจึงไม่ทำให้เราหลุดพ้นจากคุกไปได้ เป็นแค่การเปลี่ยนสังขารกับการเปลี่ยนที่อยู่ในคุกเท่านั้น

เราติดคุกกันมานานเท่าไร ?

ไม่ทราบ ทราบเพียงแต่ว่า มนุษย์ทุกคนล้วนเวียนเกิดเวียนตาย กลายเป็นนักโทษประหารในโลกนี้หลายต่อหลายรอบนับไม่ถ้วนแล้ว และแต่ละรอบเคยประสบสุขหรือทุกข์อย่างไรก็จำไม่ได้อีกด้วย

เราทำอะไรผิดจึงต้องมาติดคุกอยู่ในโลกใบนี้ ?

เราต่างเป็นนักโทษประหารที่ไม่เคยทราบเลยว่า ตัวเองเคยทำความผิดอะไรไว้บ้าง จึงต้องติดคุกอยู่ในโลกใบนี้

เราจะต้องติดคุกอยู่ในโลกใบนี้ต่อไปอีกนานเท่าไร ?

ไม่ทราบ และไม่มีทางทราบเลยว่า จะต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในคุกนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน

ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจว่า เวลาอยากจะทำความดีอะไรขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นความดีแน่ ๆ แต่กลับไม่สามารถทำได้อย่างอิสรเสรี มักจะมีอุปสรรคเข้ามาขัดขวางอยู่เรื่อยไป ยิ่งกว่านั้น ทั้ง ๆ ที่เราตั้งใจทำความดี แต่ผลของความดีกลับยังไม่ปรากฏ หรือปรากฏให้เห็นแบบกะพร่องกะแพร่ง มิหนำซ้ำวันร้ายคืนร้ายกลับมีโทษหนักเพิ่มขึ้นอีกด้วย

พระธรรมเทศนา
Cr. หลวงพ่อทัตตชีโว
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๒๗ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
นักโทษแห่งวัฏสงสาร ตอนที่ ๑ นักโทษแห่งวัฏสงสาร ตอนที่ ๑ Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 01:36 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.