แล้วแต่ใครจะไขว่คว้า
ถ้าใครเข้าวัดพระธรรมกายมาประมาณ ๑๐
ปีขึ้นไป คงพอจำได้ว่าวัดเคยทำปฏิทินที่มีวงกลม ๓ วงอยู่ใต้วันที่
สำหรับบันทึกการทำทาน ศีล ภาวนา เพื่อสนับสนุนการสร้างบุญกิริยาวัตถุ ๓
ประการทุกวัน ตามคำสอนของหลวงพ่อธัมมชโยที่เมตตาสอนไว้ว่า
“วิธีสร้างบุญกุศล
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนเอาไว้แล้วในบุญกิริยาวัตถุ ๓ ที่แปลว่า ทางมาแห่งบุญ ๓
ทาง คือ ทาน ศีล ภาวนา... เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคมนี้เป็นต้นไป
เริ่มสั่งสมบุญกันอย่าให้ขาดเลยแม้แต่วันเดียว
ให้เตรียมตัวเองด้วยการนำเอาปฏิทินแผ่นโต
และเอาปากกาสีแดงขีดไว้เป็นเครื่องหมายว่า ทุก ๆ วันเราได้สั่งสมบุญ ทั้งทาน ศีล
ภาวนาครบถ้วนทุกคืนก่อนเข้านอนให้สำรวจตัวเองว่า
ตลอดทั้งวันตั้งแต่ตื่นนอนกระทั่งเข้านอนเราทำความดีครบถ้วนแล้วหรือยัง...
“พอถึงวันสิ้นปีเราก็นำปฏิทินทองนั้นมาเปิดดูทุกแผ่นเลย
ทุกวันทั้ง ๓๖๕ วันเราทำบุญไม่เคยขาดแม้แต่เพียงวันเดียว
จะทำให้เรามีความปีติและภาคภูมิใจเป็นความปีติที่เงินทองหาซื้อไม่ได้”
จากคำสอนของหลวงพ่อ ทำให้ที่ผ่านมาลูก ๆ
รักการทำบุญ และทำอยู่ประจำจนเป็นนิสัย ทั้งบุญประจำวัน บุญประจำสัปดาห์
บุญประจำเดือน บุญประจำปี และบุญตามเทศกาลต่าง ๆ
เทศกาลเข้าพรรษาปีนี้ก็เช่นกัน
เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ก่อนเข้าพรรษา เราพากันไปถวายประทีปโคมไฟ ณ
สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย และในช่วงวันที่ ๑๓-๒๗ กรกฎาคม
เราก็ไปหล่อเทียนพรรษากันที่มหารัตนวิหารคด
ครั้นวันอาสาฬหบูชามาถึง (วันศุกร์ที่
๒๗ กรกฎาคม) เราก็ไปร่วมพิธีถวายผ้าวัสสิกสาฎก (ผ้าอาบน้ำฝน)
และอยู่ร่วมกิจกรรมตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
โดยร่วมกันสวดมนต์ ตักบาตร ปฏิบัติธรรม ถวายผ้าวัสสิกสาฎก
จุดโคมประทีปเวียนประทักษิณรอบพระมหาธรรมกายเจดีย์
แล้วร่วมกันสวดมนต์บทธัมมจักกัปปวัตนสูตรจนกระทั่งครบตามเป้า ๖๐๐,๐๐๐,๐๐๐
จบ
สำหรับฤดูกาลเข้าพรรษาซึ่งเริ่มขึ้นในวันต่อมานั้น
เราก็ตั้งใจทำความดีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เช่น จากที่เคยถือศีล ๕ ก็เพิ่มเป็นศีล ๘
จากที่เคยนั่งสมาธิ ๑ ชั่วโมง ก็นั่งมากขึ้น บางคนก็ตั้งเป้าทำความดีอื่น ๆ เช่น
อ่านหนังสือธรรมะทุกวัน บูชาเจดีย์ทุกวัน เป็นต้น
เหล่านี้คือวิถีชีวิตของนักสร้างบารมี
ซึ่งแต่ละท่านล้วนมีเป้าหมายที่จะสร้างบารมีให้ดีที่สุดสมกับที่ได้เกิดมา
แต่ใครจะทำได้จริงจังหรือมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับตัวของแต่ละบุคคลเป็นหลัก
ไม่มีใครบังคับใครได้ดังที่หลวงพ่อเคยกล่าวไว้ตั้งแต่วันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
ว่า “เราเกิดมาสร้างบารมีจะตักตวงเอาบุญบารมีแค่ไหน
ก็แล้วแต่ใครจะไขว่คว้าเอา”
ก่อนเข้าพรรษาเราสั่งสมบุญด้วยการถวายประทีปโคมไฟและหล่อเทียนพรรษากันมาแล้ว ในวันนี้เมื่อเรามาเปิดดูภาพงานบุญอีกครั้ง เราก็ได้บุญเพิ่มขึ้นอีก
เพราะบุญเกิดได้ทั้งก่อนทำ ขณะทำ และหลังจากทำแล้ว
ถึงแม้ว่าการทำบุญของเราเป็นการทำตามปกติอย่างที่เราเคยทำกันอยู่ก็ตาม แต่ภาพของผู้คนจำนวนมากที่ร่วมกันสร้างบุญกุศลนี้
ยังเป็นกำลังใจแก่ชาวพุทธในยามที่พระพุทธศาสนาตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตได้ด้วย
ทุกภาพของผู้มีบุญที่ร่วมพิธีถวายผ้าวัสสิกสาฎก
(ผ้าอาบน้ำฝน) เป็นภาพที่น่ามองอย่างยิ่ง เพราะว่าภาพแห่งการทำความดีย่อมงดงามเสมอ
การถวายผ้าอาบน้ำฝนเพื่อสืบทอดประเพณีอันดีงามที่มีมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาลให้ยืนยาวต่อไป เป็นอีกหนึ่งบุญตามเทศกาลที่พวกเราปลาบปลื้มใจที่มีโอกาสได้ทำ
กัลยาณมิตรไพศาล ทวีชัยถาวร
และกัลยาณมิตรเสาวนี หิรัณยศิริ เป็นผู้แทนเจ้าภาพผู้มีบุญถวายผ้าอาบน้ำฝน โดยมีหลวงพ่อทัตตชีโว
เป็นผู้แทนหมู่สงฆ์ในการรับถวาย
จุดประทีปเวียนประทักษิณรอบพระมหาธรรมกายเจดีย์ เพื่อระลึกถึงพระรัตนตรัย
เป็นอีกบุญหนึ่งที่เรา
ไม่พลาดเมื่อไปวัด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันสำคัญเช่นวันนี้
๖๐๐,๐๐๐,๐๐๐
จบแห่งการสวดธรรมจักรถวายเป็นพุทธบูชาตลอดมา เป็นเวลา ๒ ปีเต็มนี้
มีผลงานของเรารวมอยู่ด้วยตั้งหลายจบ ปลื้มใจจริง ๆ
Cr. พราวน้ำเพชร
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๘๘ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
แล้วแต่ใครจะไขว่คว้า
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
02:06
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: