อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ผู้สร้างตำนาน ยอดแห่งทหารหญิงจักรพรรดิ





จะมีใครทราบหรือไม่ว่า... บัดนี้ คลื่นแห่งสันติสุขกำลังเริ่มรุกเงียบแผ่ขยายออกไปสู่ทุกพื้นที่มากขึ้น ๆ และกำลังขยายกระแสแห่งความสงบร่มเย็นออกไปทุกภูมิภาคทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งหากตรวจค้นหาต้นแหล่งที่มาของคลื่นนี้จะพบว่า ออกมาจากยอดสตรีที่ได้รับการสถาปนาด้วยมงคลนามว่า "อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน" และได้เข้ารับการอบรมตามศูนย์อบรมต่าง ทั้งในและต่างประเทศ จากนับแสนคนกลายเป็นนับล้าน โดยกิจกรรมนี้ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง จนขณะนี้ก้าวมาถึงรุ่นที่ ๖ ซึ่งมีการอบรมระหว่างวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ถึง ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ภาพแห่งสันติสุขที่พอจะมองเห็นอย่างง่าย ๆ ในสังคมก็คือ ภาพของการเป็นอยู่อย่างสงบ ไม่มีการสู้รบหรือการทำสงคราม โดยเฉพาะในสังคมชาวพุทธ ที่มักจะพบภาพที่ผู้คนไปวัดฟังธรรม และร่วมถือศีล ปฏิบัติธรรมตามวัดวาอาราม ซึ่งถือเป็นภาพที่ไม่เพียงจะบ่งบอกถึงความสงบสุขของสังคมนั้น ๆ แต่ยังบอกเป็นนัยให้ทราบถึงความสูงส่งทางจิตใจของผู้คนในสังคมนั้น ๆ ด้วย

นี่คือยุคแห่งการฟื้นฟูศีลธรรมครั้งยิ่งใหญ่

กิจกรรมธรรมะที่ปรากฏออกมาเป็นโครงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการบวชพระ ๑ แสนรูป ที่ดำเนินมาแล้วหลายรุ่น โครงการรวมพลังเด็กดี V-Star นับล้านคนหลายครั้ง  โครงการเดินธุดงค์ธรรมชัย เพื่อฟื้นฟูวัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง แม้กระทั่งโครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนที่กำลังดำเนินเรื่อยมาจนปัจจุบัน กลายเป็นกระแสใหม่ในสังคมและเป็นกระแสหลักที่กำลังมาแรง เพราะส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิดของผู้คนในสังคม และสะท้อนแสดงออกมาให้เห็นด้วยการปฏิบัติต่อตนเองและผู้อื่นด้วยสิ่งที่ดีงาม  ดังปรากฏออกมาตามสื่อต่าง ๆ เช่น การแสดงความเคารพด้วยการไหว้ทักทายกันมีมากขึ้น การแสดงความนอบน้อมต่อพระภิกษุสงฆ์แทนที่จะเดินผ่านเลยไป เด็กนักเรียนตามโรงเรียนต่าง ๆ เริ่มได้รับการกระตุ้นให้เรียนรู้ศีลธรรม แม้กระทั่งการต้อนรับน้องใหม่ของสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ก็เริ่มมีแนวโน้มนำเอากิจกรรมธรรมะเข้าไปแทรกเสริม เช่น การตักบาตรพระ การออกค่ายคุณธรรม เป็นต้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมาพิจารณาถึง “โครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน” ซึ่งถือว่าเป็นโครงการใหญ่ที่ได้รับการตอบรับจากสุภาพสตรีทั้งจากภายใน และต่างประเทศกันอย่างล้นหลาม และมีแนวโน้มจะได้รับการเรียกร้องให้จัดโครงการนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น ย่อมเป็นที่คาดหวังในใจว่า ในยุคที่กำลังมีการฟื้นฟูศีลธรรมครั้งยิ่งใหญ่นี้ ตราบใดผู้คนในสังคมยังรักและฝักใฝ่ในการฝึกฝนอบรมตนเอง ตราบนั้น สังคมนั้นย่อมเป็นสังคมที่กำลังก้าวเดินและเคลื่อนไปสู่ความเป็นสังคมที่เจริญรุ่งเรืองไม่มีตกต่ำอย่างแน่นอน











อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน
กิจเบื้องต้น คือการฝึกฝนตนเอง

ระยะเวลา ๗ วัน ตั้งแต่วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ถึงวันที่ ๕ มิถุนายน ที่ผ่านมา มีการจัดอบรมในโครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนทั้งภายใน และต่างประเทศ และมีผู้สมัครเข้ารับการอบรมเป็นจำนวนมาก แม้เป้าหมายจะสูงส่งเพื่อความสงบสุขของสังคมโลกก็ตาม แต่ในเบื้องต้นก็คือการเริ่มฝึกฝนอบรมตนเองให้มีสันติสุขภายใน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดสันติสุขภายนอกได้ เพราะในหลักสูตรอบรมอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนนั้น นอกจากจะมีการบรรยายธรรม การให้ความรู้เรื่องวัฒนธรรมชาวพุทธ หรือมีธรรมบันเทิงแล้ว ยังมีธรรมปฏิบัติที่ถือว่าเป็นหัวใจของการอบรม เพราะจะทำให้ผู้เข้าอบรมได้สัมผัสกับความสุขความสงบภายใน

ดังเช่น อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน สร้อยทิพย์  เตยศรี  ศูนย์อบรมวัดอมราวราราม กรุงเทพมหานคร         

"มาบวชเป็นอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน เพราะอยากบวชเอาบุญให้คุณแม่ อยากให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง อยากบวชให้พี่ชาย และที่สำคัญคือบวชให้กับตนเองด้วย เมื่อได้เริ่มนั่งสมาธิจิตใจก็ดีมาก โดยได้นั่งสมาธิตามเสียงการนำนั่งของหลวงพ่อ ด้วยการหลับตาเบา ๆ ทำใจสบาย ๆ อยู่ ๆ ก็เห็นภาพหลวงปู่ทองคำ และคุณยายอาจารย์ลอยเข้ามาใกล้เหมือนเรากำลังซูมอินภาพ แล้วใจก็รวมไปเอง เหมือนกำลังดิ่งลงไปในอุโมงค์ แล้วก็รู้สึกว่าตัวมันโล่งเหมือนไม่มีตัวตน ใจก็ดิ่งลงไปตรงกลางเรื่อย ๆ มีแต่อารมณ์สบาย อยู่ ๆ ก็มีความสว่างเหมือนดวงอาทิตย์ที่อยู่ไกล ๆ เข้ามาในท้อง ดวงใหญ่ประมาณ ๑ ฝ่ามือ มีความสว่างที่มากกว่าอยู่ในนั้น ก็ภาวนา สัมมาอะระหัง ไปเรื่อย ไม่คิดอะไรจนหมดเวลา ตอนนั้นรู้สึกว่าใจมันอิ่ม พอลืมตาแล้ว ตัวก็โล่งไปหมด ในท้องก็โปร่ง ๆ แล้วก็ยิ้มได้คนเดียว เดินไปเข้าห้องน้ำ เดินไปรับบุญ ก็ยิ้มไม่หุบเลย ใจมันนิ่ง ๆ สงบ สบาย บอกได้แต่ซ้ำ ๆ ว่ามีความสุขจริง ๆ ทำให้บางครั้งย้อนมาคิดว่า โครงการนี้ให้อะไรดี ๆ กว่าที่คิดไว้เหมือนเรา ลงทุนศูนย์บาท แต่ได้กลับคืนมาอย่างมากมายจนประเมินค่าไม่ได้ จึงอยากให้ทุกคนตั้งใจนั่งสมาธิ จะได้พบกับความสุขภายในที่จะหาจากที่ไหนไม่ได้จริง ๆ "





อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน วิมล  เดชรอด   ศูนย์อบรม วัดจินดิตวิหาร กรุงเทพมหานคร

"วันแรกที่เข้าโครงการได้นั่งสมาธินานมาก เกิดมาไม่เคยนั่งนานอย่างนี้มาก่อน วันต่อมาก็นั่งสมาธิได้ดีขึ้น ในขณะที่นำจิตมาตั้งไว้ที่กลางท้อง รู้สึกว่าใจมันเริ่มสงบ ไม่คิดอะไรเลย และรู้สึกเหมือนจะเคลิ้ม ๆ คล้าย ๆ อยู่ในความฝัน ในท้องก็กลาย เป็นโพรงโล่ง ๆ ลึก ๆ เวิ้งว้าง แต่ก็ยังนิ่ง ๆ เห็นดวงไฟสีฟ้าอ่อน ๆ เป็นดวงกลม ๆ ..ขอบแตกลอยเข้ามาในท้อง จากที่สว่างนิด ๆ ก็ค่อย ๆ สว่างจ้า ตอนนั้นใจนิ่งสุด ๆ ตัวเบาสบาย แล้วดวงไฟก็กลายเป็นองค์พระขนาดเล็กกว่าฝ่ามือ มีแสงสว่างสีฟ้ากระจายอยู่รอบ ๆ เห็นท่านชัดมาก ผิวกายของท่านเป็นสีเหลืองทอง อยู่ในท่านั่งสมาธิ ให้ความรู้สึกที่ดีมาก และไม่น่าเชื่อว่าแค่หลับตาจะรู้สึกสัมผัสว่าได้บุญเยอะ จึงนึกส่งบุญไปให้แม่ อุทิศบุญไปให้พ่อ ตา ยาย ให้ทุก ๆ คนได้บุญบวชด้วย"





อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ชัญญา  อัศวธาวิต  ศูนย์อบรมวัดพระธรรมกาย ปทุมธานี

"ตอนแรกยังจับจุดไม่ได้ว่าศูนย์กลางกายอยู่ ตรงไหน อยู่ซ้ายหรืออยู่ขวา แต่พอนั่งไปเรื่อย ๆ ใจก็นิ่งมาก มันนิ่ง ๆ ลึก ๆ บอกไม่ถูก แล้วก็เห็นองค์พระเล็ก ๆ เล็กมากเท่าหัวไม้ขีด นั่งสมาธิอยู่ข้างใน แล้วก็มีจุดสว่างมาก ๆ อยู่ตรงกลางกายของท่านด้วย ตอนนั้นขนลุกซู่ไปทั้งตัว พอนั่ง นิ่ง ๆ ไปเรื่อย ๆ ก็มีองค์พระอีกองค์แว็บขึ้นมาคลุมกายไว้ แล้วตัวดิฉันก็ค่อย ๆ กลายเป็นแก้วใส มีสีฟ้าอ่อน ๆ ตอนนั้นรู้สึกปีติใจมากจนน้ำตาไหล เหมือนเราได้พบกับสิ่งที่แสวงหามานาน พอลืมตาแล้วองค์พระก็ยังอยู่ ความปีติก็ยังอยู่ ดิฉันมองโลก สดใสขึ้น ความทุกข์ร้อนในใจก็หายไปหมด ตอนนี้มีความสุขมากค่ะ"


อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ภควรรณ สมิทธิการ  ศูนย์อบรมวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร

"เวลานั่งสมาธิ ดิฉันจะนึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นึกถึงความดีที่เราเคยทำ แล้วก็ปล่อยใจให้นิ่ง ๆ เอาจิตมาไว้ตรงศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ จนวันหนึ่ง ขณะที่ดิฉันกำลังมองดวงแก้วอยู่ ใจก็นิ่งมาก นิ่งสุด ๆ อยู่ดี ๆ ก็มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่เท่าโบสถ์ ผุดขยายขึ้นมาเป็นภาพซ้อน ๆ กัน ดิฉันเห็นท่านเป็นแก้วใส ๆ ทั้งองค์ ชัดมาก ๆ ตอนนั้นปีติมาก คิดว่าถ้าเราเป็นผู้ชายจะออกบวชเลย มันบอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ ว่าทำไมถึงมีความสุขจัง เป็นความสุขที่ไม่เคยเจอมาก่อน แล้วก็อยากแบ่งความสุขนี้ให้กับทุกคนค่ะ ดิฉันอยากให้เพื่อน ๆ หน่ออ่อนทั่วประเทศขยันนั่งสมาธิ ถ้าทำจริง ตั้งใจจริง ต้องเข้าถึงได้ทุกคน แม้จะจบโครงการแล้ว ดิฉันก็จะนั่งสมาธิให้ต่อเนื่อง จะทำความดีให้ได้ตลอดปี ตลอดไป จะได้ไม่เสียทีที่ได้มาบวชเป็นอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนค่ะ "





อย่างไรก็ตาม แม้ที่ศูนย์อบรมในต่างจังหวัด ผู้เข้าอบรมก็สามารถปฏิบัติและเข้าถึงความสุขภายในได้ไม่ต่างจากส่วนกลาง ดังเช่น อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน อัมพร ขันทะวิชัย ศูนย์อบรมวัดบ้านหนอง ปลาดุก จังหวัดนครพนม

"มาอบรมครั้งนี้ ดิฉันได้นั่งสมาธิตามเสียงของหลวงพ่อ หลวงพ่อบอกให้หลับตานิ่ง ๆ ทำตัวเบา ๆ ดิฉันก็ทำตาม แล้วใจมันก็นิ่งไปเอง ไม่คิดอะไรเลย สักพักก็เห็นแสงสว่างเจิดจ้าพุ่งออกมาจากในตัว แล้วก็เห็นดวงแก้วลอยมาแต่ไกล ดิฉันก็มองตามนิ่ง ๆ ไม่ให้คลาดสายตา มองไปมองมาก็เห็นดวงแก้วเต็มไปหมด ลูกเล็กก็มี ลูกใหญ่ก็มี พอภาวนา สัมมา อะระหัง อยู่ ก็เห็นองค์พระสีเหลืองทอง ลอยอยู่ข้างหน้า แป๊บเดียวก็เข้ามานั่งอยู่ตรงเหนือสะดือ นิ้วมือ ดิฉันก็งง ..ไม่รู้ท่านเข้ามาได้อย่างไร แต่ตอนนั้นใจนิ่งมาก ใจอยู่กับตัวไม่ไปไหนเลย แล้วยิ่งนิ่ง ตัวก็ยิ่งเบา องค์พระก็ชัดขึ้น ใสขึ้น ลักษณะของท่านที่ดิฉันเห็นเหมือนพระพุทธรูปที่อยู่ที่วัดพระธรรมกาย เป็นแก้วใส ๆ ทั้งองค์ ใหญ่ประมาณ ๔ นิ้วมือ นั่งสมาธิหันหน้าไปทางเดียวกันกับดิฉัน เวลามององค์พระ ใจมันจะอิ่ม ๆ ดีใจ ภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก แล้วรู้สึกว่าใจดีขึ้น เย็นขึ้น ความโกรธก็ลดลงไปด้วย ตอนนี้ไม่ว่าจะทำอะไร องค์พระก็ยังอยู่ แล้วดิฉันก็จะหมั่นนึกถึงท่านเสมอ"


จากภายในตน...สู่บุคคลรอบข้าง...
ขยายกว้างสู่ชุมชน

เมื่ออุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนได้ประสบกับความสุขภายในตนแล้ว ย่อมจะเกิดความรู้สึกของการเป็นผู้ให้ คืออยากจะให้ผู้อื่นมีความสุขเช่นตนเอง หรือแม้กระทั่งอยากจะให้สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นกับสังคมและสิ่งแวดล้อมรอบข้าง  ดังนั้น  ศูนย์อบรมหลายแห่งจึงจัดกิจกรรมเดินธรรมจาริก เพื่อไปช่วยพัฒนาวัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง ดังเช่น ศูนย์อบรมจังหวัดอุบลราชธานีที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นต้นแบบต้นบุญหนุนนำค้ำจุนพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะในอำเภอน้ำขุ่น  โครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนครั้งนี้ ถือว่าได้ยกระดับของจิตใจผู้คนให้สูงขึ้น โดยเหล่าอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนได้รวมพลังธรรมจาริกไปพัฒนาวัดซำสะกวยน้อย จากวัดรกร้างจนกลายเป็นวัดสะอาดสะอ้านและเป็นศรีสง่าแก่ชุมชน

ส่วนอีกแห่งหนึ่ง อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ยอดทหารหญิงจักรพรรดิ จากศูนย์อบรมวัดเขาจินดาราม อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ได้พร้อมใจกันไปพัฒนาวัดเขาพระศรีรัตนาราม อำเภอบ่อพลอย  ซึ่งเป็นวัดใกล้ร้างให้คืนความสว่างไสว โดยเปิดตัวการเดินทางอย่างกระหึ่มกึกก้อง  ด้วยขบวนสุภาพสตรีสีขาว มือขวาถือไม้กวาด มือซ้ายถือบุ้งกี๋ มุ่งหน้าไปด้วยหัวใจที่เบิกบาน ก้าวเดินไปด้วยความภาคภูมิใจ  พร้อมกับประกาศก้องด้วยว่า จะมีการพัฒนาวัด  แถมยังประกาศเชิญชวนชายแมนแมนให้มาบวชแสนรูปเข้าพรรษาไปด้วย ทำให้ไม่ว่าขบวนสุภาพสตรีสีขาวก้าวไปทางไหน ก็จะได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก  ชาวบ้านที่พบเห็นต่างก็พากันโจษขาน ว่า “นั่นไง ๆ ...อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน เขาบอกว่าจะมาช่วยพัฒนาวัดบ้านเรา”





อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนอีกท่านหนึ่งเล่าว่า “พวกเราเดินกันเป็นแถวเป็นแนวพร้อมเพรียง สวยงามจริง ๆ แม้แดดจะร้อน  แต่ใจเราไม่ร้อนเลยสักนิด มีแต่ความภาคภูมิใจที่จะได้ไปพัฒนาวัด ขนาดอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนรุ่นป้า รุ่นยาย ก็ไม่มีใครยอมขึ้นรถสักคนเดียว  ทุกคนอยากร่วมกันเดิน อยากแสดงพลังเพื่อประกาศให้โลกได้รู้ว่า ขณะนี้ พระพุทธศาสนากำลังเฟื่องฟู และพวกเรากำลังจะไปช่วยกันพัฒนาวัดให้รุ่งเรือง

“ดิฉันได้รับบุญขัดห้องน้ำ  แต่ตอนที่ไปเห็นสภาพของห้องน้ำครั้งแรก โอ..เข่าแทบทรุด แต่ทุกคนก็ทำกันอย่างเต็มที่ ทำไปก็อธิษฐานจิตไป ทำจนห้องน้ำสะอาดหมดจด แล้วกลิ่นยังหอมมาก ๆ ด้วยนะคะ  ขนาดลูกผู้หญิงยังมาช่วยกันพัฒนาวัดได้ขนาดนี้แล้ว แล้วลูกผู้ชายแมนแมนล่ะคะ อย่าปล่อยให้ตัวเองพลาดโอกาสที่จะมาบวชในรุ่นเข้าพรรษา  ขอให้มาช่วยกันฟื้นฟูพระพุทธศาสนาจะได้เดินธุดงค์ธรรมชัยไปพัฒนาวัดให้รุ่งเรือง  แล้วจะรู้ว่าชีวิตนี้น่าภูมิใจขนาดไหน”

อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนท่านหนึ่งเล่าให้ฟังอีกว่า “พอมาเห็นวัดแล้วรู้สึกเป็นห่วงมาก แต่เดิมวัดนี้เป็นวัดที่สวยงาม อยู่บนเขา อากาศดีมาก  แต่วันเวลาผ่านไป พระลดลง คนก็เข้าวัดลดลง  การมาพัฒนาวัดในครั้งนี้ จึงเป็นความภาคภูมิใจครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิต ต่อไปชาวบ้านในชุมชนคงอยากเข้าวัดมากขึ้น แล้วพวกเขาก็จะพูดกันว่า “วัดนี้สะอาดแล้ว ได้รับการพัฒนาแล้ว เพราะอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน” ต้องกราบขอบพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างสูงค่ะ ที่ให้บุญใหญ่แก่ลูก ๆ อุบาสิกาแก้ว  ด้วยการให้ออกมาพัฒนาวัด  ถ้าไม่มีโครงการของหลวงพ่อ ลูก ๆ ก็คงจะได้ทำความสะอาดแต่บ้านของตัวเอง และคงจะไม่รู้ว่า ความปลื้มใจที่ได้พัฒนาวัดนั้นยิ่งใหญ่และประทับใจขนาดไหน ลูก ๆ ทุกคนสัญญาว่าจะทำหน้าที่เพื่อพระพุทธศาสนาอย่างหนักจริงใจตลอดไปค่ะ”


พระครูธรรมธรเสนาะ  ธมฺมธีโร  เจ้าอาวาสวัดเขาพระศรีรัตนาราม ได้กล่าวชื่นชมถึงอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนทุกคนว่า “หลวงพ่อรู้สึกดีใจ ภูมิใจ ที่เห็นอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนมาช่วยหลวงพ่อพัฒนาวัด เพราะตัวหลวงพ่อเองกำลังก็ถดถอยลง พัฒนาได้ในพื้นที่ที่จำกัด วัดจึงรกร้าง ดูน่ากลัว ชาวบ้านเลยไม่เข้าวัด  แต่ตอนนี้ไม่แล้วนะ วัดสว่างแล้ว หญ้าที่เคยรกก็หายหมด ห้องน้ำที่สกปรกก็สะอาด โบสถ์ วิหารก็สดใสสะอาดตาไปทุกแห่ง อนุโมทนาบุญกับอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนด้วย”

จากชุมชนสู่สังคม ประเทศชาติ และชาวโลก

กิจกรรมทางพระพุทธศาสนาที่เกิดขึ้นแต่ละโครงการ มิใช่เรื่องของ “ผลประโยชน์” แต่เป็นเรื่องของการสร้าง “คุณประโยชน์”  ให้เกิดแก่สังคม  โครงการทางธรรมะเป็นกิจกรรมแห่งความเอื้อเฟื้อและมีแต่ความรู้สึกของการเป็นผู้ให้  โดยเริ่มจาก การที่ตนเองได้รับประสบการณ์ภายในอันสงบร่มเย็นด้วยสันติสุขแล้ว ต่างก็ปรารถนาจะเผื่อแผ่ความสุขสงบนี้ไปยังบุคคลรอบข้าง และแผ่ขยายกว้างไกลจนกลายเป็นคลื่นแห่งสันติสุขที่กำลังรุกคืบไปทุกพื้นที่ของโลก ซึ่งอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนทั้งหลายคงจะจำวันแห่งประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของชีวิต คือ วันอาทิตย์ต้นเดือนที่ ๕  มิถุนายน พงศ. ๒๕๕๔ ที่ผู้มีบุญทุกท่านต่างเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศและพร้อมเพรียงกัน ณ วัดพระธรรมกาย  นอกจากพวกเราทั้งหลายจะได้ร่วมประพฤติปฏิบัติธรรมร่วมกันแล้ว  ในค่ำคืนแห่งราตรีสีขาว เหล่าอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนในชุดขาวบริสุทธิ์สง่าต่างนั่งสงบนิ่งรายล้อมไปทั่วลานธรรม มหาธรรมกายเจดีย์ ได้จุดโคมธัมมจาริณีประทีป และร่วมกันกล่าวคำปฏิญาณตนเพื่อตอกย้ำมโนปณิธานไว้ว่า

“ข้าพาเจ้า อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนทั้งหลายขอปฏิญาณตนไว้ ณ ที่นี้ว่า

ข้าพเจ้าจะธำรงรักษาและเทิดทูนฐานะแห่งความเป็นอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ยอดทหารหญิงจักรพรรดิ ด้วยความภาคภูมิใจ และจะมุ่งมั่นตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ที่จะทำหน้าที่อุบาสิกาแก้ว เพื่อกอบกู้และฟื้นฟูพระพุทธศาสนา  ด้วยการชักชวนและนำพาผู้ชายผู้มีบุญทั้งหลาย ให้มาร่วมบรรพชาอุปสมบท เพื่อฟื้นฟูประเพณีการบวชทั้งพรรษา อยู่รับกฐิน และออกเดินธุดงค์ ให้หวนกลับคืนมาใหม่อย่างเต็มที่ เต็มกำลัง เพื่อกอบกู้พระพุทธศาสนาให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองใหม่ เหมือนยุคบรรพบุรุษของเรา  ขอให้ความปรารถนาทั้งปวง ที่ข้าพเจ้าทั้งหลายทุ่มเทและมุ่งมั่นเชิญชวนผู้ชายผู้มีบุญให้มาบวชในครั้งนี้  จงเป็นผลสำเร็จ  จงเป็นผลสำเร็จ  จงเป็นผลสำเร็จอย่างง่ายดายเป็นอัศจรรย์

ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนถวายเป็นพุทธบูชา และฟื้นฟูกอบกู้พระพุทธศาสนาในครั้งนี้  จงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าทั้งหลายประสบแต่ความสุข ความเจริญ ความสำเร็จในชีวิต ทั้งธุรกิจการงาน เรื่องครอบครัว ให้เป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญค้ำจุนพระพุทธศาสนา ให้มีดวงตาเห็นธรรม เข้าพระธรรมกายอย่างสะดวกสบายอย่างง่ายดาย ให้ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ตราบถึงที่สุดแห่งธรรมเทอญ”



ขออนุโมทนากับอุบาสิกาแก้ว ทหารกล้า ยอดทหารหญิงจักรพรรดิ ผู้บังเกิดขึ้นในยุคที่พระพุทธศาสนากำลังต้องการการฟื้นฟูให้ย้อนกลับมาเจริญรุ่งเรืองดุจดั่งสมัยพุทธกาล  ภาพแห่งความงดงามและความพร้อมเพรียงกัน  จนปรากฏเป็นพลังอันมหาศาลในครั้งนี้ คือตำนานอันสูงค่าแห่งการจดจารึกไว้ในความทรงจำ และคือความภูมิใจของอนุชนคนรุ่นหลังที่จะยึดถือเป็นแบบอย่างและจักดำเนินรอยตามสืบไปตราบสิ้นกาลนาน..



Cr. พระสมศักดิ์  จนฺทสีโล
วารสารอยู่ในบุญ  ฉบับที่ ๑๐๕  เดือนกรกฎาคม  พ.ศ. ๒๕๕๔ 
อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ผู้สร้างตำนาน ยอดแห่งทหารหญิงจักรพรรดิ อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน  ผู้สร้างตำนาน ยอดแห่งทหารหญิงจักรพรรดิ Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 00:31 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.