หักดิบแล้วเป็นเศรษฐี
หักดิบแล้วเป็นเศรษฐี
การหยิบยื่นของสูบที่เป็นอันตราย ยังคงดําเนินไปในทุกราตรี ระทึก มืดสลัว และระรัว ด้วยเสียงเพลง อีกโต๊ะกําลังสาธิตถึงวิธีการสูบ อุปกรณ์ทําลายสุขภาพ โดยการไม่คาบที่ปลายก้นกรองตรงๆ แต่หนีบมันไว้ระหว่างนิ้วก้อยกับนิ้วนาง แล้วกํามือเป็นกําปั้นหลวมๆ จ่อปากลงบนรูด้านบนระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ ก่อนสูดหายใจทางปากลึกๆ
หลายกลุ่มหลายอาชีพถูกปลูกฝังว่าให้นัดพบลูกค้าที่นี่ เพื่อเจรจาเซ็นสัญญารับงานใหญ่ๆ โดยเข้าใจไปเองว่า นี้แหละ..! คือถิ่นที่เหมาะสมในการเชื่อมสัมพันธไมตรี เพื่อล็อบบี้ (lobby) งานมาเป็นของเรา
และหนุ่มวิศวกรคนนี้ก็เช่นกัน คุณพิพัฒน์ พรพิทยากุล เจ้าของบริษัท สยามไทธรรม์ จํากัด ซึ่งเมื่อก่อนเขาหลงเข้าใจผิดไปกับความคิดดังกล่าว แล้วก็ประสบกับความล้มเหลวในชีวิตซ้ำๆ โดยไม่รู้สาเหตุมาตลอด จนในที่สุดเขาพบคําตอบจากผลของการ “หักดิบ” เลิกอบายมุขทุกชนิด และหันมาทําบุญทุ่มเทอย่างเต็มกําลัง จนในที่สุด สามารถพลิกชีวิตจากคนล้มเหลวไม่มีอะไรให้กลับเป็นมหาเศรษฐีหลายล้าน !!
“ผมได้มาวัดตั้งแต่สมัยผมเป็นนักศึกษาแต่หลังจากเรียนจบทํางานแล้วไม่ได้มาวัดพระธรรมกายอีกเลยถึง ๗ ปี ชีวิตตอนนั้นหันไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขทุกรูปแบบ เพื่อนชวนไปทุกวัน ผมก็ไม่ขัดหรืออาจเป็นเพราะสายอาชีพด้วย ที่ปลูกฝังกันมาว่าให้นัดลูกค้า เพื่อนฝูง แล้วก็ล็อบบี้งานกันที่นั้น ผมเปลี่ยนหลายอาชีพ ตั้งแต่ร้านอาหาร ขายแอร์คอนดิชั่นทุกอย่าง ขาดทุนหมด จนกระทั่งมาทําบ้านจัดสรร ซึ่งคาดการว่าจะไปได้สวย ขายได้เป็น ๑๐๐ ยูนิต แต่สุดท้ายเพื่อนโกงไปจนหมด ต่อมาก็หาลู่ทางอื่น มาลงทุนรับเหมาก่อสร้างกับเพื่อนอีกคน โครงการนี้ดูดีมาก มูลค่ากว่า ๑๐๐ ล้าน บริษัทนี้มีความพร้อมมากทั้งคน ทั้งการบริหาร ทั้งเงินทุน แบคอัพ (back up) ก็ดี แต่สุดท้ายคือบริษัทเจ๊ง..
ตอนนั้นผมแทบไม่เหลืออะไรเลยตัดสินใจเสี่ยงดูอีกครั้ง หุ้นกับเพื่อนทําต่อแล้วก็ไปไม่รอดอีก ขาดทุนมาก เลยทําให้ต้องถอนตัวออกมา... ประกอบกับเป็นช่วงที่คุณพ่อของผมป่วยมาก รู้สึกเลยว่าชีวิตตัวเองอยู่ในสภาวะที่แย่เอามากๆ มันทําให้ผมกลับมาฉุกคิดว่า ทํามากี่อย่างๆ ทําไมเจ๊งหมดทุกอย่าง เป็นเพราะอะไร..? ผมเลยตัดสินใจเลิกเลยครับ อบายมุขทุกชนิดเลิกหมด เลิกแบบหักดิบทันที ไม่เอาเลย เหล้าไม่กิน ไม่เที่ยว บาร์ไนท์คลับไม่ไปเลย เพื่อนโทรมาชวนทุกวันเป็นเดือนก็ไม่ไป เพราะรู้สึกแล้วว่าชีวิตไม่ดีขึ้นเลย ไม่ได้ช่วยให้หายทุกข์ เพลินแบบหลอกตัวเองแล้วยังทําให้ชีวิตแย่ลงทุกวัน แต่ละวันนึกถึงบุญไม่ออกเลย ใจเศร้าหมอง เหมือนทําในสิ่งไม่ดีก็ดึงดูดสิ่งไม่ดีเข้ามาหา งานที่รับมาก็มีแต่ปัญหาโดนโกงโดนหลอก ขาดทุนตลอด แล้วในชีวิตช่วงนั้นก็เหมือนบุญมาเตือน คือมีกัลยาณมิตรมาชวนผมไปปฏิบัติธรรม ๓ วัน ผมตัดสินใจไปเลยครับ ทําให้ได้ทบทวนอะไรหลายอย่างแล้วเกิดความคิดว่าอยากจะสร้างบุญใหญ่ๆ เพราะคิดว่าที่ทํางานอะไรไม่สําเร็จทุกวันนี้ เพราะเราขาดบุญใหญ่มารองรับ เราบุญน้อยมันก็ไม่สามารถรองรับสมบัติใหญ่ๆ ได้ ทําอะไรมันก็ขาดทุนหมด ก็เลยทุ่มเททําบุญเสาเข็มสร้างวิหารหลวงปู่วัดปากน้ำไป ๑ แสนบาท ทั้งๆ ที่เงินแทบไม่เหลือแล้วตอนนั้น แต่ผลจากการทําบุญตรงนี้เอง ส่งผลให้ชีวิตผมดีขึ้นมาก คือไม่นานนักก็มีงานเข้ามาเองโดยไม่ต้องไปล็อบบี้งาน ไม่ต้องนัดลูกค้าไปสังสรรค์ในสถานที่อโคจรอย่างเคยๆ ซึ่งตอนนั้นแปลกมาก!! ผมยังไม่มีบริษัทเป็นของตัวเองเลยครับ ยังยืมออฟฟิศเพื่อนรับงาน คนงานก็ยืมของเพื่อน รับงาน ๔ ล้านบาท บุญส่งผลจริงๆ คือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ทําให้ผมรู้จักคําว่า “กําไร” ชีวิตก็เลยหันมาเข้าวัดตลอด หันมาทําหน้าที่ผู้นําบุญชวนคนสร้างพระได้กว่า ๑๐๐ องค์ เปิดศูนย์ปฏิบัติธรรม บุญส่งผลให้ผมตั้งบริษัทเป็นของตัวเองได้ นับจากนั้น ชีวิตก็ดีขึ้นอย่างมาก ได้รับงานใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ บุญก็ทําทุกบุญไม่เคยขาดเลย ทําเต็มที่ทุกบุญ จนบุญล่าสุดคือ พิธีจุดไฟแก้วงานคุณยายกับบุญกฐินสามัคคี ทุ่มสุดๆ คิดทําก่อนด้วย อานิสงส์ส่งแรงมาก คือบริษัทผมเป็นบริษัทคนไทยเล็กๆ จะไปประมูลงาน คนรับงานเขาก็บอกผมว่า...จะสู้บริษัทใหญ่ๆ ๕-๖ บริษัทได้หรือ..? แต่ถ้าอยากลองๆ มาเสนอดู ผมก็ทําตามสูตรที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านบอก คือทําใจสบายๆ นึกถึงบุญ นั่งสมาธิ อธิษฐานกับเหรียญสําเร็จแล้วก็เข้าไปเสนองานกับฝรั่ง ตอนไปเสนอนี่...ฝรั่งบอกว่า เขาไม่มีเวลานั่งฟังผม ผมเลยไม่ได้ไปอธิบายงานในห้อง ได้แต่ยื่นเอกสารให้เขาดู พูดอะไรได้ไม่มาก แต่สุดท้ายก็มีคนโทรมาบอกว่าฝรั่งเขาพอใจบริษัทคุณมากที่สุด และให้ผมรับงานนี้ทั้งที่ราคาที่ผมเสนอไปไม่ได้เป็นราคาต่ำที่สุด แต่เป็นราคากลางๆ แต่บริษัทผมกลับได้ แปลกมากเลยครับแทบไม่น่าเชื่อ และหลังจากรับงานนี้ก็ดีมาตลอด ทุกอย่างราบรื่น แล้ววงเงินของงานนี้ขยายขึ้นมากอีกหลายเท่าตัว เป็นเรื่องที่อัศจรรย์มาก”
หากเราเลือกมองชีวิตด้วยสายตาพื้นๆ ก็คงคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่คนทั่วไปจะเลือกเสวยสุขด้วยอบายมุข และผลสุดท้ายก็พบว่าตัวเองได้ทําหน้าที่เป็นผู้ร้าย ทําร้ายตัวเองโดยสมบูรณ์
แต่ที่น่าคิดมากไปกว่านั้น คือบางคนกลับเข้าใจว่า ถ้าไม่ทําแบบนี้ เราจะเข้าสังคมไม่ได้ โดดเดี่ยว ไม่มีเพื่อน หรือมีผลทําให้หน้าที่การงานไม่เจริญก้าวหน้า แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราคิดว่าเขาจะเลือกคบเราเป็นเพื่อนหรือเลือกเพื่อนร่วมงานสักคนนั้น เขาน่าจะตัดสินใจเลือกเพราะเราเป็นคนดี มีน้ำใจ จริงใจ มีศีลธรรม มากกว่าที่จะเลือกเพราะเรากินเหล้า เข้าสังคมเก่ง เพราะเพื่อนแบบนี้ก็มักเป็นเพื่อนกินที่ดูฉาบฉวยเกินไป
กรณีตัวอย่างคุณพิพัฒน์ ก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ตั้งแต่เขาหักดิบจากอบายมุขและเปลี่ยนกลุ่มคนแวดล้อมกลุ่มใหม่ ประกอบธุรกิจกับการฝึกจิตใจไปด้วยกัน ทําให้เขาประสบความสุขความเจริญในชีวิตส่วนตัวและอาชีพการงานอย่างเห็นได้ชัดแล้วก็ร่ำรวยประสบความสําเร็จในชีวิต เป็นเศรษฐีเงินล้านมาจนถึงทุกวันนี้
เรื่อง : สำนักสื่อธรรมะ
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๒ ประจำเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
***สามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ขอให้ใส่ Cr. ผู้เขียนด้วย***
หลายกลุ่มหลายอาชีพถูกปลูกฝังว่าให้นัดพบลูกค้าที่นี่ เพื่อเจรจาเซ็นสัญญารับงานใหญ่ๆ โดยเข้าใจไปเองว่า นี้แหละ..! คือถิ่นที่เหมาะสมในการเชื่อมสัมพันธไมตรี เพื่อล็อบบี้ (lobby) งานมาเป็นของเรา
และหนุ่มวิศวกรคนนี้ก็เช่นกัน คุณพิพัฒน์ พรพิทยากุล เจ้าของบริษัท สยามไทธรรม์ จํากัด ซึ่งเมื่อก่อนเขาหลงเข้าใจผิดไปกับความคิดดังกล่าว แล้วก็ประสบกับความล้มเหลวในชีวิตซ้ำๆ โดยไม่รู้สาเหตุมาตลอด จนในที่สุดเขาพบคําตอบจากผลของการ “หักดิบ” เลิกอบายมุขทุกชนิด และหันมาทําบุญทุ่มเทอย่างเต็มกําลัง จนในที่สุด สามารถพลิกชีวิตจากคนล้มเหลวไม่มีอะไรให้กลับเป็นมหาเศรษฐีหลายล้าน !!
“ผมได้มาวัดตั้งแต่สมัยผมเป็นนักศึกษาแต่หลังจากเรียนจบทํางานแล้วไม่ได้มาวัดพระธรรมกายอีกเลยถึง ๗ ปี ชีวิตตอนนั้นหันไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขทุกรูปแบบ เพื่อนชวนไปทุกวัน ผมก็ไม่ขัดหรืออาจเป็นเพราะสายอาชีพด้วย ที่ปลูกฝังกันมาว่าให้นัดลูกค้า เพื่อนฝูง แล้วก็ล็อบบี้งานกันที่นั้น ผมเปลี่ยนหลายอาชีพ ตั้งแต่ร้านอาหาร ขายแอร์คอนดิชั่นทุกอย่าง ขาดทุนหมด จนกระทั่งมาทําบ้านจัดสรร ซึ่งคาดการว่าจะไปได้สวย ขายได้เป็น ๑๐๐ ยูนิต แต่สุดท้ายเพื่อนโกงไปจนหมด ต่อมาก็หาลู่ทางอื่น มาลงทุนรับเหมาก่อสร้างกับเพื่อนอีกคน โครงการนี้ดูดีมาก มูลค่ากว่า ๑๐๐ ล้าน บริษัทนี้มีความพร้อมมากทั้งคน ทั้งการบริหาร ทั้งเงินทุน แบคอัพ (back up) ก็ดี แต่สุดท้ายคือบริษัทเจ๊ง..
ตอนนั้นผมแทบไม่เหลืออะไรเลยตัดสินใจเสี่ยงดูอีกครั้ง หุ้นกับเพื่อนทําต่อแล้วก็ไปไม่รอดอีก ขาดทุนมาก เลยทําให้ต้องถอนตัวออกมา... ประกอบกับเป็นช่วงที่คุณพ่อของผมป่วยมาก รู้สึกเลยว่าชีวิตตัวเองอยู่ในสภาวะที่แย่เอามากๆ มันทําให้ผมกลับมาฉุกคิดว่า ทํามากี่อย่างๆ ทําไมเจ๊งหมดทุกอย่าง เป็นเพราะอะไร..? ผมเลยตัดสินใจเลิกเลยครับ อบายมุขทุกชนิดเลิกหมด เลิกแบบหักดิบทันที ไม่เอาเลย เหล้าไม่กิน ไม่เที่ยว บาร์ไนท์คลับไม่ไปเลย เพื่อนโทรมาชวนทุกวันเป็นเดือนก็ไม่ไป เพราะรู้สึกแล้วว่าชีวิตไม่ดีขึ้นเลย ไม่ได้ช่วยให้หายทุกข์ เพลินแบบหลอกตัวเองแล้วยังทําให้ชีวิตแย่ลงทุกวัน แต่ละวันนึกถึงบุญไม่ออกเลย ใจเศร้าหมอง เหมือนทําในสิ่งไม่ดีก็ดึงดูดสิ่งไม่ดีเข้ามาหา งานที่รับมาก็มีแต่ปัญหาโดนโกงโดนหลอก ขาดทุนตลอด แล้วในชีวิตช่วงนั้นก็เหมือนบุญมาเตือน คือมีกัลยาณมิตรมาชวนผมไปปฏิบัติธรรม ๓ วัน ผมตัดสินใจไปเลยครับ ทําให้ได้ทบทวนอะไรหลายอย่างแล้วเกิดความคิดว่าอยากจะสร้างบุญใหญ่ๆ เพราะคิดว่าที่ทํางานอะไรไม่สําเร็จทุกวันนี้ เพราะเราขาดบุญใหญ่มารองรับ เราบุญน้อยมันก็ไม่สามารถรองรับสมบัติใหญ่ๆ ได้ ทําอะไรมันก็ขาดทุนหมด ก็เลยทุ่มเททําบุญเสาเข็มสร้างวิหารหลวงปู่วัดปากน้ำไป ๑ แสนบาท ทั้งๆ ที่เงินแทบไม่เหลือแล้วตอนนั้น แต่ผลจากการทําบุญตรงนี้เอง ส่งผลให้ชีวิตผมดีขึ้นมาก คือไม่นานนักก็มีงานเข้ามาเองโดยไม่ต้องไปล็อบบี้งาน ไม่ต้องนัดลูกค้าไปสังสรรค์ในสถานที่อโคจรอย่างเคยๆ ซึ่งตอนนั้นแปลกมาก!! ผมยังไม่มีบริษัทเป็นของตัวเองเลยครับ ยังยืมออฟฟิศเพื่อนรับงาน คนงานก็ยืมของเพื่อน รับงาน ๔ ล้านบาท บุญส่งผลจริงๆ คือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ทําให้ผมรู้จักคําว่า “กําไร” ชีวิตก็เลยหันมาเข้าวัดตลอด หันมาทําหน้าที่ผู้นําบุญชวนคนสร้างพระได้กว่า ๑๐๐ องค์ เปิดศูนย์ปฏิบัติธรรม บุญส่งผลให้ผมตั้งบริษัทเป็นของตัวเองได้ นับจากนั้น ชีวิตก็ดีขึ้นอย่างมาก ได้รับงานใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ บุญก็ทําทุกบุญไม่เคยขาดเลย ทําเต็มที่ทุกบุญ จนบุญล่าสุดคือ พิธีจุดไฟแก้วงานคุณยายกับบุญกฐินสามัคคี ทุ่มสุดๆ คิดทําก่อนด้วย อานิสงส์ส่งแรงมาก คือบริษัทผมเป็นบริษัทคนไทยเล็กๆ จะไปประมูลงาน คนรับงานเขาก็บอกผมว่า...จะสู้บริษัทใหญ่ๆ ๕-๖ บริษัทได้หรือ..? แต่ถ้าอยากลองๆ มาเสนอดู ผมก็ทําตามสูตรที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านบอก คือทําใจสบายๆ นึกถึงบุญ นั่งสมาธิ อธิษฐานกับเหรียญสําเร็จแล้วก็เข้าไปเสนองานกับฝรั่ง ตอนไปเสนอนี่...ฝรั่งบอกว่า เขาไม่มีเวลานั่งฟังผม ผมเลยไม่ได้ไปอธิบายงานในห้อง ได้แต่ยื่นเอกสารให้เขาดู พูดอะไรได้ไม่มาก แต่สุดท้ายก็มีคนโทรมาบอกว่าฝรั่งเขาพอใจบริษัทคุณมากที่สุด และให้ผมรับงานนี้ทั้งที่ราคาที่ผมเสนอไปไม่ได้เป็นราคาต่ำที่สุด แต่เป็นราคากลางๆ แต่บริษัทผมกลับได้ แปลกมากเลยครับแทบไม่น่าเชื่อ และหลังจากรับงานนี้ก็ดีมาตลอด ทุกอย่างราบรื่น แล้ววงเงินของงานนี้ขยายขึ้นมากอีกหลายเท่าตัว เป็นเรื่องที่อัศจรรย์มาก”
หากเราเลือกมองชีวิตด้วยสายตาพื้นๆ ก็คงคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่คนทั่วไปจะเลือกเสวยสุขด้วยอบายมุข และผลสุดท้ายก็พบว่าตัวเองได้ทําหน้าที่เป็นผู้ร้าย ทําร้ายตัวเองโดยสมบูรณ์
แต่ที่น่าคิดมากไปกว่านั้น คือบางคนกลับเข้าใจว่า ถ้าไม่ทําแบบนี้ เราจะเข้าสังคมไม่ได้ โดดเดี่ยว ไม่มีเพื่อน หรือมีผลทําให้หน้าที่การงานไม่เจริญก้าวหน้า แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราคิดว่าเขาจะเลือกคบเราเป็นเพื่อนหรือเลือกเพื่อนร่วมงานสักคนนั้น เขาน่าจะตัดสินใจเลือกเพราะเราเป็นคนดี มีน้ำใจ จริงใจ มีศีลธรรม มากกว่าที่จะเลือกเพราะเรากินเหล้า เข้าสังคมเก่ง เพราะเพื่อนแบบนี้ก็มักเป็นเพื่อนกินที่ดูฉาบฉวยเกินไป
กรณีตัวอย่างคุณพิพัฒน์ ก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ตั้งแต่เขาหักดิบจากอบายมุขและเปลี่ยนกลุ่มคนแวดล้อมกลุ่มใหม่ ประกอบธุรกิจกับการฝึกจิตใจไปด้วยกัน ทําให้เขาประสบความสุขความเจริญในชีวิตส่วนตัวและอาชีพการงานอย่างเห็นได้ชัดแล้วก็ร่ำรวยประสบความสําเร็จในชีวิต เป็นเศรษฐีเงินล้านมาจนถึงทุกวันนี้
เรื่อง : สำนักสื่อธรรมะ
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๒ ประจำเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
***สามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ขอให้ใส่ Cr. ผู้เขียนด้วย***
คลิกบทความได้ที่นี่ https://dhamma-media.blogspot.com/2019/06/blog-post_54.html
คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญ ในรูปแบบของ PDF
https://drive.google.com/file/d/180mXoDuS-x8N1bxuqpAOnsR1saAycwuD/view
คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญ ในรูปแบบของ E-book
http://dhammamedia.org/YNB%202545/02YNB_4512/02YNB_4512.html
คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๒ ประจำเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้ที่นี่
คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญ ในรูปแบบของ PDF
https://drive.google.com/file/d/180mXoDuS-x8N1bxuqpAOnsR1saAycwuD/view
คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญ ในรูปแบบของ E-book
http://dhammamedia.org/YNB%202545/02YNB_4512/02YNB_4512.html
- ชีวิตที่ปฏิเสธไม่ได้
- วิธีแก้ไขความจนด้วยเครือข่ายคนดี
- ได้บุญต้องใจเปิด
- เจ้าชายบัณฑิต
- ของจริงต้องพิสูจน์
- อนุโมทนาบุญกฐิน'๔๕
- หักดิบแล้วเป็นเศรษฐี
- มหาสังฆทาน ๓,๐๐๐ วัด
- สงครามชิงช่วง
- เปรตขอส่วนบุญ
คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือนของปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้ที่นี่
คลิกอ่านหรือดาวน์โหลดวารสารอยู่ในบุญประจำเดือนของแต่ละปี (ฉบับ PDF) ได้ที่นี่
หักดิบแล้วเป็นเศรษฐี
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
22:03
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: