ธุดงค์ปีใหม่ ๒๕๕๓
ผ่านพ้นเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ไปไม่นาน
แต่บรรยากาศของการเฉลิมฉลอง ซึ่งแทบทั้งโลกถือเป็นธรรมเนียมนิยมกันว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความเบิกบาน
หรรษาที่ต้องต้อนรับสิ่งดี ๆ ใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิต
ยังคงอบอวลไปด้วยความสุขและรอยยิ้มกันถ้วนหน้า เหมือนได้กลิ่นหอมสดชื่นของมวลดอกไม้นานาพันธุ์
เมื่อนึกถึงภาพแห่งความสุขในช่วงเวลาวันขึ้นปีใหม่มาเยือน แต่อย่างไรก็ตาม
เราทั้งหลายที่เป็นชาวพุทธ แม้จะสนุกสนานรื่นเริงขนาดไหน
ก็ไม่เคยละทิ้งแนวคิดและแนวทางปฏิบัติอย่างผู้มีปัญญา เพราะการวัดงบดุลกำไรชีวิตนั้น
คงไม่สามารถวัดได้เพียงทรัพย์สมบัติ หน้าที่การงาน
หรือยศถาบรรดาศักดิ์ที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ความสุขที่เกิดขึ้นจากจิตใจที่ดีงาม
ด้วยการกลั่นใจให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ มีการบำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
เป็นเบื้องต้น สิ่งนี้ต่างหากที่เป็นกำไรชีวิตที่แท้จริง เป็นกำไรที่เราตักตวงใช้อย่างไม่มีวันหมด
เพราะเมื่อนึกถึงครั้งใด ใจก็ขยายกว้างขวางไร้ขีดจำกัด
มีกำลังใจที่จะทำความดีต่อไป แม้ไม่มีใครเห็นหรือคอยชื่นชม
ดังเช่น
ภาพความประทับใจในบุญกุศลที่เกิดขึ้นของการอยู่ธุดงค์ปีใหม่ ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา
ตั้งแต่วันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ จนถึงวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓
ซึ่งทุกวินาทีตั้งแต่ตื่นนอน จนกระทั่งเข้านอน ถูกกลั่นเป็นบุญกุศลล้วน ๆ
ที่เชื่อมั่นว่ายังคงสว่างไสวอยู่ในดวงใจของผู้มีบุญทุกคนอยู่เสมอ
๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๒
เริ่มต้นตั้งแต่การลงทะเบียนการอยู่ธุดงค์
ตั้งแต่เวลา ๑๕.๓๐ น. ณ สภาธรรมกายสากล บริเวณทิศตะวันออก ฝั่งครุฑ และพักค้าง ณ
พื้นที่ตั้งวิหารน้อย ในลานธรรม มหาธรรมกายเจดีย์ และมหารัตนวิหารคด
เห็นยอดนักสร้างบารมีทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่วัยเด็กเล็กไปจนถึงวัยคุณปู่ คุณย่า
หลายท่านมากันเป็นครอบครัว ต่างทยอยกันมาลงทะเบียนอย่างไม่ขาดสาย พกพากระเป๋าเพียงไม่กี่ใบกับรอยยิ้มบนใบหน้า
มาอยู่ธุดงค์ปีใหม่กันอย่างคึกคักเบิกบาน การเข้ามาสู่บรรยากาศการอยู่ธุดงค์
ทำให้รู้สึกเปลี่ยนชีวิตประจำวันที่เคยเป็นอยู่มาสู่บรรยากาศใหม่ที่ให้ความรู้สึกสงบสุขอย่างบอกไม่ถูก
จากที่เคยอยู่บ้านหลังใหญ่มาอยู่กลดหลังน้อยขนาดพอนอนได้หนึ่งคนพอดี
มีเครื่องใช้ส่วนตัวเท่าที่จำเป็น ทำให้เห็นความจริงว่า
แท้จริงแล้วชีวิตคนเราไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย มีบ้านหลายหลังก็อยู่ได้ทีละหลัง
มีรถหลายคันก็ขับได้ทีละคัน มีเสื้อผ้าหลายชุดก็ใส่ได้ทีละชุด นอกเหนือจากปัจจัย ๔
ในการดำรงชีวิตแล้ว ก็มีเพียงแคใจดวงนี้ที่เราต้องรักษาให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ
การอยู่ธุดงค์นับเป็นกุศโลบายวิธีกำจัดขัดเกลากิเลส ทำให้เกิดความมักน้อยสันโดษ
ไม่สะสม เพื่อให้เบาสบาย ไปมาสะดวกเพราะไม่มีภาระมาก เหมือนนกที่บินไปมีเพียงปีกกับหาง
มีความปลอดกังวล ใจเป็นอิสระ ละคลายความยึดมั่นถือมั่น ทำให้ใจหยุด ใจนิ่ง
ประพฤติปฏิบัติธรรมได้โดยง่าย
พอตกค่ำต่างก็ทยอยกันเข้าโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา และสวดมนต์ทำวัตรเย็น
นั่งสมาธิแผ่เมตตาก่อนนอนหลับในอู่แห่งทะเลบุญ
๓๑ ธันวาคม
๒๕๕๒
วันนี้...
นอกจากจะปฏิบัติกิจวัตรกิจกรรมตามปกติแล้ว ภาคบ่ายยังได้ฟังพระธรรมเทศนาจากหลวงพ่อทัตตชีโว
ท่านได้บรรยายธรรมให้เราได้เข้าใจถึงความสำคัญของวันขึ้นปีใหม่ที่มีต่อนักสร้างบารมี
ว่าช่วงเวลาที่เกิดมาเป็นมนุษย์นั้นน้อยนัก เดี๋ยววันเดี๋ยวคืน
เหมือนสายน้ำไม่เคยไหลย้อนกลับ เราจึงต้องดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ตั้งใจสั่งสมบุญทุกบุญอย่างเต็มที่
เมื่อถึงวันปีใหม่ทุกปี ลองกลับมานึกทบทวนงบบุญชีวิตของเราว่าได้มีการพัฒนาไปอย่างไร
แล้วเราต้องแก้ไขข้อบกพร่องอะไรบ้าง เพื่อใช้เวลาทุกอนุวินาทีที่ผ่านไปให้มีคุณค่าสมกับที่เกิดมาสร้างบารมี
นอกจากนี้พวกเรายังได้เข้าใจถึงสถานการณ์พระพุทธศาสนาในปัจจุบัน
และการริเริ่มโครงการอุปสมบทหมู่ ๑๐๐,๐๐๐ รูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย จะช่วยฟื้นฟูศีลธรรมโลกให้กลับคืนมาอย่างไร
ทำให้รู้สึกว่าได้ความรู้ที่มีคุณค่าอย่างมาก
และภาคเย็นยังได้รับบุญพับจีวรในโครงการอุปสมบทหมู่
๑๐๐,๐๐๐ รูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย ที่ด้านข้างบ้านแก้วเรือนทองของคุณยาย
วันนี้มีสาธุชนมารับบุญพับจีวรกันเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าเกือบทุกคนที่มาอยู่ธุดงค์ปีใหม่เลยก็ว่าได้
เพราะคงไม่มีใครอยากจะพลาดบุญสำคัญนี้ การเป็นหญิงได้เพียงจับต้องผ้าจีวรก็รู้สึกว่ามีบุญมาก
เพราะไม่มีโอกาสได้บวช ยิ่งรู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของผู้สถาปนาโครงการอุปสมบทหมู่
๑๐๐,๐๐๐ รูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทยให้สำเร็จ
ยิ่งรู้สึกปีติภาคภูมิใจอย่างมาก ตั้งใจว่าผ้าจีวรทุกผืนที่เราได้พับ
จะทำให้ดีที่สุด สวยที่สุด ประณีตที่สุด
พับจีวรไปใจก็นึกถึงบุญกุศลไปด้วย
ถึงแม้กาลเวลาจะล่วงเลยมากว่า ๒,๕๐๐
ปีแล้ว แต่ภาพของพระภิกษุผู้สงบจากความเร่าร้อนในทางโลกนุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์เรียบร้อย
มีมารยาท สำรวมระวัง ในกิริยาอาการของการยืน เดิน นั่ง ประพฤติตนเป็นผู้ไม่เห็นแก่นอน
ถือการบำเพ็ญเพียรทางจิตเป็นหน้าที่หลักสำคัญของชีวิตนักบวช
ยังคงเป็นภาพที่น่าเลื่อมใสศรัทธาของชาวพุทธอยู่เสมอ
คุณค่าของผ้ากาสาวพัสตร์ที่เราร่วมพับจัดแจงให้เรียบร้อยในวันนี้
คงไม่อาจประเมินค่า หรือตีราคา มุ่งพิจารณาความประณีตของเนื้อผ้า เพราะไม่อาจมองเห็นคุณค่าอันแท้จริงที่แฝงอยู่ในผ้าสีย้อมฝาดนี้ได้
แต่หากพิจารณาถึงหน้าที่อันสำคัญที่ผู้บวชเป็นพระภิกษุจะต้องประพฤติปฏิบัติภายหลังจากที่ได้ห่มผ้ากาสาวพัสตร์
ย่อมมองเห็นเนื้อแท้อันแสนบริสุทธิ์ของเนื้อผ้าจีวรทุกผืน
ที่บันดาลความน่าเลื่อมใสให้เกิดขึ้นแก่ผู้พบเห็นได้ อย่างเช่นวันนี้
ไม่ว่าจะมองไปทางไหนเห็นแต่รอยยิ้มอิ่มบุญของยอดนักสร้างบารมีที่ต่างช่วยกันพับผ้าจีวรอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
เพราะมีบุญเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงใจนั่นเอง
๑ มกราคม
๒๕๕๓
กิจกรรมในภาคเช้า
หลังจากทำวัตรเช้าและนั่งสมาธิแล้ว เหล่าสาธุชนต่างเดินทางมาตักบาตรปีใหม่ร่วมกัน
ณ ลานธรรม มหาธรรมกายเจดีย์ ในปีนี้มีสาธุชนมาตักบาตรกันเป็นจำนวนมาก เพราะคุณครูไม่ใหญ่สอนให้เรารู้ว่า
บุญเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งที่แท้จริงให้กับเราได้ ใคร ๆ ก็ต้องสร้างบุญ ภาพพระสงฆ์เดินเรียงเป็นทิวแถวด้วยกิริยาสำรวม
สีเหลืองเรืองรองของผ้ากาสาวพัสตร์ ตัดกับสีฟ้าใสของท้องฟ้าในยามเช้า ช่างเป็นความงดงามของวันขึ้นปีใหม่ที่อิ่มเอมด้วยบุญกุศลอย่างยิ่ง
ภาพสาธุชนในชุดขาวราวดอกมะลิฉาบไล้ด้วยแสงเงิน แสงทองของดวงตะวัน และสายหมอกจาง ๆ
ทำให้ภาพดูนุ่มนวลน่าประทับใจ สองมือของท่านทานบดี
บรรจงประคองสิ่งของวางลงไปในบาตร ตัดขาดออกไปจากใจ พร้อม ๆ กับกระแสบุญหลั่งไหลสู่ศูนย์กลางกายอย่างทับทวี
หมอกยามเช้าที่ทำให้ชาวไทยทั้งประเทศ
หันมาระลึกถึงบุญ และร่วมกันสร้างบุญอย่างเต็มกำลัง
ตามแต่ภาวะและสถานะของตนจะเอื้ออำนวย
บุญที่เกิดขึ้นจึงนำพาความชุ่มเย็นสู่ใจของชาวไทยทุกคน บุญใหญ่ครั้งนี้จะช่วยเตือนให้เรารำลึกว่าชีวิตเป็นของน้อย
เวลาแห่งการสั่งสมบุญก็ถูกนับถอยหลังตลอดเวลา เราจึงต้องเร่งสั่งสมบุญให้ยิ่ง ๆ
ขึ้นไป ให้สมกับปี พ.ศ. ๒๕๕๓ นี้ เป็นปีแห่งการฟื้นฟูศีลธรรมโลกให้รุ่งเรืองเหมือนดังสมัยพุทธกาล
Cr. กองบรรณาธิการ
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๘๘
เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๓
ธุดงค์ปีใหม่ ๒๕๕๓
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
01:25
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: