การทำบุญกับพระภิกษุสงฆ์ ต่างกับผู้ที่มีความบริสุทธิ์หรือเปล่า





คำถาม

การทำบุญกับพระภิกษุสงฆ์ผู้บริสุทธิ์ กับการทำทานกับผู้ที่มีความบริสุทธิ์เหมือนกัน ผลบุญที่ได้รับจะเท่าเทียมกันหรือเปล่า

คำตอบ

ตรงนี้ขอฝากว่า คำว่าเนื้อนาบุญในพระพุทธศาสนา หมายถึง พระภิกษุโดยเฉพาะ หมายถึง ผู้ที่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมกัน โดยเฉพาะ ใครที่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมให้เต็มที่ เพื่อให้หมดกิเลส เพื่อให้กาย วาจา ใจ บริสุทธิ์ผุดผ่องขึ้นมา คน ๆ นั้น เรียกว่า เนื้อนาบุญ

ซึ่งจริง ๆ แล้ว ผู้ที่จะเป็นเนื้อนาบุญได้อย่างนี้ ก็มีแต่พระภิกษุ หรือในสมัยพุทธกาลก็มีภิกษุณี ถ้าจะหย่อนลงมาอีก ก็เป็นนักบวชที่เป็นสัมมาทิฐิ อย่างนี้ท่านเรียกว่าเป็นเนื้อนาบุญ คือ ถือว่าท่านที่มุ่งความบริสุทธิ์เหล่านี้ เปรียบเสมือนนาที่ปลูกข้าว แต่ว่าครั้งนี้ปลูกบุญลงไปแทน โดยญาติโยมที่มาทำบุญด้วย เป็นผู้ปลูกลงไปในเนื้อนานี้

แต่ขนาดพระยังปลูกความบริสุทธิ์ขึ้นมาได้ยากแสนยาก แล้วจะไปหาคนบริสุทธิ์ให้ได้เท่ากับพระมีหรือ ถ้ามี ก็คงจะไปมีเอายุคปลาย ๆ คือ แสดงความเป็นพระเพียงแต่ว่ามีผ้าเหลืองน้อยห้อยหู คือพระในยุคปลาย ๆ พระพุทธศาสนา ความเคร่งครัดก็หย่อนลงไปตามลำดับ ๆ เมื่อถึงยุคหนึ่ง   พระที่จะฝึกตนตามพระธรรมวินัยจะค่อย ๆ หมดไป เพราะตอนท้ายศาสนา สภาพของโลกนี้ไม่เหมาะในการประพฤติปฏิบัติธรรมแล้ว ช่วงนั้นพระที่ถือศีล ๒๒๗ ข้ออย่างเคร่งครัดคงหาไม่ได้แล้ว ท่านที่ประกาศตัวเป็นพระเหล่านั้น ไม่ใช่พระแท้ ๆ เสียแล้ว ความบริสุทธิ์ของท่าน ก็คงเทียบได้เท่ากับความบริสุทธิ์ของชาวโลกเท่านั้น

ถ้าเอาพระปลายยุคพระพุทธศาสนามาเทียบกับคนที่ใกล้เคียงกัน ถ้าอย่างนั้น ใครไปทำบุญกับท่านเหล่านั้น ก็คงจะได้บุญพอ ๆ กันกับการทำทานกับคนที่เขาตั้งใจปฏิบัติธรรม เพราะว่าพระกับคนยุคนั้นมีสภาพใกล้เคียงกันเต็มที

เหมือนอย่างปัจจุบันนี้ พระในบางประเทศท่านประกาศตัวว่าเป็นพระภิกษุ แต่ท่านก็มีลูก มีเมีย แต่ท่านก็ว่าท่านเป็นพระ ในสายตาของพระภิกษุในประเทศไทยที่ถือเคร่งครัดตามพระธรรมวินัย ก็ว่าท่านไม่ใช่พระ แต่ประชาชนชาวพุทธในประเทศนั้น ๆ ก็ยังถือว่าท่านเหล่านั้นยังเป็นพระอยู่

ในกรณีอย่างนี้ ทำบุญกับพระภิกษุประเภทนั้น กับทำบุญทำทานกับชาวบ้านที่ตั้งใจทำความดีในประเทศนั้น ซึ่งศีลคงพอ ๆ กัน ถ้าอย่างนั้นก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะได้บุญพอๆ กัน

แต่ในกรณีที่พระท่านตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมกันจริง ๆ จัง ๆ ตามคำปฏิญาณที่ให้เอาไว้ตั้งแต่วันบวช ว่าจะทำพระนิพพานให้แจ้ง มากำจัดกิเลสให้หมด กาย วาจา ใจ จะได้บริสุทธิ์ มาบวชเอาชีวิตเป็นเดิมพัน บวชอย่างนี้ เป็นเนื้อนาบุญร้อยเปอร์เซ็นต์

เพราะฉะนั้น ถ้าใครมาทำบุญกับท่าน บุญนี้มหาศาล จะนับจะประมาณไม่หวาดไหว อย่าเอาท่านประเภทนี้ ไปเปรียบกับคนทั่วไปเลย เพราะว่ามันเปรียบกันไม่ได้ แต่ว่าถ้าจะเปรียบต้องเปรียบกับพระยุคปลายพระพุทธศาสนา ส่วนยุคนั้นจะมาถึงเมื่อไรไม่ทราบ แต่ในบางประเทศถึงยุคประเภทนี้แล้ว

ขอฝากเป็นข้อคิดไว้ ๒ ประการ คือ

ประการแรก ในขณะที่ประเทศไทยเรายังมีพระที่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมกันอย่างจริง ๆ จัง ๆ อยู่ไม่น้อย ไม่พูดถึงผู้ที่มาบวชชั่วคราว หรือบวชตามประเพณี พระในประเทศไทยนี้ ที่ตั้งใจจะถางทางไปพระนิพพาน ยังมีอยู่อีกไม่น้อย ท่านเหล่านี้เป็นเนื้อนาบุญอันแท้จริงของพวกเรา ให้รีบไปทำบุญทำทานกับท่านก่อนที่เนื้อนาบุญเหล่านั้นจะถูกสภาพการเมืองบ้าง สภาพเศรษฐกิจบ้าง มาบีบมาคั้นจนกระทั่งร่อยหรอลงไปทุกวันๆ ตอนนั้นเมื่อถึงคราวอยากจะทำบุญทำทานกับท่าน ท่านก็ไม่อยู่ให้ทำบุญทำทานเสียแล้ว แล้วเราจะได้บุญได้กุศลจากไหนกัน

ประการที่ ๒. ในฐานะที่เราเป็นฆราวาส รู้แล้วว่าเนื้อนาบุญเป็นอย่างไร ก็มีทางเลือกให้ ๒ ทาง คือตั้งใจรักษาศีลตามเพศของตัวเอง คือ อย่างน้อยศีล ๕ ในวันธรรมดา ศีล ๘ ในวันพระ แล้วตั้งใจทำมาหากินด้วยความซื่อสัตย์บริสุทธิ์ เรามีความบริสุทธิ์อย่างนี้ จะไปทำบุญทำทานกับพระรูปไหน ๆ ที่ท่านตั้งใจ ประพฤติปฏิบัติชอบแล้วล่ะก็ ได้บุญเต็มที่แน่ ๆ เลยไม่ต้องสงสัย

และเมื่อรักพระพุทธศาสนากันจริง ๆ แล้ว โดยเฉพาะคุณโยมผู้ชาย ถ้ารักพระพุทธศาสนาจริง อยากจะเห็นพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง แล้วตัวเองไม่มีภภาระทางโลกหนักนาสาหัสจนเกินไปแล้ว ภาคฤดูร้อนปีนี้ หรือพรรษาที่จะถึงนี้มาบวชด้วยกันดีกว่า แล้วไม่ต้องไปหาเนื้อนาบุญที่ไหนมาทำบุญ มาเป็นเนื้อนาบุญให้ ชาวโลกกันเสียเอง มาอยู่วัดกับหลวงพ่อก็ได้ หลวงพ่อรออยู่



Cr. หลวงพ่อทัตตชีโว
วารสารอยู่ในบุญ  ฉบับที่ ๗๗  เดือนมีนาคม  พ.ศ. ๒๕๕๒
การทำบุญกับพระภิกษุสงฆ์ ต่างกับผู้ที่มีความบริสุทธิ์หรือเปล่า การทำบุญกับพระภิกษุสงฆ์ ต่างกับผู้ที่มีความบริสุทธิ์หรือเปล่า Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 01:13 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.