ตราบาป


การทําบาปในเรื่องการนําทรัพย์สิ่งของที่เจ้าของไม่ให้ไปเป็นของตนนี้ จะครบองค์เป็นบาปกรรมนําไปสู่อบายภูมิได้ ต้องประกอบด้วย

- สิ่งของนั้นมีเจ้าของ
- รู้ว่ามีเจ้าของ
- มีใจคิดปรารถนาอยากได้
- มีความพยายามในการจะเอามาเป็นของตนโดยมิชอบ
- เอาทรัพย์นั้นมาได้สําเร็จ

ทรัพย์สิ่งของของใคร เจ้าของก็ย่อมรักใคร่หวงแหน นี่เป็นเรื่องธรรมดา การทําให้ผู้อื่นเดือดร้อนด้วยอทินนาทานจึงขาดเมตตาจิตเป็นคนไม่มีคุณธรรมของมนุษย์ ตายแล้วย่อมหมดสิทธิ์เกิดในภูมิที่ดี แม้แต่เป็นมนุษย์เหมือนดังชาตินี้ก็สิ้นหวังแท้เทียว

นอกจากนั้น ยังเป็นภาพชีวิตที่ตนเองจะลืมไม่ได้ไปตลอด ใครไม่รู้เห็นการกระทําของเรา แต่เรากลับจําได้แม่นยํา พยายามลืมเท่าไรก็เหมือนยิ่งจําแม่นขึ้น ข้าพเจ้ากล่าวดังนี้เพราะประสบบาปนี้กับตนเอง

เมื่อข้าพเจ้าอายุราว ๗ ขวบ เพื่อนชวนไปขโมยชมพู่ลูกงามพวงใหญ่ๆ ของผู้ชายแก่ๆ ในสวนข้างบ้าน ข้าพเจ้ากินหมดไปตั้งแต่ตอนกลางวัน พอตอนเย็นได้ยินเสียงเจ้าของบ่นอย่างเสียใจว่า อุตส่าห์เก็บไว้ไม่สอยกินเพราะจะนําไปให้หญิงชราท้ายบ้านที่กําลังป่วย เด็กมาขโมยไปหมด คนเจ็บต้องอดกิน

ฟังแล้วเสียใจ จะเอาของคืนให้ก็กินไปหมดแล้ว เสียใจมาจนถึงบัดนี้ แย่งของคนเจ็บกินเกือบ ๕๐ ปีแล้วไม่มีลืม

ราวอายุ ๑๗ ไปทัศนาจรที่จังหวัดเชียงใหม่ ไปซื้อผ้าไหม (ขี้ไหม) ผืนละ ๑๘ บาท ทั้งที่รู้ว่าผ้ามันพับซ้อนกันอยู่ ๒ ผืน เมื่อคนขายคิดราคาเป็นผ้าผืนเดียวก็ไม่ทักท้วง นี่เจตนาฉ้อโกง ได้ผ้ามาแล้วก็นุ่งไม่ลง นุ่งทีไรคิดทุกครั้ง ตําหนิตนเองทุกครั้ง เลยต้องยกให้ผู้อื่นไป

ประมาณอายุ ๒๘ ปี ได้เงินเดือนขึ้น ๒ ขั้น เพื่อนข้าราชการที่ทำงานอยู่ด้วยกันขอให้เลี้ยงอาหารฉลอง ไปรับประทานข้าวเหนียวไก่ย่าง ส้มตำกันที่หน้าสนามมวยราชดําเนิน คนขายทอนเงินผิดมาเป็นจํานวนร้อยบาทเศษ ขณะลุกขึ้นจะนําไปคืน เพื่อน ๔ คน ลากถูลู่ถูกังออกมาขึ้นรถกลับที่ทํางาน ไม่ยอมให้คืน เสียใจมาจนเดี๋ยวนี้ เพราะปกติแล้วพบเหตุการณ์อย่างนี้เสมอ และไม่เคยฉวยโอกาสเลย จะต้องคืนให้ แม่ค้าทุกครั้ง พลอยให้ได้บุญทันตาเห็น เพราะแม่ค้าจะรู้สึกว่าคนซื้อที่มีน้ำใจอย่างนี้หายาก จะจําหน้าได้ วันหลังมาซื้อจะได้ของแถมโดยไม่ต้องต่ออยู่เสมอ ทําผิดครั้งนี้เสียใจไม่เคยลืม

อายุราว ๓o ครั้งนั้นเป็นกรรมการสอบคัดเลือกคนเข้าทํางาน ผู้บังคับบัญชาขอคะแนนพิเศษให้เด็กของเขาหนึ่งคน ได้ช่วยเหลือตามที่ขอร้อง ทําให้เสียความยุติธรรมเหมือนโกงผู้เข้าสอบอื่น

นี่เป็นตัวอย่างความชั่วเรื่องอทินนาทานของข้าพเจ้าเอง ใครไม่รู้ไม่เห็น แต่ตนรู้และตนเองนั่นแหละไม่สบายใจเอง ความผิดของข้าพเจ้าไม่รุนแรง ยังจําได้ไม่ลืม ส่วนพวกที่ทําผิดรุนแรง เช่น จี้ปล้น ฆ่าเจ้าของทรัพย์ คอรัปชั่นเงินภาษีของราษฎรจํานวนมากๆ ฯลฯ ยิ่งจะต้องจดจําแม่นยํายิ่งกว่านี้นับไม่ถ้วน บางทีคดโกงฉ้อฉลกันเสียอีกฝ่ายตรอมใจตาย ก็ยิ่งบาปหนักทวีขึ้นอีก

อย่าสนใจอยากได้ทรัพย์สินของผู้อื่นในทางที่ไม่ชอบเลย จะเดือดร้อนใจภายหลัง เป็นบาปเป็นเวรภัย

เราจงมาทํามาหากินด้วยเรี่ยวแรง สติปัญญาและความสามารถของตนเอง อย่าทําเรื่องสร้างหนทางไปสู่อบายภูมิกันเลย พ้นกรรมจากที่นั่นแล้วมาเกิดเป็นคนก็จะเป็นคนเข็ญใจ ไร้ที่พึ่ง หรือถ้าจะมีสมบัติขึ้นมาบ้าง ก็จะมีอันเป็นไปด้วยอัคคีภัย โจรภัย วาตภัย อุทกภัย ราชภัยเป็นต้น

ถ้ารักษาศีลข้อนี้ไว้ได้ จะมีอานิสงส์อย่างน้อยดังนี้คือ

เกิดที่ใดเป็นคนมีทรัพย์สมบัติมาก ทําอาชีพใดที่บริสุทธิ์ก็เจริญก้าวหน้า ทรัพย์ที่หามาได้รักษาไว้ยั่งยืน ไม่สูญหายไปง่ายๆ ด้วยภัยใดๆ อยู่สถานที่ใดไม่มีใครเบียดเบียน ไม่รู้จักคําว่าขาดแคลน สามารถสร้าง อริยทรัพย์ใส่ตนโดยสะดวก

มีผลดีมากมายถึงขนาดนี้ เราจงมาชวนกันรักษาศีลข้อนี้ให้เคร่งครัดกันเถิด มิฉะนั้นแล้วอาจจะต้องรับโทษเหมือนอยู่ในอบายภูมิ ตั้งแต่ยังไม่ทันตายนี้ทีเดียว

Cr. อุบาสิกาถวิล(บุญทรง) วัติรางกูล จากความทรงจำ เล่ม ๒ บทที่ ๑๒ 
ตราบาป ตราบาป Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 02:49 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.