เสรีพิศุทธ์เตือนนายกฯ กรณีใช้ ม.44 ต่อวัดพระธรรมกาย

ถาม : การค้นวัดพระธรรมกาย วิธีปฏิบัติที่ถูกต้องของเจ้าหน้าที่ต้องเป็นอย่างไร ?

ตอบ : เราต้องมาดูข้อหาก่อนว่าเป็นข้อหาอะไร ข้อหาปกติธรรมดาหรือข้อหาตามมาตรา 44 อันนี้มันข้อหารับของโจร ฟอกเงิน ซึ่งตามมาตรา 44 แล้วเป็นเรื่องของการปฏิรูปด้านต่าง ๆ เช่น จะทำเรื่องรถไฟ ถ้าผู้ว่าการรถไฟไม่ทำหน้าที่ ก็ใช้มาตรา 44 ปลดออกได้ หรือเป็นเรื่องการสร้างสามัคคีสมานฉันท์ การป้องกันปราบปรามการกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงของชาติ เศรษฐกิจ หรือราชการแผ่นดิน ก็มีอยู่แค่นี้

เพราะฉะนั้น เรื่องข้อหารับของโจร ฟอกเงิน ผมดูแล้วมันไม่เข้าสักตัวที่นายกรัฐมนตรีจะมาใช้อำนาจมาตรา 44 ได้ แต่นายกก็ใช้อำนาจมาตรา 44 มาออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 5/60 โดยอ้างว่ามีบุคคลบางคนหรือบางกลุ่มมีข้อหาว่ากระทำความผิดอาญา อันมีผลกระทบกับความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งการกระทำความผิดดังกล่าวนำไปสู่การออกหมายจับตามวิ.อาญาแล้ว ก็แสดงว่าคำสั่ง คสช. ที่ออกมานั้น จะจับพระธัมมชโยข้อหารับของโจร ฟอกเงิน ซึ่งศาลออกหมายจับ หมายค้นแล้ว

ประเด็นอยู่ที่ว่า รับของโจร ฟอกเงิน ซึ่งเป็นคดีที่มีอยู่ทั่วไปมากมายในประเทศ เข้าข้อหาว่ามีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมหรือครับ ? จะมาบอกว่านายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้า คสช. มีอำนาจออก พูดอย่างนั้นไม่ถูกต้อง ถ้าเผื่อในหมายจับมีข้อหานี้อยู่ด้วยก็ไปอย่าง คือ มีข้อหารับของโจร ฟอกเงิน และข้อหากระทำการอันขัดต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมและบ้านเมืองอยู่ด้วย ก็จะนำมาสู่มาตรา 44 ได้ แต่ในเมื่อมีแต่ข้อหาปกติ แล้วคุณมาใช้มาตรา 44 มันไม่ได้ ไม่ถูกต้อง มันเป็นการก้าวล่วงเข้าไปในกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะของศาล

ศาลออกหมายมาให้ไปจับพระธัมมชโย ให้ไปตรวจค้นสิ่งของที่ได้จากการกระทำความผิดหรือมีไว้เพื่อกระทำความผิดในข้อหารับของโจร ฟอกเงิน เพราะฉะนั้นกรอบมันอยู่แค่นี้เอง จริง ๆ แล้วเจ้าหน้าที่รัฐควรจะใช้กระบวนการปกติ และคดีนี้มีอายุความ 15 ปี ไม่จับวันนี้ พรุ่งนี้ เดือนนี้ ปีนี้ ปีหน้า ไปจับตอน 14 ปี 11 เดือน 29 วันยังได้เลย ไม่จำเป็นต้องมาจับตอนนี้ให้เกิดการกระทบกระทั่ง บาดเจ็บล้มตาย เอาตำรวจทหารมาเป็นจำนวนมาก แทนที่จะไปทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง กลับมาวุ่นวายอย่างนี้มันไม่ถูก อายชาวโลกเขา จับพระรูปเดียวทำกันถึงขนาดนี้เลยหรือ ?

คุณลองไปดูประเทศที่เจริญแล้ว จำได้ไหมบิลลาเดนที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของสหรัฐ สหรัฐต้องการจะจับให้ได้ และบิลลาเดนก็ไม่ได้อยู่ในสหรัฐด้วย อยู่ประเทศไหนก็ไม่รู้ เขาไม่เห็นต้องมาทำข่าวครึกโครม เขาก็ส่งสายลับเข้าไปสอดแนม ไปอยู่ด้วย ไปกินด้วย ไปทำอะไรด้วย ถึงวันเวลาก็ชี้เป้า แล้วยิงถล่มเข้าไป ไม่มีพลาดเลย กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน ถ้าอยากจะจับกุมพระธัมมชโยให้ได้โดยไม่ให้มอบตัวนะ

แต่ถ้ามอบตัวก็อีกเรื่องหนึ่ง ถ้ามอบตัวง่ายเลย บอกว่าขอให้ท่านมามอบตัวเสีย ทางรัฐบาลจะให้ประกันตัว ให้ท่านต่อสู้คดีโดยใช้กระบวนการยุติธรรมอย่างถึงที่สุด ผมว่าท่านมามอบตัวนะ แล้วก็ไม่เสียเลือดเนื้อ พระก็ไม่วุ่นวาย ศิษย์ก็ไม่วุ่นวาย ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ก็ไม่เดือดร้อน และไม่มีการโกงค่าอาหารกันอีก 80 บาทอะไรกันขนาดนั้น ถ้าบอกตรง ๆ อย่างนี้นะ ผมว่ามันจบ

แต่ถ้าจะใช้กำลังกันอย่างนี้ ผมถามว่า รู้หรือเปล่าว่าตอนนี้พระธัมมชโยอยู่ในวัด ? นายกประยุทธ์ตอบผมได้ไหม ? อธิบดีดีเอสไอผู้ปฏิบัติตามหมายศาลตอบได้ไหม ? หรือแม้กระทั่งศาลที่ออกหมายค้นให้เขา ผมเรียนถามตรง ๆ มีพยานหลักฐานอะไรว่าพระธัมมชโยอยู่ในวัด ? ศาลจะออกหมายได้ต้องมีพยานหลักฐานว่าพระธัมมชโยอยู่ในวัดนะครับ ดีเอสไอที่จะเสนอหมายศาลมีหลักฐานไหม ? ถ้าไม่มีศาลก็ออกไม่ได้ ไม่ใช่ว่าออกตามใจรัฐบาล จะต้องมีพยานหลักฐานอันน่าเชื่อพอสมควรว่าพระธัมมชโยอยู่ในวัด จึงจะออกหมายค้นได้

สมมุติมีหลักฐานนะ ศาลออกหมายค้นให้แล้ว ก็ต้องไปค้น แล้วค้นอะไรป่านนี้ไม่เจอ เผอิญผมเห็นบันทึกที่เขาไลน์ต่อ ๆ กันมาว่า เจ้าหน้าที่ไปตรวจไม่พบบุคคลตามหมายจับ ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็เซ็นชื่อกัน และมีพยาน มันก็เป็นการยอมรับแล้วว่าไม่พบตามที่ศาลออกหมายค้นให้ แล้วพวกคุณก็จะค้นกันอยู่ตลอดแบบนี้ นายกยังออกมาพูดด้วยว่าไม่เลิกมาตรา 44

คุณลองไปวิเคราะห์ดูสิ คำสั่ง คสช. ที่ใช้มาตรา 44 ออกมานี้ อ่านให้ชัดเจนว่าออกมาถูกต้องไหม ? ถึงคุณจะมีอำนาจ แต่อำนาจมันไม่ถูกต้อง...

ทุกวันนี้คุณควรจะรู้ได้แล้วว่าค้นมาถึงขนาดนี้ หมดปัญญาที่จะเอาตัวมาแล้ว ยังจะไปทำอะไรให้เกิดความเสียหายขึ้นมาอีก หรือมีเจตนาอื่นแอบแฝงนอกจากการที่จะได้ตัวพระธัมมชโย ถ้ามีเจตนาอื่นมันก็เป็นเจตนาที่ไม่สุจริต ไม่ชอบแล้ว ถูกไหม ?

เมื่อเช้าผมอ่านหนังสือพิมพ์ คุณประวิตรบอกว่าจับวันนี้ไม่ได้ก็เอาทั้งปีแหละ เคยทำงานด้านตรวจค้นจับกุมหรือเปล่า ? มาบอกว่าค้นวันนี้ไม่ได้ก็ค้นทั้งปี อายุความเขามีตั้ง 15 ปี ทำเมื่อไรก็ได้

ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาโดยทั่วไป เมื่อมีเหตุจะต้องทำการตรวจค้นจับกุม เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ เช่น ตำรวจตั้งแต่ร้อยตำรวจตรีขึ้นไปก็ขอให้ศาลออกหมายค้น หมายจับ ถ้าศาลให้หมายมาแล้ว ผู้ที่จะไปตรวจค้นต้องเป็นผู้ที่ศาลอนุญาตเท่านั้น

ข้อหารับของโจร ข้อหาฟอกเงิน ดีเอสไอรับผิดชอบ เจ้าหน้าที่อื่นไม่เกี่ยว ตำรวจไม่เกี่ยว ทหารไม่เกี่ยว ฝ่ายปกครองก็ไม่เกี่ยว แต่ถ้าจะออกหมายค้นไปจับกุมเรื่องบุกรุกอุทยานหรือหมายอื่น ๆ ตำรวจอาจจะมาเกี่ยวข้อง ทหารไม่เกี่ยว เจ้าหน้าที่อื่นก็ไม่เกี่ยว

อย่างผมทำงานด้านนี้ประจำ ผมประสบด้วยตัวเอง ตอนผมถูกนายสมัครย้ายไปใหม่ ๆ ก็ส่งศรีวราห์มาค้นที่ดินผมที่ทองผาภูมิ ขอหมายศาลค้น 6 ข้อหา ศาลอนุมัติให้ 2 ข้อหา มันค้น 6 ข้อหาเลย เกินคำสั่งศาล ผมก็ฟ้องว่าปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ ค้นเกินคำสั่งศาล...

ในกรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน ศาลอนุมัติหมายศาลให้เข้าทำการตรวจค้นเฉพาะข้อหาฟอกเงิน รับของโจร นี่ยังไม่เอาคำสั่ง คสช.นะ เอาหมายศาลก่อน เพราะฉะนั้นบุคคลที่เข้าไปได้ก็คือเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเท่านั้น ตำรวจเข้าไม่ได้ ทหารเข้าไม่ได้ ฝ่ายปกครองก็เข้าไม่ได้ แต่นี่บุคคลต่าง ๆ เข้าไปเกินทั้งนั้นเลย

คุณบอกก็ใช้มาตรา 44 เลยเข้าไปได้ ถ้าอย่างนั้นผมไม่เถียง ฝ่ายอื่นก็เข้าไปได้ แต่ถามว่ามาตรา 44 มันชอบหรือไม่ชอบเล่า ? คุณอย่าคิดว่าคุณสะบัดปากกาแล้วอะไรก็ถูกต้องหมด ถ้าคุณใช้มันโดยไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ถ้าคุณใช้มาตรา 44 โดยชอบ อะไรก็คุ้มครองพวกคุณ เพราะมาตรา 44 ถือว่าผู้ปฏิบัติกระทำชอบโดยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ แต่ว่าข้อหานี้ไม่ได้เกี่ยวกับการบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยเลย คุณไปตีความเอาเอง คิดเองเออเองไม่ได้ ต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน
 

 

ถาม : การเอามาตรา 44 ไปกระทำแบบนี้ต่อธรรมกาย จุดประสงค์จริง ๆ ในมุมมองของท่านเสรี

คิดว่าต้องการจะทำอะไร ?

ตอบ : ผมไปมองแทนเขาไม่ได้หรอก แต่ผมคิดว่ามันเกินกว่าขอบเขตที่ขอหมายค้นจากศาล เพราะฉะนั้นเมื่อเกินขอบเขตก็คือกลั่นแกล้งเขา วัตถุประสงค์ต่าง ๆ มันอยู่ในใจพวกคุณ สมมุติเขาบอกว่านโยบายคุณจะมายึดวัด ยึดทรัพย์สินของวัด คุณจะมาบริหารวัดหรือไร ? ผมไม่อยากจะพูด เพราะไม่ใช่ความคิดของผม และผมก็ไปเดาไม่ได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ในใจ แต่ว่ามันทำเกินกว่าหมายค้นแล้ว

แล้วศาลควรจะต้องพิจารณาด้วย ไม่ใช่คุณออกหมายแล้วก็พ้นหน้าที่ของคุณ ถ้าออกหมายไปแล้วทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ประชาชนเดือดร้อน พระเดือดร้อน เจ้าหน้าที่วุ่นวายหมด เจ้าหน้าที่ไม่รู้ตั้งกี่พันนายต้องละทิ้งหน้าที่มาจับพระรูปเดียว เสียงบประมาณแผ่นดินไปเท่าไร ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ แถมมีการทุจริตโกงกินกันอีก ประเทศชาติบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ? ชาวโลกเขาจะมองอย่างไร ? ถ้าผมเป็นศาล ผมจะเรียกมาเลยว่าทำไมคุณทำอย่างนี้ ผมมีอำนาจถอนหมาย

คุณดูประธานาธิบดีสหรัฐ นายทรัมป์ มาออกคำสั่งอย่างโน้นอย่างนี้ ศาลสั่งเลย ไม่รอให้ประชาชนเดือดร้อนหรอก ถ้าผมจำไม่ผิดไม่เกี่ยวกับประชาชนของสหรัฐด้วยซ้ำไป นายทรัมป์สั่งห้ามคนต่างชาติเข้าเมือง ศาลสั่งห้ามเลย แล้วเขาก็อุทธรณ์ ศาลก็ยกอุทธรณ์อีก ในเมื่อศาลมีอำนาจ แต่ทำไมศาลไทยนิ่งเฉย

เพราะฉะนั้น ผมว่าทุกฝ่ายต้องร่วมกัน บ้านเมืองถึงจะสงบ อย่าทำเกินกว่าขอบเขตที่กฎหมายกำหนดและให้อำนาจไว้...

ถ้าผมถามว่าไอ้ข้อหารับของโจรนี้มันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองอย่างไร ? ตอบผมได้หรือเปล่า ? ก็ตอบไม่ได้ แต่ถ้าคุณจะตะแบงน่ะได้ เกี่ยว ๆ แต่จริง ๆ มันไม่เกี่ยว และมันไม่มีอยู่ในข้อเท็จจริงในการที่คุณไปขอหมายศาล...

ดูคลิปที่นี่  https://www.youtube.com/watch?v=CRf88TIrY5s&feature=youtu.be