ศิษย์วัดพระธรรมกายทำบุญเพื่อซื้อสวรรค์หรือไม่ ?


การที่วัดสอนเรื่องสวรรค์โดยอธิบายเรื่องทิพยสมบัติ เช่น ทำบุญด้วยส้มตำปู แล้วบังเกิดทิพยสมบัติเป็นรูปปู ถือเป็นการสอนที่ถูกต้องหรือไม่ ?

การสอนเรื่องสวรรค์เช่นนี้ จะทำให้เกิดความโลภ คือ ทำบุญแล้วอยากขึ้นสวรรค์หรือไม่ ?


“ทำบุญซื้อสวรรค์” วาทกรรมนี้จงใจจะบอกว่า..ศิษย์วัดพระธรรมกายทำบุญเพราะอยากขึ้นสวรรค์ ซึ่งถือเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เพราะจุดประสงค์ของการทำบุญที่แท้จริง คือ การละเพื่อให้หมดกิเลส

ถ้าคุณคาใจอะไรบางอย่างในเรื่องนี้  บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจชัดขึ้นทันทีเมื่ออ่านจบ !!!

แท้จริงแล้วศิษย์วัดพระธรรมกายไม่ได้ทำบุญเพื่อซื้อสวรรค์ หรือทำเพราะอยากขึ้นสวรรค์อย่างที่ใครเข้าใจกัน แต่ทำเพราะต้องการไปนิพพาน ดังคำสอนที่วัดสอนให้ลูกศิษย์ท่องทุกวันว่า “เราเกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี” อีกทั้งยังให้อธิษฐานทุกครั้งที่ทำบุญว่า นิพพานะปัจจะโย โหตุ” (ขอกุศลผลบุญนี้ จงเป็นเหตุปัจจัยให้บรรลุมรรค ผล นิพพานเทอญ)

จะเห็นว่า..ศิษย์วัดพระธรรมกายทำบุญโดยมีเป้าหมายชัดเจน คือ ต้องการหมดกิเลสไปนิพพาน แต่การไปนิพพานก็ไม่ใช่ใครจะไปกันได้ง่าย ๆ เพราะต้องลด ละ เลิก เพื่อประพฤติธรรมอีกหลายชาติถึงจะหมดกิเลส ฉะนั้นระหว่างที่ยังไปไม่ถึงนิพพาน เราจะเลือกไปนรกทำไม ในเมื่อทางเลือกที่ดีกว่าที่จะทำให้เราไม่ต้องไปทนทุกข์ทรมานแสนสาหัส ก็คือ ภพสวรรค์และภพมนุษย์ เพราะขนาดพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอง ช่วงที่พระองค์เวียนว่ายตายเกิดอยู่ ในชาติที่ทำบุญไว้มากพระองค์ก็ไปบังเกิดบนสวรรค์ เพราะการไปเกิดบนสวรรค์เปรียบเสมือนการไปเกิดยังภพภูมิที่พักระหว่างทาง และก่อนพระองค์จะลงมาเกิดในชาติสุดท้ายก็อยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต (ชั้น ๔) เพราะว่าพระโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกท่านเลือกที่จะอยู่ชั้นนี้กัน (อ่านเพิ่มเติมได้ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ทีฆนิกาย มหาวรรค ๑. มหาปทานสูตร ว่าด้วยพระประวัติของพระพุทธเจ้า ๗ พระองค์ ข้อ ๑๗ ๑๘ ) 


ที่สำคัญ...สวรรค์ก็ไม่ใช่บ้านจัดสรรที่จะซื้อกันได้ง่าย ๆ จากการแค่มาบอกให้ทำบุญจำนวนเท่านั้นเท่านี้แล้วจะได้ไปอยู่สวรรค์ชั้นไหน  บนพื้นที่กี่ตารางวา  !!!

ดังนั้น การจะมาบอกว่า..ทำบุญเพื่อซื้อสวรรค์ ถือว่าเป็นวาทกรรมที่ไร้ความน่าเชื่อถือ เพราะสวรรค์เป็นสิ่งใครก็ซื้อไม่ได้จริง ๆ










มาถึงตรงนี้ ผู้อ่านอาจมีคำถามเพิ่มว่า..ศิษย์วัดพระธรรมกายมีเป้าหมายไปนิพพานก็จริง แต่การที่วัดสอนเรื่องสวรรค์โดยอธิบายเรื่องทิพยสมบัติ เช่น ทำบุญด้วยส้มตำปู แล้วบังเกิดทิพยสมบัติบนสวรรค์เป็นรูปปู ถือเป็นการสอนที่ถูกต้องหรือไม่ ?

วัดพระธรรมกายก็สอนเรื่องสวรรค์ตามแนวการสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอน โดยคำสอนนี้อยู่ในเรื่อง “อนุปุพพิกถา”  ซึ่งเป็นบทเทศน์สอนที่พระองค์ทรงใช้บ่อย เพื่อเทศน์โปรดคนจำนวนมาก เช่น ยสกุลบุตร เพื่อน ๆ และหมู่ญาติ, พระเจ้าพิมพิสารและพราหมณ์คหบดีชาวมคธ ๑๒ นหุต (๑๒๐,๐๐๐ คน), กูฏทันตพราหมณ์, อนาถบิณฑิกเศรษฐี และคนอื่น ๆ อีกมากมาย หรือแม้แต่ผู้ที่พระเทวทัตส่งมาปลงพระชนม์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ก็ทรงใช้บทนี้เทศน์สอน ซึ่งเนื้อหาข้อหนึ่งในบทนี้พรรณนาถึงเรื่องสวรรค์ อีกทั้งยังทรงบอกด้วยว่า..วิธีการไปสวรรค์ต้องทำอย่างไร โดยพระองค์ทรงชี้ให้เห็นถึงอานิสงส์ของการให้ทานและรักษาศีลว่าทำแล้วจะได้ไปเกิดบนสวรรค์


           ดังนั้น การที่วัดพระธรรมกายสอนเรื่องสวรรค์ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือสิ่งผิดอะไร อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งด้วยซ้ำ เพราะเป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกมากมาย เช่น พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ ก็ได้กล่าวถึงสวรรค์ไว้จำนวนมากเกี่ยวกับว่า ทำบุญอะไร..ทำไมถึงได้ขึ้นสวรรค์ อีกทั้งยังพรรณนาถึงทิพยสมบัติไว้อย่างวิจิตรพิสดาร อย่างใน อรรถกถา ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ มหารถวรรคที่ ๕ เรื่องกักกฎรสทายกวิมาน ที่ได้อธิบายไว้ชัดเจนว่า มีคนคนหนึ่ง ในสมัยที่เกิดเป็นมนุษย์ได้ถวายภัตตาหารที่มีรสปู หลังจากตายแล้ว ก็ได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แล้วมีทิพยสมบัติที่มีลวดลายประดับประดาไปด้วยตัวปูสีทองปรากฏอยู่ในสาแหรกที่เป็นแก้วมุกดาที่ประตูของวิมาน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการตรึกระลึกถึงบุญที่เคยทำไว้ตอนเป็นมนุษย์ ซึ่งเรื่องราวในทำนองนี้มีอยู่หลายเรื่องมาก ถึงขนาดแยกไว้ใน “หมวดวิมานวัตถุ” เลยทีเดียว ฉะนั้นการทำบุญด้วยส้มตำปู แล้วมีทิพยสมบัติเป็นรูปปู ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องแปลกหรือผิดอะไรเลย




ที่สำคัญพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงยืนยันชัดเจนว่า ทำบุญแล้วจะได้ไปเสวยทิพยสมบัติบนสวรรค์ได้จริง ๆ ดังใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค อัยยิกาสูตรที่ ๒ ว่า..สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงต้องตาย เพราะชีวิตมีความตายเป็นที่สุด สัตว์ทั้งหลายจักไปตามกรรม เข้าถึงผลแห่งบุญและบาป คือ  ผู้มีกรรมเป็นบาป จักไปสู่นรก ส่วนผู้มีกรรมเป็นบุญ จักไปสู่สุคติ ฯ เพราะฉะนั้น พึงทำกรรมงามอันจะนำไปสู่สัมปรายภพสั่งสมไว้ บุญทั้งหลายย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในปรโลก ฯ


จากข้อมูลข้างต้น บางคนอาจสงสัยต่อไปอีกว่า..การสอนเรื่องสวรรค์เช่นนี้ จะทำให้เกิดความโลภ คือ ทำบุญแล้วอยากขึ้นสวรรค์หรือไม่ ?

         คำสอนเรื่องการทำบุญแล้วได้ไปสวรรค์ ถือเป็นประโยชน์ในระดับที่ ๒ คือ สัมปรายิกัตถะ ซึ่งอยู่ในเรื่องประโยชน์ ๓ ระดับ*** ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนไว้ ซึ่งไม่ได้จัดเป็นความโลภแต่อย่างใด เพราะความโลภ คือ กรรมที่มีความทุกข์เป็นผล และเป็นกรรมที่ทำให้เกิดกรรมต่อไป แต่การอยากขึ้นสวรรค์ ไม่ได้เป็นกรรมที่มีทุกข์เป็นผล และไม่ได้เป็นกรรมที่ทำให้เกิดกรรมต่อไป (ข้อมูลจากพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต นิทานสูตรที่่ ๑)



แต่การอยากขึ้นสวรรค์นั้น จัดเป็นความอยากที่ให้ผลดี เหมือนเราอยากดื่มน้ำสะอาดที่ปราศจากเชื้อโรค  ก็เพื่อให้ร่างกายยังอัตภาพความเป็นมนุษย์ต่อไปได้อีก หรือเหมือนเราอยากบรรลุมรรคผลนิพพาน ซึ่งไม่จัดเป็นความโลภแต่ประการใด

-------------------------------------------
*** ประโยชน์ ๓ ระดับ คือ ๑) ประโยชน์ในปัจจุบัน (ทิฏฐธัมมิกัตถะ)  ๒) ประโยชน์ในภายภาคหน้า (สัมปรายิกัตถะ)  ๓) ประโยชน์อย่างยิ่ง (ปรมัตถะ) คือ พระนิพพาน


Cr. ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์ สำนักสื่อธรรมะ
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๘๐ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ 
ศิษย์วัดพระธรรมกายทำบุญเพื่อซื้อสวรรค์หรือไม่ ? ศิษย์วัดพระธรรมกายทำบุญเพื่อซื้อสวรรค์หรือไม่ ? Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 22:08 Rating: 5

9 ความคิดเห็น:

  1. เห็นเค้าชวนกันไปนรก. ทำความเสื่อมทั้งในตอนมีชีวิต และภพหน้า ตามคำสอน ชวนไปกินเหล้ายา อบายมุข ฉ้อฉล อย่างนั้นทำไมไม่ไปว่า ไม่ไปต่อต้านเค้ากันดูบ้าง. เก่งกะมาว่าคนที่เค้าตั้งใจทำความดี. ขวางทางการทำความดี. ... เหมือนมีอะไรมาสิงใจ อย่างนั้น

    ตอบลบ
  2. ทำดีต้องไปสวรรค์อยู่แล้วนี่
    คนที่พูดเช่นนี้เคยคิดจะทำบุญบ้าง!

    ตอบลบ
  3. ภพภูมิที่จะรองรับชีวิตหลังความตายก็ต้องมาจากการประกอบเหตุในสมัยเป็นมนุษย์
    การสั่งสมบุญย่อมได้ไปเสวยสุขในสุคติภูมิ การสั่งสมบาปก็ต้องไปเสวยวิบากกรรมในทุคติภูมิ 2ทาง2ขั้วจึงอยู่ที่เราจะเลือกไปทางไหน

    ตอบลบ
  4. ศิษย์วัด​พระธรรม​กายมีอยู่ทั่วโลก มากมายเกินกว่า 10 ล้านคน
    หลากหลายอาชีพ การศึกษา ตำแหน่งการงาน
    ถ้า​พูดเหยียบพวกเขาให้ต่ำ มัน​แสดงออก​ถึง​ภูมิปัญญาของผู้พูด

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ25 ธันวาคม 2560 เวลา 10:04

    พวกเราลูกศิษย์ วัดพระธรรมกาย ได้รับการสอน สั่ง จากหลวงพ่อทั้งสอง และหลวงพี่ทั้งหลาย ว่าทำบุญเพราะบุญ เพราะอยากได้ผลของบุญ เพื่อประกอบการดีในภายภาคหน้า บุญซื้อไม่ได้ เพราะถ้าซื้อก็คือไม่ใช่บุญ บุญต้องทำด้วยใจที่บริสุทธิ์ สวรรค์ก็เช่นเดียวกัน ซื้อไม่ได้ เพราะการได้ไปสวรรค์เป็นผลของบุญที่กระทำไว้ดีแล้ว นี่คือความเข้าใจอันน้อยนิดของข้าพเจ้า ขอให้ท่านทั้งหลายทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ และรีบทำตัวเองให้ได้บุญมากๆ เพื่อผลของบุญในภายภาคหน้า อย่ามัวว่า ค่อน แคะ อยู่เลย ทำบุญกันเถิด ใครทำใครได้ เป็นส่วนตัวจริงๆ สาธุ

    ตอบลบ
  6. สาธุๆ สาธุครับ
    #1 มกราคม 2561#วัดพระธรรมกาย
    #สวดธรรมจักร300,002,561จบ
    #ร่วมปลูกเบญจทรัพย์ครบ 6 ล้านต้น
    #ทุ่งสวรรค์ ตะวันฉาย
    #ชิตังเม ชิตังเม ชิตังเม

    ตอบลบ
  7. บางครั้งเราก็เชื่อแต่สิ่งที่ความคิดเรา คิดได้และนึกถึง และก็ไปวิจารณ์ สิ่งที่ต่างจากความคิดเรา ไปต่าง ๆ นา ๆ ข้าพเจ้าคิดว่าในโลกนี้ยังมีสิ่งที่เราไม่รู้อีกตั้งเยอะ ขอให้คนที่วิจารณ์ จากความคิดของตนเองให้ความเป็นธรรมต่อผู้ที่คิดต่างด้วยค่ะ และถ้าศึกษาจริงๆ แล้ว ผลของกรรมก็มีอยู่ในพระไตรปิฏกใช่ไหมคะ จึงขอให้ศึกษาก่อนค่ะ ก่อนที่จะวิจารณ์ไปต่างๆ นา ๆ ค่ะ

    ตอบลบ
  8. ยังไงไปสวรรค์ก็ดีกว่าไปนรกนะคะ

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.